Chapter 14: เควสปล้นสุสาน
Chapter 14: เควสปล้นสุสาน
“ค้นพบโจรปล้นสุสาน!”
ระบบส่งข้อความแจ้งกับแฮปปี้ ทันทีที่โจรปล้นสุสานมาถึง มันถามเขาเกี่ยวกับว่าเขาต้องการที่จะยิงพลุไฟและเรียกกำลังเสริมจากตระกูลมู่หลงเลย ดังนั้นเขาสามารถที่จะแก้ไขวิกฏติของสุสานดาบหรือเขาต้องการที่จะลอบไปดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะเรียกกำลังสนับสนุน
เควสนี้มันไม่ธรรมดาเลย : เขาสามารถที่จะเลือกตัวเลือกได้อีก
การแจ้งเตือนของระบบก็ให้เงื่อนไขกับเขาอย่างชัดเจน ถ้าเขายิงพลุไฟทันที เขาจะทำให้โจรปล้นสุสานในสุสานดาบตื่นตัว และพวกเขาก็จะหลบหนีไป
ถ้าเขาทำแบบนั้น เขาก็จะทำเควสสำเร็จด้วยระดับที่ต่ำที่สุดและรางวัลที่เขาจะได้รับก็น้อยมาก ด้วยเหตุผลนี้ มันจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะสังเกตสถานการณ์ก่อน ว่าเขาพบอะไร
เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว แฮปปี้ไปแอบอยู่ด้านหลังของสุสานดาบและเข้าไปใกล้กับโจรปล้นสุสาน..
.
เนื่องด้วยดาบเหล็กขนาดใหญ่และโซ่ที่ล้อมรอบกับบริเวณนี้ โจรปล้นสุสานก็พบกับปัญหามากมายในการเข้าสุสาน พวกเขากว่าจะลอบเข้าไปด้านในได้ก็ใช้เวลาเป็นจำนวนมาก
แฮปปี้รีบหลบซ่อนอยู่ในเงาของสุสานดาบ หลังจากนั้นเขาพึ่งจะค้นพบได้ว่า อุปกรณ์ที่โจรปล้นสุสานใช้ไม่ได้เป็นอุปกรณ์สำหรับผู้เชี่ยวชาญ พวกมันเป็นเพียงอุปกรณ์ทำฟาร์มกันทั้งหมด เช่น จอบ ที่พรวนดิน และอย่างอื่น
นักลาดตระเวนถูกส่งออกไปที่ตีนเขา เพื่อตรวจสอบสถานการณ์อย่างระมัดระวัง พวกเขาหันไปสังเกตว่าการขุดดินไปถึงไหนแล้วเป็นครั้งคราว
“เร็วเข้า!” หนึ่งในพวกเขาก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างกังวลใจ
กองกำลังของตระกูลมู่หลงก็ไม่สามารถที่จะดูถูกได้ ถ้าใครก็ตามสังเกตพบกับพวกเขา พวกเขาสามารถที่จะลืมกับการใช้ชีวิตในเมืองกูซูอย่างมีความสุขไปได้เลย แม้แต่ในเจียงหนานก็ด้วย!
“นายเลิกที่จะเร่งพวกเราให้เร็วกว่านี้จะได้ไหม ห้ะ? ก้อนอิฐของสุสานนี้มันแปลกมากเกินไป เข้าใจไหม? นายจะทำมันด้วยตัวเองก็ได้นะ ถ้านายต้องการหน่ะ”
ชายที่กำลังขุดหลุมศพอย่างยากลำบากก็บ่นออกมา เขาก็วางอุปกรณ์ของเขาลง เขาพ่นน้ำลายลงไปบนฝ่ามือ และเขาก็ถูมือ ก่อนที่จะจับพรวนดินและทำงานต่อ
“ยิ่งพวกมันแปลกมากแค่ไหน ยิ่งดีมากเท่านั้น ฉันได้ยินมาว่ายิ่งขุดสุสานได้ยากแค่ไหน สมบัติที่จะได้รับก็มากขึ้นเท่านั้น ตระกูลมู่หลงเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเจียงหนาน เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว มันคงมีสมบัติที่ถูกฝังในหลุมศพของพวกเขาเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน”
“ถูกแล้ว ทุกคน เร็วเข้า เมื่อพวกเราทำมันเสร็จ พวกเราจะไม่ยากจนอีกต่อไปแล้วละ”
“เร็วเข้า!”
กลุ่มคนต่างเต็มไปด้วยกำลังใจอีกครั้งหนึ่ง และเสียงขุดดินก็ดังขึ้นมาจากหลุมศพแห่งดาบอีกครั้งหนึ่ง
แฮปปี้รับฟังในความมืดมิดและเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งมันทำให้เขาผิดหวังในทันที
‘โอ้…’
เขาคิดว่าจะเป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญและเป็นกลุ่มโจรปล้นสุสานที่เชี่ยวชาญ แต่จากบทสนทนาที่เขาได้ยิน มันเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นพวกที่พึ่งจะเริ่มปล้นครั้งแรก พวกเขาไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำไป และเหมือนกับคนในหมู่บ้านธรรมดาทั่วไป
แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เควสนี้จะไม่น่าสนใจมากสักเท่าไหร่ ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขาแล้ว แฮปปี้ก็ไม่มีปัญหาในการจัดการกับคนธรรมดาไม่กี่คน
เมื่อเขากำลังจะเดินออกมาจากเงาที่อยู่ด้านหลังพวกเขา เขาก็ได้ยินเสียงเสื้อที่สะบัดไปตามลม มันดังมาจากทางใต้ และมันก็มีหนึ่ง....สอง...
ถ้าแฮปปี้เป็นมือใหม่ทั่วไป เขาคงจะสับสนอย่างแน่นอน
ตั้งแต่ที่เขาไม่ใช่มือใหม่ ความคิดที่แตกต่างกันออกไปก็โผล่ขึ้นมาในหัวของเขา และเขายังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ด้านหลังสุสาน หลังจากนั้น เขาก็เห็นกลุ่มศิลปะการต่อสู้เข้าไปในสุสานตระกูลมู่หลง
“ใครกัน?”
“หนีเร็ว! มันเป็นคนจากตระกูลมู่หลงละ!”
ชาวบ้านสองคนที่รับหน้าที่ในการลาดตระเวนก็พบกับคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขา และใบหน้าของพวกเขาก็ซีดขาวในทันที พวกเขาต่างตกใจจนร้องออกมา และทิ้งอุปกรณ์ของพวกเขาไปเพื่อหลบหนีจากอันตราย
“ฮ่าๆ บอส พวกเราพบสหายของพวกเราแล้วละ!” คนที่เดินเข้ามาใกล้จากทางใต้ของสุสานดาบ เขาก็หัวเราะออกมาและเขาเดินเข้ามาใกล้และพูดเสียงดังออกมา
ก่อนที่เขาจะพูดจบ เสียงพ่นลมหายใจก็ดังออกมาจากที่ห่างไกลออกไป “ไอ้พวกโง่เง่าทั้งหลายเอ้ย กล้าดียังไงที่ใช้ชื่อของพวกเราในการปล้มสุสานวะ? ไอ้หนวด ทำให้มั่นใจว่าพวกเขาทั้งหมดจะอยู่ที่นี่ต่อไปซะ เมื่อพวกเราฆ่าพวกมันเสร็จ โยนพวกมันลงไปในหลุมศพซะ มันจะช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น!”
เมื่อชายหนุ่มพูดออกมา เจตนาสังหารของเขาถูกเปิดเผยออกมา และมันยิ่งทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกมากขึ้น
พวกเขาคิดว่าพวกเขาพบกับตระกูลมู่หลง ดังนั้นพวกเขาไม่ได้คาดว่าคนที่มาใหม่เป็นโจรปล้นสุสานที่ปล้นสุสานหลวงไปหลายสุสานแล้วแทน! และฟังจากสิ่งที่เขาพูดแล้ว พวกเขาเป็นพวกที่ฆ่าคนไม่เลือกหน้าอีกด้วย
“หัวหน้า ไว้ชีวิตพวกเราด้วยนะครับ!”
“อย่าฆ่าฉันนะ!”
ชาวบ้านวิ่งหนีไปทั่วทุกทิศทางด้วยใบหน้าที่ซีดขาว
ยังไงก็ตาม หลังจากเสียงหัวเราะที่เย็นยะเยือกที่ดังออกมาไม่กี่วินาที เสียงลมก็ดังขึ้นกลางอากาศ ชาวบ้านที่หวังที่จะรวยก็ถูกกดลงไปบนพื้น หนึ่งในพวกเขาล้มลงข้างแฮปปี้ แต่เขายังไม่ตาย ตาของเขายังคงเปิดกว้างและเขาชี้ไปยังเด็กหนุ่มที่อยู่ในเงา ในขณะที่พูดออกมาอย่างยากลำบาก “จับ…จับพวกเขา..”
หลังจากนั้น ลมหายใจสุดท้ายของเขาก็สิ้นสุดลง
แม้ว่าแฮปปี้จะรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาโดยปัญญาประดิษย์ก็ตามที (AI) บุคลิกภาพที่เหมือนมนุษย์ของ NPC และความรู้สึกที่เขาได้รับ เมื่อเขาเห็น มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงความไม่พอใจและความเศร้าโศก รวมทั้งความรู้สึกต่อชีวิตของชาวบ้าน ก่อนที่พวกเขาจะตายลง
ท่าทางของเขาดูมืดมนอย่างมาก
“บอส พวกเขาถูกจัดการกันทั้งหมดแล้ว”
“ฮึ่ม”
“อย่างน้อยคนเหล่านั้นก็ไม่ตายสูญเปล่า พวกเขาช่วยพวกเราทำงานไปบ้างแล้ว”
“เอาละ เลิกพูดได้แล้ว ไปทำงานซะ!”
ประโยคที่พูดคุยกันระหว่างนักปล้นสุสาร ทำให้แฮปปี้หายอารมณ์เสีย สายตาของเขาก็ชัดมากขึ้น เขากลั้นลมหายใจของเขาไว้ ความคิดของเขาก็แล่นวาบในหัว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่อยู่ด้านหน้าเขาเป็นนักปล้นสุสานที่ซึ่งไม่ได้ออกปล้นมาสักพักแล้ว และพวกเขาต่างเป็นเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขา
‘ถ้าฉันไม่ได้เลือกที่จะสังเกตสถานการณ์ดูก่อนแล้ว ฉันอาจจะพลาดกลุ่มผู้ร้ายตัวจริงก็เป็นได้...’ แฮปปี้รู้สึกว่าสถานการณ์นี้ย่ำแย่มาก ในความเป็นจริงแล้ว เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยาก
กลุ่มนักปล้นสุสานไม่ได้เป็นกลุ่มใหญ่ ตั้งแต่ที่พวกเขามีกันแค่สามคนเพียงเท่านั้น
แต่พวกเขาทั้งหมดต่างสามารถฆ่าคนอื่นได้โดยไม่กระพริบตา
พวกเขายังคงแข็งแกร่งกว่าอันธพาลหลี่ฉานอย่างมาก แฮปปี้อาจจะหยุดพวกเขาจากการขุดหลุมศพได้ ถ้าเขายิงพลุไฟ แต่มันจะเปิดเผยตัวตนของเขาด้วยเหมือนกัน
สำหรับคนเลวทั้งสามคนที่สามารถฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตาแบบนี้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโจรปล้นสุสานที่มีอาวุธลับ มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากในการฆ่าผู้เล่นธรรมดาทั่วไปที่เป็นมือใหม่กับเกมนี้ และยังไม่ถึงดินแดนแห่งประตู!
แฮปปี้ครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง ว่าเขาจะยิงพลุไฟดีหรือจะแอบรอจนกว่าพวกนักปล้นสุสานจะจากไปด้วยตัวเอง หลังจากพวกเขาขุดสมบัติไป
เขาตกอยู่ในปัญหาเสียแล้ว
ถ้าเขาเลือกวิธีแรก เขาจะสามารถทำเควสนี้ได้สำเร็จ แต่โอกาสที่เขาจะถูกฆ่าก็มากกว่า 90% ถ้าเขาเลือกอย่างหลัง เขาจะล้มเหลวในเควสแรกของตระกูลมู่หลง และชื่อเสียง รวมทั้งสถานะในตระกูลมู่หลงจะลดต่ำลงมาก
แต่ระบบก็ไม่ให้เบาะแสเพิ่มเติมอะไรให้เขาเลย!
ในค่ำคืนที่เงียบงัน เสียงขุดดินก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
‘ถ้าฉันจะตาย ก็ช่างมันดิวะ!’
ร่องรอยของความแน่วแน่และชัดเจนก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของแฮปปี้ เขาถอยหลังไปหลายๆก้าวอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเขาอยู่ห่างจากหลุมฝังศพไปหลายหลุม และเขาก็หยิบพลุไฟออกมา
ปัง!
ประกายไฟและเสียงก็ดังขึ้นในค่ำคืนที่เงียบสงบ
“มีใครบางคนอยู่ที่นี่!”
“เจ้าสาม!”
นักปล้นสุสานกระโดดออกมาจากสุสานพร้อมกัน พวกเขาออกมาและเห็นไฟสีแดงที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าและเด็กหนุ่มก็เผยตัวขึ้นมาในจุดที่ไฟส่องสว่าง เขายืนอยู่หน้าสุสาน และเขากำลังวิ่งลงไปจากภูเขา ทั้งสองคนต่างตกตะลึงและทำให้พวกเขาต่างกราดเกรี้ยว
“มันเป็นพลุสัญญาณจากตระกูลมู่หลง!”
“พวกเราถูกพบแล้ว…”
“พวกเราจะทำไงต่อดี?”
โจรปล้นสุสานทั้งสองคนต่างวิ่งไล่แฮปปี้ไป ในขณะที่กำลังรอคอยคำสั่งจากหัวหน้าของพวกเขา
หัวหน้าของพวกเขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าที่เหี้ยมโหด ใบหน้าของเขาก็ซีดขาว และการแสดงออกของเขาดูเย็นยะเยือก
“เขาน่าจะเป็นเด็กที่พึ่งถูกรับเป็นศิษย์โดยตระกูลมู่หลง ดังนั้นเขาจึงยังไม่ค่อยเก่งกาจ มันน่าเศร้าก็จริง แต่เขาเห็นหน้าพวกเราแล้ว เจ้าสาม ไล่ตามเขาไป และฆ่าเขาทิ้งซะ หลังจากนั้น พวกเราจะหนีไปในทันที ไปพบกับในสถานที่ดั้งเดิมของพวกเรานะ” เมื่อเขาพูดออกมา เขาก็หมุนตัวและเดินหนีไป
“เข้าใจแล้ว!” เสามพูด
นักปล้นสุสานอีกคนหนึ่งที่กำลังไล่ล่าอยู่ก็หมุนตัวกลับอย่างไม่ลังเล และเดินจากบริเวณนี้ไปด้วยเช่นกัน