ตอนที่แล้วสงครามดาวศักดิ์สิทธิ์ : ตอนที่5 ขี้ขลาด?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสงครามดาวศักดิ์สิทธิ์ : ตอนที่7 กฎ

สงครามดาวศักดิ์สิทธิ์ : ตอนที่6 การฟ้องร้อง


ตอนที่6 การฟ้องร้อง

ท่ามกลางฝูงชน เจงลองซิงดูมืดมน

เขาได้วางแผนทุกอย่างเพื่อลอบสังหารหลี่มู่ แต่ใครจะคิดหล่ะว่าหลี่มู่จะอยู่แต่ในห้อง แม้ว่าจะมีบลัดดี้มูนคอยหนุนหลัง แต่การที่จะให้บลัดดี้มูนเขามาบุกออฟฟิศรัฐบาลมันก็ไม่ใช่เรื่อง ดังนั้นเขาทำได้แค่เพียงรอจังหวะเท่านั้น

“ข้าต้องหาวิธีล่อหลี่มู่ออกมาให้ได้”

เจงลองซิงคิดอย่างนั้นเพราะไม่อยากรอนานกว่านี้

วันเวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน

เพียงชั่วพริบตาย ครึ่งเดินก็ผ่านไป

ในห้องฝึกฝนด้านหลังออฟฟิศ หลี่มู่ทุบหินแกรนิตที่สูงกว่าคนด้วยมือเปล่า

เสียงแตกหักดังไปทั่ว

แกรนิตที่ทนทานต่อดาบก็แตกพังทลายลงราวกับผงแป้ง

พลังอะไรกันเนี่ย นึกว่าซุปเปอร์แมน

“ไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าจะมีพลังขนาดนี้”

หลี่มู่เป่าเศษแกรนิคที่ติดอยู่ตรงมือออก

ทุกๆวันที่ผ่านมา หลี่มู่เอาแต่ฝึกศิลปะมวยเจนหวู่จนเขาสามารถเสร็จกระบวนท่าแรกได้แล้ว

แม้ว่าหลี่มู่สามารถทำการเคลื่อนไหวแรกได้แล้ว ‘ร็อคกิ้งสกายแฮมเม่อ’ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจมันถ่องแท้ เพราะทุกครั้งที่เขาทำ กล้ามเนื้อของเขาจะฉีกขาด และถ้าหากเขาฝืนทำมันต่อเรื่อยๆร่างกายของเขาต้องพังแน่

หลี่มู่ลองอยู่หลายครั้งจนเลิก

จนกระทั่งตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจศิลปะมวยเจนหวู่และเซี่ยนเที่ยนมากขึ้นแล้ว

ศิลปะมวยเจนหวู่เหมือนจะเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น

การเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง แต่ละรูปแบบจะช่วยเสริมสร้างร่างกาย

ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาก หลี่มู่ได้แต่ฝึกรูปแบบแรก ร็อคกิ้งสกายแฮมเม่อเท่านั้น จนเขารู้ได้เลยว่าผิวหนังของเขาเริ่มหยาบกร้าน ขนาดที่ว้าถ้าหากนำก้อนกรวดเล็กๆมาขูดก็ไม่รู้สึกเจ็บอะไร นอกจากมีรอยเล็กๆน้อยๆติดไว้เท่านั้น

ส่วนเซี่ยนเที่ยนนั้นจะตรงข้ามกับศิลปะมวยเจนหวู่

มันสามารถช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูบาดแผลภายในและทำให้มีพลังมากขึ้น

ทุกคืนหลี่มู่มันจะฝึกฝนเทคนิคเซี่ยนเที่ยน

การหายใจแบบเซี่ยนเที่ยนนี้ทำให้หลี่มู่แข็งแรงขึ้น แม้ว่าเขาไม่ได้นอนทั้งคืน เขาก็ยังมีพลังอยู่ และมันยังช่วยให้ปฎิกริยา การได้ยิน การมองเห็น ต่างๆของเขาดีขึ้นด้วย

และที่สำคัญที่สุดคือช่วยรักษาบาดแผลได้ดีมาก หลายครั้งที่หลี่มู่ใช้เซี่ยนเที่ยนรักษาตัวเองจากอาการบาดเจ็บของศิลปะมวยเจนหวู่

ด้วยการฝึกเซี่ยนเที่ยนนี้ ทำให้หลี่มู่สามารถซึมซับพลังฉีจากท้องฟ้าและผืนดินผ่านทางการหายใจและพลังฉีเหล่านี้พุ่งตรงเข้าไปในร่างกายของเขา ชะล้างสิ่งผิดปกติทุกอย่างออกไปทางการหายใจ จนเหมือนได้ร่างกายที่เกิดใหม่

ดูเหมือนว่าหลี่มู่จะเข้าใจความตั้งใจของปู่แล้ว

ทักษะเซี่ยนเที่ยนนี้จะบำรุงภายในร่างกาย ส่วนศิลปะมวยเจนหวู่จะเสริมสร้างภายนอก หากทั้งสองนี้ผนึกเข้าด้วยกันก็จะเปลี่ยนสภาพร่างกายได้อย่างสมบูรณ์

หลี่มู่อาศัยอยู่บนโลกที่มีมลพิษไปกว่า 14ปี จนทำให้ร่างกายทรุดโทรมไปมาก แต่หลังจากได้มาฝึกบนดาวดวงนี้หลี่มู่ก็ฟื้นฟูกลับเป็นปกติทันที และด้วยสองเทคนิคนี้มันจะช่วยให้เขาสามารถต่อสู้กับเหล่าศัตรูมากมายในทุกๆดาวได้

“ค่อก ๆ แค่กๆ” หลี่มู่ไอออกมาเป็นเลือด

มันเป็นเลือดสีแดงเข้มพร้อมกับสิ่งเจือปนสีดำ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก

เพราะมันเป็นการล้างอวัยวะภายในของเทคนิค เซี่ยนเที่ยน ดังนั้นการที่มีเลือดออกมาแบบนี้คืออวัยวะภายในของเขาสะอาดแล้ว

“ข้าหลบอยู่ในออฟฟิศรัฐบาลมากว่า20วันแล้ว สงสัยว่าต้องออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้างแล้วหล่ะ’

หลี่มู่ยืนบิดขี้เกียจขณะไอ

หลี่มู่เป็นเด็กวัยรุ่นที่มีชีวิตชีวาและกระตือรือร้น ถ้าหากเขาไม่กลัวว่าจะโดนลอบสังหารเขาคงไปเดินเล่นตามเมืองแล้ว

จนในตอนนี้ที่เขารู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งพอ เขาจึงกล้าที่จะออกไปสูดลมบริสุทธิ์ข้างนอกบ้าง

ปู่เคยบอกว่าการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวนั้นไม่ใช่การทำร้ายผู้อื่น แต่เป็นการป้องกันตนเอง บางครั้งการฝึกฝนเพียงปีเดียวก็สามารถสู้เอาชีวิตรอดกับผู้ที่ฝึกมาเป็นสิบๆปีได้

หลี่มู่ไม่ต้องการจะสู้กับใครที่จะสู้กับใครจนตัวตายทั้งนั้น แม้ว่ามันจะช่วยสั่งสมประสบการณ์แก่เขาก็ตาย

ดังนั้นที่ดาวนี้หลี่มู่จึงต้องทำตัวเนียนไปกับสถานการณ์ทุกอย่างเพื่อลดปัญหาให้น้อยลงที่สุด

หลี่มู่คิดเรื่องนี้สักพัก จนเด็กทั้งสองคนก็โผล่มา

บูม!

เสียงดังมาจากประตูออฟฟิศรัฐบาล ทั่วทั้งออฟฟิศสั่นคลอนด้วยเสียงที่คล้ายกับเสียงฟ้าร้อง

เด็กชายขิงเฟงพุ่งเขามาแบบหายใจแทบไม่ทัน “มีใครบางคนกำลังรัวกลองและบ่นโวยวายอยู่”

“ตีกลอง...? มีคนกำลังจะฟ้องร้องงั้นหรอ?”

หลี่มู่จำได้เพราะฉากแบบนี้เขาเคยเห็นในทีวีที่โลก

ฮ่า ๆ ๆ!

หลี่มู่ขำอย่างสะใจ

เขาจะได้ใช้โอกาสนี้ในการลองเป็นผู้พิพากษา

หลี่มู่ตื่นเต้นมาก ที่เอเลี่ยนจากโลกจะมาทำการพิพากษาคนที่นี่

ในขณะที่หลี่มู่ฝึกฝนเขาเองก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องทำตัวเองให้ได้ความเคารพนับถือจากประชาชน

ทุกครั้งที่เขาคิดแบบนี้ ก็มักจะมีความสุข

“มาเลยประชาชนของข้า ศาลนี้จะตัดสินพวกเจ้าเอง”

หลี่มู่อดใจรอไม่ไหวจะรีบออกไปหน้าศาลทันที

“เดี๋ยว? ช้าก่อนสิ ลืมเปลี่ยนชุดรึเปล่า..” ขิงเฟงวิ่งตามไปเรียกแต่ไม่ทัน

เด็กน้อยคนนี้จึงต้องวิ่งอย่างหน้ามืดตามัวไปหาชุดมาให้

ตั้งแต่ที่มาถึงเมืองไต๋ไบ๋ ขิงเฟงและยือหลัวก็เหมือนเป็นพ่อกับแม่ของเขา

ที่สวนด้านหลัง เด็กสาวหมิงยื่อก็กำลังถือตาข่ายเพื่อจับจักจั่นอยู่ เมื่อมีเสียงรัวกลองดังขึ้นเธอก็ตกใจมาก แต่เธอก็รู้งานว่าเสียงนี้คืออะไร เธอจึงรีบไปเตรียมชุดผู้พิพากษาและเอาไปให้ขิงเฟงทันที

เธอวิ่งอย่างรวดเร็วจนเกินความไวมนุษย์ไปแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าเธอเองก็ไม่ธรรมดา

“เปิดศาล ท่านผู้พิพากษา”

เจ้าหน้าที่6หกยืนสองฝั่งอย่างมีระเบียบพร้อมกับถือกระบองไว้ และตะโกนขึ้น “ท่านผู้พิพากษา!”

ห้องพิจารณาคดีเข้าสู่โหมดที่เงียบขรึมทันที

หลี่มู่ก็นั่งอยู่บนศาลสูงสุด

ปัง!

หลี่มู่ทุบค้อนอย่างเสียงดัง

“นำโจทย์ขึ้นมา” หลี่มู่สวมบทบาทเป็นผู้พิพากษาทันที

หนึ่งในพนักงานข้างๆเขาค่อยๆ ขยับเข้าไปหาหลี่มู่พร้อมกับกระซิบว่า “ท่านครับ คนบันทึกยังไม่มา เรายังไม่สามารถเปิดศาลได้..”

“ถ้างั้นเขาอยู่ไหนล่ะ? ทำไมยังไม่มาอีก”

“อ๋อ เขาป่วย ตั้งแต่สองสามวันก่อนแล้ว”

“ทำไมผมถึงไม่รู้หล่ะ?”

“ก็ที่ปรึกษาส่วนตัวของท่านมาหาท่านเอง แต่ท่านปฎิเสธที่จะพบเขานิ”

หลี่มู่รู้สึกเขิลหน้าแตก

ปรากฏว่าเรื่องทั้งหมดนี้ควรจะโทษตัวเองสินะ

แล้วจะทำยังไงดี?

ในเวลานั้นเด็กชายชิงเฟงก็มาถึง “มานี่เพื่อตัวน้อย มาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและจดบันทึกคดีให้หน่อยสิ” หลี่มู่ชี้ไปตรงที่นั่งข้างเขา

“ห้ะ? นี่มันเหมาะสมงั้นหรอ?” ขิงเฟงสับสน

หลี่มู่ยิ้มและพูด “ทำไมไม่เหมาะหล่ะ ก็ในที่นี้มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ตัดสินใจทุกอย่าง”

“โอ้...” เด็กชายไม่มีไรจะเถียง “ว่าแต่นะ ใส่เสื้อนี่ก่อนเถอะ..”

หลี่มู่พูดขึ้น “แต่ผมเองก็ใส่เสื้ออยู่แล้วนะ”

“อาจารย์หนุ่มควรที่จะใส่ชุดผู้พิพากษาอย่างเป็นทางการตอนทำคดีนะ”

“ชุดนี่มันใส่แล้วไม่สบาย ไม่อยากใส่เลย ไม่ต้องห่วงผมเป็นผู้พิพากษา ผมตัดสินใจได้”

ขิงเฟงถึงกับนิ่งเงียบ “...”

ในเวลานั้นโจทย์ก็ถูกพาเข้าห้องทันที

เธอเป็นเด็กหญิงอายุ 10ขวบที่กำลังบาดเจ็บอยู่ และเธอก็พยุงผู้หญิงอีกคนที่เสื้อก็เต็มไปด้วยคราบเลือด และบาดแผล เดินโซเซเข้ามาในศาลอย่างช้าๆ

เกิดอะไรขึ้น!?

ทำไมโจทย์ถึงดูน่าสังเวชขนาดนี้

มีคนตายรึเปล่า?

หลี่มู่เป็นกังวลมาก

ผู้หญิงคนนั้นคุกเข่าลงและร้องไห้ เลือดบางส่วนก็ไหลปนกับน้ำตา

เด็กหญิงตัวเล็กก็พยายามที่จะดึงสติให้ “แม่ แม่ หนูไม่เหลือใครแล้ว อย่าทำแบบนี้นะแม่”

หลี่มู่ก็ตะลึงมากกับเหตุการณ์แบบนี้

คนใช้ยื่นอุทธรณ์ให้เขาด้วยเลือด!

ในช่วง 20วันที่ผ่านมาหลี่มู่ก็เริ่มเข้าใจตัวละคนของโลกนี้มากขึ้นว่ามันคล้ายๆกับจีนโบราณทั้งตัวอักษรและคำพูด หลังจากอ่านอุทธรณ์เสร็จเขาก็เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บ ‘จางหลี’ เธอมีร้านขายยาเล็กๆอยู่ในเมืองไต๋ไบ๋ที่ทำกับสามีของเธอ ‘จางเชง’ ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของจางเชงที่มีพ่อและแม่ของจางเชงมาทำธุรกิจด้วย ธุรกิจของพวกเขานั้นไปได้ด้วยดีเพราะว่าไม่มีใครโกงใคร และสินค้าของพวกเขาก็ดีและไม่ได้ขายแพงมาก แต่นั่นก็ทำให้คู่แข่งทางการค้าอย่าง ‘เฉินเกา’ อิจฉา จึงได้ขอซื้อร้านต่อ แต่ราคาที่ให้นั้นมันน้อยมาก พ่อและแม่ของจางเชงจึงปฎิเสธสัญญาซื้อขายนี้ไป จึงทำให้ทั้งสองต้องตาย และจางเชงกับจางหลีก็โกรธมากจึงตามไปถกเถียงแล้วก็โดนทำร้ายเช่นกัน แต่สามีของเธอจางเชงนั้นไม่รอด เลยเหลือแต่ตัวเธอเองที่บาดเจ็บสาหัส จนในตอนนี้จางหลีและลูกของเธอ เสี่ยวฉิน ไม่เหลือใครแล้วรวมถึงร้านขายยาด้วย…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด