ตอนที่ 9 พ่อแม่ที่น่าสงสาร
ตอนที่ 9 พ่อแม่ที่น่าสงสาร
ความหมายของหยางโปชัดเจนเพียงพอ เขาไม่ใช่พวกขี้ขโมยแต่เป็นเพราะว่าราคาของที่นี่มีความยุติธรรมต่อผู้ขาย เขาถึงได้มาที่นี่ ถ้าหากพูดมากกว่านี้เขาอาจจะเปลี่ยนใจไปร้านอื่นก็เป็นได้
เถ้าแก่หลิวเข้าใจความหมายของหยางโปเป็นอย่างดี เขาจึงไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้นแต่กลับพูดขึ้นมาว่า "เสี่ยวหยาง งั้นนายเสนอราคามาสิ"
ภายในใจของหยางโปเริ่มไม่สงบ เข้าสู่เวลาแห่งการเปิดราคาอีกแล้ว ก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามาในร้านเขาก็ได้หาราคาของภาพวาดราชวงศ์ชิงมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งภาพวาดของปาต้าซานเหรินเป็นภาพวาดที่มีราคาสูงที่สุด ส่วนชื่อเสียงของคุณฉานไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นักจึงทำให้ราคาต่ำกว่าไม่น้อยเลย แต่ช่วงสองปีมานี้มีการเพิ่มขึ้นของช่วงราคาอยู่ไม่น้อย ดังนั้นตอนที่เขาเปิดราคา เขาจำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
"850,000 หยวน" หลังจากที่หยางโปพูดเสนอราคาของเขาออกไปใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเกิดอาการใจเต้นแรงขึ้นมา ราคาที่เขาเสนอไปเป็นตัวเลขที่เขานอนคิดทั้งวันทั้งคืน ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเสนอราคานี้ออกมา
เถ้าแก่หลิวหุบยิ้มลงเพราะเขาไม่คิดว่าหยางโปจะเสนอราคาที่โหดขนาดนี้ "เสี่ยวหยาง นายนี่กล้ามากเลยนะ! "
เถ้าแก่หลิวลูบเคราของตัวเองก่อนที่จะคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นว่า "ราคานี้สูงเกินไปแล้ว ถ้ายึดจากราคาตลาดกลางที่ตั้งไว้ให้กับภาพวาดของคุณฉานแล้ว จากภาพวาดชิ้นนี้มากสุดฉันก็ให้ได้แค่ 200,000 หยวนนั่นแหละ "
หยางโปถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเพราะมันเป็นเรื่องแปลกหากอีกฝ่ายยินยอมที่จะจ่ายราคาที่เขาเสนอไป "ถ้ายึดจากราคาตลาดในตอนนี้แล้วล่ะก็ ผลงานภาพวาดของคุณฉานมีช่องว่างที่จะสามารถเพิ่มสูงขึ้นได้ คุณเองก็คงจะดูออกเหมือนกัน "
เถ้าแก่หลิวยิ้ม "นายเองก็รู้สินะ แต่นั่นเป็นแนวโน้มในอนาคตต่างหาก"
หยางโปยิ้ม "เถ้าแก่หลิว...นี่เป็นการซื้อขายครั้งที่สองของพวกเราแล้ว ผมเชื่อว่ามันจะต้องมีครั้งที่สาม ครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้าอีกแน่นอน ภาพวาดนี้ผมไม่ขอเยอะหรอกครับผมขอแค่ 350,000 หยวนก็พอ"
เถ้าแก่หลิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาเองก็ไม่คิดว่าพวกเขาทั้งสองจะทำการซื้อขายครั้งที่สองเร็วถึงเพียงนี้ ที่หยางโปพูดก็มีเหตุผล ถึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิ์ของเขา "ตกลง งั้นก็ 350,000 หยวน! หวังว่าครั้งหน้าน้องหยางจะเอาของดีมาให้นะ ต้องกลับมาซื้อขายกันอีกนะ"
หยางโปพยักหน้า "แน่นอนครับ"
ภายนอกดูเหมือนว่าจะสงบแต่ใครจะไปรู้ว่าภายในใจของหยางโปในเวลานี้ปั่นป่วนราวกับคลื่นที่ซัดอยู่ภายในใจของเขาอย่างดุเดือด ภายนอกดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะได้เงินมาไว้ในมือถึง 350,000 หยวน แต่สำหรับหยางโปแล้วความทรมานนั้นเพียงพอที่จะทำให้คนเกิดอาการคลั่งได้ หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ใจของเขาก็รู้สึกหนักอึ้งราวกับถูกก้อนหินก้อนใหญ่ทับไว้ มีแค่ตอนนี้เท่านั้นที่เขารู้สึกสบายใจ
จำนวนเงิน 350,000 หยวนกับ 850,000 หยวนห่างกันอีกแค่ 500,000 หยวนเท่านั้น ตอนนี้เขากำลังจะก้าวผ่านไปอีกก้าวแล้ว!
หลังจากโอนเงินสำเร็จ หยางโปก็จับบัตรเอทีเอ็มในมือของเขาแน่น เขาหยิบมือถือออกมาก่อนที่จะหาเบอร์แม่ของเขา ตอนที่เขาได้ยินเสียงรอสายของอีกฝ่าย ใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา จมูกของเขาแสบไปหมดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมากอาบแก้ม เขาอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล เงินจำนวน 850,000 หยวนกลายเป็นตัวเลขซึ่งเป็นเป้าหมายในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว แต่มันก็เพื่อที่จะทำให้พ่อของเขาได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น
"เสี่ยวโป" น้ำเสียงที่แหบพร่าของแม่ดังขึ้น
"แม่...เมื่อกี้ผมโอนเงินไปให้แม่ 200,000 หยวนนะ แม่พาพ่อมาหาหมอที่จินหลิงเถอะ" หยางโปเช็ดน้ำตาของเขาแต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นอยู่
"เสี่ยวโป ลูกไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหน ? ถึงแม้ว่าเราต้องใช้เงินรักษาแต่ก็อย่าเอาเงินมาด้วยสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะลูก อยากคิดไปขโมยหรือแย่งเงินจากใครมาด้วยความไม่ถูกต้องนะ" เสียงของแม่แหลมขึ้น เธอใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายมาหลายสิบปีและเป็นเพราะแบบนั้นจึงทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงิน200,000 หยวนมาโดยไม่ทำอะไร
"แม่สบายใจเถอะ เงินพวกนี้ผมได้มาอย่างบริสุทธิ์ไม่ได้ไปขโมยหรือหลอกใครมา " หยางโปรีบซ่อนความรู้สึกของเขาไว้ก่อนที่จะพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น "ผมทำงานอยู่ที่ร้านขายวัตถุโบราณ ช่วงสองปีมานี้ผมได้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุโบราณมาไม่น้อยเลย เมื่อคืนผมไปที่ตลาดมืดมามันเป็นตลาดที่เปิดตลอดกลางคืนน่ะ เมื่อคืนผมใช้เงิน 200 หยวนเพื่อซื้อภาพวาดมา แล้วแม่รู้อะไรไหมว่าภาพวาดที่ผมซื้อมาเป็นของแท้ ก็เลยมีคนซื้อจากผมไป"
"ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นเองที่ภาพวาดจากราคา 200 หยวนกลายเป็น 200,000หยวนได้ เงินนี้แม่รับไว้ก่อนเถอะ เอาเงินนี้พาพ่อไปรักษาก่อนนะ แม่พาพ่อมาที่จินหลิงเถอะนะ หมอที่นี่เก่งมากเลยนะแม่"
หยางโปอายุแค่ 20 ปีเท่านั้น หลังจากที่เขาพูดเพื่อให้แม่พาพ่อมารักษา เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
แม่ของหยางโปฟังสิ่งที่หยางโปพูดก่อนที่จะถอนหายใจออกมา "เสี่ยวโป...แม่ถามหมอมาแล้วว่าถ้าจะรักษาพ่อต้องใช้เงินหลายแสน ถ้ามันร้ายแรงจริง ๆก็อาจจะเป็นล้าน เงินพวกนี้บ้านเราไม่มีปัญญาจะหามันมาได้หรอกนะลูก เงินก้อนนี้ แม่จะเก็บไว้ให้ลูกก่อนก็แล้วกันนะ"
"แม่! " หยางโปอดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้นมา " ถ้าพ่อไม่อยู่ เงิน 200,000 หยวนนี้มันจะไปมีประโยชน์อะไรอ่ะแม่ ? "
"เสี่ยวโป...พ่อกับแม่ไม่มีอะไรที่จะทำให้ชีวิตลูกดีขึ้น บ้านเราก็ไม่มีฐานะอะไรเลย แต่ถึงเราจะไม่มีอะไรอย่างน้อย ๆก็อย่าให้พ่อกับแม่ต้องทิ้งภาระหนักไว้ให้ลูกรับผิดชอบเลยนะ เงินก้อนนี้แม่จะเก็บไว้ให้ลูกไปขอแฟนแต่งงานแล้วกันนะ ถ้าพ่อของลูกได้อุ้มหลานก่อนที่เขาจะไป แม่ว่าพ่อคงจะไม่รู้สึกเสียใจแล้วล่ะ"
"แม่....."
....
หยางโปกำโทรศัพท์ของเขาก่อนที่จะนั่งลงที่บันไดด้านหน้าธนาคารพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ที่เขาโอนเงินกลับไปก็เพื่อจะบอกพ่อกับแม่เขาว่าเขามีความสามารถที่จะหาเงินจำนวนมากได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะวางแผนไว้แล้วว่าจะทำยังไงกับโรคของพ่อ ความจริงนี้ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดทรมานหัวใจมากพร้อมกับความรู้สึกผิด ความรู้สึกที่ไม่ยุติธรรม รวมถึงอารมณ์ที่ปั่นป่วนที่ถาโถมเข้ามาหาเขา
ความสงบและความมั่นคงก่อนหน้านี้ของเขาในเวลานี้มันพ่ายแพ้ลงแล้ว
....
เขาถือบัตรไว้ในมือก่อนที่จะทุบไปที่กลางอกของเขาอย่างแรง หรือว่าเขาจะต้องแพ้กับเรื่องแค่นี้จริง ๆเหรอ? แผนของเขาที่คิดไว้ก่อนหน้านี้คือเขาจะรวบรวมเงินจำนวน 850,000 หยวนเพื่อจะนำไปเป็นค่ารักษาให้พ่อ หลังจากนั้นก็จะรับพ่อมารักษาที่นี่ เขายังมีความสามารถ เขาสามารถที่จะหาเงินที่เหลือในระยะเวลาสั้นๆได้
ต้องสำเร็จแน่นอน
หลังจากที่กลับมาถึงร้านก็เป็นเวลาช่วงบ่ายสามแล้ว หลังจากเข้ามาในร้านสิ่งแรกที่ได้ยินคือเสียงด่าของกัวปาผีที่ดังต้อนรับเขา "เสี่ยวหยาง นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ? ฉันบอกแกแล้วไม่ใช่เหรอว่าตอนบ่ายฉันมีธุระ! แกนี่มันจริง ๆเลย......."
"เถ้าแก่ เมื่อกี้ผมมีธุระ......" หยางโปพูดขัดขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกพูดแทรกแบบนี
กัวปาผีชะงัก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหยางโปจะกล้าพูดขัดเขาแบบนี้ แต่หลังจากที่เห็นดวงตาที่แดงกล่ำของหยางโป เขาก็กลืนคำพูดของตัวเองกลับเข้าไป "เสี่ยวหยาง เฝ้าร้านให้ดี ฉันไปทำธุระก่อน! "
หยางโปนั่งภายในห้องรับแขกพร้อมกับดื่มน้ำชา หลังจากนั่งนิ่งไปครู่หนึ่ง ถึงแม้ว่ากัวปาผีจะเป็นคนตระหนี่และปากเอาแต่พูดบ่นพึมพำอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ถือว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่มันก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้เขาอยู่ที่นี่
ตั้งแต่ที่เขาได้รับเงิน 50,000หยวน หยางโปก็เริ่มคิดที่จะลาออกจากที่นี่แล้ว แต่เป็นเพราะว่าเขายังไม่มีเงินจำนวน 850,00 หยวน ถ้าหากเขาออกจากร้านนี้ไปเขาก็ต้องไปหาที่ตั้งหลักใหม่ซึ่งมันเป็นเรื่องที่วุ่นวายและยุ่งยากมากสำหรับเขา
แต่...เป็นเพราะมีความคิดแล้วว่าจะลาออกจากที่นี่ ถ้าหากมีเวลาเขาก็ควรจะต้องบอกให้กัวปาผีรู้ก่อน !