ตอนที่ 10 : งานประมูลของบริษัทคาฟ่า [2]
หลังจากที่อเดลกลับมาจากบริษัทคาฟ่าเขาก็มาที่สวนที่ตั้งอยู่ตรงด้านข้างของคฤหาสน์ตระกูลฮาควินก่อนจะพูดขึ้นกับตัวเอง
''ตรงนี้น่าจะโอเคแล้ว''
ที่อเดลมาอยู่ตรงจุดนี้เพราะเขาอยากจะลองอะไรเสียหน่อย อเดลตั้งสมาธิเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยอะไรออกมาเบาๆกับตัวเอง
จากนั้นร่างกายของอเดลก็หายไปจากจุดเดิมและไปโผล่ยังจุดที่ห่างไปอีกไม่ไกลราวๆร้อยเมตร ก่อนอเดลจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อยพร้อมกับใช้มันอีกครั้ง
คราวนี้ร่างกายอเดลมาปรากฏอยู่ตรงพุ่มไม้ที่อยู่ห่างไปจากจุดเดิมราวห้าสิบเมตร อเดลยังคงใช้มันอีกสองสามครั้งก่อนจะกลับมานั่งอยู่ที่ใต้ต้นไม้พร้อมกับคิดทบทวน
''แค่หกครั้งก็ถึงขีดจำกัดแล้วงั้นเหรอ ?''
อเดลถอนหายใจออกมาเล็กน้อย เวทมนต์ที่เขาใช้ไปเมื่อครู่ถูกเรียกว่า 'เทเลพอร์ต' เป็นเวทมนต์ประเภทมิติขั้นกลางที่ถูกเรียกว่าขั้นกลางแทนที่จะเรียกขั้น 1 หรือ 2 แบบเวทมนต์ทั่วไปนั้นเพราะเวทมนต์ประเภทมิติและเวลานั้นถูกนับเป็นเวทมนต์ประเภทพิเศษที่ไม่สามารถประเมินได้ และก็มีแต่จอมเวทย์ที่เกินขั้น 6 ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะใช้ได้
แต่ที่อเดลสามารถใช้ได้ตั้งแต่ตอนที่เขายังอยู่ในระดับจอมเวทย์ขั้น 3 นั้นนั่นก็เพราะเขามีความเข้าใจในเวทมนต์มิติและเวลาอยู่ก่อนแล้วจึงไม่จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มแต่ถึงอย่างงั้นข้อเสียก็ยังมีตรงที่เขายังมีปริมาณมานาในร่างกายน้อยเกินไปทำให้เขาไม่สามารถใช้มันได้บ่อยนัก
และหากอเดลสามารถกลับไปเป็นเมกัสขั้นสูงได้อีกครั้งแล้วละก็เขาสามารถเปิดประตูมิติข้ามระหว่างโลกได้อีกด้วยแต่นั่นก็ทำให้เขาต้องผลาญมานาในร่างกายไปเยอะพอสมควร
หลังจากพักผ่อนเล็กน้อยเขาก็กลับไปที่ห้องนอนของเขาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานประมูลในคืนนี้ อเดลเดินจากไปโดยที่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วในสวนนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เขาอยู่คนเดียว
—————————————————————————————————————————
ยามค่ำคืนมาถึงอเดลแต่งตัวอย่างง่ายๆพร้อมกับสวมผ้าคลุมสีดำของเขาและลอบออกจากคฤหาสน์ไปยังบริษัทคาฟ่า
ในคืนนี้ดูเหมือนบริษัทคาฟ่าแลดูจะคึกคักไม่น้อยผู้คนมากมายเดินเข้าเดินออกประตูหน้าของตึก อเดลเดินไปยังพนักงานต้อนรับก่อนจะยื่นบัตรสีทองให้กับพนักงาน
เมื่อพนักงานได้เห็นบัตรทองก็รีบพาอเดลไปที่ห้องรับรองพิเศษทันที ห้องพิเศษนั้นถูกตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมกับความสะดวกสบายที่สามารถหาได้เพียงในบ้านของชนชั้นสูงเท่านั้น
พนักงานได้เสิร์ฟไวน์ให้กับเขาก่อนพนักงานจะจากไปเขาก็ถามถึงสิ่งที่อเดลต้องการอีกครั้ง
''นายท่านต้องการอะไรอีกหรือไม่ ?''
อเดลคิดเล็กน้อยก่อนจะนำดาบเล่มหนึ่งออกมาและยื่นให้กับเขา
''นำนี้ไปให้กับผู้ประเมินทีข้าอยากจะนำมันเข้าร่วมการประมูลในคืนนี้ด้วย''
พนักงานรับดาบไปก่อนจะขอตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว อเดลจ้องมองนาฬิกาบนผนังก็พบว่าอีกไม่นานการประมูลจะเริ่มแล้วเขากังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับดาบที่พึ่งส่งให้กับพนักงานให้เมื่อครู่เพราะเขาพึ่งจะสร้างมันขึ้นมาได้เมื่อคืนนี้
เมื่อเวลาผ่านไปพนักงานก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับบอกว่าทางบริษัทจะรับประมูลดาบของเขาพร้อมกับหัก 20% จากเงินที่ได้รับจากการประมูลดาบเป็นค่านายหน้าซึ่งอเดลก็ไม่ได้ติดขัดอะไรกับเรื่องนี้
หลังจากพนักงานที่มาแจ้งข่าวได้ออกไปงานประมูลก็เริ่มต้นขึ้น
มีพนักงานสาวสวยที่สวมชุดราตรีสีน้ำเงินเดินขึ้นมาบนเวทีเธอยิ้มพร้อมกับพูดขึ้น
''สวัสดียามค่ำคืนทุกท่าน ดิฉันชื่อเรวี่ ดิฉันจะมาเป็นแนะนำสินค้าให้กับทุกท่าน''
หลังจากแนะนำตัวเล็กน้อยก็มาถึงของชิ้นแรกที่ถูกนำมาประมูล
''เมื่อทุกท่านพร้อมแล้วดิฉันขอเริ่มการประมูลด้วยสินค้าชิ้นแรกของเราก็คือ หญ้ามอร์ดิเร่''
เมื่อพูดจบพนักงานก็นำกล่องใบเล็กๆที่ด้านในบรรจุหญ้ามอร์ดิเร่อยู่ด้านในขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับเปิดกล่องให้กับทุกคนได้ดูหลังจากนั้น เรวี่ก็ได้บอกราคาเริ่มต้นของหญ้ามอร์ดิเร่ซึ่งเริ่มต้นอยู่แค่สองร้อยเหรียญทอง
ทันทีที่เรวี่เริ่มต้นการประมูลราคาของหญ้ามอร์ดิเร่ก็พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วไปเกือบจะถึงหนึ่งพันทองแล้ว อเดลแปลกใจเล็กน้อยที่หญ้ามอร์ดิเร่นั้นถูกประมูลไปด้วยราคาสูงขนาดนี้เพราะจากความรู้ของอเดลนั้นหญ้ามอร์ดิเร่เป็นเพียงส่วนผสมในการสร้างโพชั่นระดับสูง และยาบางชนิดเท่านั้น ในอดีตคุณสามารถหาหญ้ามอร์ดิเร่ได้ที่ตลาดในทวีปกลางซึ่งมีขายอยู่ทั่วไป
เพราะมันเป็นสมุนไพรทั่วไปที่เติบโตอยู่ในโลกใบเล็กดังนั้นจึงง่ายที่จะหามันพบและเก็บมันกลับมา
สุดท้ายหญ้ามอร์ดิเร่ก็ถูกขายไปที่ราคาหนึ่งพันห้าร้อยเหรียญทองซึ่งเป็นราคาที่สูงไม่น้อย และหลังจากหญ้ามอร์ดิเร่นั้นก็มีสินค้ามากมายตามออกมารวมถึงโพชั่นระดับสูงของเขาที่ถูกขายไปที่ชุดละหกพันเจ็ดร้อยเหรียญทองซึ่งชุดหนึ่งจะมีโพชั่นอยู่ทั้งหมด 6 ขวดซึ่งนับได้ว่าโพชั่นนั้นราคาตกอยู่ที่ขวดละหนึ่งพันเหรียญทองเลยทีเดียว
อเดลตกใจกับราคาของโพชั่นระดับสูงของเขาที่ถูกขายไปในราคาสูงขนาดนี้ ในตอนแรกนั้นเขาคิดว่าจะขายออกไปชุดละสามถึงสี่พันเหรียญทองเท่านั้นแต่นี่ราคาเกินกว่าที่เขาคิดไปมากเลยทีเดียว
หลังจากนั่งชมอยู่สักพักเขาก็ได้รู้ว่าทางโรงประมูลนั้นไม่ได้นำโพชั่นของเขาออกมาประมูลทีเดียวทั้งหมด แต่จะเอาออกมาประมูลครั้งละสิบชุด จะวนเวียนออกมาผลัดกับสินค้าชนิดอื่น
งานประมูลดำเนินไปต่อเรื่อยๆตัวของอเดลยังไม่เห็นสินค้าที่น่าสนใจพอที่เขาจะประมูลได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แม้จะมีของที่สะดุดตาอยู่บ้างก็ตาม
เมื่องานประมูลเริ่มใกล้ถึงจุดสิ้นสุดทางโรงประมูลก็เริ่มนำของที่น่าสนใจออกมาทีละชิ้นๆมีทั้งสมุนไพรหายาก และอาติเฟคระดับต่ำด้วย
มาถึงสินค้าชิ้นต่อไปพนักงานของโรงประมูลสองคนเข็นรถเข็นขนาดใหญ่ขึ้นมาบนเวที ซึ่งบนรถเข็นนั้นมีสิ่งของขนาดใหญ่อยู่ แต่ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ว่ามันคืออะไรเพราะมันได้ถูกซ่อนเอาไว้อยู่ใต้ผ้าสีดำขนาดใหญ่
ทันทีที่อเดลได้เห็นมันเขาก็ถึงกับตาโตพร้อมกับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แก้วไวน์ที่อยู่ในมือซ้ายของเขาถูกบีบจนแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เขามองมันด้วยตาเป็นประกายก่อนที่จะพูดขึ้นกับตัวเอง
''จริงเหรอเนี้ย ไม่คิดจริงๆว่าจะได้พบเจอกับมันเร็วขนาดนี้''
อเดลพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับที่เวรี่อธิบายถึงคุณสมบัติของสิ่งที่ถูกซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุม
''ต่อไปเป็นสินค้าชิ้นที่ 61 สินค้าชิ้นนี้เป็นวัสดุหายากที่แม้แต่ในทวีปกลางก็ยังยากที่จะพบเห็น ของสิ่งนั้นก็คือ...''
พรึบ !
ผ้าคลุมสีดำขนาดใหญ่ถูกดึงออกไปเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุม มันคือเกล็ดสีแดงเพลิงขนาดใหญ่พร้อมกับออร่าอันร้อนแรงและพลังเวทย์อันทรงพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมา
เรวี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงอันดังสดใส
''ทุกท่านคิดถูกแล้วของสิ่งนั้นก็คือ เกล็กของมังกรเพลิง !!''