GE291 หมีเฒ่า [ฟรี]

ดาราสมุทรนั้นกว้างใหญ่ไพศาล ในหมู่ดารานับอนันต์เหล่านั้น ดวงที่เปล่งประกายที่สุดคือดวงที่เป็นสถานที่ตั้งของวังขนาดยักษ์

วังแห่งนั้นใหญ่โตแสนจ้าง มีผู้คุ้มกันแน่นหนา ในหมู่ผู้คุ้มกันเหล่านั้นมีสัตว์อสูรกึ่งไร้ดัดแปลงอยู่ 3 ตัว นอกจากนี้ยังมีสัตว์อสูรตัดวิญญาณเฝ้าคุ้มกันอยู่รอบนอกหลายร้อยตัว

สัตว์อสูรกึ่งไร้ดัดแปลงทั้ง 3 ตัวนั้น หนึ่งเป็นมังกรดารา ส่วนศีรษะใหญ่โตนับพันจ้าง มันเป็นผู้ที่ทรงพลังที่สุดในหมู่สัตว์อสูรไร้ดัดแปลง ยามนี้ มันขมวดคิ้วพลางกล่าว

“เจ้ารู้หรือเปล่า… ว่าตอนนี้เจ้าหมีเฒ่านั่นหวาดกลัวเด็กหนุ่มในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น หยวนฟาง เจ้าคิดว่ายังไง?”

มังกรดาราพูดคุยกับวานรยักษ์ วานรตนนี้มีชื่อว่าหยวนฟาง พอมันได้ยิน มันขมวดคิ้วพลางขบคิด

ในหมู่พวกมันทั้งสาม หมีเฒ่าคือผู้อ่อนด้อยที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น มันยังเป็นสัตว์อสูรกึ่งไร้ดัดแปลง ร่างกายใหญ่โตกว่า 2500 จ้าง ไม่ใช่ผู้ที่จะดูถูกได้

“เจ้าหมีเฒ่าม่านฉานหน่ะเหรอ? เจ้าหมีนั่นเย่อหยิ่งอวดดีก็จริง แต่ใครๆก็รู้ว่ามันแข็งแกร่ง คงไม่มีใครกล้าเข้ารนหาที่ตาย… แต่ทำมันถึงกลัวผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้น… บางทีมันอาจจะกลัวไปเอง แต่ว่า...ข้ามีบางสิ่งอยากจะบอกท่านพี่ ท่านพอจะรับฟังได้หรือเปล่า?”

“พูดมาเถอะ!” มังกรดารากล่าว

“หมีเฒ่านั่นเฝ้าบุบผาดาราม่วงอยู่ บุบผานั่นคือสมบัติล้ำของทั้งมนุษย์ อสูร และปีศาจ ไม่ว่าใครหน้าไหนล้วนต้องการ… ที่หมีเฒ่าหวาดกลัวเด็กนั่นอาจเป็นเพราะว่า มันได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ระดับพลังตกลงไปยังขอบเขตตัดวิญญาณขั้นต้น... ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสดีของเราที่จะได้สังหารเจ้าหมีเฒ่าและชิงสมุนไพรของมันมา”

“อืม… บางทีนี่อาจเป็นโอกาสเหมือนเจ้าว่า… ถ้าพวกเราได้บุบผานั่นมา เราก็มีโอกาสสลัดหลุดจากร่างอสูรดารา ไปเป็นอสูรที่มีร่างกายเป็นของตน แต่ก็น่าแปลก...ทำไมตอนนี้น้องสี่ยังไม่กลับมา?”

“ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้มีผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นคนหนึ่ง ข้ามผ่านถิ่นของน้องสี่ มันผู้นั้นมีสายเลือดอสูรที่ทรงพลัง และหลบหนีจากการจับกุมได้… จนถึงตอนนี้ น้องสี่ยังตามล่ามันไม่เลิก”

“อะไรนะ! เป็นไปได้ยังไง! น้องสี่ปลุกโลหิตแห่งจักรพรรดิได้ ความเร็วย่อมไม่ธรรมดาถึงขั้นเคลื่อนไปยัง 9 หมื่นลี้ได้ในพริบตา ความเร็วระดับนี้แทบจะใกล้เคียงอสูรไร้ดัดแปลง เป็นไปไม่ได้ว่าคนผู้นั้นจะหนีพ้น!” มังกรดาราตกตะลึง มันขบคิดและกล่าวต่อ

“สิ่งที่เจ้ากล่าวมีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว… ข้าว่าเราควรยกทัพไปสังหารมัน เจ้าคิดเห็นว่ายังไง?”

แววตาวานรยักษ์เปล่งประกายด้วยความหวัง แต่มันยังลังเลและกล่าวถาม

“ถ้าเข้าจู่โจมที่นั่นแล้วเกิดยั่วยุเจ้าเด็กนั่นที่ครอบครองทางใต้ของเกาะอยู่หล่ะ?”

“ยั่วยุผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นนั่นหน่ะเหรอ?” อสูรวาฬเดินเข้ามา ศัตรูที่ต้องเผชิญหน้ามีเพียงหมีเฒ่าและผู้เยาว์เพียงคนเดียว ดังนั้น มันจึงไม่เห็นทั้งสองอยู่ในสายตา

“บางทีเด็กนั่นไม่น่าจะเป็นตัวปัญหาอย่างที่ท่านคิด… ถ้าหมีเฒ่าไม่ได้บาดเจ็บจริงๆ มันคงไม่หวาดกลัวเด็กนั่นขนาดนั้น? แต่ในอีกมุม ถ้าเกิดเด็กนั่นแข็งแกร่งจริง และหมีเฒ่าไม่ได้บาดเจ็บอย่างที่คิด… แม้เราจะกลุ้มรุมมันก็ยังไม่อาจตัดสินชัยชนะได้ในเวลาสั้นๆ ที่สำคัญ มันยังมีบุบผาดาราม่วงข้างกาย การได้สูดกลิ่นหรืออยู่ใกล้ๆอาจทำให้มันยกระดับไปมากแล้วก็ได้ อีกอย่าง นอกจากมันก็ยังมีภรรยาของมันอยู่อีก 2 พวกนางแข็งแกร่ง บรรลุขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด หากพวกนางร่วมมือย่อมต่อกรพวกเราได้… ถ้าประเมิณในแง่ร้ายที่สุด ตอนนี้บนเกาะดารามีศัตรูที่แข็งแกร่งมากพอจะประมือกับเราทุกคนได้”

อสูรวาฬเย้ยหยันในคำกล่าวของอสูรวานร

“เด็กนั่นแข็งแกร่งพอจะต่อกรกับเราได้เนี่ยนะ? น้องสาม...เจ้าอาจจะคิดมากเกินไป ข้าเชื่อว่าเจ้าคิดถูกแล้ว ไม่ว่ามันแข็งแกร่งยังไง แต่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นไม่มีทางต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงได้”

“แล้วถ้าเกิดเด็กนั่นเป็นคนเดียวกันกับที่น้องสี่กำลังตามล่าอยู่หล่ะ?” วานรกล่าว

คำกล่าวของวานรทำให้มังกรดาราและอสูรวาฬขบคิด

“ถ้าเกิดมันเป็นคนเดียวกันขึ้นมาจริงๆ แสดงว่ามันไม่ธรรมดา… บางทีมันอาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้” มังกรดารากล่าว ดูเหมือนมันต้องชะลอเรื่องการบุกจู่โจมไปก่อน

“ไม่หรอกน่า… ช่วยนี้มีคนนอกเข้ามามากมาย เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจเป็นคนละคนกัน...” อสูรวานกล่าวโดยไม่สนใจ

ภายในดาราสมุทรแห่งนี้มีสัตว์อสูรดาราอยู่มากมาย แต่พวกที่พูดคุยกันสมควรเป็นอสูรที่โดดเด่น

ในหมู่พวกมัน ผู้ที่เรียกน้องสี่เป็นผู้ที่รวดเร็วที่สุด และความเร็วระดับนี้อาจเป็นระดับความเร็วสูงของเหล่าอสูรดารา

ด้วยที่ดาราสมุทรกว้างใหญ่ไพศาล การจะยั่วยุผู้มีสมควรทักษะการหลบหนีที่ไม่ธรรมดา

หากผู้ที่อยู่ในทางใต้ของเกาะดาราเป็นคนคนเดียวกันกับผู้ที่น้องสี่ไม่อาจจับตัวได้

การที่จะรวดเร็วยิ่งกว่าน้องสี่ของพวกมันได้ แสดงว่าอีกฝ่ายต้องอยู่ในขอบเขตไร้ดัดแปลง

เมื่อคิดได้ดังนั้น พวกมันจึงไม่กล้ายุ่งเกี่ยว หรือหากจะฝืนบุกก็ต้องคิดแผนการที่รอบคอบ

“ข้าว่า...เจ้านั่นไม่ใช่คนเดียวกันแน่ ป่านนี้มันสมควรผ่านเข้าไปยังวังสวรรค์ ไม่เห็นมีเรื่องต้องกังวล”

“ภรรยาข้าไปลอบสังเกตุการณ์มันและนี่...คือตัวมัน”

วานรยักษ์คายปราณสีดำออกมาจากปาก ก่อนที่ปราณเหล่านั้นจะก่อตัวขึ้นเป็นรูปใบหน้าหนิงฝาน

“นี่คือคนในขอบเขตตัดวิญญาณนั้นต้นที่ว่า… ถ้าน้องสี่กลับมา ค่อยให้มันยืมยันว่าคนผู้นี้ใช่คนเดียวกับที่หนีไปได้หรือเปล่า? ถ้าใช่...เราก็ไม่ควรจู่โจมเกาะดารา”

มังกรดาราและอสูรวาฬประหลาดใจไม่กล่าว

ปกติแล้ววานรยักษ์จะเป็นผู้ที่รอบคอบที่สุด และจากคำกล่าวของมันทั้งหมดในวันนี้ ดูเหมือนไม่อยากให้จู่โจมเกาะดารา

แต่นั่นไม่ใช่เพราะมันหวาดกลัวหมีเฒ่า… แต่เป็นเพราะหวั่นเกรงหนิงฝาน!

มันไม่ได้หวาดกลัวระดับพลัง แต่หวาดกลัวในสิ่งที่เขาทำได้!

ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นต้นรอดมือจากน้องสี่ ทั้งยังขู่ขวัญให้หมีเฒ่าหวาดกลัวได้ คนผู้นี้สมควรรวดเร็วเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง หากพลังยกระดับเมื่อใดก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

คนเช่นนี้ไม่อาจยั่วยุ

วานรยักษ์ยังคิดอีกว่า การที่อีกฝ่ายเป็นผู้เยาว์แล้วยังแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ แสดงว่ามีขุมกำลังหนุนหลัง

เท่าที่วานรยักษ์ไปสำรวจมา ผู้ที่ผ่านประตูวังเข้ามานั้นยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงจากคบางคน นั่นแสดงให้เห็นว่าคนเหล่านั้นมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน

ดังนั้น มันจึงคิดว่าหนิงฝานคงมีขุมกำลังใหญ่หนุนหลังเช่นกัน

“งั้นรอให้น้องสี่กลับมาก่อน!” มังกรดารากล่าว

3 วันผ่านไป ภายนอกวังมังกรเกิดเสียงอัสนีฟาดผ่าดังสนั่น บุรุษหนวดยาวในชุดเกราะดำปรากฏ สีหน้าขุ่นเคืองไม่พอใจ

การที่มันคงสภาพในร่างมนุษย์ได้ เป็นหนึ่งในวิชาพิเศษของอสูรขอบเขตตัดวิญญาณ

“ข้ามาช้า… ท่านพี่ทั้งสามโปรดอภัยด้วย! เด็กบ้านั่นไม่ธรรมดา มันหายหัวไปไหนข้าเองก็ไม่รู้ ข้าตามหากว่าครึ่งดาราสมุทร แต่กลับไม่พบตัวมันแม้แต่น้อย… มันสังหารอสูรของข้าไปไม่น้อย บัดซบ! ไว้ถ้าเจอมัน ข้าจะฉีกมันให้เป็นชิ้นๆเลยคอยดู”

“น้องสี่ใจเย็นก่อน ข้าอยากให้เจ้าได้เห็นคนผู้หนึ่ง?” วานรยักษ์ขมวดคิ้วพลางกล่าว

“เกิดอะไรขึ้นพี่สาม… ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านกำลังลังเลที่จะบุกรังของหมีเฒ่านั่น แต่ก็หวั่นเกรงเด็กคนนั้น”

น้องสี่ประหลาดใจ  วานรยักษ์เองก็คายหมอกปราณ แล้วก่อตัวเป็นรูปลักษณ์ของหนิงฝาน

“เป็นมัน! มันนี่แหละ!” สีหน้ามังกรดาราและอสูรวาฬแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง

“เกิดอะไรขึ้น?” น้องสี่กล่าวถามพลางขมวดคิ้ว มันไม่ได้โง่ การที่พี่ๆของมันให้ดูรูปหนิงฝาน แสดงว่าหนิงฝานได้ทำบางสิ่งที่เป็นปัญหากับพวกมัน

“มันเป็นคนที่ทำให้หมีเฒ่าหวาดกลัวจนต้องถอย!” คำกล่าวของวานรทำให้น้องสี่ตกตะลึง แต่ไม่นานแววตาของมันก็เปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหาร

“ในที่สุดก็ได้เจอมัน! เรื่องจัดการกับหมีเฒ่าให้พวกท่านจัดการ ส่วนข้าจะไปจัดการกับเจ้าเด็กนั่นเอง!”

“ไม่ได้! มันรวดเร็วเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ถ้าเกิดไปยั่วยุมัน...” มังกรดารากล่าว

“พี่ใหญ่ ข้าจะบอกความจริงท่าน ที่เด็กนั่นหนีข้าไปได้ไม่ใช่เพราะมันมีวิชาอะไร แต่มันมีรถเพลิงทองคำที่ทำให้เร็วจนเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง”

“ที่แท้เป็นเพราะรถเพลิงทองคำ!” มังกรดารากล่าว ทั้งมันและอสูรวาฬแผ่เจตนาสังหาร

“เราต้องชิงรถเพลิงทองคำของมันมาให้ได้ ถึงจะจับตัวมันยากหน่อย แต่หากได้มาก็เป็นกระโยชน์ไม่น้อย น้องสองเจ้าคิดว่ายังไง?”

“ข้ายังเชื่อว่ามันไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิด… เราควรรอให้มันผ่านประตูไปยังวังสวรรค์ก่อนค่อยเข้าจู่โจม แบบนั้นจะทำให้แผนลุล่วงได้ง่ายขึ้น”

“ไม่ได้! ข้าจะฆ่ามัน!” น้องสี่ปฏิเสธ อสูรวาฬเองก็เหมือนกัน

“ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะแข็งแกร่งขนาดไหน! อีกอย่าง ทั้งมันและอสูรเฒ่ายังเป็นศัตรูกัน พวกเราสมควรจัดการมันได้ไม่ยาก”

“แต่...” วานรยักษ์ไม่กล่าวต่อ

“น้องสองพูดถูก! นี่เป็นโอกาสที่จะได้ฆ่าเด็กนั่นและฆ่าหมีเฒ่า...ข้าจะได้มีร่างเป็นของตังเองและหนีออกไปจากที่นี่!”

หนิงฝานจามคล้ายกับนินทาเขาอยู่ เขาหันมองสตรีทั้งสองนางที่กำลังพักรักษาตัวพลางยิ้ม

แต่ทันใดนั้น เขากลับขมวดคิ้วและเร่งออกไปนอกถ้า เมื่อไปถึง เขานำกระบี่แยกสวรรค์ออกมาแล้วตวัดกระบี่ออกไป

“โผล่หัวออกมาไล้แล้ว ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!”

อสูรสองตนปรากฏกาย พวกนางเป็นสตรีที่มีใบหน้าอัปลักษณ์

“ฮ่าฮ่า สามีข้ากำลังจะมา เจ้าไม่รอดแน่”...