GED : 23 เฟิงหวูเด็กสาวอัจฉริยะ
GED : 23 เฟิงหวูเด็กสาวอัจฉริยะ
"ใช่" ซุ้น อี้พยักหน้าอีกครั้ง
ทุกคนเงียบในทันที
ชุนหลิงเหยียที่ทานอาหารอย่างสำราญก็ยังหันมามองซุ้น อี้ครู่หนึ่งแล้วขมวดคิ้ว
นางฟ้ามู๋เหยียวจ้องซุ้น อี้ นางแทบจะร้องไห้แต่น้ำตาก็ไม่ไหลออกมา "นายน้อยเฟิงพูด..ข้าก็ยังไม่เจ็บใจเท่าลูกพี่ลูกน้องอย่างเจ้าพูดกับข้าเช่นนี้..ฮึก.."
เฟิงซุ่นยักคิ้วอย่างชอบใจ "เห็นไหม? ข้าบอกเจ้าแล้ว! ซุ้น ลำดับสองก็เคยพูดชมเฟิงหวูเช่นกัน!"
นางฟ้ามู๋เหยียวขบฟันแน่นด้วยความโกรธแล้วเบือนหน้าหนีไปมองทางอื่น แต่นางก็สังเกตเห็นว่าเฟิงหวูกำลังจ้องมองตนอยู่ในสถานการณ์ที่นางต้องยอมจำนนกับคำพูดของบุรุษทั้งสอง..
มู๋เหยียวคิดทันทีว่าเฟิงหวูกำลังหัวเราะเยาะตนอยู่..
นางยิ่งแค้นเคืองและมองไปที่เฟิงหวูอย่างโมโห "เจ้ามองอะไร? ถึงข้าจะงามไม่เท่าเฟิงหวู แต่ก็งามกว่าเจ้าเป็นพันเท่า ไม่สิ..หมื่นเท่า..ข้าดูดีกว่าเจ้า!ยัยแม่มด!"
เฟิงหวูเห็นท่าทีเกรี้ยวกราดของนางฟ้ามู๋เหยียว นางเองก็พูดอะไรไม่ออก..เพราะเฟิงหวูยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตนทำอะไรผิด?
เฟิงซุ่นสงสารเฟิงหวูที่ใสซื่อ เขาหันไปมองนางฟ้ามู๋เหยียวอย่างตำหนิ "นั่นมันหยาบคายมาก ถึงเซี่ยวอู๋จะไม่งดงามเท่าเจ้า แต่นางก็มีเมตตาและมีหัวใจที่บริสุทธิ์ สำหรับข้า นางน่ารักกว่าเจ้าเสียอีก"
เฟิงหวูรู้สึกผิดเมื่อมองตาเฟิงซุ่น
ทำไมเขาถึงบอกว่านางเป็นคนมีเมตตาและมีหัวใจที่บริสุทธิ์? ในเมื่อนางก็เป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ในคราบลูกแกะที่พร้อมจะขโมยผลจิตวิญญาณอมตะ เมื่อมีโอกาส!
นางฟ้ามู๋เหยียวกำหมัดแน่น นางยิ่งโมโห "ท่านกำลังบอกว่าข้าไร้เมตตา ไม่ใสบริสุทธิ์ แล้วก็ไม่น่ารักอย่างนั้นเหรอ?"
เฟิงซุ่นตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ " แล้วคนมีเมตตาที่ไหนจะเรียกคนแปลกหน้าว่าคนน่ารังเกียจล่ะ?”
เขาได้ยินคำพูดของนาง! เขาได้ยินตั้งแต่แรก...นางฟ้ามู๋เหยียวจ้องเฟิงซุ่นก่อนจะตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
ด้วยความโกรธ มู๋เหยียวทำตาโตและต่อว่าเฟิงซุ่น " เพราะงั้นท่านเลยยกเรื่องเฟิงหวูขึ้นมาเยินยอว่านางงดงามกว่าข้า ..เรื่องนั้นก็เพื่อแก้แค้นให้หญิงสาวธรรมดา ๆ คนนี้งั้นเหรอ? หมายความว่ายังไง? นายน้อยเฟิง..ความจริงท่านก็ไม่รู้ใช่ไหมว่าหน้าตาของเฟิงหวูในตอนนี้เป็นอย่างไร?"
เฟิงซุ่นยิ้มให้มู๋เหยียวด้วยรอยยิ้มเรียบ ๆ "มารดาของนางเป็นหญิงงามที่สุดในจิ่งหวู่ในช่วงเวลานั้น แล้วนางจะหน้าตาน่าเกลียดสักเท่าไรเชียว? แม่นางมู๋เหยียว.. ถ้าท่านยังสงสัย ข้าบอกเลยว่าหยุดเปรียบเทียบเรื่องของท่านกับนางได้แล้ว เพราะนางเหนือกว่าท่านมาก"
“ท่าน —” มู๋เหยียวยิ่งเดือดดาล นางทุบโต๊ะแล้วตะโกนลั่น "ก็ได้! จะไม่มีใครไปไหนต่อจากนี้ทั้งนั้น จนกว่าพวกเราจะไปคฤหาสน์ตระกูลเฟิง เพราะข้าอยากรู้ว่านางจะงดงามขนาดไหนเมื่อยืนเคียงข้างข้า!"
เฟิงหวูพูดอะไรไม่ออก นางเข้าใจแล้วว่า "หายนะที่ไม่สมควรเกิด" นั้นเป็นอย่างไร...
เฟิงหวูคิดว่าเรื่องคงจบแล้ว..โชคดีที่นางไม่ใช่ประเด็นหัวข้อสนทนาอีกต่อไป แล้วนางก็จะได้ทานอาหารค่ำอย่างสบายใจเสียที..
แต่ไม่ใช่เลย นางคิดผิด..
เฟิงซุ่นมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคื่นและถอนหายใจอย่างเศร้า ๆ "เมื่อมาคิดดูแล้ว เฟิงหวูเก่งกาจมากในตอนนั้น ทุกคนในเมืองหลวงรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของเฟิงหวูที่ฝึกฝนวิชาได้อย่างแตกฉาน และนางกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังวิญญาณขั้นที่ 3 ตั้งแต่อายุสี่ขวบสินะ?"
" ขั้นที่ 4.." ซุ้น อี้ที่ดูจะไม่สนใจคำพูดของเฟิงซุ่นแต่กลับแก้ไขคำพูดของอีกฝ่ายให้ทันที
“ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังวิญญาณขั้นที่ 4 ตั้งแต่อายุสี่ขวบ ตอนนั้น..พวกเรายังไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพลังวิญญาณเลยด้วยซ้ำ” เฟิงซุ่นพูดด้วยท่าทีประทับใจ "แน่นอนว่า..ไม่นับรวมท่านชุน ชุนหลิงเหยียไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแบบพวกเรา"
จบตอน