ตอนที่แล้วบทที่ 40: ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 42: หยอกล้อนักเรียน

บทที่ 41: เส้นทางของลม!


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 41: เส้นทางของลม!

สิบวันต่อมา…

ในป่าที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ เส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยวให้ทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยม นักเรียนของโรงเรียนมัธยมเทียนหลานยี่สิบคนกำลังยืนอยู่ใกล้กับหน้าผาของภูเขา…

ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกหดหู่หรือย่ำแย่มากแค่ไหน ทั้งหมดก็ยังต้องเดินไปตามทางเช่นเดิม พวกเขาทุกคนล้วนแต่เป็นพลเมืองของเมืองบ่อ ซึ่งจะถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว

สิบวันผ่านไปราวกระพริบตา

ภายในสิบวัน พวกเขาจะต้องก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ก้าวผ่านป่าแห่งนี้ไปให้ได้ มันช่างเป็นความรู้สึกที่ขมขื่นอย่างมาก

“ไอ้สารเลวจ้านคง ฉันล่ะอยากจะสาปแช่งให้เขาที่เขากลั่นแกล้งพวกเรา ทำไมจึงต้องส่งพวกเรามาในสถานที่ๆห่างไกลเช่นนี้ด้วย!” หวังซานฟ่ากล่าวออกมาพร้อมกับพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด เขาทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรงพร้อมกับใช้หมวกพัดวีให้กับตนเอง

“ใช่ บัดซบจริงๆ เขาพูดมาได้อย่างไรกันกับภารกิจบ้าบอนี้? แล้วพวกเราจะสามารถเดินทางสามสิบกิโลเมตรภายในสิบวันได้ยังไงล่ะ?” นักเรียนอีกคนกล่าวออกมาอย่างหงุดหงิดเช่นกัน

“ถ้าหากว่าระยะทางสามสิบกิโลเมตรที่ว่าเนี่ยมันเป็นทางตรง แต่ในตอนนี้เราต้องอ้อมภูเขาและเดินผ่านหุบเหว ฉันว่ามันมากกว่าสามสิบกิโลแล้ว” จางหู่พยายามอธิบายออกมาช้าๆ

ทีมของโม่ฝานมีทั้งหมดยี่สิบคน ภารกิจนี้จำเป็นต้องทำให้สำเร็จโดยนักเรียนเหล่านี้เท่านั้นและจะไม่มีครูคนใดคอยช่วยเหลือทั้งสิ้น พวกเขาได้รับเพียงแผนที่เท่านั้น

ความยากลำบากในการเดินทางภายในสิบวันที่ผ่านมาทำให้ทั้งหมดมีสภาพไม่ต่างจากคนโบราณที่สกปรกและเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก ร่างกายของพวกเขาชุ่มเหงื่อตลอดเวลาและเปื้อนดินโคลน

“เอาหน่า หลังจากที่เราข้ามหุบเขาและแม่น้ำด้านหน้านี้ไปได้ เราก็ควรจะใกล้ถึงหุบเขาหญ้าร้อยที่หัวหน้าจ้านคงบอกแล้วล่ะ” ซูมินกล่าวออกมาพร้อมกับเปิดแผนที่ในมือ

“บัดซบ แล้วเราจะข้ามหุบเขากับแม่น้ำกว้างใหญ่นั่นได้อย่างไร? บินงั้นเหรอ? ความกว้างของมันมากกว่าสิบเมตรแน่นอน!” หวางซันฟ่ากล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์

ในตอนนี้ด้านหน้าของพวกเขาคือหุบเหวลึก!

หน้าผานี้อยู่ตรงหน้าของพวกเขาและด้านล่างหุบเหวนี้เป็นสายน้ำที่เชี่ยวกราดและกว้างใหญ่เช่นกัน เสียงคลื่นน้ำที่สาดกระทบเข้ากับหินนั้นเสียงดังฟังชัดราวกับวารีคำราม!

“แล้วพวกเราควรจะทำอะไรต่อ? เราไม่สามารถกลับไปได้แล้ว นี่มันเลยครึ่งทางแล้วล่ะ”

“เราก็แค่กลับบ้าน มันมีกลุ่มอื่นอีกเยอะแยะแน่นอนว่าพวกเขาอาจจะทำได้…”

“นายนี่มีจิตวิญญาณรึเปล่าน่ะ? คิดได้ยังไงที่จะไปฝากความหวังไว้กับคนอื่น?” ซูมินตอกหน้าของเขาอย่างรุนแรง

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็บอกมาสิว่าพวกเราควรจะทำยังไง พวกเราทั้งหมดนี้ไม่มีใครสามารถข้ามหน้าผานี้ไปได้!” เขากล่าวออกมาอย่างตำหนิ

“โอ้ จริงด้วย! เธอ… ธาตุลมไม่ใช่หรอ ทำไมเธอไม่ลองกระโดดไปดูล่ะ?” ในเวลานั้นฉื่อจ้าวติงกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปที่เด็กหญิงผมม้าที่อยู่ข้างๆเขา

เด็กหญิงที่ถูกเรียกคนนั้นใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที จากนั้นเธอกล่าวออกมาอย่างติดขัด “มะ-ไม่… ฉันจะไม่กระโดด… ถ้าฉันตกลงไปจะทำยังไงล่ะ?”

“เรามีเชือก ทั้งสองฝั่งของหน้าผาแห่งนี้มีต้นไม้อยู่ ตราบใดที่เราสามารถผูกเชือกกับต้นไม้ทั้งสองฝั่งได้ พวกเราก็จะข้ามไปได้” ซูมินกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เห็นแสงสว่าง

“จางหยิงเว่ย เธอไม่อยากได้เกรดเองั้นเหรอ? เธอนั้นกระโดดไปพร้อมกับเชือก แม้ว่าจะไม่สามารถกระโดดไปได้ พวกเราก็เพียงแค่ดึงเธอขึ้นมา มันก็คล้ายๆกับการเล่นบันจี้จั๊มพ์น่ะแหละ” ฉื่อจ้าวติงกล่าวต่ออย่างโน้มน้าว

“ฉันไม่อยากเล่นบันจี้จัมพ์!” จางหยิงเว่ยตะโกนออกมาอย่างชัดเจน

“บ้าบอ ในตอนนี้พวกเราต้องการเธอ นักเวทธาตุลม แต่เธอไม่สามารถทำได้ แล้วเธอจะเป็นนักเวทไปเพื่ออะไรกัน?” นักเวทธาตุน้ำอีกคนกล่าวออกมาอย่างหดหู่

“อืม พอเถอะ อย่าบังคับให้คนอื่นทำให้สิ่งที่เขาไม่ได้อยากทำเลย” ซูมินกล่าวออกมาเนื่อยๆ

ในขณะที่ทุกคนกำลังสับสนและหมดหวัง โม่ฝานมองไปที่จางหู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขา

จางหู่นั้นไม่ได้เป็นนักเรียนที่โดดเด่นมากนักภายในห้องคิงส์แห่งนี้ ทุกคนต่างคาดหวังกับจางหยิงเว่ยที่ได้รับคะแนนสูงสุดในกลุ่มธาตุลมมากกว่า อย่างไรก็ตามเธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงเท่านั้น มันเรื่องอะไรที่เธอจะชอบทำเรื่องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายล่ะ?

“เฮ้ ลิงน้อย แกกลัวไหม?” โม่ฝานเปิดปากถาม

“แล้วมันมีอะไรให้ฉันต้องกลัวล่ะ?” จางหู่ตอบกลับพร้อมกับตบหน้าอกของตนเองอย่างมั่นใจ

“เยี่ยมเลย!”

จางหู่เดินไปที่ด้านหน้าของซูมินพร้อมกับกล่าวว่า “เอาเชือกมัดฉันไว้ ฉันจะลอง!”

จางซู่ฮั่วและฉื่อจ้าวติงมองไปที่จางหู่ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจและเหยียดหยามอย่างมากในทันที

อย่างไรก็ตามการที่เขาอาสาออกมาเช่นนั้น ย่อมดีกว่าบุคคลที่ไร้ประโยชน์คนอื่นที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

ซูมินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอรีบผูกเชือกเข้ากับร่างกายของเขาอย่างคล่องแคล่ว

“หลีกทางหน่อย หลีกทางให้เขาวิ่ง!”

คนอื่นๆที่มองอยู่ยกนิ้วโป้งให้กับจางหู่ในทันที หลายคนรู้สึกหนาวสั่นเมื่อมีลมพัดผ่านมา ใครกันล่ะจะมีจิตใจที่กล้าหาญมากพอจะกระโดดข้ามหน้าผาสูงเช่นนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลมแรง?!

“เฮ้ ลิงน้อย ไม่ต้องกังวล ถ้าหากแกกระโดดไม่ถึง พวกฉันจะดึงขึ้นมาเอง!” โม่ฝานผูกปลายเชือกอีกด้านเข้ากับต้นไม้อย่างแน่นหนาพร้อมกับจับเชือกไว้อย่างมาดมั่นในเวลาเดียวกัน!

จางหู่เผยรอยยิ้มออกมาให้กับโม่ฝานในทันที

ในตอนนี้จางหู่หลับตาลงพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังรวบรวมความกล้าหรือกำลังควบคุมดวงดาวทั้งเจ็ดอยู่กันแน่

ทันในนั้นจางหู่ลืมตาขึ้นโดนพลัน ม่านตาของเขาเปล่งสีเขียวออกมาอย่างแรงกล้า

เกิดเป็นพายุหมุนขนาดเล็กรอบๆตัวของจางหู่ในทันที!

ภายใต้การควบคุมของเขา พายุกลายเป็นเส้นทางลมขึ้นมาจากบนหน้าผา มันพุ่งเป้าหมายไปยังภูเขาอีกฝั่งอย่างแม่นยำ

แม้ว่าในตอนนี้เส้นทางจะยังไม่ชัดเจนมากนักเนื่องจากฝุ่นที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้วิสัยทัศน์ในการมองเห็นของทุกคนย่ำแย่อย่างมาก!

“เส้นทางวายุ กระแสลมที่ปราดเปรียว!”

เมื่อจางหู่ตะโกนออกมาเช่นนั้น ดวงดาวทั้งเจ็ดเปล่งประกายแสงสีเขียวเรืองรองอย่างเต็มกำลัง ทำให้พลังของเขานั้นดูแข็งแกร่งอย่างมาก!

หวู่ว… ด ด ฟู่ว~~~

เสียงลมดังขึ้นพร้อมกับเสื้อผ้าของเขาที่เริ่มโบกสะบัดตามแรงลม!

ร่างกายของจางหู่นั้นกลายเป็นเงาที่คลุมเครือเมื่ออยู่ในกระแสลมที่เขาสร้างขึ้น ถือได้ว่าจางหู่นั้นพัฒนาทักษะธาตุลมของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว มันแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก!

หน้าผานี้ไม่ได้สร้างปัญหาใดๆให้กับจางหู่แม้แต่น้อย

“กระโดด! กระโดดได้แล้ว!”

ฉือจ้าวติง ซูมินและจางซูฮั่วนั้นจับตามองจางหู่อย่างใกล้ชิด แต่ทว่าหญิงสาวธาตุลมที่ชื่อจางหยิงเว่ยกลับปิดตาแน่นไม่กล้ามองภาพด้านหน้าอย่างจริงจัง เธอกลัวการกระโดดของเขาเกินกว่าที่จะเปิดตามองมันได้

จางหู่วิ่งมาจนถึงขอบของหน้าผาและกระโดดขึ้นไปด้วยพลังกำลังทั้งหมดที่เขามี หินที่อยู่ตามแนวหน้าผานั้นพังลงไปตามแรงกระแทกเมื่อครู่นี้พร้อมกับร่างกายเขาที่กำลังข้ามทะยานผ่านไป!

“อู๊ววววววว~”

ในช่วงที่อยู่ในอากาศ จางหู่นั้นต้องเผชิญกับลมกรรโชกแรงซึ่งนั่นทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวตามแรงลมจนทำให้ไม่ค่อยหน้ามองสักเท่าไหร่นัก

ในตอนนี้ร่างกายของเขาอยู่ระหว่างหน้าผาทั้งสองข้าง…

โม่ฝานนั้นจับเชือกไว้อย่างแน่นหนา ถ้าหากจางหู่ไม่สามารถกระโดดข้ามผ่านไปได้ เขาจำเป็นจะต้องดึงเชือกในทันทีเพื่อไม่ให้เขาชนกับหินมากมายที่อยู่ด้านใต้!

สิบเก้าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังกำลังจ้องมองไปที่จางหู่ด้วยความเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก

ท้ายที่สุดร่างกายของจางหู่เริ่มหมุน…

เท้าของเขากระทืบเข้ากับหน้าผาอีกฝั่งอย่างรุนแรงพร้อมกับตัวเองที่เริ่มกลิ้งไปบนพื้น!!!

ตู้ม!!!!!!

สุดท้ายแล้วร่างกายของเขากระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่อีกฝั่ง ทุกคนที่ยืนมองอยู่จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า…

จางหู่ค่อยๆยืนขึ้นพร้อมกับหันมามองพวกพ้องของตนเอง… เขาเผยร้อยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจออกมาอย่างเรียบง่าย ซึ่งสภาพร่างกายของเขาในตอนนี้นั้นรุ่งริ่งและดูตลกอย่างมาก

แม้ว่าท่าทางของเขาจะดูประหลาดไปหน่อย แต่ในตอนนี้ทุกคนล้วนแต่ประทับใจในตัวของจางหู่อย่างมาก… มากกว่าเดิม!!!

กลุ่มของพวกเขามีทั้งหมดยี่สิบคน มีเพียงสี่คนเท่านั้นที่เป็นนักเวทธาตุลม แต่มีเพียงคนเดียวที่กล้ากระโดดนั่นคือจางหู่

ในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าหากเป็นนักเรียนธาตุลมคนอื่นที่สามารถทำคะแนนได้ดีกว่านี้ล่ะ จะปฏิบัติได้ดีเช่นเขาหรือไม่?

“สุดยอดเลย แกโคตรเจ๋ง!” โม่ฝานเป็นคนแรกที่ตะโกนออกมา

นักเรียนคนอื่นๆต่างพากันยกนิ้วโป้งให้กับจางหู่อย่างพร้อมเพรียงด้วยความประทับใจ

“ฮ่า พวกเรากำลังจะไปแล้ว~~~” ฉื่อจ้าวติงเป็นคนแรกที่เริ่มปีนเชือก

นักเรียนทั้งหมดสิบเก้าคนประสบความสำเร็จในการปีนหน้าผาข้ามแม่น้ำที่โหดร้าย นี่เป็นการสอบปฏิบัติครั้งแรก ซึ่งพวกเขาสอบผ่าน! เพราะเป้าหมายในการสอบของครั้งนี้คือการไปให้ถึงหุบเขาร้อยหญ้าให้ได้!!!

••••••••••••••••••••

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

ช่วยกันกดคะแนนห้าดาวให้กับผู้แปลเพื่อเป็นกำลังใจด้วยน้าาาา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด