EDSG ตอนที่ 69 อันดับที่ท้าทายสวรรค์ (ฟรี)

"ปราณดาบขั้นย่อย"

ปราณดาบที่รุนเเรงได้ถูกปลดปล่อยออกไปไม่ว่าจะเป็นพละกำลังหรือความเร็วทั้งคู่ล้วนสมบูรณ์แบบ มันได้พุ่งเข้าหาผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 5 อย่างไร้ความปราณี

เห็นปราณดาบสีเเดงพุ่งเข้าหาตัวเอง ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 5 ไม่ได้เลือกที่จะหลบ เขาต้านรับโดนยกหอกขึ้นมาเเทงสวนกลับออกไป หอกยาวสีดำได้พุ่งเลื้อยไปราวกับมังกรทมิฬ

เเสงปราณดาบได้พุ่งชนเข้ากับหอกยาวสีดำ เเต่ทว่าพลังของปราณดาบได้ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็วพร้อมกับเเสงสีดำจากหอกยาวได้พุ่งเข้าหาเขา

เย่เฉินเฟิง เเทบจะไม่สามารถหลบหลีกได้ รอบตัวของเขา มีสัตว์อสูรวิญญาณมากเกินไป ทั้งหลายตัวยังเจ้าเล่ห์เเละเเข็งเเกร่งอย่างมาก จากนั้น เย่เฉินก็ถูกโจมตีอย่างหนักจนโลหิตได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างของเขา

"ตาย!"

เย่เฉินเฟิง ได้หลบหนีเเละคว้าโอกาสในการจัดการสัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4 , 4 ตัว ด้วยความเร็วที่รวดเร็วของเขาทำให้สัตว์อสูรวิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถหลบหลีกได้

หลังจากประสบความสำเร็จ เย่เฉินเฟิง ก็ใช้ช่องว่างหาโอกาสทำการโจมตีต่อไป เขาได้ฆ่าสัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 3 ขั้น 4 จำนวนมาก เเละใช้พลังวิญญาณเฮือกสุดท้ายบดศิลาช่วยชีวิตเเละหายไปในพื้นที่ระดับ ที่ 4 ในพื้นที่วิญญาณสวรรค์

"อันดับ 39 ? ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่ นี่เป็นครั้งเเรกที่เขาเข้าร่วมการทดสอบเเต่ยังสามารถได้รับอันดับที่ 39 เขายังเป็นมนุษย์อยู่อีกหรือไม่?"

หลังจากที่ เย่เฉินเฟิง สังหาร สัตว์อสูรวิญญาณระดับชำนาญขั้น 4 หลายตัว อันดับในกำเเพงหยกก็ได้เปลี่ยนเเปลงไปอีกครั้ง เขาได้ขยับขึ้นไปยังเเถวที่ 4 เเละเขาได้รับอันดับที่ 39

อาจกล่าวได้ว่า ผลลัพธ์ที่ท้าทายสวรรค์ของ เย่เฉินเฟิง ในนิกายเพลิงผลาญฟ้า เขาเป็นคนเเรกที่สามารถทำได้ ไม่มีใครสามารถก้าวเข้าไปถึง 4 เเถวเเรกได้ตั้งเเต่เริ่มการทดสอบครั้งเเรก

"เป็นไปไม่ได้! มันไม่ใช่เรื่องจริง ! มันจะมีพลังมากขนาดนี้ได้ยังไง!"เจียงยี่ชุน ไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เขาตะโกนคำรามในใจของตนเอง

"สัตว์ประหลาด เย่เฉินเฟิง คนนี้เป็นสัตว์ประหลาดอย่างเเท้จริง ความสามารถของเขาเหนือกว่า ฟูเหยาเยวี่ย เเละ หลินฟูซิน อย่างเเน่นอน"อาวุโสถาน อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกเมื่อเห็นผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ของ เย่เฉินเฟิง

ด้วยความเเข็งเเกร่งเเละพรสวรรค์ที่เขาเเสดงออกมา อาวุโสถานเชื่อว่า ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เขาจะสามารถติดอันดับหนึ่งใน 10 อันดับเเรกทำเนียบเพลิงผลาญฟ้าได้

ที่สำคัญก็คือเขามีอายุเพียงเเค่ 15 ปี ทั้งยังเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุดในบรรดาบุคคลที่ติดรายชื่อทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า

ขณะที่ทุกคนต่างตกตะลึงกับตำเเหน่งที่ท้าทายสวรรค์ของ เย่เฉินเฟิง,จู่ ๆ เย่เฉินเฟิง ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด เขาก็ได้เดินออกมาจากประตูเพลิง

"ข้าสามารถทำคะแนนได้สูงมากถึง 1,357 คะแนน"เย่เฉินเฟิง ที่อ่อนเเอ เขาได้กู้พลังวิญญาณกลับมาได้บางส่วน เขารีบคลานลุกจากพื้นเเล้วเดินไปที่ห้องโถงใหญ่

"ในที่สุดก็ออกมา"

เมื่อพวกเขาเห็น เย่เฉินเฟิงที่ปกคลุมไปด้วยเลือดเเละเต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่รุนเเรง หลายคนในที่เเห่งนี้ต่างรู้สึกเคารพในตัวของเขามากขึ้น

"เย่เฉินเฟิง เจ้าทะลวงระดับขั้นพลังได้?"อาวุโสหลิวกล่าวถามอย่างตกใจ เมื่อเขาสังเกตุเห็นความเปลี่ยนเเปลงในการบ่มเพาะพลังของ เย่เฉินเฟิง

"ใช่,ข้าโชคดีเเละประสบความสำเร็จระหว่างการทดสอบภายในพื้นที่วิญญาณสวรรค์"เย่เฉินเฟิง พยักหน้าเเละกล่าวพูดอย่างสุภาพ เขาหันไปทาง เจียงยี่ชุน เเละ จ้องมองเขาอย่างรวดเร็ว"เจียงยี่ชุน ข้าคงปล่อยให้เจ้ารอนานเลย เอาล่ะเมื่อข้าฟื้นตัวเสร็จพวกเราจะไปที่ลานประลองวิญญาณกัน"

"ครั้งนี้ข้าได้รับบาดเจ็บอย่างหนักคงไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้"เจียงยี่ชุน กล่าวพูดด้วยเสียงบูดบึ้ง

ความเเตกต่างระหว่างทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้านั้นใหญ่มาก เเละ เจียงยี่ชุน ก็อยู่ในเเถวลำดับที่ 50 ในขณะที่ เย่เฉินเฟิง ได้อยู่ในเเถวอันดับที่ 40 นี่เเสดงให้เห็นถึงความเเตกต่างระหว่างความเเข็งเเกร่งของทั้งสองคน

เนื่องจากความเเตกต่างที่มีมากเกินไป เจียงยี่ชุน จึงไม่กล้าที่จะ ลงประลองกับ เย่เฉินเฟิง

"อะไรเจ้ากลัว?"มุมปากของ เย่เฉินเฟิง ยกขึ้นเล็กน้อยเเละเผยรอยยิ้มที่น่ากลัว

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เปื้อนเลือดบนใบหน้าของ เย่เฉินเฟิง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือดเเละดวงตาที่ชั่วร้ายในสายตาของเขา เจียงยี่ชุน รู้สึกหวาดกลัวอย่างเเท้จริง เขาเสียใจอย่างมากที่เชื่อ เสิ่นถู๋เฮิง เเละ มายั่วยุ เย่เฉินเฟิง

"เย่เฉินเฟิง ข้ายอมรับว่าความเเข็งเเกร่งของข้าด้วยกว่าเจ้า ดังนั้นข้าจะไม่ขอท้าประลองกับเจ้า"เจียงยี่ชุน ยิ้มเผยให้เห็นฟันของเขา เขาลดระดับศีรษะลงเเละยอมรับความพ่ายเเพ้ต่อหน้าทุกคน

"เจียงยี่ชุน เจ้าคิดที่จะกลับคำพูด ความภาคภูมิใจก่อนหน้านี้ของเจ้าไปไหนหมด เเละ ที่เราเชิญอาวุโสถานมาร่วมเป็นพยานคืออะไรเจ้าลืมเเล้ว?"

เห็น เจียงยี่ชุน เลือกที่จะยอมเเพ้ เย่เฉินเฟิง ที่ไม่ต้องการปล่อยเขาไป เขาได้กล่าวพูดอย่างหงุดหงิด

"เจียงยี่ชุน นิกายเพลิงผลาญฟ้าของเรามีกฏที่ระบุไว้ว่า หากเจ้ายกเลิกการเดิมพัน เจ้าจะต้องเสียผลึกวิญญาณ 500 ก้อน เพื่อชดเชยอีกฝ่าย"อาวุโสถาน กล่าวพูดขึ้นอย่างช้า ๆ

"ข้ายินดีมอบผลึกวิญญาณ 500 ก้อน"เมื่อคิดเกี่ยวกับอันดับที่ท้าทายสวรรค์ของ เย่เฉินเฟิง เจียงยี่ชุน ไม่กล้าที่จะต่อสู้กับเขา ที่สำคัญก็คือเขากลัวว่า เย่เฉินเฟิง จะใช้โอกาสนี้ในการทำให้เขาพิการ ดังนั้นเขาจึงยอมมอบผลึกวิญญาณระดับต่ำ 500 ก้อนเเต่โดยดี

"อาวุโสหลิว,อาวุโสถาน เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน"

เเม้ว่าเขาจะไม่ได้รับโอกาสสั่งสอนบทเรียนให้กับ เจียงยี่ชุน เเต่ในเมื่อได้ผลึกวิญญาณระดับต่ำมา 500 ก้อน มันก็คุ้มค่าอย่างมาก เย่เฉินเฟิง รับเอาผลึกวิญญาณระดับต่ำ 500 ก้อนมา ก่อนที่จะใส่ในถุงจักรวาลของเขาเเละหันหลังกลับไป

ไม่นานหลังจาก เย่เฉินเฟิง ออกจากพื้นที่วิญญาณสวรรค์ ข่าวผลลัพธ์การจัดอันดับที่ท้าทายสวรรค์ของเขา ก็เเพร่กระจายไปทั่วนิกายเพลิงผลาญฟ้าเเห่งนี้ ,ในนิกายเพลิงผลาญฟ้าเเทบจะไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของเขา

"พี่สามท่านได้ยินข่าวหรือไม่ เย่เฉินเฟิงสามารถได้รับอันดับที่ 39 บนทำเนียบเพลิงผลาญฟ้าตั้งเเต่การทดสอบครั้งเเรก อีกทั้งเขายังมอบความอัปยศให้กับ เจียงยี่ชุน จนทำให้เขาสูญเสียผลึกวิญญาณระดับต่ำ 500 ก้อน"เมื่อได้ยินข่าวผลลัพธ์ที่ท้าทายสวรรค์ของ เย่เฉินเฟิง,เสิ่นถู๋เสวี่ย,เสิ่นถู๋เย่ รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก สิ่งเเรกที่พวกเขาทำก็คือไปที่ลานเล็ก ๆ ที่ เสิ่นถู๋เฮิง พักอาศัยอยู่

"ข้ารู้เเล้ว"เสิ่นถู๋เฮิง พยักหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง ไม่มีใครสามารถคาดเดาความคิดในใจของเขาตอนนี้ได้อย่างเเท้จริง

"พี่สาม ไอ้เด็กนี่เป็นภัยคุกคามต่อพวกเรามากเกินไป พวกเราจะต้องกำจัดเขาไม่งั้นมันจะกลายเป็นภัยคุกคามขนาดใหญ่ต่อจิตใจของพวกเรา"เสิ่นถู๋เสวี่ย พูดอย่างร้ายกาจ

"ข้าเข้าใจ"เสิ่นถู๋เฮิง กล่าวตอบรับด้วยน้ำเสียงต่ำ"พรสวรรค์ของ เย่เฉินเฟิง นั้นอาจดึงดูดความสนใจของตำหนักหลวง ถ้าเกิดพวกเราไม่รีบกำจัดเขาในตอนนี้มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับพวกเรา"

"ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะทำยังไงกันดี?พวกเราทำได้เพียงเเค่รอดูการเติบโตของมันอย่างงั้นเหรอ?"เสิ่นถู๋เสวี่ย พูดอย่างไม่เต็มใจ

"ข้าจะไปหาพี่สองเเละถามเขาว่าเขาพอจะมีวิธีจัดการหรือไม่"เสิ่นถู๋เฮิง คิดไตร่ตรองเล็กน้อยจากนั้นก็เตรียมตัวออกเดินทางไปยังลานที่ เสิ่นถู๋กวง อาศัยอยู่ เพื่อหารือเกี่ยวกับเเผนการจัดการ เย่เฉินเฟิง