บทที่ 49: ด้วยสมองของฉัน!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 49: ด้วยสมองของฉัน!
“ตายซะ!” โม่ฝานตะโกนออกมาพร้อมกับขว้างลูกบอลเพลิงในมือออกไป
ลูกบอลเพลิงที่เปลวไฟลุกโชนนั้นส่องแสงเจิดจ้าทำให้ถ้ำที่มืดสนิทตอนนี้สว่างขึ้นมาในทันที เปลวไฟส่องแสงอยู่ที่ด้านหน้าของหมาป่าเวททำให้เห็นใบหน้าที่ดุร้ายของมันอย่างชัดเจน
ม่านตาของหมาป่าเวทวูบวาบเคลื่อนไหวเล็กน้อยด้วยความสงสัย สายตาของมันเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดและยังคงดุร้ายเช่นเดิมพร้อมกับจ้องมองเปลวไฟด้านหน้า
‘มนุยย์ตัวจ้อยผู้นี้มันกลัวจนหลงทิศทางไปแล้วงั้นหรือ? ทำไมมันถึงโยนเปลวไฟขึ้นไปด้านบนแทนล่ะ?’
แต่สิ่งที่โม่ฝานคิดคือในตอนนี้หมาป่าเวทกำลังอยู่ในสภาวะอัมพาตเพราะสายฟ้าเมื่อครู่นี้ มันยืนหยุดอยู่กับที่และไม่สามารถเคลื่อนไหวเพื่อหลบหนีไปไหนได้เลย ในสถานการณ์เช่นนี้ถ้าหากเขาใช้เผาผลาญกระดูกอีกครั้งมันจะง่ายเกินไป มันก็คงจะเหมือนกับการฝึกของเขาที่ยิงลูกบอลเพลิงใส่กับหุ่นเท่านั้น…
สิ่งที่โม่ฝานทำกลับกลายเป็นทำให้มนุษย์หมาป่าคิดว่าเขากำลังกลัวจนสติแตกไปแล้ว
โม่ฝานเผยรอยยิ้มปีศาจออกมาเล็กน้อยพร้อมกับมองไปที่เปลวไฟของเขาอย่างภูมิใจ
~บู๊ม!!!!!~
เปลวไฟระเบิดออกพร้อมกับพุ่งเข้ารวมกับเหล่าหินย้อยที่อยู่ด้านบนของถ้ำ ทุกสิ่งร่วงหล่นลงมาราวกับอุตกาบาต
เปลวไฟที่กำลังหลอมรวมกับหินเหล่านั้นจะไม่สูญเปล่า ในตอนนี้การเผาไหม้นั้นลงลึกไปถึงแก่นของก้อนหินเหล่านั้น มันเพิ่มความร้อนและคมกริบให้กับหินย้อยเหล่านั้นในทันที
แกร๊ก…ก ~~~
เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่เปลวไฟหลอมรวมเข้ากับหิน มันซึมลึกเข้าไปถึงรากของหินย้อยเหล่านั้นพร้อมกับเริ่มขุดหินก้อนยักษ์นั้นออกมาในทันที
หินย้อยขนาดยักษ์ถูกดึงออกมาจากผนังถ้ำ มันเต็มไปด้วยความร้อนและน้ำหนักที่มหาศาล ในตอนนี้อุณหภูมิของมันเดือดจนเข้าขั้นสูงสุดแล้ว ในตอนนี้รูปร่างของมันไม่ต่างจากหอกเพลิงยักษ์!
ในตอนแรกนั้นหมาป่าเวทเต็มไปด้วยความสงสัยกับสถานการณ์ตรงหน้า อย่างไรก็ตามมันได้รู้แล้วว่าในตอนนี้สถานการณ์กำลังเลวร้ายเนื่องจากหินย้อยขนาดยักษ์นั้นอยู่เหนือศีรษะของมัน!
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับแกอีกแล้ว!” โม่ฝานค่อยๆดึงหินย้อยนั้นออกมาอย่างช้าด้วยเปลวไฟที่สุดภาคภูมิของเขา รอยยิ้มเย็นชาเผยออกมาทำให้ดูไร้หัวใจอย่างถึงที่สุด
‘หึ ถูกแล้วล่ะ! สายฟ้านั้นทำได้เพียงจำกัดการเคลื่อนไหวของแกเท่านั้นและลูกบอลเพลิงนั้นก็ไม่อาจจะฆ่าแกได้สินะ ยังไงซะพ่อของแกคนนี้จะใช้สมองนี้แหละที่จะทำให้แกไปเกิดในโลกหน้า!’
หินย้อยที่เขาดึงออกมานั้นมีขนาดใหญ่มาก มันราวกับหอกยักษ์ที่พร้อมจะฝังรากลึกเข้าไปในร่างกายของหมาป่าเวท
มันเจาะลงไปผ่านหลังของหมาป่าเวทผ่านช่องท้องและยึดติดกับพื้นดินด้านล่างอย่างโหดเหี้ยม!!!
โลหิตมากมายไหลออกมาจากร่างกายของหมาป่าเวท อีกทั้งหินย้อยเล็กใหญ่ต่างๆได้พากันร่วงหล่นลงมทับถมอสูรตนนี้อย่างไร้ปราณี ตอนนี้หินเหล่านั้นกองทับหมาป่าเวทโดยสมบูรณ์แล้ว
หมาป่าเวทยังคงยืนอยู่ที่เดิม… ด้วยท่าที่ถูกตรึงไว้กับหอกยักษ์นั้น
มันไม่สามารถขยับขยายร่างกายได้เลย ในตอนนี้ดวงตาแดงฉานที่เคยเป็นสีแดงกลับคืนสู่สีเขียวอีกครั้งในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
มันหันมองหินย้อยที่ปักร่างกายของมันอยู่พร้อมกับมองไปที่มนุษย์ตรงหน้าอย่างว่างเปล่า
ในตอนนี้สายตาของมันว่างเปล่าและไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…
ความหยิ่งผยองเมื่อครู่นี้หายไปอย่างสมบูรณ์ ในตอนนี้มันอ่อนแอเกินกว่าจะต่อสู้ได้อีกครั้ง… ไม่มีจิตสังหารใดๆถูกปล่อยออกมาอีกแล้ว
ชีวิตของมันจบสิ้นเพียงเท่านี้…
จบภายใต้มือของนักเวทตัวจ้อยคนนี้….
—
สายลมพัดเข้ามาภายในถ้ำเกิดเสียงเสียดสีเล็กน้อย
นักเรียนที่กำลังบาดเจ็บเมื่อก่อนหน้านี้ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผลมากมาย
ชายคนหนึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ด้านหลังของเขามีปีกแห่งวายุสยายอยู่อย่างน่าเกรงขาม
“วายุ… ปีกแห่งวายุ!” มู่ไป๋ฟื้นขึ้นมาพร้อมกับมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อาจเชื่อได้
“นั่น… นั่นมันหัวหน้ากองทัพ!”
“โอ้สวรรค์ ฉันกำลังมองอะไรอยู่? นางฟ้างั้นเหรอ?”
นักเรียนทุกคนต่างพากันตื่นตกใจกับภาพตรงหน้า
พวกเขานั้นรู้ดีว่าหัวหน้ากองทัพจ้านคงนั้นเป็นนักเวทที่เก่งกาจอย่างมาก แต่ทั้งหมดไม่เคยจินตนาการถึงว่าเขาจะเป็นนักเวทที่อยู่ในระดับสูงพอที่จะควบคุมปีกแห่งวายุได้!
ปีกแห่งวายุ!
มันคือเวทมนตร์ที่ทำให้นักเวทสามารถบินได้อย่างอิสระราวกับนางฟ้า!
จ้านคงยืนมองนักเรียนเหล่านี้อย่างเหนื่อยใจ จากนั้นเขาหันกลับเข้าไปมองภายในถ้ำที่เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นทันที
“ฉันหวังว่านักเรียนที่สามารถใช้เวทเผาผลาญกระดูกยังจะมีชีวิตอยู่นะ!” จ้านคงไม่กล้าที่จะชักช้าอีกต่อไป เขาขยับปีกพร้อมกับพุ่งเข้าไปด้านในของถ้ำทันทีราวกับลูกศรที่ถูกยิงออกจากคันธนู
หินย้อยมากมายถูกร่างกายของจ้านคงบดขยี้ เขาพุ่งหน้าเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ต้องปะทะกับหินในถ้ำอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
“บอลเพลิงทมิฬ!”
ภายในถ้ำที่มืดมิด จ้านคงเรียกลูกบอลไฟมาไว้ในมือเพื่อส่องสว่าง
ตอนนี้ลูกไฟปรากฏขึ้นส่องแสงสว่างไปทั่วถ้ำแห่งนี้
จ้านคงมองไปรอบๆพร้อมกับหวังว่าหมาป่าเวทยังคงสามารถควบคุมได้อยู่สักเล็กน้อย ถ้าเป็นเช่นนั้นเด็กนักเรียนอัจฉริยะที่ชื่อโม่ฝานนั้นรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ให้ได้
ในตอนนี้เขาไม่สนใจพลังเวทของตนเองอีกแล้ว เขาใช้มันออกไปเพื่อค้นหาโม่ฝานให้เร็วที่สุด
เปลวไฟจากมือของเขาค่อยๆสว่างขึ้นจนทำให้ทั่วทั้งถ้ำสว่างจนมองเห็นได้ชัดเจน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จ้านคงเห็นต่อไปนี้ทำให้เขาอยู่ในสภาวะที่โง่งมโดยสมบูรณ์!
หัวหน้ากองทัพผู้แข็งแกร่งอยู่ในสถาวะมึนงง ดวงตาที่น้ำตาลสั่นไหววูบไปมาอย่างอธิบายไม่ได้!
เรื่องนี้… มันเป็นไปได้อย่างไร!!!
—
ในตอนนี้บนแท่นหิน ผู้อัญเชิญไป่หยางนั้นแสดงสีหน้าที่ตื่นตระหนกออกมาอีกครั้ง ภายในใจของเขาคิดเพียงแค่ต้องการให้ผู้นำของเขาไปถึงที่นั่นได้ทันเวลา…
“บ้าเอ้ย…” เฉินกวงเหลียงนั้นยืนอยู่บนพื้นด้วยท่าที่ที่อ่อนแรง ถ้าหากนักเรียนตายตกไปในการสอบปฏิบัติครั้งนี้ เขาจะต้องรับผิดชอบทุกอย่าง เพราะประเทศแห่งนี้ล้วนแต่ให้ความสำคัญกับนักเรียนเวทมนตร์อย่างยิ่ง แม้กระทั่งทรราชแห่งเมืองบ่อมู่โจวอวิ๋น… ยังไม่กล้าที่จะทำร้ายนักเรียนเลย
ถังหยู่กัดริมฝีปากของตนเอง…
เธอคิดถึงวันที่เธอเล่นมุกตลกกับโม่ฝาน ถ้าหากว่าเขาสามารถสังหารอสูรเวทได้ให้เขาส่งสถานที่ตายของมันมาให้เธอผ่านวีแชท แต่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าทุกอย่างมันจะจบเร็วเช่นนี้…
ถังหยู่นั้นสนใจโม่ฝานอย่างมาก เธอคิดว่าเด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่มากกว่าเวทละอองดาราในการฝึกฝน อีกทั้งเธอยังอยากเห็นพัฒนาการของเขาว่าเขานั้นจะสามารถไปได้ไกลสุดเท่าไหร่กัน… เธอจึงใช้มุกเหล่านั้นเพื่อที่จะติดต่อกับเขาตลอดเวลา
น่าสงสาร… ช่างน่าเสียดายจริงๆ…
“ไป่หยาง นี่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมอสูรร้ายถึงไม่สามารถควบคุมได้? แน่นอนว่าการเผาผลาญกระดูกนั้นเจ็บปวดก็จริงแต่มันไม่ใช่เหตุผลที่จะสูญเสียการควบคุมมันไม่ใช่เหรอ!” ลั่วหยุนปั๋วตะโกนออกมาอย่างโกรธจัด
สำหรับผู้อัญเชิญนั้น เวทอัญเชิญเป็นทักษะพื้นฐานที่พวกเขาจะต้องเข้าใจมันอย่างถ่องแท้!
“ฉะ-ฉันไม่รู้… ถ้าตามปกติแล้ว แม้ว่ามันจะต้องตายตกไป มันก็จะไม่ลงมือสังหารนักเรียนเด็ดขาดถ้าฉันไม่ได้สั่ง ในตอนนี้ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น!” ไป่หยางกล่าวออกมาอย่างคร่ำครวญ
แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถหาที่มาที่ไปได้เลย…
ไป่หย่างนั้นไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่านักเรียนจะสามารถใช้เพลิงเผาผลาญกระดูกจนทำให้อสูรร้ายของเขาเสียการควบคุมได้ แต่สิ่งที่เขาคิดในตอนนี้คือมันจะต้องมีเหตุผลอื่นเสริมอย่างแน่นอน อสูรร้ายไม่อาจหลุดจากพันธนาการได้ง่ายเช่นนี้!
“ในตอนนี้คุณควรจะเริ่มภาวนาได้แล้วว่าไม่ให้อสูรร้ายของคุณนั้นสังหารนักเรียนมากเกินไป!” พันหลี่จวินกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น
“ฉะ-ฉัน…อ๊ะ!” ไป๋หยางพยายามจะอธิบายแต่ในตอนนี้เขากลับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง
ราวกับจิตวิญญาณของเขากำลังถูกทุบตีอย่างรุนแรง มันเจ็บปวดจนใบหน้าของไป่หยางบิดเบี้ยวไม่สามารถควบคุมได้ เขาลงไปกองกับพื้นพร้อมกับดิ้นอย่างทุรนทุรายทันที
“อะไรอีก เกิดอะไรขึ้นอีก!!??” ลั่วหยุนปั๋วตะคอกออกมาอย่างหมดความอดทน
“หมาป่า… หมาป่าเวท… หมาป่าเวทของฉัน!!” ในทันทีไป่หยางนั้นราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง เขาคุกเข่าบนพื้นพร้อมกับจ้องมองไปที่ถ้ำตรงหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“เกิดอะไรขึ้น?” ถังหยู่ขมวดคิ้วแน่นเพราะเธอไม่รู้ว่าสิ่งที่ไป่หยางกำลังทำอยู่นั้นหมายถึงอะไร
“หมาป่าเวท…ของฉัน…ตะ-ตายแล้ว!” ไป่หยางกล่าวออกมาด้วยความตื่นกลัวและจิตใจของเขาว่างเปล่าราวกับเขานั้นได้ตายไปพร้อมกับมันด้วย…
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
อย่าลืมกดติดตามนิยายด้วยน้า เวลาเค้าอัพเดทจะได้มีแจ้งเตือนค่าา
ช่วยกันกดคะแนนดาวให้กับผู้แปลเพื่อเป็นกำลังใจด้วยน้าาาา //อ้อนน