GED : 10 ร่วมมือกัน ?
GED : 10 ร่วมมือกัน ?
อินทรีย์ยักษ์ที่กำลังพิโรธกางปีกของมันจนปกคลุมท้องนภาไปเกือบครึ่งหนึ่ง ภูเขาทั้งลูกก็ถูกเงาของปีกบดบังจนมิด..เพียงเท่านี้ก็พอที่จะอธิบายขนาดอันมหึมาของอินทรีย์ยักษ์ได้อย่างชัดเจน!
ขนที่ลื่นและเป็นมันวาวของนกอินทรีย์ยักษ์ทำให้เฟิงหวูรู้สึกว่าขนของมันคล้ายกับเกราะเสียมากกว่าจะเป็นขนนกธรรมดา..
นางจึงไม่สามารถยึดขนนกไว้ได้และกำลังจะร่วงลงไป..
ชีวิตของเฟิงหวูตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง!
ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย..
ในตอนที่วิกฤตเช่นนี้..เฟิงหวูพยายามคว้ากรงเล็บอันคมกริบของอินทรีย์ยักษ์ไว้..
กรงเล็บของอินทรีย์ยักษ์คมราวกับใบมีดซึ่งบาดฝ่ามือของเฟิงหวูจนเป็นแผลลึก..โลหิตปริมาณมากกำลังทะลักออกมา!
นี่คือความเจ็บปวดเจียนตาย..
ถึงอย่างนั้นเฟิงหวูก็ยังคงมีสติด้วยแรงเหวี่ยง นางเหวี่ยงตัวเองกลับไปอยู่ในอุ้งเท้าของอินทรีย์
ในตอนนั้นนางถอนหายใจอย่างโล่งอก
เฟิงหวูเกือบเอาตัวไม่รอด..ถ้านางช้ากว่านี้เพียงเสี้ยววิ ตนเองก็คงตายไปแล้ว!
เมื่อคิดเช่นนั้น เฟิงหวูหันไปจ้องชุนหลิงเหยียอย่างไม่พอใจ
เหตุใดทุกคนจึงหลงใหลในองค์ชายพรรค์นั้นกันละ?
เขายังนิ่งเฉยและเย่อหยิ่งทั้งๆ ที่นางตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้..
ไฟแห่งความโกรธแค้นกำลังลุกโหมในใจของเฟิงหวู!
พลัง.. นางไม่เคยโหยหาพลังเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย!
เฟิงหวูหายใจเข้าลึกๆ ผลจิตวิญญาณอมตะคือสิ่งที่นางต้องการ! หากเธอปรุงเม็ดยาฟื้นฟูพลังวิญญาณขั้นที่ 9ได้สำเร็จ นางก็จะกลับมาฝึกฝนวิชาได้..
แต่หนทางนั้นยังอีกยาวไกล..คอยดูเถอะ ชุนหลิงเหยีย!
สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือนางต้องเอาตัวรอดให้ได้ก่อน..
ดวงตาอินทรีย์เมฆาเพลิงยักษ์มองชุนหลิงเหยียด้วยความหวาดกลัว..
เหตุใดบุรุษหนุ่มคนนี้ถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!
ทั้งที่เขายังอายุน้อยแต่ความสามารถนั้นอยู่ในระดับครึ่งหนึ่งของจักรพรรดิ์เลยด้วยซ้ำ..
อินทรีย์เมฆาเพลิงยักษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควรของชุนหลิงเหยีย..
และเมื่อบุรุษหนุ่มฝึกฝนจนถึงขั้นสูงสุดในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สัตว์ทรงพลังที่อาศัยอยู่ในป่าหิมะน้ำแข็งอาจจะต้องถูกบุรุษหนุ่มคนนี้ฆ่าล้างจนหมดสิ้นงั้นหรือ ?
แต่เมื่อคิดเช่นนั้น..สายตาไร้ความหวังของอินทรีย์ยักษ์ก็ค่อย ๆ หายไป...
ในเวลานี้..หากมันไม่สามารถหนีรอดเงื้อมมือบุรุษหนุ่มตรงหน้านี้ได้ ก็มีแต่จะต้องสู้ต่อจนจบเท่านั้น!
เมื่อเห็นสายตาคุ้มคลั่งของอินทรีย์ หัวใจของเฟิงหวูเต้นระส่ำ
นางไม่ได้สนใจใยดีชีวิตของอินทรีย์ตัวนี้ แต่ถ้าทั้งสองปะทะกัน..นางคงโดนลูกหลงในการโจมตีด้วยและถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แล้วล่ะก็..ครั้งนี้นางคงต้องตายแน่!
..ไม่ใช่ว่านางไม่อยากร้องขอความช่วยเหลือจากชุนหลิงเหยีย แต่นางรู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์..
เพราะในตอนนี้..สำหรับชุนหลิงเหยีย นางก็เป็นแค่คนแปลกหน้าเท่านั้น
เพราะเขาเป็นชายผู้ไร้หัวใจ..!
คติประจำใจของชุนหลิงเหยียคือ..ถ้าไม่ปกป้องตัวเอง ก็ตายไปเสียดีกว่า
สำหรับชุนหลิงเยีย เขาถือคติว่ามีคนสองประเภทบนโลกใบนี้ นั่นก็คือหนึ่งคนที่เกี่ยวข้องกับเขาและสองคือคนแปลกหน้า
ชุนหลิงเหยียพร้อมที่จะยืนหยัดเพื่อพวกพ้อง ในทางกลับกันเขาก็ไม่แยแสคนแปลกหน้าเลยสักนิด
ถ้าพูดให้ชัดก็คือเฟิงซุนคือพวกพ้องของเขา แต่เฟิงหวูนั้นคือคนแปลกหน้า
เสียงคำรามของอินทรีย์ยักษ์เต็มไปด้วยความโมโห..
ดังนั้นเฟิงหวูได้แต่ฝากความหวังสุดท้ายไว้กับอินทรีย์ยักษ์..
เฟิงหวูมองลงมาด้านล่างอีกครั้ง—
ป่าหิมะน้ำแข็งถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่วงกลมห้าส่วนเรียกว่าวงแหวนและผู้ปกครองป่าที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นอาศัยอยู่ในวงแหวนตรงกลางของป่า
ที่นั่นเป็นสถานที่ที่แม้แต่ผู้ฝึกตนที่เก่งกล้าก็ยังเกรงกลัว..
แต่เพราะที่นั้นมีผลจิตวิญญาณอมตะที่เฟิงหวูต้องการ นางจึงค่อย ๆ ทำความเข้าใจเรื่องราวของป่าหิมะน้ำแข็งจนมีความรู้พอสมควร
เมื่อมองเพียงแว่บแรก เฟิงหวูรู้ทันทีว่าตัวเองอยู่ทางทิศตะวันตะวันออกในวงแหวนลำดับสี่
ภายในไม่ช้า เฟิงหวูนึกรายละเอียดของแผนที่่ป่าหิมะน้ำแข็งได้ทั้งหมด..
"ถ้าเจ้ายังสู้กับชายผู้น้ัน การต่อสู้จะจบลงโดยเขาไม่ได้รับแม้แต่รอยข่วน แต่เจ้าจะต้องตายแน่ ..เจ้าคิดว่าไง ถ้าเราจะร่วมมือกัน?" แม้จะเจ็บมืออยู่แต่เฟิงหวูก็ค่อย ๆ ไต่อุ้งเล็บไปที่หูของอินทรีย์
“ร่วมมือกัน? แล้วเจ้ามีดีอะไรถึงจะช่วยข้าได้?”อินทรีย์เมฆาเพลิงยักษ์ถามอย่างดูถูก
จบตอน