ตอนที่แล้วบทที่ 319 - ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (3) [08-05-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 321 - ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (5) [12-05-2020]

บทที่ 320 - ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (4) [10-05-2020]


บทที่ 320 - ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (4)

เมื่อได้เข้ามาในดาเรย์และมองไปที่พื้นที่ที่กว้างใหญ่ของมันทำให้ยูเรียลกับกาเบรียลต้องมีปฏิกิริยาขึ้นมา

[เป็นไปได้ยังไงกัน?]

[นี่ลูกชอบเล่นเดอะซิมงั้นหรอ?]

ยูอิลฮานได้มองดูผู้รอดชีวิตจากไฮเชียที่กำลังเข้ามาสู่โลกดาเรย์และหันหน้าไปตอบกาเบรียลอย่างอารมณ์ดี

"เมื่อก่อนผมก็ชอบนะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ เกมมันจะสนุกก็ต่อเมื่อมันเป็นเกมเท่นั้น ก็เหมือนเกมขับรถมันสนุกนั่นแหละ แต่การต้องมาขับในถนนรถติดตอนเช้านี่มันต่างกันเห็นๆเลย"

"แต่ว่าลูกก็ไม่เคยเล่นทั้งเกมขับรถหรืการขับรถในช่วงเช้านี่"

"เงียบไปเลยน่า"

[พ่อ!]

"อิลฮาน!"

เหล่าคนที่เฝ้ารอคอยเขากลับมาได้วิ่งมาหาเขาทันที ยูอิลฮานได้ลูบหัวของยูมิลและกอดเลียร่าโดยไม่ขวางใดๆ

"ฉันมาสายไปหน่อยสินะ?"

"นายมาสายมากเจ้าบ้า! นายน่าจะพาฉันไปด้วยนะ ทำไมถึงชอบทิ้งฉันเอาไว้ตลอดเลย? แย่ที่สุด"

"ขอโทษนะ"

เลียร่าได้ซุกหน้าของเธออยู่ที่หน้าอกยูอิลฮานอยู่พักหนึ่งถึงจะรู้ตัวว่ามีชายหนุ่มกับหญิงสาวคนอื่นนอกจากโอโรจิกับมิสทิคมากับยูอิลฮานด้วย

"หืม ออร่านี่มัน... ท่านหญิงยูเรียลกับท่านกาเบรียล!? เป็นไปได้ยังไงกัน!?"

"นี่นายฆ่าไปคนหนึ่งแล้วก็จับตัวประกันมาสองคน!?"

ยูอิลฮานได้เขกหน้าผากเลียร่าเบาๆแล้วหันไปพูดกับกาเบรียล

"แล้วร่างมนุษย์ของพ่อล่ะ?"

[ไม่เป็นไรพ่อทำได้ พ่อต้องทำมันเลยใช่ไหม?]

กาเบรียลได้พึมพัมออกมาและหลับตาลง หลังจากนั้นปีกสามคู่บนหลัง วงแหวนที่เป็นเอกลักษณ์รวมไปถึงรัศมีมานาก็ได้หายไปจนหมด

ไม่สิ จะพูดว่าหายไปก็ไม่ถูก นี่มันก็แค่เป็นการซ่อนตัวที่มิดชิดจนไม่มีใครสัมผัสได้เท่านั้น เมื่อมานาได้หายไป ริ้วรอยก็ได้ปรากฏขึ้นบนผิวจนทำให้เขาดูเหมือนกับชายวัยกลางคน

และเป็นธรรมดาที่พลังหายไปทำให้เขาไม่อาจจะอยู่บนท้องฟ้าได้อีก กาเบรียลควรที่จะล่วงลงมาเลยทันที แต่ว่ายูเรียลก็ได้เข้าไปรับเอาไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่องแบบนี้... ยังไงก็ตามก่อนที่เธอจะไปถึงตัวกาเบรียลก็ได้มีโล่เอจิสปรากฏขึ้นมารับตัวก่อน ในท้ายที่สุดแล้วเลียร่าก็ได้รู้ถึงตัวตนของชายคนนี้

"...พ่อของอิลฮาน? เมื่อกี้นี้เขายังเป็นท่านกาเบรียลอยู่เลย"

"เขาคือคนๆเดียวกัน โอ้แล้วพ่อก็ยังเป็นหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงด้วยเหมือนกันนะ"

"เจ้าเศษขยะนั่น?...ห่ะ? อะไรนะ?"

สายตาของเลียร่าได้เต็มไปด้วยความสงสัยจนกาเบรียลต้องหัวเราะออกมาทื่อๆ

"ใช่แล้วฉันเป็นเศษขยะที่ทำให้เธอต้องลำบากอยู่ตลอดเวลาแหละนังหนู ฉันขอโทษด้วยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า"

"อ่า... อืมมม...? ท่านกาเบรียลคือพ่อเขยของฉัน? พ่อ?"

"โอ้ พ่อ! นี่เป็นคำที่ดีที่สุดที่ได้ยินเลยนะ? ทำไมไม่ลองเรียกฉันว่าพ่ออีกครั้งล่ะ?"

"พ่อเงียบไปเลย"

"ครับท่าน"

"หา? หาาาาาาาาาาาา?"

สมองของเลียร่าที่พยายามจะทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เปลื่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วไปพังลงไปทันที ยูอิลฮานได้ลูบคนรักของเขาและหันไปพูดกับกาเบรียล

"พ่อไปหาแม่ก่อนเถอะ ไว้ผมจัดการเรื่องต่างๆแล้วจะตามไป"

"ฮ่าาห์ สงสัยคงจะหลบไม่ได้แล้วสินะ โอเคไม่เป็นไร น่าหดหู่สุดๆไปเลย..."

[กาเบรียล...]

หากว่าคิมเยซอลได้มาเข้าสวนอาทิตย์อัสดงในก่อนหน้านี้ กาเบรียลก็คงจะได้อธิบายทุกๆอย่างให้เธอฟังไปแล้ว แต่เพราะเธอได้ปฏิเสธข้อเสนอไปทำให้เขาต้องอยู่ห่างจากภรรยาโดยไม่ได้มีเวลาไปอธิบายอะไรเลย

ภรรยาของเขายังเป็นคนเอาแต่ใจซะด้วย แต่ว่านี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตกหลุมรักเธอทั้งๆที่เขาเป็นหนึ่งในสี่ยอดเทวทูตก็ตาม.... แต่ก็เพราะแบบนี้ถึงได้ทำให้เขากลัวการเผชิญหน้ากับเธอ

ยังไงก็ตามโล่เอจิสที่ยูอิลฮานเรียกมาไม่ได้สนใจความลังเลของเขาเลย มันได้พาเขาไปหาคิมเยซอลในทันที

ยูเรียลที่กำลังจะตามเขาไปได้ถูกยูอิลฮานมองจนต้องถอยกลับมา

"สองในสี่ยอดเทวทูตได้ล่ะทิ้งตำแหน่งแล้ว เรื่องนี้กองทัพสวรรค์ก็น่าจะรู้แล้วเหมือนกันแต่ว่าทำไมเธอถึงไม่ตกลงมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ล่ะในเมื่อขัดต่อกฏสวรรค์?"

[ก็เพราะคนที่จะเปลื่ยนทำให้ทูตสวรรค์ตกมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำก็คือสี่ยอดเทวทูตไงล่ะ]

นี่มันจะโกงไปแล้ว เพราะแบบนี้ไงการโกงถึงไม่เคยหมดไปในแวดวงกรเมือง! ก็เพราะคนบังคับใช้กฏกลับมาโกงกันซะเองทำให้ไม่มีใครมาหยุดได้อีกแล้ว! แต่แน่นอนว่านี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับยูอิลฮาน

[แต่ว่าฉันก็คงสถานะทูตสวรรค์ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ ถ้านายไม่ว่าอะไร ฉันก็อยากจะเข้าดราก้อนเนสเหมือนกัน ฉันยังจะคงพลังเดิมของฉันเอาไว้ได้เพราะงั้นนี่ก็ไม่ใช่ข้อเสนอที่แย่เลยนะ]

"นี่เป็นคำแนะนำที่ดีนะ... แต่แล้วพ่อของฉันล่ะ?"

[กาเบรียลก็แค่ต้องโอนพลังทั้งหมดไปที่สวนอาทิตย์อัสดงก็เท่านั้นเอง เมื่อทำแบบนั้นการจะรวบรวมพลังของสวนอาทิตย์อัสดงที่กระจายไปทั่วทั้งดวงดาวต่างๆก็จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ก็ไม่มีใครที่จะสามารถขโมยพลั... อ๊าาา]

ยูเรียลที่กำลังทำสีหน้าเต็มไปด้วยความรักในระหว่างอธิบายเรื่องกาเบรียลได้ถอยไปทันทีที่ถูกสายตาของยูอิลฮานจ้องมาอีกครั้ง ยูอิลฮานได้สอบปากคำเธอมากยิ่งขึ้นอีก

"มีอะไรที่เธอทำเพื่อขัดขวางวันสิ้นโลกอะไรนี่ได้ไหม?"

[ทั้งฉันกับกาเบรียลต่างก็ต้องเคลื่อนไหวอย่างถูกจำกัดและต้องหลบซ่อนเอามากๆ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่เคยไปชักจูงคนในกองทัพสวรรค์นะ แต่ว่าคนพวกนั้นส่วนใหญ่ภักดีกับมิคาเอล...]

แน่นอนสิ ถึงแม้ว่ามิคาเอลจะแพ้ยูอิลฮานเพราะธาตุเพลิง แต่ว่ามิคาเอลก็ยังเป็นคนที่ทรงพลังมาที่สุดในกองทัพสวรรค์อยู่ดี มิคาเอลมีทั้งพลังและตำแหน่งในกองทัพสวรรค์อย่างสมบูรณ์ แทนที่ทูตสวรรค์คนอื่นๆจะเลือกทรยศ พวกเขาเหล่านั้นอาจจะเลือกยอมตายแทนซะมากกว่าอีก

หากว่ามีซักวิธีที่จะเปลื่ยนความคิดทูตสวรรค์พวกนั้นได้ นั่นคงจะเป็นการตัดคอมิคาเอลและคิดกับพวกเขาอย่างสงบ แต่ว่า...

"แต่แค่เพราะแบบนั้นฉันฆ่าเขาไม่ได้... ฉันปล่อยมิคาเอลเอาไว้ก็เพื่อให้เขาหยุดยั้งซาตาน เราเชื่อใจซาตานได้ไหม?"

[ในตอนแรกที่เราต่อต้านพระเจ้า ซาตานอยู่ข้างเดียวกับเราแน่นอน ฉันคิดวามันเป็นแบบนั้น... แต่ว่าในตอนนี้ฉันไม่มั่นใจแล้ว บางทีซาตานอาจจะเปลื่ยนไปเหมือนอย่างมิคาเอลกับราฟาเอลก็ได้...]

"อย่างที่ฉันคิดเลย พวกเธอนี่ไม่ได้ช่วยอะไรซักนิด"

ยูเรียลได้เงียบลงไป ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้ตกสู่ห้วงความคิดโดยไม่สนใจยูเรียลเลย

อย่างแรกเขาได้เตรียมตัวต่อต้านคนที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า หรือพระเจ้าของสวรรค์เรียบร้อยแล้ว

เขาได้กระจายกับดักแห่งการฟื้นคืนไปทั่วในทุกๆโลกระดับต่ำที่เขาเคยไปมาอย่างน้อยหนึ่งครั้งแล้ว และเขากระทั่งทำให้กับดักแห่งการฟื้นคืนในโลกต่างๆรุกล้ำเข้าไปในมิติอื่่นๆได้อีกด้วย เพราะงั้นคงใช้เวลาไม่นานนักที่กับดักแห่งการทำลายทั้งหมดจะหายไปจากโลกระดับต่ำ แน่นอนว่าเขาจะทำแบบนี้ในโลกระดับสูงเช่นเดียวดัน แม้ว่าจะอยู่ในระหว่างการทำมัน แต่มันก็ราบรื่นมาตลอด

สิ่งต่อมาที่เขาต้องระวังก็คือกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ไม่สนเรื่องที่พระเจ้าจากสวรรค์ทำเลย พวกคนที่เคลื่อนไหวด้วยความคิดที่ว่า 'เอิร์ธสำคัญกับตัวเองเท่านั้น'

การปะทะกับกองทัพสวรรค์มีแน่นอนเพราะกองทัพสวรรค์ได้ทำเหมือนยูอิลฮานเป็นศัตรูตัวฉกาจไปแล้ว ส่วนกองทัพสวรรค์แสงคงต้องรอดูก่อนเพราะยูอิลฮานไม่รู้เลยว่าพวกนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ และมีเรื่องดีอยู่อย่างหนึ่งคืนสวนอาทิตย์อัสดงดูจะกลายมาเป็นพันธมิตรแล้วเพราะกาเบรียลที่เป็นคนนำพวกเขาเหล่านั้น...

จะมีก็แต่กองทัพปีศาจวิบัติที่ยังเป็นความลับอยู่

"ยูเรียล กองทัพปีศาจวิบัติจะเคลื่อนไหวไหม? พ่อไม่ได้บอกอะไรเลยหรอ?"

[ก็อย่างทีเรารู้กัน ทุกๆสิ่งที่พวกกองทัพปีศาจวิบัติคิดก็มีแต่การทำลายทุกๆอย่าง เพราะแบบนั้นพวกกองทัพปีศาจวิบัติคือสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่ผู้บัญชาการกองพันและกองกำลังที่มหาศาลเท่านั้น แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเลยคือหัวหน้าของพวกมัน ความโลภ เดิมทีแล้วซาตานกับกาเบรียลต่างก็มาจากกองทัพสวรรค์กันทั้งนั้น แต่มีแค่ความโลภเท่านั้นที่ก่อตั้งองค์กรขึ้นมาเองหลังจากได้เข้าไปถึงพลังของเทพด้วยตนเอง]

แน่นอนว่าเพราะมีความวุ่นวายจากยูอิลฮานได้ทำให้พลังของแต่ล่ะกองกำลังลดลงอย่างมาก แต่ถึงแบบนั้นพลังของความโลภก็ยังมหาศาลอยู่ดี และต่อจากนี้มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น หรือก็คือสิ่งที่ต้องระวังรองลงมาจากพระเจ้าจากสวรรค์แล้วก็คือความโลภนี่แหละ

"ชิ ในท้ายที่สุดแล้วฉันก็ต้องทำมันสินะ"

ความโลภได้บอกให้ยูอิลฮานกลายเป็นพระเจ้า ยูอิลฮานไม่ได้สนใจคำพูดของเขาและไม่เชื่อด้วยซ้ำ แต่ว่าเพื่อที่จะเอาตัวรอดและมีชีวิตต่อไป ยูอิลฮานรู้ว่าพวกเขาจะต้องทำสงครามกับกองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแต่เดิม

ถ้างั้นสิงแรกที่เขาควรทำคืออะไรล่ะ? สิ่งแรกเลยเขาจะต้องปิดประตูเอิร์ธโลกของเขา และดาเรย์ จากนั้น...

"ไปบุกหาแร่โลหะชั้นสูงที่สวรรค์กัน"

[นายพูดเรื่องน่าทึ่งแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน]

"หลังจาสกนั้นฉันจะได้ทำกับดักแห่งการฟื้นคืนแล้วก็ไปขโมยโลกระดับสูงจากกองกำลังอื่นๆ"

[นี่นายคือที่จะก่อวันสิ้นโลกขึ้นมาเองงั้นหรอ?!]

ยูเรียลได้ถามออกมาอย่างประหลาดใจ ยูอิลฮานชอบในคำพูดนี้ของเธอและหัวเราะออกมาอย่าเต็มที่

"ใช่แล้ว ฉันไม่ชอบการถูกโจมตี ทุกอย่างของการต่อสู้ขึ้นอยู่กับการโจมตีครั้งแรก"

"ฉันชอบมัน ทุกอย่างของการต่อสู้ขึ้นอยู่กับการโจมตีครั้งแรก"

ระหว่างที่ยูอิลฮานกับโอโรจิกำลังเข้าขากันอยู่ได้มีเสียงตบดังขึ้นจากมุมขอบฟ้า หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องที่เจ็บปวด

"คุณคิดจะไปไหนกัน? นี่มันเพิ่งจะเริ่มเท่านั้นเอง!"

"ที่รัก ขอร้องล่ะเบามือหน่อยนะ เบาๆ... แอ๊ก!"

หนึ่งในสี่ยอดเทวทูตกาเบรียลตอนนี้กำลังเผชิญกับการทรมานจากฝ่ามือของภรรยาเขาเอง ยูอิลฮานได้พึมพัมกับตัวเองเบาๆอยางพอใจ

"ตบพ่อเผื่อผมสักพันทีด้วยนะครับแม่"

ระหว่างกาเบรียลกำลังตกอยู่ในโลกแห่งการทรมาน ยูอิลฮานก็ได้มองดูทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นทุกๆการเปลื่ยนแปลงที่มีอยู่ในตอนที่เขาไม่อยู่ และพลังชีวิตจาก 'พรม' ที่ค่อนข้างจะไม่เสถียรเพราะการเพิ่มเข้ามาของไฮเชีย เขาจึงไม่ลืมที่จะเพิ่มมานาเข้าไป

"อิลฮาน"

ไม่นานหลังจากนั้นคังมิเรย์ก็ได้มองมาที่เขา จากที่เธอได้รู้ถึงการกลับมาเจอกันของคิมเยซอลกับกาเบรียลแล้ว เธอดูเหมือนกับจะสับสนยิ่งกว่าที่เคยอีก

"สิ่งที่ฉันได้ยินกับได้เจอนี่มันคือเรื่องจริง จริงๆน่ะหรอ?"

"หากว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องพ่อของฉันที่เป็นทั้งกาเบรียลแล้วก็หัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงล่ะก็ นั่นมันคือเรื่องจริงนั่นแหละ"

"ว่าไงนะ!? เขายังเป็นหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงด้วย!?"

โอ้ เธอยังไม่ได้รู้นี้สินะ ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาให้กับเธอ คังมิเรย์เธอได้ยิ้มออกมาฝืนๆหลังจากที่รู้ว่ายูอิลฮานก็กำลังรู้สึกเหมือนกับเธอ ถึงแม้ว่าระหว่างคุยกันนี้จะมีเสียงตบดังมาเรื่อยๆ แต่คังมิเรย์ก็พูดต่อไปอย่างไม่สนใจ

"ฉันได้พาทุกๆคนจากโลกของเรามาที่ดาเรย์แล้ว ถึงพวกเขาจะตื่นตระหนกเล็กๆจากการเปลื่ยนของมิติเวลานิดๆ แต่อีกไม่นานก็น่าจะปรับตัวได้"

"โอ้ ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ ขอบคุณมากนะ"

เนื่องจากว่าผู้คนจากไฮเชียก็ได้มาที่นี่แล้วเช่นกันทำให้เขาได้จัดการทุกเรื่องแล้ว ยูอิลฮานได้มองไปที่พลังมานาของเขาถูกเติมเต็มแล้วและเปิดใช้งานสกิลประกาศิตเพื่อที่จะอธิบายเหตุการในปัจจุบันทุกๆอย่างให้กับทุกๆชีวิตบนดาเรย์

[อ่า หนึ่ง สอง สาม เทสๆ คุณสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษบนดาเรย์ทุกท่าน ผมคือพระเจ้าของพวกคุณ ยูอิลฮาน]

"นี่มันเหมือนประกาศเที่ยวบินเลยนะนายท่าน! ทำให้มันยิ่งใหญ่กว่านี้หน่อยสิ"

ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ยังประกาศออกไปด้วยน้ำเสียงเดิมที่ไม่ต่างไปจากประกาศเที่ยวบนิเลย สภาพดาเรย์ในปัจจุบันนี้จะมีแต่มอนสเตอร์ที่มีตั้งแต่คลาส 3 ขึ้นไปเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นมา เพราะงั้นพวกเขาจะต้องกำหนดพื้นที่ต่างๆ ห้ามออกไปไหนในกลางดึก ช่วงเวลาต่างๆของดาเรย์และเรื่องยิบย่อยต่างๆทำนองนี้

ส่วนเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากนั้นมันไม่มีความหมาย การที่คนเหล่านี้จะรู้เรื่องที่มากไปกว่านั้นันไม่ใช่เรื่องดี มันมีแต่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น

"โอ้ แล้วเรื่องเร็กน่าล่ะ? พวกมันไม่บุกมาเลยหรอ?"

"ดูเหมือนพวกมันจะเมินเฉยต่ออิทธิพลของยูอิลฮานไม่ได้น่ะ พวกมันไม่เคยบุกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว"

"คงใกล้ถึงเวลาที่พวกมันจะมาแล้ว..."

เทพเจ้าคือผู้ที่ไปถึงระดับพลังเทพเป็นคนแรกเชียวนะ ไม่ว่าการป้องกันของยูอิลฮานจะทรงพลังแค่ไหน ยูอิลฮานก็ไม่คิดว่าพระเจ้าจะยอมแพ้ทั้งแบบนี้หรอก

"ช่างเถอะ มันไม่สำคัญหรอกว่าจะบุกมาเมื่อไหร่ เรามาเริ่มงานต่อไปกันดีกว่า"

"อิลฮานนายจะไม่เป็นไรหรอ? นี่นายยังไม่ได้พักเลยนะ..."

"มีเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว เราจะต้องรีบทำรวดเดียวให้จบ"

เขาจะเริ่มทำงานในทันทีที่แม่เขาใจเย็นลงซักนิดแล้ว แต่ดูเหมือนเสียงตบที่ดังสนั่นจะไม่มีวันหยุดเลย ข้างๆตัวเขายูเรียลก็ดูจะเปํนกังวลเอามากๆ ยูอิลฮานได้แต่ถอนหายใจและไปที่ป้อมปราการผู้พิทักษ์ ที่ที่คิมเยซอลกับกาเบรียลอยู่

"ละ ลูกพ่อ! ช่วยพ่อด้วย!!!"

"ลูกแม่ ตอนนี้แม่โกรธอยู่เพราะงั้นถอยไปก่อนนะ"

"เข้าใจแล้วครับ"

"ลูกพ่ออออออ!

แม้ว่าแม่ของเขาในตอนนี้จะกลายมาเป็นมังกรที่แท้จริงภายใต้ดราก้อนเนสและยูอิลฮานคือหัวหน้ากองกำลังนี้ แต่ยูอิลฮานก็ไม่คิดจะขัดใจแม่เขาอยู่ดี

แถมความโกรธของแม่ก็ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เขาแต่เป็นพ่อเขา ไม่ใช่แค่เขาขัดใจแม่ไม่ได้เท่านั้น แต่เขายังไม่คิดจะทำด้วย ยูอิลฮานได้ตัดสินใจยืนรออย่างสงบจนกว่าพ่อแม่ของเขาจะจัดการเรื่องจนจบ แต่ในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้เขาก็สัมผัสได้ถึงสิ่งโอหังที่พยายามจะบุกเข้ามาในดาเรย์

[สิ่งผิดปกติ อุปสรรคใหม่สุดที่ขัดขวางแผนการ]

[คำสั่งกำจัดสิ่งผิดปกตินี้]

[กำจัด ทำลาย ลบล้าง]

"เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน...!"

คำสั่งกำจัดจากพระเจ้า กลุ่มเร็กน่าได้ฉีกกระชากโล่ของยูอิลฮานทิ้งเหมือนกับเศษกระดาษ! ยูอิลฮานรู้สึกประหลาดใจมากที่ได้เจอกับพวกมัน

"คำพูดหยั่งกับออกมาจากหุ่นยนต์ในเกมยุค 90 เลยแหะ! จังหวะการพูดก็ง่อยสุดๆไปเลย!"

"นี่นายมาตกใจกับเรื่องพวกนี้เนี่ยนะ!?"

เร็กน่ากว่ายี่สิบตัวได้บุกเข้ามาในดาเรย์แล้ว พวกมันทั้งหมดยี่สิบสามตัวต่างก็มีเลเวลที่สูงกว่า 500! นอกไปจากนี้เมื่อคิดถึงพลังในการยับยั้งมานาแล้ว เจ้าพวกเร็กน่าทั้งยี่สิบสามตัวนี้สามารถจะกลายร่างสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ในโลกใบนี้ไปได้เลย

"เยี่ยมเลย ฉันมีแหล่งโลหะใหม่ก่อนที่จะไปบุกสวรรค์แล้วล่ะ"

แน่นอนว่าในสายตาของยูอิลฮานพวกมันไม่ต่างอะไรกับโลหะเลย เขาได้ยิ้มออกมาและไปเผชิญหน้ากับพวกผู้บุกรุกอยู่กลางอากาศ เขาได้ตะโกนไปทาง 'พระเจ้าจากสวรรค์' ที่กำลังแอบมองอยู่อย่างแน่นอน

"หากว่านายอยากจะเอาชนะฉัน งั้นก็เอากองทัพมาให้มากกว่านี้ประมาณซักสามพันเท่านะ! เข้ามาเลยสิ!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด