GE304 ดาราสมุทร (7) [ฟรี]
ระหว่างมุ่งหน้าไปเมืองมังกรสมุทร ฉิงซวนบอกเล่าเรื่องราวความลับของโลหิตบรรพบุรุษโดยไม่กล้าปิดบัง
ใต้เมืองมังกรสมุทร เป็นสถานที่ฝังร่างของมังกรโบราณ กระดูกมังกรไม่มีผู้ใดนำไปใช้ประโยชน์ แต่สิ่งที่ผู้คนไม่รู้คือในไขกระดูกของของมังกรตนนั้น มีโลหิตหลงเหลืออยู่ 2 หยด! มังกรตนนั้นสมควรเป็นมังกรโบราณในแดนสวรรค์
โลหิตบรรพบุรุษมังกรทำให้มังกรสมุทรสามารถต้านรับม่านฉานได้ถึง 10 กระบวนท่าโดยยังรอดชีวิตอยู่
ยามนี้มันจึงเก็บตัวอยู่ภายในเมืองเพื่อดูดซับโลหิตบรรพบุรุษ ทะลวงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง
สถานที่เก็บตัวของมังกรสมุทรนั้น มีเพียงฉิงซวนที่รู้
หากไม่ได้มันนำทาง หนิงฝานคงยากที่จะไปพบมังกรสมุทรที่เก็บตัวฝึกฝน
นั่นเป็นเหตุผลที่หนิงฝานไว้ชีวิตฉิงซวนไว้
โลหิตบรรพบุรุษนั้น หากไม่ใช่ผู้สืบทอดก็ไม่อาจผสานได้ เพียงแต่โลหิตบรรพบุรุษมังกรที่นี่นั้นเป็นข้อยกเว้น อาจเป็นเพราะอานิสงค์จากจักรพรรดิแห่งดารา ทำให้ภูมิประเทศของที่นี่ต่างไปจากทั่วไป ทำให้ผู้ที่ได้ครอบโลหิตสามารถผสานกับโลหิตได้
หนิงฝานที่มีโลหิตฟู่ลี่อยู่แล้ว หากได้โลหิตบรรพบุรุษมังกรมา ความเข้มข้นของโลหิตโบราณของเขาจะเพิ่มขึ้น ช่วยทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก
หากถูกตามล่าก็ต้องตอบโต้ และวิธีการที่ดีที่สุดคือการทำลายเมืองมังกรสมุทร เพื่อข่มขวัญขุมกำลังขนาดเล็ก ไม่ให้พวกมันกล้ายั่วยุเขาอีก
มีคำกล่าวว่า สังหารหนึ่งคนเท่ากับสังหารคนนับหมื่น
“เมืองมังกรสมุทรมีผู้เชี่ยวชาญอยู่เท่าไหร่?”
“นอกจากท่านมังกรสมุทรที่อยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุดแล้ว ก็มีผู้อาวุโสขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง 3 คน ตัวข้าที่ท่านมังกรสมุทรไว้ใจและผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางอีก 7 คน ขั้นต้นอีก 15 คน และมีคนที่จับตัวมาได้อีก 4 คน”
“จับตัว?”
“ใช่… หากนายท่านรู้คงไม่แปลกใจ เพราะมีผู้ที่เข้ามาในดาราสมุทรเป็นจำนวนมาก… 4 คนนั้นโชคร้ายถูกท่านมังกรสมุทรจับตัวและประทับตราวิญญาณเอาไว้ ให้คอยทำหน้าที่ปกป้องเมือง”
เมื่อหนิงฝานกล่าวถาม มันบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดไม่ปิดบัง เมื่อได้ฟัง หนิงฝานจึงช่วยมันสร้างร่างกายขึ้นมาอีกครั้ง แต่ระดับพลังของมันตงลงไปเหลือเพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น
แม้จะเป็นเรื่องที่ไร้หนทาง แต่การที่หนิงฝานยอมยื่นมือช่วยนับเป็นเรื่องที่หาได้ยาก แม้ระดับพลังจะลดลงก็นับว่าโชคดีแล้ว
ยามนี้ ฉิงซวนเข้าใจแล้วว่าหนิงฝานเป็นบุคคลที่อันตรายและน่าสะพรึงกลัวมาก ดังนั้นมันจึงยอมทรยศเมืองของตนเพื่อเอาชีวิตรอด
ฉิงซวนขบคิด มันรู้ว่าหนิงฝานทรงพลังยิ่งกว่านี้มาก แต่เหมือนเขาจะอำพรางพลังให้อยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้นเท่านั้น
“คนผู้นี้แข็งแกร่ง สามารถสังหารข้าได้ราวกับบี้มด ไม่รู้ว่ามันจะเอาชนะมังกรสมุทรได้หรือเปล่า ถ้ามันถูกสังหาร ข้าก็จะถูกสังหารไปด้วย… ในอดีตท่านมังกรสมุทรรับฝ่ามือม่านฉานได้ 10 ฝ่ามือ ยามนี้สมควรแข็งแกร่งขึ้นมาก… เห้อ...”
ฉิงซวนถอนหายใจ มันโดยสารรถเพลิงเมฆาไปกับหนิงฝาน รถคันนี้รวดเร็วมาก ทั้งยังถูกสร้างขึ้นด้วยช่างฝีมือระดับสูง ไม่แปลกที่หนิงฝานจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของอสูรกึ่งไร้ดัดแปลง
“ช่างเถอะ ถึงจะกลายเป็นผู้ติดตามของเด็กนี่ไปและทำให้ตระกูลต้องผิดหวัง ฉะนั้นข้าขอระบายความแค้นไปกับการสังหารมังกรสมุทรแก็แล้วกัน”
รถเพลิงเมฆาพาทั้งสองมุ่งหน้าสู่เมืองมังกรสมุทรอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเห็นเงาของเมืองจางๆ มันเห็นรถสงครามของเมืองมังกรสมุทร 7 คัน นอกเมืองมีการป้องกันแน่นหนา ในรัศมีแสนลี้ ทหารอสูรแสนนายวางกำลังป้องกัน
บนรถมีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลาง 3 คน และขั้นต้นอีก 4 คนแยกกันไป ยามนี้ สีหน้าของพวกมันแต่ละคนดูโกรธเคือง
“เฟิงหาน ก้าวออกมา!” ชายชราในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“ขอรับ… ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสอะไรจะกล่าวถาม...” ผู้เยาว์ในอาภรณ์ครามก้มหน้าป้องมือ สีหน้าของมันดูโกรธเคืองไม่แพ้กัน
หากมีผู้เชี่ยวชาญของแดนอสูรอยู่ด้วย ย่อมโกรธแค้นกับฉากที่เห็น
“จะถามในเรื่องที่รู้ทำไม! นายท่านให้เวลาเจ้าตัดสินใจหนึ่งเดือน นี่ก็ครบกำหนดเวลาแล้ว”
“ข้าไม่กล้าเปิดเผยวิชาของตระกูล นายท่านโปรดเมตตาด้วย!” เฟิงหานขบฟัน ก่อนหน้านี้ 1 เดือน มันและคนในตระกูลเดินทางมาที่เมืองมังกรสมุทร แต่ก็ถูกจับตัวมา
ในหมู่ผู้ที่มาด้วยกันนั้น มีมันคนเดียวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลาง อีก 3 คนที่เหลืออยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น ด้วยศัตรูมีจำนวนมากและทรงพลัง พวกมันทั้ง 4 จึงถูกจับตัวไป
การถูกจับตัวจนกลายเป็นทาสนี้ ทำให้เฟิงหานอับอายที่สุดในชีวิต
หากไม่ใช่ว่าเมืองมังกรสมุทรสนใจในวิชาของเฟิงหาน พวกมันทั้ง 4 คงถูกสังหารตายไปแล้ว
เมืองมังกรสมุทรให้เวลาเส้นตายกับมัน 1 เดือน โดยให้มันยอมมอบวิชาลับให้ แลกกับการที่ไม่ถูกสังหาร แม้มังกรสมุทรจะใช้วิชาอ่านความทรงจำได้ แต่วิชาลับเป็นสิ่งที่ไม่อาจอ่านด้วยความทรงจำได้
ในช่วงหนึ่งเดือนมานี้ มันหารือกับคนของตระกูลที่มา และได้ข้อสรุปว่าพวกมันจะไม่ยอมบอก
“ฮึ่ม! ถ้าเจ้าไม่มอบวิชาให้วันนี้ ก็เตรียมตัวตายได้เลย!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ข้าไม่กลัว!”
เฟิงหานทนกับการถูกย่ำยีมา 1 เดือนเต็ม และวันนี้มันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป
“ถึงเจ้าไม่ยอมบอก ข้าก็มีวิธีที่จะทำให้เจ้ายอมคายความลับ… ดูเหมือนเจ้าลู่เป่ยที่สร้างความปั่นป่วนให้กับดาราสมุทรจะมาจากที่เดียวกันกับเจ้า นี่ก็หลายวันแล้ว ไม่รู้ฉิงซวนจับตัวมันกลับมาได้หรือยัง?”
คำกล่าวของชายชราทำให้เฟิงหานสงบใจได้
“ฉิงซวนจับลู่เป่ยไม่ได้หรอก!” เฟิงหานกล่าวอย่างภาคภูมิก่อนจะหัวเราะเยาะ
“ฮึ่ม! เป็นแค่ทาสอย่างบังอาจกล่าวนามพล่อยๆ... ลู่เป่ยนั้นน่าสนใจ เท่าที่ข้ารู้ เจ้ามาจากเผ่าลำดับ 3 ส่วนลู่เป่ยมาจากเผ่าลำดับ 7 เท่าที่ข้ารู้ ลู่เป่ยอยู่ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น แต่ความแข็งแกร่งของมันผกผันกับระดับพลังมาก แต่ยามนี้มันต้องพิษหนอนม่วง คงไร้ซึ่งพลังไปแล้ว.... ส่วนเจ้า ข้าสังหารเจ้าได้ใน 3 ลมหายใจ ลู่เป่ยก็คงไม่ต่างกัน”
เมื่อได้ยินคำกล่าว เฟิงหานสีหน้าแปรเปลี่ยนเย็นชา มันหันมองคนในตระกูลอีก 3 คน และคนเหล่านั้นก็ก้มหัวด้วยความอับอาย
“พอเจ้าดื่มนี่เข้าไป เจ้าจะคายความลับทั้งหมดออกมาเอง”
เฟิงหานรู้แล้วว่าเหตุที่คนของตนคายความลับเป็นเพราะของเหลวนั่น ดังนั้น มันจึงไม่โกรธ มันหันมองชายชราในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลางพลางกล่าว “เจ้าฆ่าเขาไม่ได้หรอก!”
“ฮึ่ม! ข้าก็อยากเห็นเหมือนกันว่าขอบตัดวิญญาณขั้นต้นจะทนข้าได้ถึงหนึ่งลมหายใจหรือเปล่า… ส่วนเจ้า ข้าจะใช้วิชาอ่านความทรงจำที่รุนแรงกว่าทั่วไป!”
ชายชราเคลื่อนไหว ปรากฏกายหน้าเฟิงหานในพริบตา แล้วยื่นมือจับเข้าที่ศีรษะของเฟิงหาน
“ตายซะ!”
เฟิงหานไร้หนทาง แม้มันจะเคียดแค้นแต่ไม่อาจต่อสู้ขัดขืน
แต่ในชั่วพริบตานั้น ชายชราที่กำลังจะใช้วิชาอ่านความทรงจำ กลับถูกขัดจังหวะไปก่อน
ทางทิศเหนือของเมือง เส้นแสงสีทองพุ่งทะยานเข้ามาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับเกิดเหตุการณ์ประหลาด เพลิงสีทองบนรถทำให้น้ำทะเลเดือดพร่าน แต่ปราณสีม่วงที่แผ่สลับออกมาจากรถ กลับทำให้น้ำทะเลถูกแช่แข็งสลับกันอย่างต่อเนื่อง
ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางทั้ง 3 ของเมืองมังกรสมุทรตกตะลึง ก่อนตะโกนลั่น
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
รถเพลิงทองคำยังคงแล่นด้วยความเร็วเต็มอัตราไม่มีทีท่าว่าจะหยุด พร้อมกับเสียงเรียบเฉยเสียงหนึ่งดังมาจากรถ
“ใครขวางตาย!”
รถเพลิงทองคำที่ลุกโหมด้วยอันร้อนแรงพุ่งเข้าปะทะกับกองทัพอสูร เปลวเพลิงที่รุนแรงแผดเผาพวกมันจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
แรงปะทะและเพลิง ทรงพลังเทียบเท่าการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลาง
“สกัดมันไว้!”
ชายชราในขอบเขตตัดวิญญาณ 2 คนสั่งการพลางทุทะยานเข้าขวางรถเพลิงทองคำเอาไว้
เฟิงหานอาศัยช่วงชุลมุน เร่งหลบรถเพลิงทองคำที่พุ่งเข้ามา มันรู้ว่าผู้ที่อยู่บนรถคันนั้นคือใคร และมันก็รู้ว่าชายชราทั้งสามไม่สามารถหยุดรถได้
“ค่ายกล 3 กระบี่!”
ชายชราทั้ง 3 อ้าปากคายกระบี่กระดูกออกมา
กระบี่ทั้ง 3 กวัดแกว่งเป็นลำดับ เกิดเป็นเงากระบี่ 12 เงาเข้าปะทะกับรถเพลิงทองคำ เงากระบี่ในค่ายกลถูกทำลายไป 9 เล่มก่อนที่รถเพลิงทองคำจะหยุดลง แต่ชายชราทั้งสามก็ได้รับผลกระทบจากการจู่โจม
พวกมันขมวดคิ้ว สีหน้าแปรเปลี่ยน รถเพลิงทองคำนั้นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ ค่ายกลกระบี่ของพวกมันสามารถรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงได้ไม่ยาก แต่เกือบจะต้านรับรถเพลิงทองคำไม่อยู่
รถเพลิงทองคำหยุดนิ่ง ผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวปรากฏกาย ทำให้ชายชราทั้งสามสั่นสะท้าน ลมปราณและโลหิตในร่างปั่นป่วน
“ลู่เป่ย? หืม? ทำไมฉิงซวนอยู่บนรถด้วย!”
แต่ในขณะที่พวกมันไร้การป้องกัน ฉิงซวนคำรามลั่นก่อนทะยานเข้าหาพวกมัน แล้วแทงกระบี่เข้าที่ตันเถียนอย่างแม่นยำ
แม้กระบี่ไม่อาจปลิดชีวิตพวกมันได้ แต่ก็ทำให้ระดับพลังลดลงไม่น้อย สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ทั้งตกตะลึงและโกรธแค้น
“สารเลว! เจ้าทรยศนายท่าน!”
“ข้าไม่อยากตาย! ท่านมังกรสมุทรพลาดเองที่ไปยั่วยุลู่เป่ย!” ฉิงซวนกล่าวด้วยแววตาดุร้ายก่อนจะถอยกลับไปด้านหลังหนิงฝาน
“สังหารคนทรยศรึ!” หมอกม่วงปรากฏขึ้นตรงหน้าชายชราที่หวังจะสังหารเฟิงฉาน ดรรชนีชี้จ่อกลางหน้าผาก
ภูเขาในรัศมีหมื่นลี้พังทะลาย ดรรชนีทรงพลังเทียบเท่าขอบเขตกระดูกหยกที่ 3 เปล่งอานุภาพทำลายสมบัติคุ้มกาย ตรงเข้าทำลายทะเลสติของมันอย่างแม่นยำ
“ทรงพลังมาก... เป็นดรรชนีที่ทรงพลังจริงๆ” ชายชราตกตะลึง
แม้ลู่เป่ยจะเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น แต่เขากลับทรงพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูง เฟิงหานไม่ได้โกหกมัน
“ไม่แปลกที่ฉิงซวนทรยศ… ถ้าข้าเป็นมันก็คงทำ...” ชายชรายังกล่าวไม่จบ ร่างกายและดวงจิตก็ถูกลบไปจากโลกนี้ตลอดกาล
ฉิงซวนตกตะลึง สมบัติคุ้มกายของชายชราผู้นั้นทรงพลัง อย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางจะทำลายได้ง่ายๆ แต่หนิงฝานกลับใช้เพียงดรรชนีเดียว ปลิดชีวิตของมันได้
เฟิงหานสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า ลู่เป่ยในวันนี้ แตกต่างจากที่มันเคยพบอย่างชัดเจน
“ฆ่าอย่าให้เหลือ!”
เมื่อหนิงฝานกล่าวจบ ทหารศิลาและทาสคนอื่นๆเคลื่อนไหว ออกไล่ล่าสังหารคนของเมืองมังกรสมุทรอย่างโหดเหี้ยม...
อีกฝั่งหนึ่งของดาราสมุทร เว่ยฉวนพยามอย่างเต็มความสามารถเพื่อถ่วงเวลาไม่ให้ผู้ถูกเลือกจากแดนสวรรค์
ผู้เฝ้าสังเกตุการณ์ได้รายงานเรื่องราวต่างๆมากมาย ซึ่งชายชราต้องรายงานไปยังแดนสวรรค์ แต่ชายชราได้อ้างว่าไม่สามารถส่งข่าวไปได้เนื่องด้วยเหตุผลบางอย่าง
แต่หากแดนสวรรค์รู้เข้า ชายชราคงไม่รอด
“หนิงฝาน ข้าคงช่วยเจ้าได้แค่นี้...”
ชายชราถ่วงเวลาได้มากสุดเพียง 6 เดือน
ยามนี้ ชายชราสังเกตุเห็นผู้เชี่ยวชาญ 3 คนทะยานออกมาจากรอยแยกมิติด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว จนทำให้ชายชราขมวดคิ้ว
“ออกมาจากมิติ… เซียนพวกนั้นมาทำอะไรที่นี่ หรือจะมาเพราะดาราจักรพรรดิ! แย่แล้ว ถ้าข้าไม่รีบซ่อนตัว แผนของแดนสวรรค์คงพัง”
ชายชรานำแผ่นข่ายอาคมสีม่วงออกมา จากนั้นกระตุ้นข่ายอาคม ย้ายร่างของตนห่างออกไป 10 ล้านลี้ในพริบตา
หลังจากชายชราจากไป เงาร่างทั้งสามก็พุ่งตรงเข้ามา
เงาร่างที่นำอยู่ด้านหน้าเป็นเงาร่างของสตรีที่งดงามนางหนึ่ง ใบหน้าปิดบังด้วยผ้าจนไม่อาจมองเห็นได้ชัด ทุกท่วงท่างดงามสง่า ที่เอวของนางสวมไว้ด้วยเข็มขัดที่เป็นสมบัติระดับเซียน ราวกับนางมีสถานะสูงส่งในแดนสวรรค์
ที่สำคัญนางยังแข็งแกร่งมาก
ด้านหลังนางมีสัตว์อสูรขนาดใหญ่กว่าแสนจ้าง 2 ตัวไล่ตาม!
สัตว์อสูรระดับนี้สามารถถล่มโลกมนุษย์ได้ไม่ยาก
“บ้าเอ้ย! ข้าแค่อยากลงมาโลกมนุษย์ แต่กลับถูกพวกโลกอสูรพบ… ถ้าข้าได้ดาราจักรพรรดิ ม่านเอ๋อร์สมควรตัดเส้นลมปราณมังกรสวรรค์ได้ไม่ยาก… ฮึ่ม! ถ้าไม่เพราะโลกมนุษย์จำกัดพลังและสัมผัสรับรู้ ข้าก็ไม่กลัวอสูรพวกนี้หรอก... ตอนนี้คงทำได้แค่หนี คนของวังดาราสมควรอยู่ไม่ไกล...”
ในขณะที่นางหลบหนีอยู่นั้น สีหน้านางกลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง อสูรด้านหลังทั้งสองเปล่งเสียงคำรามลั่น คลื่นเสียงของพวกมันทำให้ความเร็วของนางลดลง
“สารเลว! อสูรชั้นต่ำอย่างพวกเจ้ากล้าผนึกพลังข้า! รนหาที่ตาย!”
“อย่าให้รู้นะว่าใครวางข่ายอาคมผิดพลาดแบบนี้ ไม่งั้นข้าไม่ปล่อยมันไว้แน่!”
นางบ่นกล่าวด้วยความโมโห แววตาขุ่นเคือง นางไม่รู้ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างทางผ่านให้
นอกจากนางจะต้องเจอปัญหาเรื่องเส้นทางแล้ว นางยังถูกอสูรที่ทรงพลังตามล่า นับว่านางโชคร้ายไม่น้อย...