ตอนที่ 60 บริษัทยาไจแอนท์
ประตูอัตโนมัติเปิดออก ด้วยความสับสนของเขา เฟิงหลินเห็นพนักงานสาวผมสีบลอนด์ยืนอยู่นอกประตู ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล อิซาเบลล่า
เมื่อมองไปยังเฟิงหลินผู้ซึ่งมีจิตใจดี อิซาเบลล่าก็มีรอยยิ้มทรงเสน่ห์บนใบหน้า "ดูเหมือนว่าคุณจะพักผ่อนอย่างดีเลยนะคะ วันนี้จะเป็นวันแรกในการทำงานของคุณ ฉันขออนุญาติพาคุณเดินไปรอบๆเพื่อทำความคุ้นเคยกับแผนกต่างๆในบริษัทของเรา"
เฟิงหลินพยักหน้า
อิซาเบลล่ามีรูปร่างที่น่าทึ่ง ขาที่เผยให้เห็นของเธอเพียงพอที่จะทำให้เหล่าชายหนุ่มสั่นไหว ขณะที่เธอเดิน สะโพกของเธอจะกวัดแกว่งไปมาเป็นเส้นโค้ง 'S' อย่างน่าหลงใหล เต็มไปด้วยเสน่ห์ของผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินไม่ได้มองสิ่งนั้น เขาก้มหัวและไตร่ตรองละเอียด รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
อิซาเบลล่าเป็นผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทขนาดใหญ่ ขณะที่เขาเป็นแค่นักพันธุศาสตร์ แต่เธอมาถึงที่นี่เพื่อต้อนรับเขาเป็นการส่วนตัว และพาเขาเดินไปรอบๆ? เขาไม่ได้รับเกียรติสูงเกินไปหรอ?
เฟิงหลินอดรู้สึกไม่ได้ว่าเขามีความสำคัญ เป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยม และได้รับความเคารพเช่นนี้ หวังว่าคงเป็นเพราะเขาคิดมากเกินไป
เฟิงหลินขึ้นลงลิฟท์ตามอิซาเบลล่าไปรอบๆ ขณะที่เธอพาเขาเข้าไปในห้องของบริษัท
จากระยะไกลจะสามารถได้ยินเสียงที่ดังกึกก้องจากเครื่องจักร ยิ่งพวกเขาเดินเข้าใกล้ เสียงก็จะชัดเจนขึ้นตามธรรมชาติ
"เชิญชมโรงงานผลิตสารอาหารเหลวของเรา!" อิซาเบลล่าพูดนำด้วยเสียงหัวเราะ มีสถานที่ทำงานปรากฏตรงหน้าเขา
การหมุนวนของหุ่นยนต์เครื่องจักรเคลื่อนไหวต่อเนื่องตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิต จนถึงการสร้างผลิตภัณฑ์…ทั้งหมดนี้เป็นแบบอัตโนมัติ เนื่องจากไม่มีการใช้แรงงานมนุษย์ ประสิทธิภาพการผลิตจึงยอดเยี่ยมและค่าใช้จ่ายก็ลดลงเหลือน้อยที่สุด
ในความเป็นจริงแล้ว การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบันของการผลิตภาคอุตสาหกรรมทั้งหมดแทบจะเป็นอัตโนมัติและไม่ใช้แรงงานมนุษย์ มีเพียงส่วนที่ต้องใช้ความละเอียด เช่นการปรุงยาทางพันธุกรรมและอุตสาหกรรมพลังงาน
ยาทางพันธุกรรมส่วนใหญ่ต้องผ่านการปรุงโดยมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่มีวิธีใดที่กระบวนการจะเป็นไปโดยอัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์
สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานก็มีอีกเหตุผลหนึ่ง
ตอนนี้พลังงานที่มนุษย์ใช้กันทั่วไปนั้นสร้างขึ้นโดยวิทยาศาสตร์ ผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่าขดลวดไฟฟ้าแรงดันสูงทรอส มันสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ สามารถเก็บพลังงานจำนวนมากและเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ยอดเยี่ยม มันมีอายุการใช้งานยาวนานมาก ชาร์จไฟได้เร็วมาก และเป็นแหล่งพลังงานสะอาดไร้มลพิษ
ข้อเสียคือในระหว่างขั้นตอนการผลิต มันจะผลิตคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจำนวนมากที่รบกวนการทำงานของเครื่องจักร
และหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่สามารถหยุดหรือจัดการคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ก็มีราคาสูงมาก หากไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่ย่อมไม่สามารถจ่ายได้
ดังนั้นสำหรับบริษัทขนาดเล็ก และโรงงานของตระกูล พวกเขาต้องใช้แรงงานราคาถูกจำนวนมาก
ถ้าเฟิงหลินไม่หนีจากตระกูลมา เขาจะต้องทำงานในโรงงานพลังงานแห่งหนึ่งในตระกูล ทันทีเพื่อผลิตขดลวดไฟฟ้านี้
สำหรับโรงงานของบริษัทยาไจแอนท์จะมุ่งเน้นเฉพาะการผลิตสารอาหารธรรมดาและธรรมชาติ จะไม่เข้มงวดกับเงื่อนไขมากนัก ทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ และทุกชุดที่ผลิตจะมีประมาณ 500 ขวดขึ้นไป เวลาในการผลิตสำหรับแต่ละชุดไม่ถึงครึ่งวินาทีเท่านั้น
ในมุมมองของเฟิงหลิน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สารอาหารอีกต่อไป พวกมันคือเหรียญดาราแทนในสายตาเขา
อะไรคือการลงทุนน้อยและสร้างผลตอบแทนมหาศาล?
นี่แหละ!
ขวดของสารอาหารเกรดต่ำใช้เหรียญดาราเพียง1เหรียญต่อ1ขวด ขวดสารอาหารเกรดกลางราคาประมาณ10เหรียญดารา ในขณะที่สารอาหารเกรดสูงมีราคาตั้งแต่หลายร้อยถึงหลายพันเหรียญ
จากการประเมินของเฟิงหลิน โรงงานของบริษัทยาไจแอนท์สามารถผลิตสารอาหารเกรดต่ำได้ 1,000 ขวดสารอาหารเกรดกลาง 100 ขวดและสารอาหารเกรดสูงได้ 1 ขวดในทุกๆวินาที
ในหนึ่งวันสามารถทำเงินได้เท่าไหร่กัน? เฟิงหลินไม่สามารถคำนวณคำตอบได้
นี่ไม่ใช่แค่โรงงานผลิตสารอาหารเหลว นี่มันโรงงานพิมพ์เงิน!
แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมดที่พวกเขามี ความสามารถที่เด่นชัดของบริษัทยาไจแอนท์คือการเป็นผู้มีอำนาจในธุรกิจยาทางพันธุกรรมในระบบสุริยะ ผลกำไรที่ได้จากสารอาหารเหลวนั้นต่ำเกินไป นั่นเป็นเพียงพื้นฐานของสิ่งที่บริษัท สามารถผลิตได้
ผลิตภัณฑ์ทำเงินที่แท้จริงยังคงเป็นยาปรุงทางพันธุกรรม
"มานี่สิ!" อิซาเบลล่าเรียกเขาให้ดู การผลิตสารอาหารเหลวไปยังพื้นที่แห่งอื่นของโรงงาน
มีการผลิตของเหลวสีอำพันจำนวนนับไม่ถ้วน เครื่องจักรแปลกๆบดขยี้และกระแทกอย่างเมามันส์และถูกทำให้เป็นของเหลวสีเหลืองอำพัน
ในขั้นตอนสุดท้าย หลอดที่มีลักษณะคล้ายเข็มสีเงินขนาดเล็กจะปล่อยสารสีเงินลงในแต่ละขวดและกวนให้เท่ากัน
และนั่นก็คือผงวิญญาณ!
"การปรุงยาแห่งชีวิต?" เฟิงหลินตอบโดยสัญชาตญาณ แน่นอนเขารู้ทันทีว่านี่คืออะไร
"ถูกต้อง!" อิสซาเบลล่าชม"ตามที่คาด คุณคืออัจฉริยะที่อายุน้อยมาก คุณมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นนักวิจัยทางพันธุกรรม!"
เธอไม่หยุดเดิน และยังนำเฟินหลินไปข้างหน้าเรื่อยๆ และมาถึงโรงงานที่มีลักษณ์คล้ายห้องปฏิบัติการขนาดใหญ่
เฟิงหลินเห็นกลุ่มคนในเสื้อคลุมสีขาวง่วนอยู่กับอุปกรณ์ที่สลับซับซ้อนในมือ พวกเขาปรุงยาทางพันธุกรรมอย่างระมัดระวัง
สิ่งที่แตกต่างคือการผสมยาไม่ได้ปรุงด้วยเครื่องจักรทั้งหมด เครื่องจักรจะทำกระบวนการอัตโนมัติต่างๆจนกระทั่งถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ต้องใช้ 'การรับรู้ทางวิญญาณ' เนื่องจากเครื่องจักรไม่สามารถทำขั้นตอนสุดท้ายให้เสร็จสิ้นได้ ดังนั้นมนุษย์จึงมีความจำเป็น พวกเขาจะปรับปริมาณอนุภาควิญญาณเพื่อให้ได้สถานะที่ดีที่สุด
ใครก็อดพูดไม่ได้ว่านี่เป็นวิธีการทำงานที่ฉลาดมาก
อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินกลับพบว่ามีข้อบกพร่อง
นี่เพราะการเตรียมการของยาล้วนถูกสังเคราะห์โดยกลไก และไม่มีมนุษย์มาร่วมด้วย นั่นหมายความว่ามนุษย์ที่ลงมือในขั้นตอนสุดท้ายอาจไม่เข้าใจถึงองค์กรประกอบอย่างแม่นยำและอาจทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพต่ำลง แต่ถึงกระนั้น เพราะขั้นตอนส่วนใหญ่เป็นแบบอัตโนมัติ ประสิทธิภาพการผลิตจึงเพิ่มขึ้นอย่างน้อยห้าเท่า
เมื่อคุณภาพของยาลดลง ราคาก็จะลดลงตามเช่นกัน ถึงจะเป็นแบบนั้น มูลค่ารวมสุดท้ายก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ในระยะสั้น นี่คือวิธีที่ฉลาด มีข้อบกพร่องแค่ไม่กี่จุด ยิ่งไปกว่านั้น ผลประโยชน์ที่ได้ยังมากกว่าส่วนเสีย
เฟิงหลินยังพบว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นนักวิจัยพันธุกรรม เขาอดถามไม่ได้“นี่คือสิ่งที่ผมต้องทำในอนาคตงั้นหรอ?”
อิซาเบลล่าส่ายหัวและหัวเราะ“ไม่ค่ะ เฟิงหลิน หลังการสัมภาษณ์เมื่อวาน ผู้สัมภาษณ์ทั้งห้าก็รู้สึกว่าความรู้ของคุณเกี่ยวกับตำนานแน่นหนามาก แม้วิธีการผสมของคุณจะยังขึ้นสนิม แต่คุณก็ยังสงบนยิ่ง และสามารถถือว่าเป็นอัจฉริยะชั้นยอด ผู้สัมภาษณ์หลักเมื่อวานนี้ไม่ใช่ใครนอกจากผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา ผู้จัดการแฟรงค์ เขาคือคนที่ขอตัวคุณไปแผนกเขาโดยเฉพาะ ดังนั้น หลังการทัวร์รอบแผนกของบริษัท ฉันจะส่งคุณไปแผนกวิจัยและพัฒนาเพื่อเริ่มการฝึกงาน!”
“แผนกวิจัยและพัฒนา!”เฟิงหลินตกตะลึง นี่คือแผนกหลักของบริษัทใหญ่ๆ แต่เขากลับได้รับเกียรติให้เข้าร่วมมันทันที
แม้เขาจะไม่ชัดเจนถึงเหตุผล แต่มันก็เป็นเรื่องดี
‘แผนกวิจัยและพัฒนาคิดทำอะไรกันแน่?’เขารำพึงในใจ
“ดูเหมือนคุณจะกระตือรือร้นมาก หากเป็นแบบนั้น ฉันก็จะพาคุณไปพบเพื่อนร่วมงานของคุณ”อิซาเบลล่ายิ้มและนำทาง“ตามฉันมาเลยคะ”
ขณะที่เธอนำ เธอก็แนะนำสถานการณ์ทั่วไปของแผนกวิจัยให้เฟิงหลินฟัง“เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด เราต้องพัฒนาสินค้าใหม่ ดังนั้น งานหลักของฝ่ายวิจัยคือการวิจัยยาประเภทใหม่ก่อนที่จะทดสอบผลกับหนูขาว เมื่อยาพันธุกรรมได้ผลดีและเหมาะกับการใช้ของมนุษย์ บริษัทเราก็จะทำการผลิตเป็นจำนวนมากและนำเข้าสู่ตลาด!”
เฟิงหลินพยักหน้าเมื่อเธออธิบาย รู้สึกว่าคำพูดเธอมีเหตุผลและเขาก็ไม่รู้สึกผิดปกติอะไร
ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงแผนกวิจัย ประตูหนาหนักที่ทำจากเหล็กเปิดเสียงเบา จากนั้นเฟิงหลินก็เดินเข้าไป
กำแพงรอบๆล้วนสร้างจากเหล็กหนา ไม่มีรอยแตกหรือเส้นแบ่งอะไร มันเหมือนเป็นเหล็กแผ่นเดียวกัน
นักวิจัยพันธุกรรมจำนวนมากเดินป้วนเปี้ยน ทั้งหมดดูยุ่งมาก อากาศเต็มไปด้วยบรรยากาศกดดัน
นี่คือแผนกหลักของบริษัท หากคุณอยากเรียนรู้ถึงระบบพันธุกรรม นี่ก็คือสถานที่นั้น
เฟิงหลินพยักหน้า เขาพอใจกับงานนี้มาก
แต่ทว่า ด้วยการกวาดมอง เขาพลันรู้สึกถึงความผิดปกติ
ภายในแผนกวิจัยและพัฒนา มันสามารถมองเห็นตู้กระจกปิดได้ทุกที่ มันเต็มไปด้วยของเหลวแดงและแต่ละอันก็มีมนุษย์เปลือยกำลังลอยอยู่ในนั้น จมูกและปากพวกเขาถูกครอบด้วยหน้ากาก ช่วยให้ออกซิเจน มีสายนีบไม่ถ้วนสอดไปในร่างพวกเขา
นักวิจัยพันธุกรรมเหล่านี้ปรุงยาแปลกๆมากมายและกำลังใช้ยากับมนุษย์เหล่านี้
สีหน้าของมนุษย์ในนั้นดูเจ็บปวด ร่างพวกเขาบิดเบี้ยวและไม่อาจควบคุมได้ พวกเขาเป็นหนูทดลองในห้องวิทยาศาสตร์
เฟิงหลินรู้สึกว่าหัวใจเขาเหมือนดิ่งฮวบ ในที่สุดเขาก็เข้าใจคำว่า’หนูขาว’ที่อิซาเบลล่าจงใจพูด
“การทดลองกับมนุษย์!”