บทที่ 32: ศีลธรรม?
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 32: ศีลธรรม?
มู่หนิงเซวียที่ได้ยินอย่างนั้น เธอขมวดคิ้วแน่นทันที
“ฉันมีลูกบุญธรรมอยู่คนหนึ่ง ชื่อหยู่อั๋นอายุเท่ากับเธอ ใช่… เขาจะเป็นคนที่ต่อสู้กับโม่ฝาน!” มู่โจวอวิ๋นกล่าวออกมาเนิบๆ
“หรือ…” มู่หนิงเซวียพยายามจะที่กล่าวอะไรออกมา
แต่มู่โจวอวิ๋นไม่เปิดโอกาสให้เธอได้มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น เขาหันไปหาเติ้งข่ายทันที “เติ้งข่าย ฉันรู้ว่านายจะต้องดูแลเด็กใหม่นี่ แต่เด็กคนนี้มันดูหมิ่นฉัน เมื่อกี้นายก็ได้ยินแล้วสินะ ฉันนั้นไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้เพราะมันเป็นการรังแกเด็ก เช่นนั้นฉันจะให้เขาสู้กับลูกบุญธรรมของฉัน เอาล่ะ ถ้าหากว่ามันแพ้ ก็จงเตรียมคำขอโทษไว้ซะเพราะเขาจะได้ทำมันจนกว่าฉันจะพอใจ! ถ้าหากเขาชนะ ฉันจะยอมขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อามปีที่แล้ว ฉันโจวอวิ๋นขอเดิมพัน!”
มู่ไป๋และมู่เห่อได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทั้งสองทันที
หยู่อั๋น! พี่ชายหยู่อั๋น!!!
สำหรับมู่โจวอวิ๋นแล้ว การที่มู่หนิงเซวียนั้นก้าวออกมาเพื่อออกหน้าแทนเขานั้นเป็นการช่วยเหลือโม่ฝาน เขามองมันออกอย่างง่ายดายว่าบุตรสาวของตนเองนั้นไม่ได้จริงใจ
จะเป็นไปได้อย่างไรที่มู่โจวอวิ๋นจะดูไม่ออกว่ามู่หนิงเซวียนั้นยังห่วงใยโม่ฝาน แม้ว่าลูกสาวของเขาจะไม่เต็มใจที่จะให้เขาทำเช่นนี้ แต่เขาก็จะไม่มีทางปล่อยให้โม่ฝานทำตัวดื้อด้านต่อไปอย่างแน่นอน เขาจะต้องจัดการ!
หยู่อั๋นนั้นเป็นนักเวทย์ที่บ้าพลังอย่างมาก เขาคลั่งไคล้การฝึกฝนแบบโหดร้าย ทารุณ ถ้าหากโม่ฝานได้พบเจอกับหยู่อั๋น… เขาจะไม่ยอมให้โม่ฝานมีลมหายใจต่อไปอย่างแน่นอน!!!
“สมาคมเวทมนตร์นั้นได้กำหนดไว้ว่าการที่จะดวลเวทย์กัน ทั้งคู่จะต้องมีอายุสิบแปดปี ดังนั้นฉัน… เติ้งข่ายจะขอเป็นพยานการดวลในครั้งนี้เอง โม่ฝานและหยู่อั๋นจะต่อสู้กันเมื่อทั้งสองคนอายุสิบแปดปีบริบูรณ์!” เติ้งข่ายประกาศออกมาเสียงดัง
มู่โจวอวิ๋นพยักหน้ารับข้อเสนอนี้
โม่ฝานพยักหน้าเช่นกันและไม่ลืมที่จะกล่าว “อืม… ให้ผมสู้กับผู้หญิง ก็คิดอยู่แล้วว่ามันคงจะไม่ถนัดมือ เปลี่ยนเป็นผู้ชายก็ดี ผมไม่รู้จักเขาและไม่ต้องออมมือ!”
มู่โจวอวิ๋นที่ได้ยินโม่ฝานพ่นสิ่งเหล่านั้นออกมา เขายิ่งโกรธจัดพร้อมกระตุกเคราตนเองทันที
‘รอก่อนเถอะ เมื่อแกอายุสิบแปดปี ศักดิ์ศรีและความปากเก่งของแกในวันนี้… ฉันจะบดขยี้มันเอง!’
........
สมาคมเวทมนตร์และสมาคมนักฆ่านั้นมีเงื่อนไข ซึ่งเป็นกฎกติกาสำหรับการอยู่ร่วมกัน โรงเรียนก็ด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่าเด็กนักเรียนยังอายุไม่ถึงสิบแปดปี ทั้งหมดจะต้องอยู่ในความดูแลของอาวุโสเท่านั้น ถ้าหากอายุสิบแปดปีแล้ว พวกเขาจะถือว่าเป็นนักเวทย์ผู้ใหญ่ที่สามารถตัดสินใจและรับผิดชอบการกระทำของตนเองได้อย่างสมบูรณ์
มู่โจวอวิ๋นนั้นไม่สามารถจะรังแกให้โม่ฝานตายตกไปได้ด้วยอายุเพียงสิบหกปี หลังจากนี้อีกสองปีไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะไม่ปล่อยให้โม่ฝานตายก่อนการประลองจะเกิด!
......
ในขณะนี้มู่โจวอวิ๋นโกรธอย่างมาก แน่นอนว่าผู้นำคนอื่นๆกำลังปลอบประโลมให้เขาใจเย็นลง มู่โจวอวิ๋นนั้นสะบัดหน้าและเดินออกไปทันที
ในขณะที่มู่หนิงเซวียกำลังจะออกไป เธอมองไปที่โม่ฝานอย่างลึกลับราวกับมีสิ่งใดจะพูดกับเขา… แต่ก็ไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร สุดท้ายเธอก็จำเป็นต้องเดินออกไปโดยเหลือทิ้งไว้เพียงสายตาที่วิงวอน
โม่ฝานนั้นรู้ดีว่ามู่หนิงเซวียพยายามจะช่วยเขา
แน่นอนว่าทุกอย่างจะง่ายดายถ้าหากเธอเป็นคนออกมาแก้ไขมันเอง แต่สิ่งนั้นกลับถูกมองเห็นโดยมู่โจวอวิ๋น เธอจึงไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป เธออยากจะแก้ไขความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ในวันนั้นพ่อของเธอทำให้ครอบครัวของโม่ฝานต้องตกต่ำจนถึงที่สุด…
แต่สุดท้ายแล้วความพยายามของเธอก็สูญเปล่าเมื่อมันถูกตรวจพบโดยมู่โจวอวิ๋น!
มู่โจวอวิ๋นนั้นรู้ว่ามู่หนิงเซวียจะต้องปราณีกับโม่ฝานอย่างมาก เช่นนี้เขาจึงเปลี่ยนคน ตระกูลมู่นั้นมีศิษย์มากมายที่พร้อมจะต่อสู้กับโม่ฝาน เช่นนี้หยู่อั๋นจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด เขาเป็นคนที่มู่โจวอวิ๋นไว้ใจอย่างมาก แม้ว่ามู่โจวอวิ๋นจะบอกให้เขาสังหารโม่ฝาน เขาก็จะไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย!
มู่โจวอวิ๋นไม่อาจไว้ชีวิตเขาได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่มันเกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรี รอให้ถึงเวลาก่อน… ในสองปีนี้เขาจะได้เสพสุขอยู่ในโรงเรียนอย่างสบายใจและไม่ต้องกังวล แต่หลังจากนั้น… เขาจะต้องพบเจอกับความเจ็บปวดที่แท้จริง!!!
......
ในที่สุดพายุก็สงบลงแล้ว
นักเรียนทั้งหมดมองไปที่โม่ฝานอย่างประหลาดใจ ราวกับพวกเขาไม่รู้จะพูดเรื่องไหนก่อนดี… เรื่องพลังของเขาหรือเรื่องที่เขาเพิ่งทำเมื่อล่าสุดกันนะ?
‘โม่ฝานมันโคตรบ้าเลยว่ะ! บ้าไปแล้ว!’
อะไรคือการต่อสู้กับตระกูลมู่? ตระกูลที่มีพันธมิตรมากมายขนาดนั้น เพียงแค่กระดิกนิ้วก็สามารถบดขยี้นักเวทย์ทั้งโรงเรียนได้อย่างง่ายดาย…
มู่ไป๋นั้นแม้ว่าเก่งกาจและไม่เป็นโรงใครในโรงเรียนและเป็นเด็กจากครอบครัวที่ดี แต่ทว่าสิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือเขากลับไม่ใช่คนโปรดของตระกูล เป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น!ช
ในวันนี้ทุกคนนั้นประหลาดใจกับการแสดงความสามารถของโม่ฝานอย่างมาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถนำพลังที่อ่อนแอของตนเองไปยั่วยุตระกูลใหญ่ได้!
เฮ้อ ในตอนแรกเขานั้นกระโดดเข้าประตูของมังกร แต่ในตอนนี้ราวกับเขากำลังร่วงหล่นไปในเหวลึกซะแล้ว
ใครจะไปรู้ว่าตระกูลมู่นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน อีกทั้งในอนาคตเขาอาจจะครอบครองเมืองเล็กๆนี่อย่างเต็มไม้เต็มมือจริงๆก็ได้
แน่นอนว่าเมื่อโม่ฝานยังอยู่ในโรงเรียน เขาจะสุขสบายดีและทุกอย่างจะยังคงปกติ!
แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเขาเรียนจบจากโรงเรียน ผู้คนมากมายจ้องจะเล่นงานเขาอยู่ที่ด้านนอกอย่างมหาศาลแน่นอน กล่าวได้ว่าในตอนนี้โม่ฝานได้สร้างศัตรูกับเมืองนี้แล้ว!
......
“พี่ฝาน พี่โคตรเท่ห์เลย! พวกเราน่ะกลัวว่ามู่โจวอวิ๋นจะโกรธจัดจนตายซะแล้ว พวกเราน่ะกลัวเขามาก แต่พี่กลับเรียกเขาว่าไอ้ขี้โกง ไอ้บัดซบได้อย่างชัดเจน ฮ่าฮ่าฮ่า ถึงพวกเราจะอยากพูดอย่างนั้น แต่ที่จริงแล้วก็ไม่มีใครกล้าอย่างพี่ฝานสักคน!” จางหู่นั้นกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยแต่เขานั้นยกย่องโม่ฝานอย่างมาก
โม่ฝานนั้นเป็นผู้นำความยุติธรรมตั้งแต่วัยเด็กแล้ว จ้าวคุณซานนั้นเคยร่วมมือกับโม่ฝานมาก่อน แต่หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น จ้าวคุณซานย้ายฝั่งไปอยู่กับมู่ไป๋ทันที เด็กๆหลายคนก็ไม่กล้าที่จะยุ่งกับโม่ฝานเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้น
แต่จางหู่นั้นภักดีต่อโม่ฝานอย่างมาก เขารักษาความสัมพันธ์ที่ดีนี้ไว้เสมอมา
จางหู่นั้นรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสามปีก่อน เมื่อเขาเห็นว่าโม่ฝานไม่เคยลืมและลุกขึ้นมาตอบโต้ เขายิ่งรู้สึกชื่นชมและมีหวังกับชีวิตมากขึ้น!
“ว่าแต่… แกเคยบอกใช่ไหมว่ามู่หนิงเซวียน่ะเคยชอบฉัน?” โม่ฝานกล่าวออกมาพร้อมเลิกคิ้วขึ้นอย่างเขินๆ
“อืม… เรื่องนั้นมันยากที่จะพูดนะ แต่ว่าพ่อของเธอนั่นแหละเป็นตัวปัญหาของทุกอย่าง!” จางหู่กล่าว
“ฮ่า วันนี้ฉันรู้สึกดีชะมัดเลย! ฉันจะไปที่โรงอาหารและรับไข่เจียวเพิ่ม!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าหากว่าพี่ได้เห็นหน้าของมู่ไป๋และจ้าวคุณซานนะ พี่จะมีความสุขมากกว่านี้อีก!” จางหู่กล่าวออกมาพร้อมกับล้อเลียนใบหน้าของทั้งสองที่บิดเบี้ยว
จ้าวคุณซานนั้นมีใบหน้าที่บิดเบี้ยวจนน่าเกลียดอย่างมาก เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าโม่ฝานจะมีระดับมากกว่าเขา!
สำหรับมู่ไป๋นั้นไม่ต้องกล่าวถึงเลย ในวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องแสดงความสามารถเพื่อเป็นศิษย์หลักของตระกูล แต่กลับไม่ได้รับความสนใจใดๆและกลายเป็นตัวสำรองเช่นเดิม
แต่แม้ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ มู่ไป๋ก็ยังพยายามประจบประแจงมู่เห่อ เขายังคงมีความหวังว่ามู่เห่อจะช่วยให้เขาได้รับตำแหน่งภายในตระกูลมู่บ้าง…
แต่ผลลัพธ์ในวันนี้ก็คือ ไอ้แก่บัดซบโจวอวิ๋นไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย แต่กลับมองไปที่โม่ฝานแทน มู่ไป๋กลายเป็นขยะภายในพริบตา แม้แต่มู่เห่อก็ยังมีใบหน้าที่บิดเบี้ยวแตกละเอียดไปด้วยเหมือนกัน!
เขานั้นไม่เข้าใจว่ามู่โจวอวิ๋นนั้นคิดอะไรอยู่ เมื่อสามปีที่แล้วเขาได้ปะทะฝีปากกับโม่ฝานไปแล้ว แต่ในวันนี้เขากลับกล้าที่จะชักชวนให้โม่ฝานเข้าร่วมเป็นสมาชิกของตระกูล คนที่ดื้อรั้นอย่างเช่นโม่ฝาน ต่อให้ตาย เขาก็ไม่มีทางยอมแพ้!
เหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้คงจะทำให้มู่โจวอวิ๋นคิดอะไรได้บ้าง!
“อย่างไรก็ตาม ถ้าหากผู้นำตระกูลมู่นำสินสอดทองหมั้นพร้อมกับเจ้าหญิงของพวกเขามามอบให้กับพี่เพื่อขอให้เข้าร่วมตระกูล พี่จะไม่สนใจจริงๆเหรอ?” จางหู่ถามออกมาอย่างไม่เชื่อถือ
“แน่นอนว่าไม่จริง ฮ่าฮ่า!”
“เฮ้อ พี่ฝาน พี่มีสัจจะบ้างไหมเนี่ย?”
“เฮ้ นี่แกกำลังพูดอะไรเนี่ย คุณธรรมงั้นเหรอ?” โม่ฝานกล่าวออกมาพร้อมกับลูบคางครุ่นคิด
“แล้วพี่มีคุณธรรมบ้างไหมล่ะ? หรือคิดว่าไม่มี?”
“อืม ในตอนนั้นฉันพูดไปอย่างนั้น ก็คือหมายความเช่นนั้นจริงๆ! แต่ถ้าฉันได้รับคำขอโทษจากไอ้จิ้งจอกเฒ่านั้นแล้ว ฉันคิดว่ามันจะเป็นการดีอย่างมากถ้าหากมู่หนิงเซวียจะมาคุกเข่าอยู่ใต้เข็มขัดของฉัน!” โม่ฝานกล่าว
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••