ตอนที่ 57 การหาเงิน
ไม่ว่าจะเป็นใคร เมื่อมีใครบางคนเรียกคุณในฐานะปรมาจารย์ คุณจะต้องตกใจอย่างแน่นอน
"ท่านต้องเป็นจอมยุทธ์ยีนเป็นแน่ ผมเฝ้าดูท่านกำจัดสัตว์ประหลาด และพบว่าท่านทำการทดลองสูตรทางพันธุกรรมหลายประเภทอย่างต่อเนื่อง!" ชายผมสีเงินพูดอยู่คนเดียว "ผมขอเสนอ 500 เหรียญดาราเพื่อซื้อโมดูลยีนแรกเริ่มได้ไหม?"
อะไรกัน? มีเรื่องดีๆอย่างงี้ด้วยหรอ?
เฟิงหลินเองก็งง
โมดูลยีนเป็นอุปกรณ์เสริมเสมือนจริง และสามารถหาได้โดยไม่ต้องใช้เงิน แต่ตอนนี้มีคนเต็มใจที่จะจ่าย 500 เหรียญดาราเพื่อมันซื้อจากเขา?
ชายคนนี้เข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้บ่มเพาะที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาวิวัฒนาการของยีน?
เฟิงหลินคิดว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น
แต่ช่วยไม่ได้ ด้วยสมการทางพันธุกรรมของเขา เขาเป็นนักพันธุศาสตร์โดยกำเนิดอย่างแท้จริง ไม่น่าแปลกใจที่คนอื่นจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวตนของเขา
เนื่องจากข้อตกลงดีๆเช่นนั้น เขาจะไม่ยอมพลาดมัน
ไม่ว่าในกรณีใด เขาได้ทดสอบพลังของโมดูลยีนทั้งหมดของเขาแล้ว และรู้วิธีพัฒนาพวกมัน หากเขาต้องการ เขาสามารถรวบรวมใหม่ได้ตลอดเวลา เนื่องจากเขาสามารถใช้โมดูลยีนเหล่านี้เพื่อแลกเป็นเงินจริงได้ ทำไมเขาจะไม่ตกลงล่ะ?
"ได้!" เฟิงหลินพยักหน้า
"ท่านตกลงแล้วนะ?" ชายผมสีเงินคนนั้นมีความสุขมาก เขามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ“งั้นก็มาแลกเปลี่ยนกัน”
"คุณต้องการโมดูลยีนประเภทไหน?" เฟิงหลินเปิดหน้าต่างสถานะของเขา และแสดงโมดูลยีนแรกเริ่มของเขาให้ชายผมเงินดู
ผู้คนในบริเวณรอบๆทั้งหมดมองมา และทุกคนก็ตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ มีแสงทั้งหมด36ลูกลอยอยู่ในนั้น มันคือโมดูลยีน 36 ชนิด ซึ่งแสดงเส้นทางการบ่มเพาะทางพันธุกรรมทั้งหมด 36 เส้นทาง
ผู้ชายคนนี้รู้จักสูตรทางพันธุกรรมกี่สูตรกันแน่?
ต้นแบบการต่อสู้ทางพันธุกรรม! ผู้ชายคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ทางพันธุกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย และเขาก็คือผู้เชี่ยวชาญในหมู่นักพันธุศาสตร์!
"ผมต้องการอันนี้ อันนี้ และอันนี้ ผมต้องการทั้งหมดนี่!" ในขณะนี้ชายผมสีเงินตาเป็นประกาย เขาไม่รู้ว่าเขาต้องการอันไหนแน่ "ปรมาจารย์ ผมสามารถซื้อโมดูลยีนมากกว่าหนึ่งโมดูลได้ไหมครับ?"
"แน่นอน!" เฟิงหลินพยักหน้า ยิ่งขายได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เงินเพิ่มมากเท่านั้น เขาเต็มใจที่จะขาย
สีหน้าของชายผมสีเงินคนนั้นดีใจมาก การตัดสินของเขานั้นเป็นเรื่องดี เขาตัดสินใจซื้อโมดูลยีนทั้งหมดห้าโมดูลในครั้งเดียว เขาซื้อยีนพายุ,ยีนแมกมา, ยีนปืนใหญ่อากาศ, ยีนสัตว์เลื้อยคลาน และยีนมนุษย์ต้นไม้
จักรวาลเสมือนจริงเชื่อมต่อกับจักรวาลจริง ไม่มีเหรียญเสมือน ทุกคนใช้เงินจริง
เฟิงหลินบอกเลขบัญชีธนาคารของเขา ไม่นานเขาก็ได้รับ 2,500 เหรียญดารา
ชายผมสีเงินเก็บโมดูลยีนที่เขาซื้อมาอย่างมีความสุข ดวงตาของเขาเปล่งประกาย และถามอย่างเป็นกันเอง "ท่านปรมาจารย์ ยีนพื้นฐานใดที่ท่านใช้เพื่อรวบรวมยีนพายุงั้นหรอครับ?"
เมื่อได้ยินคำถามนี้ เฟิงหลินก็มองเขา คำตอบเดียวของเขาคือ "ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"
เขาไม่ได้เปิดเผยอะไรเลย
มันเป็นเรื่องตลก
โมดูลยีนไม่มีค่าอะไรเลย สิ่งที่มีค่าจริงๆคือสูตรทางพันธุกรรม ชายคนนี้ต้องการสูตรทางพันธุกรรมด้วยเหรียญเพียง 500 เหรียญดารานะหรอ?
แม้แต่ 5,000 เหรียญดาราก็ยังไม่พอ!
มันจะเป็นการกระทำที่โง่มากถ้าเขาเปิดเผยความลับ?
สูตรทางพันธุกรรมอาจดูเรียบง่าย แต่จริงๆแล้วมันเป็นสิ่งที่จะต้องวิจัยและพัฒนาจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน ความยากในการสร้างสูตรทางพันธุกรรมนั้นสูงมาก
ตัวอย่างเช่น:
ยีนกระแสลม x2 + ยีนกลุ่มเมฆ x3 + ยีนความชื้น x1 = ยีนน้ำค้างแข็ง
ยีนกระแสลม x3 + ยีนกลุ่มเมฆ x4 + ยีนความชื่น x4 = ยีนฝน
หลายคนเข้าใจว่ายีนกระแสลม, ยีนกลุ่มเมฆ และยีนความชื้นนั้นสามารถรวมกันเป็นยีนสองชุดที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้สูตรทางพันธุกรรมอีกสามสูตรต่อไปนี้
ยีนกระแสลม x4 + ยีนกลุ่มเมฆ x2 + ยีนความชื้น x1 = ยีนเฮอร์ริเคน
ยีนกระแสลมx2 + ยีนกลุ่มเมฆ x5 + ยีนความชื้น x4 = ยีนพายุ
ยีนกระแสลม x6 + ยีนกลุ่มเมฆ x7 + ยีนความชื้น x5 = ยีนพายุ
สำหรับสาเหตุที่คนอื่นไม่รู้ว่ามีสูตรยีนเพิ่มอีกสามชุดนั่นเป็นเพราะมีคำพูดในการบ่มเพาะว่า –การเติมน้ำในลำธารย่อมสูญเปล่า
เมื่อความเข้มแข็งของยีนมีมากเกินไป มันจะไม่มีทางกลับกระบวนการเสริมสร้างได้เว้นแต่จะใช้เทคนิคปฏิเสธยีนเพื่อกำจัดยีนที่ถูกกระตุ้น นอกจากนี้ หากใช้เทคนิคนั่น มันก็หมายความว่าพวกเขาจะไม่อาจปลุกยีนในตนำนานนั้นไดดด้อีกครั้ง แถม ร่างมนุษย์ยังไม่อาจทนต่อการใช้เทคนิคปฏิเสธยีนได้ลหายครั้ง ในกรณีร้ายแรง การใช้มากเกินไปอาจทำให้บุคคลนั้นพิการ
ไม่ว่าในกรณีใด จักรวาลเสมือนเป็นเพียงการจำลองความเป็นจริงของสิ่งต่างๆ ไม่สามารถสร้างแบบสุ่มได้ หากไม่มีข้อมูลที่เหมาะสมในการสนับสนุน
หากคุณไม่ทราบสูตรทางพันธุกรรมที่แน่นอน และเพิ่มความแข็งแกร่งให้ยีนแบบสุ่ม จักรวาลเสมือนจริงก็จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะประกอบชุดยีน
ดังนั้นสำหรับการพัฒนาสูตรทางพันธุกรรมใหม่ๆทุกอย่าง ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทางไปตามเส้นทางการบ่มเพาะของผู้คนนับไม่ถ้วนคือราคาที่ต้องจ่าย นอกจากนี้ยิ่งยีนมีความเข้มแข็งมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งทำให้คนๆนั้นแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ใครคนหนึ่งต้องมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมก่อนถึงจะทำได้
ตัวอย่างเช่นเส้นทางการวิวัฒนาการของเฟิงหลิน: ยีนลิง x10 + ยีนหิน x10 = ยีนลิงหิน มันดูเรียบง่าย แต่คนทั่วไปของยุคระหว่างดวงดาวที่ปลุกยีนพื้นฐานเหล่านี้จะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งถึง 10 จุดได้อย่างไร?
แม้แต่ผู้ฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมและมีอำนาจก็ยังไม่ค้นพบสูตรนี้ อะไรคือเหตุผลเบื้องหลังสิ่งนี้?
คำตอบนั้นง่ายมาก!
เพราะทั้งยีนลิง และยีนหินนั้นเป็นยีนขั้นพื้นฐานที่ต่ำที่สุด ปกติแล้วมันจะเป็นเรื่องยากที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งเกินสามจุด นี่เป็นข้อจำกัดของมนุษยชาติ ไม่มีใครจะเสียคะแนนพันธุกรรมของพวกเขาไปกับยีนขยะเหล่านี้
เหมือนกับชายคนหนึ่งอยากเป็นยักษ์ เขาก็จะต้องสูงถึงสามเมตร แต่จะทำได้ยังไง?
ทุกคนรู้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นยักษ์หากพวกเขาสูงถึงสามเมตร แต่ทำไมถึงต่อให้มีงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จำนวนมาก แต่คนก็ยังสูงไม่ถึงสามเมตร?
บางครั้งมันไม่ใช่ว่ามนุษย์ไม่สามารถคิดคำตอบได้ มันแค่เพียงมีคนบอกคุณว่าไม่สามารถทำได้
และสมการทางพันธุกรรมของเฟิงหลินมีความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้อย่างแม่นยำ ตราบใดที่เขามีจุดพันธุกรรมเพียงพอ เขาก็สามารถฝ่าข้อจำกัดของสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ นี่เป็นข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าอย่างแท้จริงของสมการทางพันธุกรรม มันสามารถอนุมานสูตรทางพันธุกรรมที่ไม่รู้จักและอนุญาตให้เฟิงหลินเจาะผ่าน ตราบเท่าที่เขามีจุดพันธุกรรมเพียงพอ!
หากไม่มีความสามารถสูงพอ มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะอนุมานถึงขีดจำกัดการเสริมสร้างความเข้มแข็งของยีนระดับต่ำสองยีนนี้ และความจริงที่ว่าพวกมันสามารถรวมเข้ากับยีนลิงหินได้ อย่างไรก็ตาม สมการทางพันธุกรรมสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างแม่นยำ
ผู้ที่ไม่มีสมการทางพันธุกรรมนั้น ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับความสามารถเท่านั้น หรือเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับจุดคะแนนที่มากมาย
อัจฉริยะเมื่อเทียบกับคนโง่ ; สิ่งต่างๆเกิดขึ้นอย่างไม่ยุติธรรม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเอง พรสวรรค์ที่จะกำหนดว่าจินตนาการของพวกเขาสามารถยืดไปได้ไกลแค่ไหน ดังนั้นมันจึงเป็นไปได้ที่ผู้มีพรสวรรค์สูงจะทำการค้นพบสูตรพันธุกรรมระดับสูงได้
ท้ายที่สุด ทุกคนไม่ได้มีสมการทางพันธุกรรมที่แย่ จากสิ่งนี้ จะเห็นได้ชัดว่าเฟิงหลินได้เปรียบอย่างท่วมท้นบนเส้นทางการบ่มเพาะพันธุกรรม
...
เฟิงหลินยังหัวเราะต่อ
ชายผมสีเงินคนนี้เข้าใจว่าความคิดของเขาถูกเฟินหลินมองเห็น เขาเขินอายและเพื่อซ่อนความอึดอัดบนใบหน้าเอาไว้ เขาก็รีบส่งคำขอเป็นเพื่อน
"ปรมาจารย์มาเพิ่มเพื่อนกัน ในอนาคตหากท่านมีข้อตกลงดีๆแบบนี้ คุณสามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา ผมจะซื้ออีกแน่นอน!"
เขาใช้เงินอย่างไร้สาระเช่นนี้ เฟิงหลินพยักหน้ารับคำขอเป็นเพื่อน จากนั้นรหัสเสมือนก็ปรากฏแคตตาล็อกเพื่อนของเขา "พระเจ้าผมเงินของระบบดาว อัลแทร์!"
เฟิงหลินมองชายผมเงินด้วยใบหน้าแปลกประหลาด เราต้องไม่ตัดสินใครจากรูปร่างหน้าตาของเขา
ชายคนนี้เป็นคนที่หล่อมาก ใครจะคิดว่าเขาจะมีชื่อหลงตัวเองเช่นนี้
"ปรมาจารย์ ผมต้องการโมดูลยีนอันนี้!"
"ผมต้องการอันนี้!"
“อย่าเอาไปหมดสิ เหลือไว้ให้ฉันบ้าง!”
...
และตอนนี้เมื่อเห็นการซื้อของชายผมเงิน คนอื่นๆก็เรียงกันมาตามลำดับ และเริ่มเลือกซื้อโมดูลยีนที่พวกเขาต้องการจากเฟิงหลิน
เฟิงหลินยอมรับคำขอทั้งหมด และอย่างรวดเร็ว โมดูลยีนทั้งหมดสามสิบหกอย่างก็ถูกขายจนหมด เขาได้รับเหรียญดาราทั้งหมด 18,000 เหรียญ
แถวนี้มีคนรวยเยอะจริงๆ ใครจะคิดว่าอุปกรณ์เสริมยีนเสมือนมีค่ามากขนาดนี้
เฟิงหลินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะได้รับเงินจากการเล่นเกม
นี่เป็นเงินที่ได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลย
แต่หลังจากที่เขาคิดไปคิดมาสิ่งต่างๆก็สมเหตุสมผล จักรวาลเสมือนไม่ได้เป็นเพียงแค่เกม มันเป็นโลกที่สองสำหรับมนุษย์ที่มีความสมจริงอย่างไม่น่าเชื่อ
เนื่องจากเขาสามารถหาเงินได้ที่นี่ เฟิงหลินจึงสงสัยในการตัดสินใจของเขาที่จะไปฝึกงานด้านพันธุกรรม
แต่เขาก็ละทิ้งช่วงเวลาแห่งความสงสัยและความลังเลของเขาทันที ยืนยันการติดสินใจของเขาให้ชัดเจนมากขึ้น
ไม่มีอะไรไม่ใช้เงิน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะสามารถทำทุกอย่างได้ถ้ามีเงิน
ความรู้ประเมินค่าไม่ได้ ความรู้คือสิ่งที่เงินไม่อาจซื้อได้ ตัวอย่างเช่นความรู้ของนักพันธุศาสตร์
มีเพียงการฝึกงานในบริษัทยาใจแอนท์เท่านั้นที่จะทำให้เขาสามารถเข้าใจระบบพันธุกรรม และเพิ่มพูนความรู้ของเขาต่อไป
อย่างไรก็ตาม เส้นทางการทำเงินในจักรวาลเสมือนนี้ก็ไม่เลว เขาจะไม่ยอมแพ้ทั้งสองทาง
เขาสามารถขายโมดูลยีนที่เขาประกอบขึ้นมาในร้านค้าเสมือนจริง นี่คือการใช้สมการทางพันธุกรรมของเขาเพื่อหารายได้ และไม่มีใครสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของสูตรทางพันธุกรรมของเขาได้ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
เมื่อเฟิงหลินพร้อมที่จะไล่ล่าสัตว์ประหลาดต่อไปเพื่อหายีน เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น
"ครบหกชั่วโมงแล้ว ข้อห้ามการเข้าถึงมีผลบังคับใช้ เริ่มต้นระบบออฟไลน์! ... "
จักรวาลเสมือนของเขาสั่นคลอน ในขณะที่ทั้งหมดกลายเป็นกล่มก้อนข้อมูลและสลายไปจากวิสัยทัศน์ของเขา
"หมดเวลา!" เฟิงหลินถอนหายใจอย่างน่าสงสาร เขาหมกมุ่นอยู่กับการทดลองจนไม่รู้ตัวว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน
เขาไม่สามารถยอมรับคำเชิญเพื่อนทั้งหมดที่ 'ลูกค้า' ส่งมาได้ ทันใดนั้นร่างของเขาก็เปลี่ยนเป็นลำแสงและหายไป
"อ้าว ทำไมเขาถึงหายไปเร็วขนาดนี้ละ?" ทุกคนดูประหลาดใจและเสียใจ
เฟิงหลินค่อยๆลืมตาขึ้นและมองไปนอกห้องโดยสารของเขา
ยานอวกาศยังคงเดินทางด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้สามารถมองเห็นดาวเคราะห์สีแดงสดต่อหน้าเขา บนพื้นผิวของดาวเคราะห์เป็นลูกคลื่นของภูเขาสีเขียว สามารถมองเห็นได้เมื่อยานอวกาศมุ่งสู่ท่าจอดยาน
เขามาถึงดาวอังคารแล้ว!