ตอนที่แล้วRe-new ตอนที่ 19  เดินตามพี่ฮันย่อมมีเนื้อกิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRe-new ตอนที่ 21  คนที่รู้วิธีย่างเนื้อให้อร่อยคือคนที่หล่อที่สุด

Re-new ตอนที่ 20  การกลับมาของหินศักดิ์สิทธิ์


ตอนที่ 20  การกลับมาของหินศักดิ์สิทธิ์

“หุบเขาแห่งนี้นี้ถูกซ่อนเอาไว้ นอกจากข้าแล้วก็ไม่มีใครรู้จักที่นี่ ! ข้าลองตรวจดูด้านในหุบเขาแล้ว ดูเหมือนมันจะปลอดภัย พวกเจ้ารอที่นี่สักพักนะ ข้าจะไปหาเครื่องปรุง มาย่างเนื้อกินด้วยกัน !”

แม้ว่าครอบครัวจ้าวจะอาศัยอยู่ที่ตีนเขาห่างไกลจากหมู่บ้านตงชาน จ้าวฮันก็ยังเคยได้ยินเรื่องความขี้เหนียวของนางจาง ครอบครัวหยูแทบไม่มีโอกาสได้กินเนื้อกันเลยตลอดทั้งปี และจะได้กินปลาที่ขายไม่ออกเพียงบางครั้งบางคราเท่านั้น

“ไป ไป ! รีบไปแล้วรีบกลับมานะเจ้าคะ !” หลังจากเดินผ่านป่ามาราว ๆ 1 ชั่วยาม ซาลาเปาเนื้อลูกใหญ่ 2 ลูกที่กินไปเมื่อเช้าก็ถูกย่อยไปจนหมดแล้ว ได้ปิคนิคในหุบเขาที่สวยเหมือนภาพวาดเช่นนี้ ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

“พี่สาม ! มีปลาในลำธารด้วยขอรับ !” ฉีโตวกำลังล้างมือในลำธารแล้วเห็นปลาตัวเท่าฝ่ามือว่ายอยู่ระหว่างรอยแตกของหิน เขาจึงรีบถอดรองเท้าออกและเดินเข้าไปจับพวกมันด้วยเปล่า แต่ก็ไม่สามารถจับปลาตัวเล็ก ๆ ที่ว่ายอยู่ในน้ำอย่างคล่องแคล่วได้

หยูเสี่ยวเฉาที่ถือไหดินเผาอยู่จึงเดินเข้าไปดูด้วยความสนใจทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกของน้องชาย “ดูนะ ข้าจะเอาไหนี่ช้อนพวกมันขึ้นมาให้ดู...” หือ ? ปลาพวกนี้ประหลาดเสียจริง พอเห็นไหอันนี้กลับพุ่งเข้าหาทันทีแทนที่จะหนีไป อีกทั้งยังมารวมกันเหมือนกับว่าพวกมันได้กลิ่นเหยื่อ

ฉีโตวน้อยก็แปลกใจเช่นกัน จึงอุทานออกมาด้วยท่าทางฉลาดเฉลียว “อ๋อ ! ข้ารู้แล้ว ! ไหนี้เคยใส่ซาลาเปาเนื้อไง มันเลยยังมีกลิ่นซาลาเปาติดอยู่ข้างใน ปลาพวกนี้ถูกกลิ่นล่อมาเพราะพวกมันหิว  จับมาอีกเยอะ ๆ เลยนะพี่สาม พวกเราจะได้เอาไปทำแกงตอนกลับบ้าน !”

ปลาตัวน้อยมารวมกันรอบ ๆ ไหดินเผามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันว่ายวนไปรอบ ๆ ราวกับมีบางอย่างดึงดูดพวกมันอยู่ในไห อ่า...พลังวิญญาณของหินศักดิ์สิทธิ์สามารถเอามาเป็นเหยื่อล่อปลาได้หรือไม่นะ ?

หยูเสี่ยวเฉาวางหินหลากสีไว้ในไห หลังจากนั้นไหก็จมลงไปลึกขึ้น ปลาพวกนั้นก็ยิ่งเบียดกันเข้ามาในไหมากขึ้น ไม่นานไหดินเผาก็อัดแน่นไปด้วยปลาตัวเล็กที่เบียดกันเข้ามาแน่นเหมือนกับปลากระป๋อง พวกที่เข้ามาไม่ได้ก็วนเวียนอยู่รอบ ๆ ปากไห ดูเหมือนจะยิ่งมีปลามารวมตัวกันมากขึ้นทุกที...

[ หยูเสี่ยวเฉา เจ้าเด็กเวร ! กล้าดีเยี่ยงไรใช้ข้าเป็นเหยื่อล่อปลา ! เจ้า เจ้า...เจ้าทำเกินไปแล้ว ! ] หลังจากเงียบอยู่หลายวัน ในที่สุดเสียงนั้นก็ดังขึ้นที่ข้างหูของหยูเสี่ยวเฉาอีกครา บอลแสงเล็ก ๆ ค่อย ๆ ลอยขึ้นจากไห หินศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวในร่างลูกแมวสีทองตัวน้อยที่กำลังโกรธ มันแยกเขี้ยวเข้าใส่หยูเสี่ยวเฉาพร้อมกับหางที่ชี้ฟูขึ้น

“อ้าว ! หินศักดิ์สิทธิ์ เจ้าตื่นแล้วรึ ? พลังฟื้นกลับคืนมาทั้งหมดแล้วรึ ?” หยูเสี่ยวเฉาร้องออกมาอย่างประหลาดใจ ฉีโตวมองนางอย่างสับสนและถามว่า “พี่สามท่านพูดกับใครอยู่รึ ? คุยกับข้ารึ ?”

เสี่ยวเฉานึกขึ้นได้ว่าคนอื่นมองไม่เห็นร่างวิญญาณของหินศักดิ์สิทธิ์ นางถูจมูกแล้วตอบเก้อ ๆ ว่า “ข้าคุยกับตัวเองน่ะ ข้าไม่ได้คุยกับใครทั้งนั้น เจ้าเอาไหไปดี ๆ นะ ข้างในมีปลาเยอะพอแล้วล่ะ !”

[ เจ้าโง่ ! เจ้ามิรู้แม้กระทั่งว่าเจ้าสามารถใช้จิตคุยกับข้าได้ ทำตามที่ข้าบอก ถ้าอยากพูดอะไรก็แค่คิดในใจแล้วข้าก็จะได้ยินเอง ! ] พอเห็นนางอาย หินศักดิ์สิทธิ์ก็ตีลังกากลางอากาศพร้อมกับหัวเราะเยาะใส่นาง

หยูเสี่ยวเฉาไม่สนใจมันและถามต่อว่า “พลังวิญญาณฟื้นคืนมาหมดแล้วรึ ?”

[ ไม่เร็วเช่นนั้นหรอก ! ข้าใช้พลังรักษาเจ้าไปเกือบหมด ถ้าหากเจ้าไม่ได้วางข้าในลำธารภูเขา คาดว่าข้าก็คงไม่สามารถปรากฏร่างให้เจ้าเห็นได้ ถึงพลังวิญญาณในโลกนี้จะอ่อนแอไปหน่อย มันก็ยังดีกว่าโลกเดิมของเจ้าเป็นร้อยเท่า ]

[ ไม่ ! ตอนนี้พลังของข้ายังอ่อนแอเกินไป ข้าปรากฏตัวได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ตอนนี้ข้าต้องไปแล้ว  จำไว้ เอาร่างข้าแช่ในลำธาร ! ] แสงสีทองรอบ ๆ หินศักดิ์สิทธิ์กระพริบอยู่หลายครั้ง สุดท้ายมันก็หายไปจากสายตาของเสี่ยวเฉา

“เฮ้ ! พี่สาม มานี่เร็ว ! ปลาเต็มไปหมดเลยขอรับ ! เราเอาเชือกผูกมันไว้แล้วค่อยเอากลับบ้านดีหรือไม่ ?” ฉีโตวยิ้มกว้างจนถึงใบหูขณะที่มองปลาในไห มันมากพอจะทำแกงปลาหม้อใหญ่ได้เลย ท่านย่าจะได้ด่าพวกเราน้อยลง !

เสี่ยวเฉาเองก็ยิ้มอย่างมีความสุขขณะคิดถึงแกงปลาแสนอร่อย “ทิ้งไว้ในไหก่อน อากาศร้อนถึงเพียงนี้ พอมันตายจะมีกลิ่นคาว เลือกตัวใหญ่ ๆ ออกมาย่างกินด้วยกันเถอะ !”

พูดจบนางก็เดินไปที่ริมลำธารและวางหินศักดิ์สิทธิ์ลงไปที่ก้นลำธาร โชคดีที่หินศักดิ์สิทธิ์ตื่นแล้วและควบคุมพลังของตัวเองได้ มิเช่นนั้นถ้ามันดึงดูดปลาทั้งลำธารหรือสัตว์อื่น ๆ มา คงเกิดเรื่องยุ่งน่าดู !

“ท่านพี่ฮัน ท่านพี่ดูปลาที่พวกเราจับมาสิขอรับ !” ฉีโตวเลือกปลาที่ยาวเกือบครึ่งฟุตออกมาหลายตัวและโชว์ให้จ้าวฮันดู

จ้าวฮันตกใจเมื่อเห็นปลามากมายอยู่ในไห “ปลาในลำธารนี้รวดเร็วจะตายไป ข้าพยายามจับพวกมันอยู่หลายครั้งแต่ก็สามารถจับได้แค่ 1 หรือ 2 ตัวเท่านั้น พวกเจ้าจับปลามากมายถึงเพียงนี้ได้เยี่ยงไรกัน ? มีเคล็ดลับอะไรรึ ? โปรดสอนข้าด้วย”

“ถ้าข้าบอกว่าปลาพวกนี้ว่ายเข้ามาในไหเอง ท่านพี่จะเชื่อหรือไม่ ?” ดวงตาของฉีโตวเป็นประกายขณะถามด้วยสีหน้าซุกซน

จ้าวฮันหัวเราะแล้วยกตัวเขาโยนขึ้นสูง พอเด็กน้อยกรีดร้อง เขาก็รับเอาไว้แล้วพูดว่า “คิดว่าพี่ฮันหลอกง่ายรึไง ? ถ้าบอกว่าไก่ฟ้าบินเข้ามาในไหเอง ข้าอาจจะพอเชื่ออยู่บ้าง เอาล่ะ ! มาย่างเนื้อกินกันเถอะ !” จ้าวฮันกลับบ้านไปเอาเครื่องปรุงมาเสียเยอะ หยูเสี่ยวเฉามองเครื่องปรุงที่เขานำมา  มีกระทั่งเครื่องเทศอย่างยี่หร่า นางก้มลงสูดกลิ่นที่คุ้นเคย

“นั่นคือยี่หร่า เจ้ามิเคยเห็นมันใช่หรือไม่ ? ฮ่องเต้เจี้ยนเหวินเอามันกลับมาจากทางใต้ตอนที่ท่านยังเป็นองค์รัชทายาทอยู่ มีพริกด้วยนะ ว่ากันว่าฮ่องเต้เจี้ยนเหวินคลั่งไคล้ในรสเผ็ดเป็นอย่างมาก แต่มิใช่ทุกคนที่จะชินกับพวกเครื่องเทศอย่างยี่หร่ากับพริก ข้ากินได้ แต่ถ้าพวกเจ้ามิชอบก็ไม่ต้องใส่พวกมันลงไป” จ้าวฮันกับท่านปู่ของเขาชื่นชอบรสชาติเผ็ดร้อนเหมือนกัน ตอนนี้พริกยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ผักที่ครอบครัวหยูกินนั้นปลูกเองในสวนที่บ้าน พวกเขาจึงไม่มีพริก ไม่มีแม้กระทั่งน้ำมันและเครื่องเทศ พวกเขาทำได้แค่ผักต้มกับเกลือเท่านั้น ถ้าหยูเสี่ยวเฉาไม่รู้สึกหิว นางก็คงกินไม่ลง

หยูเสี่ยวเฉานึกชื่นชมพ่อครัวหัวป่าจ้าวฮันเป็นอย่างมาก เขารวบรวมเครื่องเทศเอาไว้ได้หลากหลายประเภท อย่างเช่น พริกแดงป่น, ยี่หร่า, โป๊ยกั๊ก, อบเชย แล้วก็ผักชีล้อม

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น จ้าวฮันจึงรับหน้าที่จัดการกับกระต่ายป่าและนกเขา ฉีโตวนั่งคุยกับเขาอยู่ข้าง ๆ พลางมองดูเขาจัดการกับสัตว์เหล่านั้น ส่วนหยูเสี่ยวเฉาอาสาเก็บฟืนมาก่อไฟ นางมองพวกเขาเป็นระยะแล้วคิดว่า ‘เด็กหนุ่มคนนี้อายุเพียงแค่ 12 - 13 ปีเท่านั้นเอง แต่ถลกหนังแล่เอาอวัยวะภายในของกระต่ายป่าออกมาได้อย่างชำนาญ เห็นได้ชัดเลยว่าเขาทำเช่นนี้เป็นประจำ ’

กองไฟติดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กระต่ายป่าถูกทาด้วยเกลือและเครื่องปรุงหลายอย่าง จากนั้นก็เอามันมาวางไว้เหนือกองไฟ นกเขาถูกยัดไส้ด้วยเครื่องเทศและเอาโคลนพอกก่อนจะโยนเข้าไปในกองไฟ ส่วนไข่ไก่ฟ้าก็ได้เอาโคลนพอกไว้เช่นกันเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ระเบิด จากนั้นก็วางไว้ข้าง ๆ กองไฟคล้าย ๆ กับการอบในยุคปัจจุบัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด