บทที่ 30: น้ำท่วมสมองเหรอ?
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 30: น้ำท่วมสมองเหรอ?
“ตระกูลมู่นั้นเพิ่งจะมีนักเวทย์ธาตุไฟมาเมื่อไม่นานนี้ แต่น่าเสียดายที่ทุกคนในตระกูลอยู่ในธาตุน้ำแข็งซะหมด พรสวรรรค์ธาตุไฟของเธอนั้นยอดเยี่ยม มันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ดังนั้นฉันจึงมีแผนที่จะมอบทรัพยากรต่างๆให้กับเธอโดยตรง นอกจากการเรียนในชั้นแบบปกติแล้ว เธอจะได้รับการฝึกฝนจากมู่เจียงหมิงด้วย” มู่โจวอวิ๋นกล่าวออกมาพร้อมกับลูบเคราของตนเองไปด้วย
คำพูดเหล่านี้นั้นมู่โจวอวิ๋นแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เขาพูดต่อหน้าทุกคน ในสายตาของมู่โจวอวิ๋นนั้นนี่คือการให้เกียรติโม่ฝานอย่างที่สุดแล้ว!
โม่ฝานนั้นไม่ได้เป็นคนของตระกูลมู่ การได้รับสิทธิเช่นนี้นับได้ว่าเขาจะสามารถก้าวกระโดดได้อย่างไร้ขีดจำกัด!
ในตระกูลนี้ เขาที่เป็นผู้นำของตระกูล ย่อมไม่อาจสนใจแต่เรื่องภายในได้ เขาจะต้องดูแลจัดการเหล่าบุตรหลานภายในตระกูลให้เข้มแข็งและหาบุคคลมาเสริมความแข็งแกร่งอยู่เสมอด้วยเช่นกัน
“เอ่อ… พี่ใหญ่ เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? แท้จริงแล้วมู่ไป๋นั้นมีพรสวรรค์ที่เด่นชัดยิ่งกว่า เขาอาจตึงเครียดและไม่สามารถดึงพลังออกมาได้อย่างชัดเจนในวันนี้ อีกทั้งเขายังเป็นเด็กภายในตระกูลของเรา…” มู่เห่อกล่าวออกมาอย่างโง่เขลา เขารีบโต้แย้งกับมู่โจวอวิ๋นทันที
ในตอนนี้มู่ไป๋นั้นรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงซากศพ และยังคงถูกทุบตีไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง หัวใจของเขาเจ็บปวดราวกับถูกลูกศรปักไว้นับพันดอก! ทุกอย่างมันผิดเพี้ยนไปหมด!
บัดซบ! เขาคือมู่ไป๋ที่ต้องการจะเป็นนักเวทย์หลักประจำตระกูลนะ!
มู่ไป๋พยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเป็นคนของตระกูลมู่อย่างแท้จริง เพื่อที่เขาจะได้รับทรัพยากรมากมาย เขาจะไม่กลายเป็นเด็กที่อยู่กึ่งกลางระหว่างรั้วอีกต่อไป!
แต่ในตอนนี้เขากลับไม่ได้รับอะไรเลย แต่คนที่ได้รับทุกอย่างไปคือคนที่เขาเกลียดมากที่สุด!
ราวกับจิตวิญญาณได้หลุดลอยไปแล้ว เหลือเพียงกายหยาบที่ไร้ความรู้สึก…
“ฉันตัดสินใจดีแล้ว แกไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วล่ะมู่เห่อ” มู่โจวอวิ๋นโบกมือให้กับมู่เห่อ จากนั้นเขาหันไปหาโม่ฝานด้วยรอยยิ้ม
สิ่งนี้ไม่ใช่เหรอที่จะทำให้แกมีความสุขน่ะ?
ยังไม่คิดที่จะขอบคุณฉันคนนี้อีกเหรอ?
มู่ไป๋รู้สึกพอใจในตัวเองที่ยอมลดสถานะของตนเองและยอมรับนักเรียนอัจฉริยะที่ยากจนคนนี้ ทำให้เขาดูเหมือนว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยความใจดี!
......
“โม่ฝาน เธอทำอะไรอยู่น่ะ? รีบขอบคุณในความเมตตาของอาจารย์มู่เร็วสิ” ชุ่ยมู่เชิงที่เป็นอาจารย์ประจำชั้นกล่าวกับโม่ฝานอย่างเร่งรีบ
เช่นนี้ยิ่งทำให้เด็กนักเรียนโดยรอบรู้สึกอิจฉามากยิ่งขึ้นไปอีก
ก่อนหน้านี้โม่ฝานเป็นเพียงขยะที่ไม่เคยมีใครสนใจ เขาอยู่ภายในทะเลกว้างใหญ่ที่ไร้แม้แต่ปลาเล็กปลาน้อยจะเหลียวแล
โม่ฝานจ้องมองใบหน้าของมู่โจวอวิ๋นพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ จากนั้นเขาก็เหลือบตาขึ้นไปด้านบนอย่างเบื่อหน่าย
เขาเลียปากของตนเองเบาๆอย่างเหยียดหยาม
จากนั้นชั่วอึดใจโม่ฝานกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “สมองของคุณจมน้ำงั้นเหรอ?”
“เธอพูดว่าอะไรนะ?” มู่โจวอวิ๋นนั้นแสดงสีหน้าที่สับสนและเขาไม่ได้ยินที่เด็กคนนี้กล่าวอย่างชัดเจนมากนัก
“ผมพูดว่าสมองของคุณจมน้ำเหรอ!” โม่ฝานตอบกลับอย่างชัดถ้อยชัดคำ
ในครั้งนี้ทุกคนได้ยินมันอย่างชัดเจน แต่ใบหน้าของพวกเขาซีดขาวราวกับเผือก เริ่มมีความโกลาหลเล็กๆเกิดขึ้นทันที
“ห๊ะ เขาพูดอย่างนั้นเหรอ?”
“สมองจะไปอยู่ในน้ำได้ยังไง?”
“ไอ้เวรนั่นบอกว่าสมองของมู่โจวอวิ๋นจมน้ำงั้นเหรอ!!!”
“พระเจ้า เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!!!”
มู่โจวอวิ๋นได้ยินมันอย่างชัดเจน เขาหยุดลูบเคราของตนเองพร้อมกล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “หวังว่าเธอจะสามารถอธิบายมันได้อย่างยอดเยี่ยมนะ ไม่อย่างนั้น….”
“อธิบายงั้นเหรอ… แน่นอน!” โม่ฝานพยักหน้าพร้อมกล่าว “คุณอย่าแสร้งทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยว่าเมื่อสามปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมไม่ต้องการให้คุณตบหัวเสร็จแล้วมาลูบหลังให้ ผมไม่หลงเข้าไปในความหวานเพียงเล็กน้อยที่คุณหยิบยื่นมาแน่นอน คุณพูดกับพ่อของผมเมื่อสามปีที่แล้วว่าเป็นเพียงสุนัขรับใช้ที่โง่และซื่อสัตย์ ถึงความจำของคุณจะแย่มาก แต่ผมจำได้ทุกอย่าง เพียงคำพูดเท่านี้ของคนอย่างคุณ แน่นอนว่าผมจะไม่มีวันเข้าร่วมตระกูลจอมปลอมนี้! แม้ว่าคุณจะยอมลดตัวนำมู่หนิงเซวียและเงินทองมากมายมากองไว้ตรงหน้า ผมก็จะไม่มีวันสนใจตระกูลของคุณ! คุณคิดงั้นเหรอว่าโลกใบนี้คุณจะควบคุมมันได้จริงๆ? เอาเถอะ ทรัพยากรของตระกูลมู่อะไรนั่นผมไม่สนใจทั้งนั้น ในวันนี้ขอบคุณที่มาดูความสามารถของผมแล้วกัน ในวันนี้นอกจากผมจะเห็นว่าสมองคุณมีปัญหาแล้ว ก็คงไม่มีอะไรอย่างอื่นที่เราต้องคุยกันอีก!”
จากนั้นเขาถอนหายใจออกมาอย่างเจ็บปวด ราวกับความเจ็บแค้นทั้งหมดภายในจิตใจของเขาได้ถูกระบายไปจนหมดสิ้นแล้ว กระบวนการทั้งหมดเขาทำได้อย่างเฉียบขาดและเด็ดเดี่ยว!!!
ในตอนนี้ทุกคนที่ได้ยินประโยคเหล่านั้นออกมารู้สึกโง่งมและไม่รู้จะทำอย่างไร โดยเฉพาะมู่หนิงเซวียที่ยืนอยู่ตรงนั้น…
แต่ทว่าใบหน้าของมู่โจวอวิ๋นนั้นหดหู่ยิ่งกว่าใคร เขาโกรธจนตึงเปรี้ยะไปทุกสัดส่วน!
เอี๊ยด…ดด เอี๊ยดดดด~~~~
มู่โจวอวิ๋นโกรธมาก ใต้เท้าของเขาเริ่มมีวงของน้ำแข็งตีแผ่ออกมาอย่างรวดเร็ว บรรยากาศภายในห้องนี้เปลี่ยนไปเป็นหนาวเหน็บทันที พลังเวทย์ที่แข็งแกร่ง!!!
เขาโกรธ… โกรธอย่างแท้จริง!
เขาไม่รู้ว่าในเมืองนี้จะมีคนกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ด้วยจริงๆ ไม่ว่าจะอีกกี่ร้อยปีก็ไม่ควรมี แม้ว่าเขาจะเป็นเผด็จการในเมืองเล็กๆแห่งนี้ แต่ทุกคนย่อมให้ความสำคัญและเคารพในใบหน้าของเขาแทบทั้งสิ้น แต่โม่ฝานเป็นเพียงเด็กยากจนไร้บ้าน เป็นเพียงลูกของคนรับใช้ในตระกูลเท่านั้น แต่เขากลับกล้าที่จะกล่าวเช่นนี้ออกมา!!!
เวทย์น้ำแข็งค่อยๆทะลักออกมา!
พื้นทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็ง ความเย็นและความกดดันต่างๆนั้นรุนแรงอย่างมาก!
พื้นทั่วทั้งสนามกลายเป็นน้ำแข็งทันที ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ
ฤดูร้อนที่ให้ความอบอุ่น ในตอนนี้กลายเป็นฤดูหนาวที่แสนจะเย็นชา ลมหนาวปะทะเข้ากับร่างกายของทุกคนอย่างหนาวสั่น
พลังที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้ทำให้นักเรียนที่ไม่สามารถต้านทานได้เริ่มกลัวและกรีดร้องออกมา!
สนามเด็กเล่นแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังแห่งความกดดันและแข็งแกร่ง มู่โจวอวิ๋นไม่ได้ปลดปล่อยเวทย์ออกมาแต่อย่างใจ เขาเพียงแค่ปล่อยจิตสังหารออกมาเท่านั้น ซึ่งมันเป็นทักษะของนักเวทย์ชั้นสูง
ถ้าหากจะเปรียบกับเถาวัลย์น้ำแข็งของมู่ไป๋เมื่อครู่ แน่นอนว่าไม่อาจเทียบกันได้ราวฟ้ากับก้นเหว
“โจวอวิ๋น ควบคุมอารมณ์ของคุณหน่อยนะ นี่คือโรงเรียนและเด็กๆยังไม่มีทักษะที่จะใช้ป้องกันตัวเอง!” หัวหน้าสมาคมนักฆ่าเติ้งข่ายกล่าวออกมาพร้อมกับเข้ามายืนระหว่างกลางของมู่โจวอวิ๋นและโม่ฝานทันที
เมื่อเติ้งข่ายออกมาปกป้อง พลังของมู่โจวอวิ๋นลดน้อยลงไปในทันที แต่บรรยากาศโดยรอบก็ยังคงเต็มไปด้วยความอึดอัดอยู่เช่นเดิม
เติ้งข่ายนั้นลุกยืนขึ้นในจังหวะที่อาจารย์ถังหยู่ก็พุ่งออกมาพร้อมกันในทันที
ถังหยู่นั้นรู้ดีว่าตนเองไม่อาจเอาชนะมู่โจวอวิ๋นได้ แต่เธอไม่อาจยินยอมให้นักเรียนของเธอต้องถูกทำร้าย ต่อให้ต้องกลายเป็นปฏิปักษ์กับตระกูลมู่… เธอก็จะทำ!!!
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••