บทที่ 24: การปลดปล่อย!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 24: การปลดปล่อย!
จางหู่หันไปสบตากับอาจารย์ประจำชั้นทั้งสองของเขา
“เธอทำได้ ฉันเชื่อให้ตัวเธอ!” อาจารย์ถังหยู่กล่าวออกมา
จางหู่พยักหน้ารับเบาๆพร้อมกับเดินไปที่หินเวทย์ดวงดาว
เขาปิดตาลงช้าๆพร้อมกับวางมือลงบนหินและค่อยๆปรับลมหายใจของตนเองช้าๆ จากนั้นเขาเข้าสู่สมาธิทันที
แสงสว่างที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นเริ่มกระพริบ เห็นได้ชัดว่าหินนั้นไม่สามารถจับพลังงานของเขาได้อย่างเต็มที่นักเพราะว่าเขากำลังรู้สึกประหม่ามากเกินไป
อย่างไรก็ตามจางหู่ค่อยๆปรับตัวช้าๆและเริ่มนิ่งขึ้นมาก
ท้ายที่สุดแสงสว่างเปล่งประกายออกมาสว่างวาบไปทั่วท้องฟ้า มันสว่างจนกลบเม็ดฝนได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ
"เอ!"
"เอ!"
"เอบวก!"
ดูเหมือนว่าผู้ควบคุมทั้งสามจะมีความเห็นที่แตกต่างกัน…
“ได้โปรดให้ผมลองอีกครั้ง…”
เห็นได้ชัดว่าจางหู่ไม่พอใจกับคะแนนในครั้งนี้ เขาเข้าสู่สมาธิอีกครั้งทันที
ในเวลานั้นเขาสงบนิ่งกว่าเมื่อครู่อย่างมาก
ตอนนี้แสงที่ปรากฏออกมานั้นสว่างและแข็งแกร่งมากกว่าของเหย่วหยู่อย่างมาก มันสงบนิ่งไร้ที่ติ!
ผู้ควบคุมทั้งสามพยักหน้าอย่างยอมรับ
“เอบวก!”
“เอบวก!”
“เอบวก!”
“ผลของคะแนนคือ เอบวก!”
ทันทีที่ผลคะแนนออกมา นักเรียนทั่วทั้งโรงเรียนได้แต่ประหลาดใจปนกับความอิจฉา!!!
“เอบวก… นี่คือเขาจะได้เข้าสู่ห้องเรียนที่ดีที่สุด จางหู่นั้นเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวธรรมดา ฉันไม่เคยคาดหวังเลยว่าเขาจะสามารถโดดเด่นได้มากขนาดนี้ โธ่เอ้ย ฉันมองเขาผิดไปเหรอเนี่ย!”
“สุดยอดเลย ถ้าหากฉันทำได้ พ่อจะซื้อรถยนต์ให้ฉันเลยแหละนะ!”
ชุ่ยมู่เชิงและถังหยู่มองหน้ากันพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม ดวงตาของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความสุขที่อยู่ภายใน
จางหู่นั้นเป็นนักเรียนที่มีความประพฤติดีเสมอมา เขาขยันและมีความพยายาม ไม่แปลกที่ผลลัพธ์เช่นนี้จะคู่ควรกับเขา
“นักเรียน เอาล่ะ เราจะพิจารณาห้องเรียนขอ….” ผู้ควบคุมกล่าวออกมาหลังสรุปผลคะแนน
“อาจารย์ ผมอยากลองอีกครั้ง!” ในตอนนั้นจางหู่กล่าวออกมาอย่างเด็ดเดี่ยวแต่เต็มไปด้วยความเขินอาย
“หืม อย่างนั้นเหรอ?” ผู้ควบคุมรู้สึกประหลาดใจ
“ผมรู้มาว่าถ้าหากได้คะแนนสูงแล้วจะสามารถได้รับไม้เท้าเวทย์ดวงดาวที่จะสามารถใช้พลังเวทย์ได้นานขึ้น ผมอยากจะลองอีกครั้ง ผมจะทดสอบด้วยการเปิดใช้งานเวทย์!” จางหู่กล่าวออกมา
ชุ่ยมู่เชิงและถังหยู่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า พวกเขารู้มานานแล้วว่าจางหู่มีความสามารถเพียงใด
การสอบนั้นมีสองระดับ
อย่างแรกคือการสอบพลังเวทย์ในโลกวิญญาณ
นักเรียนส่วนใหญ่ที่ผ่านพิธีปลุกพลังเวทย์มาแล้ว ล้วนแต่ทำสิ่งนี้ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งนั้น
ในส่วนที่สองนั้นจะเป็นส่วนของนักเรียนระดับสูงที่มีเพียงร้อยในพันเท่านั้นจะสามารถทำได้ นั่นก็คือการเปิดใช้งานพลังเวทย์
ถ้าหากว่าสามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ได้ แน่นอนว่าคะแนนของนักเรียนคนนั้นจะเพิ่มสูงขึ้น!
เพื่อที่จะได้รับทรัพยากรที่โรงเรียนตระเตรียมไว้ให้ เหล่านักเรียนจะต้องไม่ปิดบังพลังของตนเองและแสดงมันออกมาอย่างเต็มที่!
......
แต่อย่างไรก็ตามการทดสอบขั้นสองนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นนัก จางหู่ยังไม่สามารถเชื่อมดวงดาวทั้งเจ็ดเข้าด้วยกันได้อย่างสนิทใจ เขายังไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ผู้ควบคุมนั้นเห็นความตั้งใจและเห็นว่าเขาสามารถเปิดใช้งานพลังเวทย์ได้แล้ว เพียงแต่ยังติดขัดอยู่บ้าง เช่นนี้พวกเขาจึงเพิ่มคะแนนขึ้นให้บ้างเล็กน้อยอย่างเหมาะสม
หลังจากที่เดินออกมาจากการทดสอบ จางหู่รู้สึกคอตกกับความผิดหวังตรงนี้
อาจารย์ถังหยู่ตบบ่าของจางหู่เบาๆพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวลหรอก ด้วยคะแนนของเธอแน่นอนว่าจะได้อยู่ในห้องคิงส์แน่นอน”
“อาจารย์ครับ ผมคิดเสมอว่าผมเก่งแล้ว ไม่คิดเลยว่าความตึงเครียดเหล่านี้จะทำให้ผมสติแตกทุกครั้งเมื่อต้องควบคุมดวงดาวเหล่านั้น ผมคงต้องเริ่มต้นใหม่ อาจารย์ปลดปล่อยเวทมนตร์ได้ยังไง? มันต้องทำยังไง?” จางหู่ถามออกมา
“ทุกสิ่งนั้นเกิดจากการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้สภาวะของจิตใจนั้นสำคัญมากเช่นกัน นักเวทย์ที่เก่งกาจไม่ใช่เพียงทักษะเวทย์เท่านั้น แต่จะต้องมีจิตใจที่มั่นคงด้วยเช่นกัน”
จางหู่พยักหน้าด้วยความเข้าใจ
“ต่อไป หวงเฟ่ยเฟิง”
“บี!”
“อาจารย์ ฉันต้องเอสิ ต้องเอ!”
“อย่าโวยวายไม่เช่นนั้นจะโดนตัดคะแนน”
“ต่อไป เหล่าเฟ่อ”
“ซี!”
นักเรียนที่ชื่อเหล่าเฟ่อกระโดดตัวโยนอย่างมีความสุข
สำหรับเขาแล้วการได้รับ ซี! นั่นเปรียบเหมือนกับการได้รับของขวัญปีใหม่!
......
นักเรียนจากห้องแปดนั้นส่วนใหญ่แล้วอยู่ในเกรดบีและซี น้อยนักที่จะเอ!
“ดูสิ เหล่าผู้นำโรงเรียนกำลังมองอยู่”
“เด็กคนนั้น ห้องเจ็ดนี่หน่า… เขาเป็นคนที่ปลุกธาตุสายฟ้าขึ้นมาได้”
“เขาคือฉือจ้าวติ่ง… เขาเป็นธาตุสายฟ้าคนเดียวของโรงเรียน เขาคืออันดับหนึ่ง”
“ไร้สาระ ฉันได้ยินมาว่ามู่ไป๋นั้นเก่งกาจกว่าเขามาก!”
โม่ฝานได้ยินเพื่อนร่วมห้องของเขาคุยกันพร้อมกับมองไปที่นักเรียนห้องเจ็ดคนนั้นทันที
เช่นนี้ก็เพียงพอที่ผู้นำของโรงเรียนและมู่หนิงเซวียได้ยินมาที่บริเวณนี้เพื่อดูความโดดเด่นของเขา…
......
“พี่มู่โจวอวิ๋น นี่คือนักเรียนของเรา เขาจัดอยู่ในกลุ่มของอัจฉริยะ ชื่อของเขาคือฉื่อจ้าวติง เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเขาปลุกธาตุสายฟ้าขึ้นมาได้ ผมในฐานะของอาจารย์ใหญ่ได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิด ไปดูความสามารถของเขาสักหน่อยไหม?” ผู้นำโรงเรียนเทียนหลานกล่าวกับมู่โจวอวิ๋น
ผู้อำนวยการโรงเรียนนั้นสุภาพต่อมู่โจวอวิ๋นอย่างมาก นั่นแสดงให้เห็นถึงสถานะของมู่โจวอวิ๋นว่าสูงส่งมาขนาดไหนในเมืองเล็กๆแห่งนี้
“หนิงเซวีย เดี๋ยวหยุดดูความสามารถของนักเรียนคนนี้สักหน่อย”
“ค่ะ” มู่หนิงเซวียพยักหน้า
ธาตุสายฟ้านั้นเป็นพลังที่สูงสุดแห่งธาตุทั้งหมด มันเป็นธาตุเดียวที่นักเวทย์ผู้อื่นจะหลีกทางให้อย่างง่ายดาย!
ในตอนนี้ฉื่อจ้าวติงนั้นอยู่ในห้องทดสอบแล้ว เขาอยู่ในเครื่องแบบนักเรียน จากนั้นเขาเริ่มปรับลมหายใจและตั้งรับความกดดันจากอาจารย์และนักเรียนที่กำลังถาโถมเข้ามาใส่เขาอย่างช้าๆ
เพราะหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้เขากลายเป็นจุดสนใจอยู่ตลอดเวลา เช่นนี้จึงทำให้เขากดดันและต้องฝึกฝนอย่างหนักตลอดเวลา
“ฟังคำสั่งของฉัน!”
“หนึ่ง รังสีอสนี!”
“ปล่อย!”
สิ้นเสียงของเขา ทั่วทั้งห้องได้ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น
สายฟ้าสีม่วงปรากฏขึ้นราวกับราชาอสรพิษที่เต็มไปด้วยความดุร้าย ร่างกายของมันบิดเบี้ยวอยู่ภายในอากาศอย่างน่าหวาดหวั่น!
ฟิ่ว…. ว ว!!
จากนั้นมันพุ่งปะทะกับหุ่นเชิ่ดที่ถูกเตรียมไว้อย่างเข้าเป้าและรุนแรง!!!
หุ่นเชิ่ดนั้นสั่นไหวและถูกสายฟ้าครอบงำจนหมดสิ้น มันกลายเป็นสีดำจากการเผาไหม้ จากนั้นร่วงหล่นสู่พื้นกลายเป็นผงธุลีอย่างรวดเร็ว
พื้นดินโดยรอบนั้นกลายเป็นสีดำด้วยเช่นกัน ภาพที่ปรากฏขึ้นล้วนแต่น่าเกรงขามจนแทบจะหยุดลมหายใจของผู้พบเห็น
พื้นที่ตรงนั้นกลายเป็นสีดำ… ไม่เหลือร่องรอยความสวยงามดังเดิม
ทักษะสายฟ้าที่โหดร้ายได้ประจักษ์ต่อสายตาของทุกคนแล้ว นักเรียนทุกคนที่ยืนมองเช่นนั้นไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ พวกเขาได้แต่ตะลึงด้วยความโง่งม…
ให้ตายเถอะ นี่มันพลังอะไรกัน? ธาตุลมจะสู้ได้ไหม ธาตุน้ำงั้นเหรอ? แม้แต่ธาตุไฟก็ยังอ่อนแอกว่า แล้วอะไรจะล้มล้างเขาได้ล่ะ? ธาตุสายฟ้านั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะเข้าไปยั่วยุได้โดยง่ายอย่างแท้จริง แม้กระทั่งมนุษย์ก็คงไม่อาจรอดพ้นจากพลังเช่นนั้นได้
ถ้าหากมีใครสักคนยืนอยู่ตรงนั้นแทนหุ่นเชิ่ด แน่นอนว่าจุดจบของเขาก็คงมีสภาพเดียวกัน!
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••