ตอนที่แล้วGE301 ดาราสมุทร (4) [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE303 ดาราสมุทร (6) [ฟรี]

GE302 ดาราสมุทร (5) [ฟรี]


ม่านพลังจากเข็มทิศ สะท้อนการโจมตีเป็นลูกศรนับหมื่น

ซีหลานไม่เข้าใจ เหตุใดเข็มทิศดาราทั่วไปถึงได้ทรงพลังมากขนาดนี้

ดอกบัวสีเงิน 3 หมื่นดอกที่ลอยอยู่เองก็งดงาม

ลูกศรนับหมื่นเมื่อครู่ทรงพลังพอให้สังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูง นั่นหมายความว่า อานุภาพของพวกมันทรงพลังเทียบเท่าการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุด

ขนาดดอกบัวเพียง 3 พันดอกยังรับการจู่โจมระดับนั้นได้ หากมีดอกบัว 5 พันดอกคงรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้แบ่งแยกได้

หากสร้างดอกบัวได้ 3 หมื่น คงรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้เหมือนกัน

“เป็นวิชาป้องกันที่ทรงพลังมาก… ไม่รู้ว่าเขาสร้างดอกบังได้มากสุดกี่ดอก”

ซีหลานกอดหนิงฝานแน่น นางไม่กล้ากล่าวถามเพราะกลัวจะรบกวนหนิงฝาน หลังจากนี้เขาจะเปิดฉากเข่นฆ่า นางไม่กล้ามองจึงหลับตาแน่น

ธนูนับหมื่นเข้าปะทะกับม่านพลังของอีกฝ่าย เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

ม่านพลังที่ก่อตัวขึ้นใหม่ของพวกมันเกิดรอยร้าวมากมายนับไม่ถ้วน แม้จะฟื้นฟูได้ แต่ต้องใช้เวลาไม่น้อย

ม่านพลังที่สามารถรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวตัดวิญญาณขั้นสูงสุดได้ ยามนี้คงรับได้แค่การจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูง

“ถ่วงเวลามันไว้จนกว่าม่านพลังจะฟื้นฟูเสร็จ อย่าให้มันจู่โจมม่านพลังอีก!”

“เจ้าไปป้องกันเมือง พวกข้าจะถ่วงเวลามันเอง!”

อสูรกึ่งตัดวิญญาณ 5 ตนทะยานออกจากม่านพลังเข้าล้อมหนิงฝาน

พวกมันทั้งห้ามีเกร็ดีอบตัว ลักษณะคล้ายอสูรปลา แรงกดดันของพวกมันไม่ธรรมดา หากเทียบกับทะเลส่วนนอก พวกมันทุกคนแข็งแกร่งทัดเทียมเหล่าผู้นำหอคอยโอสถของวิหารสาบสูญ

หากพวกมันทั้ง 5 ร่วมมือ ย่อมสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นได้ไม่ยาก

“อสูรปลากิเลน! นอกจากจะเชี่ยวชาญการร่วมมือจัดการศัตรู แต่ยังมีเกร็ดที่เรียบลื่น การจู่โจมไม่อาจเข้าถึงตัวได้ง่าย”

รูปลักษณ์และชื่อเสียงของพวกมันทั้ง 5 เป็นที่กล่าวขานในบรรดาเหล่าอสูรด้วยกัน

หนิงฝานเก็บเข็มทิศ ก้าวเข้าหาพวกมันอย่างไม่หวาดกลัว

ในชั่วขณะหนิงฝานก้าวเท้า อสูรทั้งกระอักโลหิต กลิ่นอายปั่นป่วน สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เผยถึงให้เห็นถึงความกลัวอย่างชัดเจน

แม้พวกมันจะทรงพลัง แต่ไม่อาจเข้าใกล้หนิงฝานได้ ที่สำคัญ แค่เพียงก้าวเดียว พวกมันกลับบาดเจ็บสาหัส

“นี่มัน… มันไม่ใช่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น… ไม่ใช่ขั้นกลาง... เพราะขนาดองครักษ์ของนายท่าน ยังไม่สามารถทำให้พวกข้าบาดเจ็บสาหัสได้ด้วยก้าวเดียวแบบนี้!”

หนิงฝานก้าวเท้าครั้งที่ 2 ร่างของพวกมันถูกสะบั้นจนไม่เหลือชิ้นดี

หนิงฝานใช้มือข้างหนึ่งปิดตาซีหลานไว้ อีกข้างระดมจู่โจมม่านพลังราวกับห่าฝน

“ทำลาย!”

หนิงฝานถูกแรงกระแทกถอย 7 ก้าว แต่ในขณะเดียวกัน ม่านพลังแตกระเบิดเสียงดังสนั่น ม่านพลังถูกทำลายแล้ว!

หนิงฝานปรากฏกายเหนือหอคอยสูงบนกำแพงเมืองที่อยู่ไม่ไกลนัก ก่อนแผ่สัมผัสกระบี่สีดำกวาดผ่านเป็นวงกว้าง 3 หมื่นลี้ เรียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังระงม ร่างอสูรน้อยใหญ่ถูกสะบ้าน

เพียงชั่วพริบตาเดียว สัตว์อสูรนับแสนถูกสังหาร ทำให้ขุมกำลังอีกฝ่ายลดหายไปกว่า 3 ใน 10 ส่วน

“สัมผัสกระบี่! แย่แล้ว รีบแจ้งท่านองครักษ์เร็วเข้า!”

พวกมันไม่อาจป้องกันหนิงฝานได้อีก พวกมันคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะทรงพลังขนาดทำลายม่านพลังของพวกมันได้ หากพวกมันรู้ว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ ย่อมใช้อสูรนับแสนเสริมกำลังม่านพลัง หนิงฝานสมควรทะลวงไม่ได้ง่ายขนาดนี้

หนิงฝานยื่นมือไปเบื้องหน้า หยดพิรุณโลหิตนับพันปรากฏ พุ่งเข้าหาอสูรในขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม ก่อนจะทะลวงร่างของพวกมัน

พวกมันบางตัวรอดพ้นจากการจู่โจมได้ พวกมันเร่งทะยานไปยังภูเขาเพื่อแจ้งข่าวให้กับองครักษ์ทราบ

หนิงฝานเก็บหยดพิรุณพลางดึงดูดเอาแก่นอสูรและโลหิตของสัตว์อสูรแก่นทองคำนับแสน อสูรดวงจิตแรกเริ่มนับพันที่ถูกสังหาร ทั้งหมดผสานหลอมรวมเป็นลูกกลมสีแดงโลหิตบนฝ่ามือหนิงฝาน ภายในอัดแน่นไปด้วยปราณโลหิตที่ทรงพลัง

หากดูดซับลูกกลมนี้เข้าไป พิษของหนอนม่วงจะถูกสลายไป 1 ใน 100 ส่วนทันที แต่หากจากใช้มันยกระดับปราณอสูร อาจต้องใช้วิธีการพิเศษบางอย่าง

สิ่งที่เหมาะสมสำหรับใช้ลูกกลมมากที่สุดคือการขับพิษและยกระดับสัมผัสเทพ

“หากข้าถอนพิษได้ใด สัมผัสเทพของข้าสมควรบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด!”

เมื่อหนิงฝานเปิดฉากจู่โจม ทหารศิลาก็นำทาสบุกจู่โจมในอีกทาง

รังของอสูรจำนวนมากถูกทำลายอย่างง่ายดาย เหล่าอสูรที่พบเห็นต่างเปล่งเสียงร้องเตือนภัยให้ตัวอื่นๆทราบ

เสียงคำรามและโหยหวนของเหล่าอสูร ทำให้ซีหลานที่อยู่ในอ้อมกอดของหนิงฝานหวาดกลัว ใบหน้านางซีดขาว ร่างกายสั่นเทา

นางยังไม่เคยเข้าร่วมสงครามจริงๆมาก่อน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับทะเลโลหิตเช่นนี้ นางจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ลึกเข้าไปในเขากุ่ยซ่ง องครักในขอบเขตตัดวิญญาณกำลังกำลังฟังเพลงบรรเลงและดื่มสุราอย่างมีความสุข

เสียงบทเพลิงขับขาน บรรยากาศลุ่มหลงมัวเมาจนไม่ได้ทันได้สังเกตุเหตุการณ์ภายนอก องครักษ์เหล่านั้นกำลังต้อนรับแขกคนสำคัญ

ในหมู่พวกมัน มีอสูรชรา ผมขาว เหลือดวงตาเพียงข้างเดียว กดดันอันทรงพลังแผ่ออกจากร่าง แววตาลุ่มลึกราวกับมหาสมุทร

มันคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นกลางที่มีฝีมือ และทำหน้าที่รับใช้ราชาหมึกอย่างภักดี

แผนการบุกเกาะดารา มันก็เป็นผู้ร่วมวางแผน

“กว่าจะเดินทางไปถึงต้องเวลาอีก 1 เดือน เมื่อถึงยามนั้น กองทัพน่าจะเข้าล้อมเกาะเรียบร้อยแล้ว… อยากจะเห็นจริงว่าเจ้านั่นมันทรงพลังขนาดไหน มันจะรับการจู่โจมของข้าได้หรือเปล่า?”

“ข้ามีร่างกายขอบเขตกระดูกหยกที่สองขั้นสูงสุด ในดาราสมุทรนี้ ตัวข้านับเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้นๆของดาราสมุทร! แค่ 3 กระบวนท่า ย่อมสังหารคนผู้นั้นได้”

“3 กระบวนท่า? ไม่สิ แค่กระบวนท่าเดียวก็พอแล้ว หืม? ทำไมข้างนอกดูคึกครื้นกันมาก”

ชั่วพริบตานั้น มันขมวดคิ้วแน่น สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

แม้จะอยู่ห่างออกไปหมื่นลี้ แต่มันได้ยินเสียงร้องของเหล่าอสูรจากสัมผัสเทพอย่างชัดเจน

แต่ที่ทำให้มันตกตะลึงคือ ในโถงหลักของวังที่มันอยู่ มีผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวพาสตรีนางหนึ่งที่ดูหวาดกลัวเดินเข้ามา มันไม่อาจสัมผัสได้ถึงการมาของผู้เยาว์คนนั้นได้แม้แต่น้อย

ผู้ช่วยของมัน 7 คนที่สัมผัสได้ต่างชักกระบี่ สีหน้าแตกตื่นไม่แพ้กัน

พวกมันเห็นหน้าหนิงฝานไม่ชัด แต่ที่บอกได้ก็คือ อีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น ส่วนสตรีนางนั้นอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง!

“ขอบเขตตตัดวิญาณขั้นสูง!”

แม้พวกมันจะตกตะลึง แต่กลิ่นอายที่ผันผวน ใบหน้าซีดขาวของซีหลาน ทำให้พวกมันรู้ว่านางบาดเจ็บ จึงไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว

การที่หนิงฝานมาถึงที่นี่ สมควรมีเป้าหมายสำคัญ

เมื่อพวกมันทุกคนแผ่สัมผัมเทพสำรวจโดยรอบ สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนหลวงอีกครั้ง รังอสูร 3 แสนแห่งถูกทำลาย ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ 11 คน รวมถึงมังกรทมิฬล้อมวังไว้

“รนหาที่ตาย กล้าดียังไงมาล่วงเกินวังพวกข้า!”

ผู้ช่วยองครักษ์ 2 คนทะยานตรงเข้าหาซีหลายและหนิงฝาน

นอกจากสองคนนี้แล้ว ที่เหลือเป็นทาสทั้งหมด หากดูจากระดับพลังแล้ว นางแข็งแกร่งกว่าผู้เยาว์คนนั้นมาก บางทีผู้เยาว์คนนั้นอาจเป็นผู้ควบคุมทาสเบื้องนอก

แม้ทาสเหล่านั้นจะทรงพลัง แต่หากจัดการกับผู้ควบคุมได้ พวกมันก็สามารถพลิกสถานะการณ์ได้

แม้การฉลองจะถูกขัด แต่คนอื่นๆที่กำลังดื่มอยู่นั้นไม่ได้สนใจการปรากฏของหนิงฝานแม้แต่น้อย

ซีหลานบาดเจ็บ ร่างกายอ่อนแรง กลิ่นอายปั่นป่วน นางไม่อาจต่อสู้ได้

แต่กลิ่นอายของหนิงฝานยังคงทรงพลังไม่เปลี่ยน แต่ด้วยที่เขาอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น พวกมันจึงไม่หวาดกลัว

“ฉลามกัด!”

“กลืนกิน!”

พวกมันกลายร่างเฉพาะส่วน คนหึ่งศีรษะกลายเป็นฉลาม อีกหนึ่งกลายเป็นวาฬ อ้าปากกว้างหวังกัดกินหนิงฝาน

อสูรตัดวิญญาณที่ระดับร่างกายที่แข็งแกร่ง แค่เพียงขบกัดเบาๆ พวกมันก็สังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้ง่ายๆ

แม้พวกมันจะจู่โจมอย่างรวดเร็วราวกับอัสนี แต่หนิงฝานเร็วกว่า

ในขณะที่พวกมันเข้าประชิด หนิงฝานชกหมัด 2 ครั้งซ้อนเข้าที่ใบหน้าของพวกมันอย่างจัง จนทำให้ฟันร่วง

แต่ด้วยอานุภาพของหมัดที่ทรงพลังเกินไป ทำให้ร่างกายของพวกมันไม่อาจทนไหว จนระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิตไป

องครักษ์อสูรตกตะลึง มันคาดไม่ถึงว่าหมัดธรรมดาจะสังหารอสูรตัดวิญญาณขั้นต้นสองคนได้ในพริบตา จากอานุภาพของหมัดแล้ว อย่างน้อยสมควรมีระดับร่างกายไม่ด้อยไปกว่าขอบเขตกระดูกหยกที่ 2

มันพยายามจ้องหน้าหนิงฝาน แต่เมื่อยิ่งมองยิ่งรู้สึกคุ้น แต่มันกลับจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ดังนั้นมันจึงตะโกนสั่งผู้ที่อยู่ในงานทุกคน

“มันอยู่ขอบเขตกระดูกหยกที่ 2 พวกเจ้าห้ามลงมือ ปล่อยให้ข้าจัดการเอง!” มันบอกเป็นนัยว่าให้หาโอกาสลอบจู่โจม ซึ่งผู้ติดตามของมันเข้าใจและจ้องมองหนิงฝานไม่วางตา

หนิงฝานก้าวไปเบื้องหน้า แรงกดดันที่รุนแรงขององครักษ์อสูรถูกหักล้างอย่างรวดเร็ว

“เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะจัดการข้าในกระบวนท่าเดียวสินะ?”

*อ็อก!*

แรงกดดันถูกหักล้างด้วยแรงกดดันที่ทรงพลังยิ่งกว่า จนทำให้มันต้องถอยไป 10 ก้าว เมื่อทรงตัวได้ มันกลับกระอักโลหิตอย่างรุนแรง

“เด็กนั่นทำอะไร ทำไมแรงกดดันของข้าถึงถูกสลายชั่วพริบตา”

“ร่วมมือกันจัดการมัน!”

“ฆ่า!”

อสูรเหล่านี้แม้รู้ว่าพวกมันต้องตาย แต่พวกมันก็พร้อมจะเสี่ยงชีวิต พวกมันจึงทุ่สสุดตัว

แรงกดดันของอสูรทุกตนพุ่งเป้ามาที่หนิงฝาน ในขณะที่พวกมัน 6 คนกำลังทะยานเข้าหาหนิงฝาน จู่ๆอีก 3 คนก็แยกตัวลอบจู่โจมซีหลาน

“อสูรแห่งดาราสมุทรเป็นได้แค่พวกชอบข่มเหงสตรี!”

แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา ก่อนหน้านี้เขาเคยเจอสถานะการณ์เดียวกันมาแล้ว ฉู่เฟิงเกือบจะลอบจู่โจมซีหลานสำเร็จ และครั้งนี้ เขาย่อมไม่ประมาท

หนิงฝานถอยไปหาซีหลานในพริบตา โอบประครองร่าง ก่อนที่อสูรทั้ง 3 จะปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้า เมื่อพวกมันปรากฏตัว สีหน้ากลับแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“หลับตา...” หนิงฝานกล่าวกับซีหลานอย่างอ่อนโยน

“หนีเร็ว! ผู้ใดที่ยังไม่บรรลุขอบเขตกระถางขัดเกลาให้หนีไป! มันอยู่ในขอบเขตกระดูกหยกที่ 3!”

หนิงฝานซัดฝ่ามือเข้าใส่อสูรทั้ง 3 อานุภาพของฝ่ามือทำให้กระดูกทั่วร่างแตกหัก

ไม่ว่าใครก็ไม่กล้ารับฝ่ามือตรงๆ!

“แปลงร่าง!”

อสูรทั้งสามที่ถูกฝ่ามือเร่งแปลงร่างเป็นอสูรยักษ์พันจ้าง

แม้พวกมันจะมีร่างกายที่ทรงพลังขึ้น พลังป้องกันแข็งแกร่งขึ้น แต่ด้วยฝ่ามือที่ระดมเข้ามาของหนิงฝาน ร่างกายของพวกมันก็ยังไม่อาจทนไหวจนต้องตายไป

หนิงฝานไม่สนใจการจู่โจมของผู้ติดตามอีก 3 คนที่เหลือ หนิงฝานก้าวเดินจนครบ 9 ก้าว ก่อนที่ปราณกระบี่ขนาดใหญ่และทรงพลังจะปรากฏ กวาดผ่านรัศมีหมื่นจ้าง องครักษ์อสูรถูกปราณกระบี่อย่างจัง มันบาดเจ็บสาหัส กระอักโลหิตคำโตจนยากจะทรงตัว เมื่อมันหันมองคนอื่นๆ ทุกคนถูกสังหาร เหลือแต่เพียงมันคนเดียวเท่านั้น

องครักอสูรกัดฟันนำแผ่นข่ายอาคมสีแดงออกมา แต่แผ่นข่ายคมนั้น มีกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญคนอื่นแอบแฝง

“ดาราทั้ง 3 ข้าหมาป่าดาราต้องการกำจัดผู้เป็นเสี้ยนหนามของท่านราชาหมึก ข้าขอปลดผนึกพวกท่าน!”

มันหยดโลหิตลงบนแผ่นข่ายอาคม แผ่นข่ายอาคาเปล่งแสงเจิดจ้า ก่อนปรากฏเงาร่าง 3 ร่าง

เจ้าของเงาร่างทั้ง 3 นั้น บรรลุถึงจุดสูงสุดของขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง

“ในที่สุดก็ได้ออกมาสักที!”

ทั้งสามหันมององครักษ์อสูร และหันมองหนิงฝานด้วยแววตาเย้ยหยัน แต่พวกมันเห็นซากร่างของอสูรตัดวิญญาณที่ถูกสังหารไป พวกมันขมวดคิ้ว

“ขอพวกท่านสังหารพวกมันทั้งสองคนด้วย!” องครักษ์อสูรกล่าว

“ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงที่บาดเจ็บ กับผู้เยาว์ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น? ก็ได้” พวกมันหัวเราะเยาะ

แต่หนิงฝานกลับก้าวไปเบื้องหน้า ปราณสีดำแผ่ออกจากร่างก่อนที่ตัวเขาจะกลายเป็นบุรุษในอาภรณ์ดำ พร้อมกับร่างกายที่สลายเป็นเส้นแสงสีดำมากมายนับไม่ถ้วน

กระบี่วารีผันแปร!

สีหน้าของพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“นี่มันวิชาอะไรกัน!”

“วิชาจำแลงร่างที่มีแต่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกเท่านั้นที่ใช้ได้ แต่วิชาจำแลงร่างทั่วไปไม่อาจใช้จู่โจมได้”

“แต่วิชาที่มันใ้ไม่ใช่แบบนั้น แบบนี้พวกข้าจะรับได้ยังไง? บัดซบเอ้ย! เจ้าพาพวกข้ามาตายชัดๆ!”

ทั้ง 4 แยกย้ายหลบหนีด้วยความเร็วสูงสุด แต่เมื่อพวกมันออกไปนอกวัง กลับต้องชงักฝีเท้า!

“ตาย!”

เส้นแสงสีดำทะลวงร่างของพวกมันทั้ง 4 พร้อมกัน ยามนี้ ภูเขากุ่ยซ่งไร้ซึ่งสีมีชีวิต หนิงฝานสร้างกระบี่บินด้วยปราณ ถ่ายทอดข้อความและส่งมันออกไปบางแห่ง

โลหิตที่หนิงฝานได้จากที่นี่สมควรช่วยแก้พิษและยกระดับสัมผัสเทพได้ไม่น้อย

กระบี่บินที่หนิงฝานส่งออกไป มุ่งตรงไปหาราชาหมึก

“ทำลายกองทัพข้า ทำลายภูเขากุ่ยซ่งและองครักษ์ของข้า! เจ้าไปเตรียมทัพให้พร้อม เราจะไปชิงที่นั่นกลับคืน”

เมื่อถ่ายทอดคำสั่งเสร็จ ราชาหมึกก็หายไป

หนิงฝานรวบรวมโลหิตและร่างกายของเหล่าอสูรที่เขาสังหารจนได้ลูกกลมมาลูกหนึ่ง

อีกฝ่ายต้องการสังหารเขา ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้บุกมาแก้แค้นก่อน

“ลู่เป่ย ข้ากลัวเลือด!” ซีหลานไม่กล้าลืมตา ท่าทางของนางทำให้หนิงฝานขบขัน

“เจ้ากินโอสถก่อน...”

“นี่โอสถผันแปรที่ 6 ชื่อว่า โอสถคืนสวรรค์ เป็นโอสถรักษาของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง”

“รีบๆกินได้แล้ว” หนิงฝานปล่อยนางพลางหันมองทะเลโลหิต

ยามนี้เขาสังหารอสูรแก่นทองคำไป 4 แสน ดวงจิตแรกเริ่ม 1 หมื่น ตัดวิญญาณขั้นต้น 11 ขั้นกลาง 12 และขั้นสูง 1 คน

“ถ้าเจ้ากลัว จะกลับไปก่อนก็ได้นะ”

“ไม่ ข้าจะอยู่กับเจ้า...” ซีหลานก้มมองโอสถ

“ลู่เป่ยต้องชอบข้าจริงๆแน่ ไม่งั้นคงไม่กล้ามอบโอสถล้ำค่าแบบนี้ให้!”

“ท่านพ่อบอกว่าวิชาปรุงโอสถของเผ่าเรา ห้ามเผยแก่คนนอก… แต่หากเขาเป็นคนรักข้า ข้าย่อมสอนเขาได้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด