ตอนที่ 18 บ้านผีสิง
ฮารุกะก็เหงื่อไหลไม่หยุดและแขนของเขาก็รู้สึกปวดมากด้วยแต่เขากลับเหวี่ยงดาบต่อไป เขาคิดว่าเขานั้นควรกินผลปีศาจเมื่อมีคนจากเรื่องวันพีซ(One Piece)เข้าร่วมกลุ่มแชท แต่ก่อนหน้านั้นเขาจะต้องพัฒนาเวทย์แสงของเขา
“998 999 1000”
ฮารุรู้ว่าวิชาดาบของกินโทกินั้นเป็นการใช้กำลังอย่างสัตว์ป่าเข้าต่อสู้มากว่าการใช้เทคนิคดาบซึ่งมันควรจะเรียกว่าวิชาต่อสู้มากกว่าซะอีก ตอนนี้เขาไม่ได้สวมเสื้อ เขาก็เลยเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขานั้นไม่อยากไปนอนโดยสภาพที่ร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ ในขณะที่แช่น้ำเขาก็ผิวปากไปด้วยแต่เขานั้นไม่ได้สังเกตว่ามีคนแอบมองเขาอยู่
โซระรู้ว่ามันไม่ดีแต่เธอก็อดแอบมองไม่ได้
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเขาก็เช็ดตัวแล้วเดินไปที่เตียง ซึ่งเขามองเห็นโซระนอนอยู่บนเตียงของเขา เขาก็เลยยิ้มออกมาแล้วไปนอนข้างๆเธอ “นอนกันเถอะ ฉันง่วงมากเลย”
“อืม”โซระก็พยักหน้าให้เขา
ฮารุกดปิดไฟแล้วนอนหลับไป
โซระนั้นไม่ได้นอนหลับแต่เธอกลับนอนมองเขา เธอรู้สึกสงสัยจึงได้ใช้นิ้วจิ้มแก้มของเขา เธอจิ้มไปหลายรอบจนเธอเห็นเขาลืมตา
ฮารุก็หาวออกมาแล้วถามขึ้น “เป็นอะไรไป?”
“ไม่มีอะไร แล้วทำไมนายต้องฝึกหนักขนาดนั้นด้วย? นายอยากเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้งั้นหรอ?”โซระถามออกมา เธอคิดว่าการเหวี่ยงดาบพันครั้งนั้นจะมีเพียงแค่ในมังงะแต่เธอไม่คิดว่าในชีวิตจริงจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย เธอรู้ว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากทั้งส่วนร่างและส่วนบน แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้
ฮารุก็ปากกระตุกและส่ายหัว “ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้หรอ? เธออยากให้ฉันเปิดโรงฝึกหรือไง?”แต่เขาก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่และจู่ๆเขาก็คิดได้ว่าเขาควรจะเปิดยิมดูสักหน่อย เรื่องนี้เขาคิดจริงจังมากเนื่องจากเขารู้ว่าสมาชิกส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้หญิง
โซระก็หัวเราะออกมา “ไม่มีทาง แล้วนายอยกาจะเปิดโรงฝึกงั้นหรอ?”
ฮารุก็ส่ายหัว “ไม่ ฉันคิดว่าจะเปิดยิมหน่ะ”
โซระรู้สึกประหลาดใจแล้วพยักหน้า “ฉันคิดว่ามันก็เป็นความคิดที่ดีทีเดียวเนื่องจากตอนนี้ผู้คนจำนวนมากต่างค่อนข้างขี้เกียจออกกำลังกาย”
ฮารุก็หัวเราะออกาแล้วบีบจมูกเธอ “งั้นทำไมเธอไม่ไปออกกำลังกายหล่ะ? ถ้าเอาแต่กินขนม ระวังจะกลายเป็นหมูน้อยไปนะ”
โซระก็รู้สึกรำคาญ เธอจึงได้เอามือฝาดมือของเขา “ฮืม”เธอก็ทำหน้ามุ่ยแล้วหันหน้าไป
ฮารุก็ลูบหัวของเธออย่างช้าๆแล้วพูดออกมาว่า “อย่าโกรธเลยนะ ให้อภัยฉันเธอ เธอไม่มีทางเป็นหมูได้หรอกเพราะเธอน่ารักเกินไปไงหล่ะ”
โซระก็ยิ้มออกมาแต่เธอไม่ได้หันหน้ามา “นอนกันเถอะ”
“อืม”ฮารุพยักหน้า
---
วันต่อมา ฮารุก็ไปเดินทางไปตามที่อยู่ของบ้านที่เขาจะซื้อ จากนั้นเขาจึงได้โทรหาตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ที่จัดการเรื่องบ้านหลังนี้
“สวัสดี ใช่ท่านคาสุกาโนะหรือไม่?”
ฮารุก็หันหน้าไปเห็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 30 ปลายๆ ฮารุจึงพยักหน้าให้ “ใช่แล้ว ฉันเอง ใช่บ้านหลังสินะ” จากนั้นเขาก็หันไปมองบ้านและมองไม่เห็นอะไรประหลาดๆเลย จากด้านนอกเขาเห็นว่าบ้านหลังนี้ดูธรรมดามาก
บ้านหลังนี้มีสองช้าและที่ดินค่อนข้างใหญ่ซึ่งมีประมาณ 180 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีมูลค่าเพียง 10 ล้านเยน
ฮารุรู้ว่ามันถูกมา เขาพบว่าสีของบ้านหลังนี้ดูค่อนข้างจะเก่าแต่เขาก็สามารถปรับปรุงมันใหม่ได้อย่างง่ายดาย เขาสามารถบอกได้เลยว่าบ้านหลังนี้คุณภาพดีมาก และเขารู้ว่าคนที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่จะต้องเป็นคนที่มีฐานะดีแน่นอน
“คุณแน่ใจว่าจะซื้อบ้านหลังนี้?”ชายวัยกลางดูไม่ม่านใจ
“ฉันอยากจะลองดูรอบๆก่อน ฉันได้ยินว่าในบ้านหลังนี้มีผีอยู่” ฮารุก็ถามออกมา
ชายวัยกลางคนดูค่อนข้างจะหวาดกลัวแต่เขากลับพยักหน้าออกมา “ใช่แล้วครับ บ้านนี้มีผีสิงอยู่ ก่อนหน้านี้มีผู้คนได้ซื้อบ้านหลังนี้แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจขายมัน”
“นายช่วยเล่ารายละเอียดหน่อยได้ใหม? มันเป็นผีแบบใหนกัน?”ฮารุถามออกมา
ชายวัยกลางคนรู้สึกไม่เต็มใจที่จะพูดแต่เขาก็ได้เล่าเรื่องของบ้านหลังนี้ออกมา “ในตอนเที่ยงคืน ภายในบ้านมักจะมีเสียงเด็กร้องไห้ออกมาดัง ประตูมักจะเปิดเอง และไฟมักจะดับ แถมยังมีเสียงแปลกๆมากมายดังขึ้นในนั้นด้วย”เขาก็มองฮารุแล้วพูดออกมา “ผมรู้ว่าบ้านหลังนี้ราคาถูกมาแต่ผมขอแนะนำให้คุณอย่าซื้อบ้านหลังนี้ บ้านหลังนี้มันบ้านผีสิง”
ฮารุก็รับฟังและตัดสินใจดูด้วยตัวเองก่อน “แล้วฉันเข้าไปในบ้านได้ใหม?”
ชายวัยกลางคนก็ถอนหายใจ “แน่นอน แต่ผมขอรอข้างนอก”
ฮารุก็พยักหน้า “อืม ได้สิ”จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในบ้าน
ชายวัยกลางคนก็ส่ายหัวแล้วเอาบุหรี่ขึ้นมาสูบ เขารู้ว่าชายหนุ่มคนจะต้องมาเพราะราคาของบ้านที่แสนจะถูก เขาจำไม่ได้ว่ามีผู้คนกี่คนแล้วที่มาที่บ้านหลังนี้แล้วตัดสินใจซื้อมัน แต่ผ่านไปไม่กี่วันพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะขายมัน”
“พ่อหนุ่ม ระวังตัวด้วย” ชายวัยกลางคนก็พูดออกมา
---
ฮารุก็เดินเข้าไปในบ้าน ข้างในมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด เขารู้ว่าทำไมมันถึงไม่สะอาดแต่สุดท้ายเขาก็เลิกคิดไป เขาโชคดที่เข้ามาในบ้านตอนกลางวันเพราะเขามั่นใจว่าพอตกกลางคืนเขาคงมองไม่เห็นอะไรแน่ จากนั้นเขาจึงเดินดูรอบๆสำรวจทุกซอกทุกมุมของบ้านอย่างช้าๆ เขาสัมผัสได้ว่ามีสายลมและเสียงแปลกๆรอบๆบ้านหลังนี้
ฮารุไม่ได้รู้สึกกลัวเพราะเขามั่นใจว่าผีฆ่าเขาไม่ได้ เขาเดินตรวจสอบบ้านไปอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็เดินไปชั้นหนึ่งและพยักหน้า เขาจึงตัดสินใจไปชั้นสองและตรวจดูห้อง พอเขาขึ้นชั้นสองไป จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังขูดอะไรบางอย่าง เขารู้สึกสงสัยจึงเดินไปแหล่งที่มาของเสียง
“น่าจะเป็นที่นี่”ฮารุได้ยินเสียงขูดดังขึ้นมาจากภายใน
เปรี้ยง!!
ทันทีก็มีคนกระแทกประตูอย่างแรก และเขาก็ยินเสียงคนกรีดร้องจากภายใน
“กรี้ดด!!”
“ช่วยเราด้วย!!”
“อย่าฆ่าเราเลย!!”
ฮารุรู้สึกขนหัวลุกเมื่อเขาได้ยินเสียงพวกนี้แต่เขาก็กัดฟันไว้ เขาจึงตัดสินใจเดินลงไปพูดคุยกับกลุ่มแชทถึงเรื่องวิธีแก้ปัญหาพวกนี้ก่อน