บทที่ 43: แผนการ!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 43: แผนการ!
หลังจากที่เดินผ่านหุบเขาและต้นหญ้าที่สูงใหญ่ยิ่งกว่าคน ในที่สุดทุกคนก็เดินทางมาถึงหุบเขาหญ้าร้อยสักที!
ทางเข้าของหุบเขาหญ้าร้อยนั้นสามารถเข้าได้หลายทาง แน่นอนว่าทางเหล่านั้นคดเคี้ยวและโค้งเยอะมากกว่าจะสามารถเข้าไปด้านในได้
“อ่า ทำไมเส้นทางนี้ถึงได้เต็มไปด้วยเถาวัลย์นะ พวกมันหล่นย้อยลงมาจากภูเขา น่าขยะแขยงจริงๆ” เด็กหญิงคนหนึ่งกล่าวออกมาพร้อมกับใบหน้าที่บิดเบี้ยว
ทั้งต้นไม้และเถาวัลย์ต่างๆได้พันเกี่ยวเลี้ยวลดอยู่บนเส้นทางที่คับแคบเหล่านี้ ถ้าหากมองจากระยะไกลมันอาจเหมือนกับงูหลาม เถาวัลย์มากมายกองอยู่ที่พื้นพันเกี่ยวกันไปมา ทั้งหมดให้ความรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังเดินเข้าถ้ำของอสรพิษ ภาพทั้งหมดนี้ชวนขนลุกและสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
“มันก็แค่เถาวัลย์ที่เหี่ยวแล้ว มีอะไรที่น่ากลัวงั้นเหรอ? มา ตามฉันมา!” หวังซานฟ่าโชว์ความกล้าหาญพร้อมกับเดินนำหน้าไปอย่างโอ้อวด
รูปร่างที่อ้วนท้วมของหวังซานฟ่านั้นเดินแทรกผ่านเถาวัลย์ต่างๆพร้อมใช้มืออวบๆของเขาปัดเถาวัลย์เหล่านั้นให้พ้นทาง
แน่นอนว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก ร่างกายของเขาเหมือนเกิดมาเพื่อเปิดทางในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าหากเขาสามารถเดินผ่านไปได้ แน่นอนว่านักเรียนที่เหลือย่อมผ่านไปได้เช่นกัน
“อ้ะ! นี่มันอะไร เกิดอะไรขึ้น.. อะไร? โอ้ ปู ปะ..ปู! ช่วย.. ช่วยด้วย!!!!” ทันใดนั้นเอง หวังซานฟ่าระเบิดเสียงออกมาราวกับสุนัขที่โดนเหยียบหาง
นักเรียนทั้งหมดที่ได้ยินเสียงของเขาต่างพากันถอยหลังและมองไปรอบๆในทันที ในเวลานั้นทุกคนรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ…
ดูเหมือนว่าเถาวัลย์เหล่านี้จะขยับได้!!!
เถาวัลย์ที่เหี่ยวเฉาเหล่านั้นมัดตรึงหวังซานฟ่าในทันทีที่เขาย่างกรายเข้าไปด้านใน เด็กชายถูกมัดตรึงไว้ด้านบนอย่างแน่นหนาและไร้หนทางขัดขืน หัวของเขาห้อยลงมาอย่างน่าสงสาร ใบหน้าที่ซีดเผือกกำลังร้องขอความช่วยเหลือ
เถาวัลย์นั้นเต็มไปด้วยขวากหนาม ดังนั้นเมื่อมันรัดร่างกายของหวังซานฟ่าแล้ว ผิวหนังอ้วนๆของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลในทันที บางแห่งถูกเฉือนเนื้อออกมาทำให้เลือดไหลท่วมอย่างรวดเร็ว จางหยิงเว่ยที่เห็นฉากนั้นตรงหน้าหวาดกลัวจนร่างกายสั่นเทาพร้อมเปล่งเสียงกรีดร้องออกมาจนสุดเสียง!
“เธอจะแหกปากเพื่ออะไรกัน? มีอะไรที่เธอสามารถทำได้บ้างนอกจากส่งเสียง?!” ฉื่อจ้าวติงบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
ในขณะที่ฉื่อจ้าวติงกล่าวจบ เขาถอยหลังกลับไปเล็กน้อยพร้อมหลับตารวบรวมสมาธิในทันที ปรากฏดวงดาวขึ้นมาด้านหน้าของฉื่อจ้าวติงอย่างรวดเร็ว ดวงดาวสีม่วงที่น่าเกรงขาม…. ปรากฏต่อสายตาของทุกคนในตอนนี้!
ดวงดาวทั้งหมดค่อยๆก่อตัวรวมกันอย่างคล่องแคล่วภายใต้การควบคุมที่ชาญฉลาดของฉื่อจ้าวติง
ภายในเสี้ยววินาทีเท่านั้น ดวงดาวทั้งหมดเชื่อมโยงกันโดยสมบูรณ์!
“อสนีบาต ฟาด!”
ทักษะสายฟ้าของฉื่อจ้าวติงนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ในทันทีที่เขาปลดปล่อยมันออกไป สายฟ้าปรากฏขึ้นล้อมรอบร่างกายของเขา
มันพุ่งออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วตามทิศทางที่ฉื่อจ้าวติงกำหนด สายฟ้าทั้งหมดได้ตัดขาดเถาวัลย์ที่พันเกี่ยวร่างกายของหวังซานฟ่าไว้อย่างรวดเร็ว
ฉึบ… ฉึบ… ฟู่ว~~~~~!
สายฟ้าฟาดเมื่อครู่นี้ทำให้เกิดรอยไหม้เกรียมขึ้นบนอสูรเถาวัลย์ แต่ว่าอสูรประเภทพืชเหล่านี้จะไม่เกรงกลัวสายฟ้า แม้ว่ามันจะคลายตัวเล็กน้อยจากหวังซานฟ่า แต่ทว่ามันกลับไม่ได้ปล่อยเขาแต่อย่างใด มันยิ่งลากเขาเข้าไปด้านในอย่างฮึกเหิม!
“ช่วย.. ชะ.. ช่วยฉัน… ช่วยฉะ~~~!!!!” หวังซานฟ่าตะโกนออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้ม ในขณะที่เขากำลังร้องออกมานั้น เถาวัลย์ได้ทำการอุดปากของเขาไว้อย่างรวดเร็ว
ในทันทีเกิดความโกลาหลขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มเด็กนักเรียน
ตอนนี้สายฟ้าของฉือจ้าวติงนั้นไม่มีผลอะไรกับอสูรเถาวัลย์ แล้วเด็กๆพวกนี้จะทำอย่างไรต่อไป?
“อ๊า!!!!!”
เกิดเสียงร้องขึ้นมาอีกหนึ่งเสียง ปรากฏว่าอสูรเถาวัลย์นั้นไม่ได้พอใจเพียงแค่ร่างกายของหวังซานฟ่าเพียงคนเดียว มันจับเด็กหญิงอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้อย่างรวดเร็ว ชื่อของเธอคือเจิ้นหยุนเซีย
เจิ้นหยุนเซียนั้นเป็นนักเวทธาตุน้ำ แน่นอนว่าปัญหาของเธอในตอนนี้คือความกลัวได้ครอบงำเธอโดยสมบูรณ์ทำให้เธอไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ได้เลย
“ไม่ต้องตกใจ ฉันจะจัดการมันเอง!” ซูมินตะโกนออกมาอย่างรวดเร็ว
ดวงดาวทั้งเจ็ดของซูมินเผยออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ซูมินนั้นดูกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวมากยิ่งขึ้นเมื่อเธอยืนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง
“บอลเพลิง!”
ลูกบอลเพลิงปรากฏขึ้นบนมือของซูมินก่อนที่เธอจะขว้างมันออกไป ทั้งหมดพุ่งเข้าใส่อสูรเถาวัลย์อย่างแม่นยำและเสียงไฟลุกไหม้ก็ดังสนั่นในทันที
เปลวไฟที่แดงฉานกำลังลุกท่วมร่างของอสูรเถาวัลย์
มันกลืนกินอสูรเถาวัลย์อย่างรวดเร็ว ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆอย่างคล่องแคล่วและปราดเปรียว อสูรเถาวัลย์จำนวนมากถูกเปลวไฟดูดกลืนหายไป
อสูรเถาวัลย์นั้นเกรงกลัวธาตุไฟอย่างมาก เมื่อพวกมันเห็นว่าซูมินร่ายเวทไฟใส่ ทั้งหมดรีบถอนตัวออกไปอย่างรวดเร็วราวกับพบเจอปีศาจ!
พวกมันทิ้งร่างของหวังซานฟ่าอย่างรวดเร็ว เขาร่วงหล่นลงมาจากที่สูงเกิดเสียงกระแทกพื้นดัง ตุ๊บ! โชคดีที่พุงของเขาหนาอย่างมากจึงทำให้การลงจอดครั้งนี้ราบรื่น ไม่เช่นนั้นใบหน้าของเขาจะต้องกระแทกเข้ากับพื้นอย่างแน่นอน
“ว้าว หัวหน้าห้องสุดยอดเลย!”
“ธาตุไฟนั้นสุดยอดจริงๆ อสูรเถาวัลย์วิ่งหนีจนฉี่ราดเลย ฮ่าฮ่า”
“ใช่แล้ว เธอช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน!”
ในขณะที่นักเรียนคนอื่นเห็นว่าอสูรเถาวัลย์นั้นถอยห่างออกไปแล้ว ทั้งหมดเริ่มชื่นชมและแสดงความประทับใจของตนในทันที
สำหรับฉื่อจ้าวติงที่ภูมิใจในสายฟ้าของตนเองอย่างมาก เขายืนนิ่งด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว!!!
พืชเหล่านี้นั้นสามารถต้านทานสายฟ้าได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมันแปลว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย…
โม่ฝานนั้นยืนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านข้าง เขาไม่ได้แสดงฝีมือหรือทำอะไรแม้แต่น้อย
เพราะไม่ว่ายังไง หัวหน้าห้องซูมินก็สามารถจัดการทุกอย่างได้อยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องออกโรงไปช่วยเหลือเธอแต่อย่างใด
นอกจากนั้น…. ลูกบอลเพลิงของซูมินยังอยู่ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ทว่าลูกบอลเพลิงของเขานั้นแตกต่างออกไปอย่างมาก เขาไปไกลกว่าเธอหลายขุมแล้วในตอนนี้!
‘เหอๆ เพียงแค่อสูรเถาวัลย์เล็กจ้อยพวกนี้ คงไม่ต้องถึงมือของบิดาคนนี้หรอก อีกอย่างฉันจำเป็นต้องเก็บพลังเวทไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย!’ โม่ฝานได้แต่คิดในใจกับตนเอง
ในตอนนี้ซูมินกระจายพลังของตนเองออกไปเป็นวงกว้างเพื่อขับไล่อสูรเถาวัลย์เหล่านั้น ตอนนี้ประสิทธิภาพของพลังทำลายล้างที่เธอมีนั้นถือได้ว่ายอดเยี่ยมกว่าธาตุอื่นๆอย่างชัดเจน
“ซูมิน… หญิงสาวธาตุไฟ… อืมมม ฉันชอบผู้หญิงคนนี้จังเลย หึหึ” หัวหน้ากองทัพจ้านคงยื่นอ่านประวัติของซูมินพร้อมกับพูดเบาๆภายในเต้นท์ของตนเอง
“ในตอนนี้กลุ่มแรกควรจะอยู่ในกลุ่มที่รวดเร็วที่สุด นักเรียนในกลุ่มนี้มีความสามารถที่โดดเด่นกันหลายคน” ซางจิงเก่ากล่าวออกมา
“นักเรียนกลุ่มแรกนั้นน่ะเหรอ ธาตุไฟทั้งหมดพ่ายแพ้ พวกเขาไม่สามารถร่ายคาถาได้เพื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรเถาวัลย์ สุดท้ายแล้วกลายเป็นนักเรียนธาตุน้ำแข็งที่ชื่อมู่ไป๋เป็นคนจัดการทั้งหมด แน่นอนว่าฉันคิดว่าพวกเขาคงจะไปถึงหุบเขาหญ้าร้อยได้อย่างรวดเร็วและกำลังจะได้พบเจอกับอสูรหมาป่าที่เป็นการทดสอบที่แท้จริงของนักเรียนทุกคน!”
“อสูรหมาป่าที่ว่านั้นจะไม่ทำร้ายนักเรียนใช่ไหม?”
“การได้รับบาดเจ็บบ้างนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งการแตกหักของกระดูกก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามอสูรหมาป่านั้นเป็นอสูรอัญเชิญ มันจะทำงานตามความเหมาะสมอย่างแน่นอน” พันหลี่จวินกล่าวเรียบๆ
“ถ้าเป็นเช่นนั้น เราสามารถส่งสัญญาณเตือนให้กับสายสืบได้หรือไม่ถ้าหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน? เพราะถ้าหากนักเรียนบาดเจ็บหนัก แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของพวกเขา”
“ในหุบเขาแห่งนี้ไม่มีสัญญาณ แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ไป่หยางสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมแน่นอน” ลั่วหยุนปั๋วกล่าว
“ไป่หยาง? เขาไม่ใช่นักเวทธาตุแสงที่ตายไปแล้วงั้นเหรอ?” ถังหยู่ถามออกมาอย่างงุนงง
จ้านคงหัวเราะออกมา “เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์น่ะ ที่จริงแล้วเขาเป็นนักเวทเพียงคนเดียวที่สามารถอัญเชิญอสูรเวทออกมาได้ ดังนั้นเขาจึงเป็นคนเดียวที่ได้อยู่ในถ้ำของหมาป่าตาเดียว อย่างไรก็ตามในเขาเป็นคนควบคุมกำไลสีน้ำเงินอยู่ ไม่ต้องกังวลไปหรอก”
ถังหยู่เผยรอยยิ้มบางๆออกมาพร้อมคิดในใจว่า ‘ชายคนนี้นั้นเต็มไปด้วยแผนการทุกหย่อมหญ้าจริงๆสินะ! เฮ้อ นักเรียนของฉันจะสามารถรอดปลอดภัยจากแผนซ้อนแผนของเขาได้รึเปล่า… ฉันขอภาวนาให้ทุกคนปลอดภัยแล้วกัน!’
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••
ช่วยกันกดคะแนนดาวให้กับผู้แปลเพื่อเป็นกำลังใจด้วยน้าาาา