บทที่ 23: เริ่ม!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 23: เริ่ม!
“เอาล่ะ หยุดส่งเสียงโวยวายกันได้แล้ว การสอบจะเริ่มขึ้นในตอนนี้ ถ้าหากใครส่งเสียงเล็ดลอดออกมาแม้แต่นิดเดียว สอบตกและถูกไล่ออกทันที!” เมื่อกล่าวจบ อาวุโสทั้งสิบได้หายตัวไป เวทมนตร์บางอย่างกำลังปกคลุมลงมาอยู่รอบๆตัวของพวกเขา
“ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าการถูกไล่ออกจากโรงเรียนแห่งนี้ต่อหน้ามู่หนิงเซวียจะต้องอับอายมากแค่ไหน ลำพังเพียงแค่ต่อหน้าอาจารย์และนักเรียนทุกคน ก็ลำบากใจมากพออยู่แล้ว แกจะหนีจากความอับอายเหล่านี้ได้ยังไงนะ?” มู่ไป๋เอี่ยวตัวมากระซิบโม่ฝานอย่างเยาะเย้ย
“แกเข้าใกล้ฉันมากไปแล้ว นี่ปากแกเน่ารึเปล่า? รถส้วมคว่ำหรอ? ออกไป!” โม่ฝานยกมือขึ้นห้ามอย่างไม่แยแส
มู่ไป๋มองหน้าเขา พร้อมกับคิดว่าอยากจะเหนี่ยวกับเขาสักยกทันที!
ในอดีตโม่ฝานนั้นทำให้มู่ไป๋ต้องอับอายต่อหน้ามู่หนิงเซวีย หลังจากวันนั้นเขาไม่สามารถที่จะเงยหน้ามองเธอได้อีกเลย ความอับอายในวันนั้นยังตามหลอกหลอนเขาถึงทุกวันนี้
ในวันนี้เขาจะทำให้ไอ้บ้าคนนี้ได้รับผลกรรมเช่นเดียวกับเขา!
‘วันนี้ต่อหน้าสาธารณะชนและมู่หนิงเซวีย โม่ฝานจะอดทนกับสังคมเหล่านี้ได้อย่างไรกัน? เขาจะต้องโดนมู่หนิงเซวียดูถูก เขาจะต้องถูกเหยียดหยามอย่างมากแน่นอน เพราะเขาคือบุคคลที่ล้มเหลว พ่อของเขาโม่เซี่ยจิงยอมที่จะขายบ้านซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายเพื่อให้เขาเข้าโรงเรียนแห่งนี้! เมื่อเขากลับบ้านไป เขาจะอธิบายกับพ่อตัวเองได้อย่างไร? ฮ่าฮ่า’
ในการสอบของทุกปีนั้น มีนักเรียนบางคนที่จะต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียน
แต่โรงเรียนมัธยมเทียนหลานนั้นไม่ได้โหดร้ายอย่างไร้มนุษยธรรมนัก พวกเขาไม่ได้ไล่นักเรียนออกทั้งหมด
แต่เหตุผลที่พวกเขาจำเป็นจะต้องขับไล่นักเรียนบางส่วนออกไปนั้นคือนักเรียนผู้นั้นไม่สามารถควบคุมดวงดาวได้ พลังเวทย์ไม่ได้มีความคืบหน้าและพัฒนาแต่อย่างใดซะมากกว่า!
ซึ่งโดยปกติแล้วกลุ่มดาวเวทย์มักจะแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆวันของการฝึกฝน เว้นเสียแต่ว่านักเรียนคนนั้นขี้เกียจเกินไปจริงๆมันจึงจะอ่อนแอและค่อยๆดับไป
เพื่อเป็นการลงโทษนักเรียนที่ไร้ความขยัน โรงเรียนจำเป็นจะต้องจัดการกับพวกเขาโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรของโรงเรียน ทั้งหนังสือเวทย์ อุปกรณ์ต่างๆมากมาย โรงเรียนแห่งนี้ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ทุกสิ่งล้วนคือของจริง!
ซึ่งการประกาศไล่ออกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นทุกปี ทั้งหมดถูกตั้งขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีความขยัน!
ในตอนเริ่มแรกของเทอม โม่ฝานนั้นทำไว้อย่างยอดแย่ ชุ่ยมู่เชิงนั้นโกรธมากที่โม่ฝานขี้เกียจและทำตัวแบบนั้นเขาจึงยกกฏเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นนักเรียนของตัวเอง
ในตอนนี้ภาคการเรียนปีแรกได้จบลง พวกเขาทั้งหมดเข้าสู่การสอบประจำปี!
ซึ่งก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะพลังเวทย์ของโม่ฝานตอนนี้ใกล้เคียงกับกฏที่โรงเรียนตั้งไว้ว่าสมควรออกจากที่นี่ไป!
แน่นอนว่าเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด มู่ไป๋และมู่เห่อนั้นเตรียมของขวัญสุดพิเศษไว้ให้สำหรับโม่ฝานอีกด้วย
ซึ่งของขวัญชิ้นนี้มันเพียงพอที่จะทำให้โม่ฝานไม่ได้ไปต่อในโรงเรียนมัธยมเทียนหลานแห่งนี้…
โชคดีที่มู่หนิงเซวียและมู่โจวอวิ๋นจะได้เห็นฉากเหตุการณ์สำคัญนี้ด้วยเช่นกัน!
เมื่อคิดอย่างนั้นแล้ว มู่ไป๋รู้สึกอารมณ์ดีอย่างมาก
‘ในวันนี้แกจะต้องนำเสนอตัวเองด้วยสิ่งที่ขายหน้าที่สุด ฮ่าฮ่า โม่ฝานเอ๋ย ความทะเยอทะยานของแกน่ะควรจะจบลงสักที ฉันมีความสุขจริงๆ อารมณ์ดีจริงๆล่ะ ฮ่าฮ่า!!!’
......
ในตอนนี้การสอบประจำปีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!
มีนักเรียนทั้งหมดสามสิบห้องในโรงเรียนแห่งนี้
การสอบครั้งนี้นั้นง่ายมาก มันจะปรากฏต่อสายตาสาธารณะชน ภายใต้การดูแลของผู้ควบคุม เพียงเอามือวางลงบนหินเวทย์ดวงดาวและเข้าสู่สมาธิ จากนั้นหินจะแสดงผลของพลังเวทย์ออกมาตามระดับความสามารถของนักเรียน
นักเรียนหนึ่งคนนั้นมีโอกาสสามครั้ง
แสงที่สว่างที่สุดคือผลลัพธ์!
แน่นอนว่ายิ่งตัวของนักเรียนมีสมาธิที่แก่กล้ามากเท่าไหร่ ความสว่างของหินเวทย์ดวงดาวก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
ในการสอบครั้งนี้เป็นแบบสุ่ม ไม่มีลำดับที่แน่นอนนัก
เด็กหญิงที่พลังอ่อนแอที่สุด ในตอนนี้เธอยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหินต่อหน้าของทุกคน เธอกำลังประหม่าและรู้สึกกลัวอย่างมาก
“เริ่มได้เลย!” ผู้ควบคุมกล่าวออกมา
“เหย่วหยู่ เฮ้ เธอต้องทำได้แน่นอน ทุกคนเชื่อในตัวเธอ!” ชุ่ยมู่เชิงกล่าวออกมา
“เฮ้ ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าเธอพลาด ฉันจะเลี้ยงดูเธอแน่นอน!” ลู่เจียนฮัวตะโกนออกมา
เหย่วหยู่ปิดตาลงช้าๆพร้อมกับวางมือลงบนหินเวทย์ดวงดาว
โดยพลัน ทุกคนเงียบลงทันที ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่เด็กสาวที่กำลังสอบ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดจะประหม่ากว่าเธอซะอีก!
โม่ฝานรู้สึกว่าก่อนที่เธอจะทดสอบนั้น เธอเต็มไปด้วยความประหม่า แต่เมื่อวางมือลงบนหินเวทย์แล้ว เธอกลับเปลี่ยนเป็นจริงจังแม้ว่าจะประหม่าเล็กน้อยแต่ก็ดูมั่นคงและแน่วแน่อย่างมาก!
หินสีดำค่อยๆเปล่งประกายออกมาช้าๆ แสงสว่างของมันราวกับแดดในยามพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า ฝนที่กำลังโปรยลงมาในตอนนี้ถูกแสงเหล่านั้นบดบัง ความสว่างนั้นค่อยๆเพิ่มขึ้นจนมองไม่เห็นเม็ดฝน!
“เอ!”
“เอ!”
“เอ!”
ในขณะนั้น ผู้ควบคุมทั้งสามรายงานผลการสอบของเธอแทบจะพร้อมกัน!
“เด็กน้อย คะแนนของเธอคือเอ!” ผู้ควบคุมกล่าวออกมาด้วยท่าทีเฉยเมย
เหย่วหยู่ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆพร้อมกับใบหน้าที่สับสน “อย่างนั้นเหรอ… จริงเหรอ? ฉันได้เอ? ฉันน่ะเหรอ!?”
แม้ว่าเด็กหญิงจะแสดงความประหลาดใจบนใบหน้า แต่ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความกังวล ซึ่งผลสอบของเธอทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
“ฉัน… ฉันจะต้องไปที่นั่นให้ได้ เอคือหนทางการไปยังชั้นเรียนที่ดีที่สุด!”
“เหลือเชื่อเกินไปแล้ว ก่อนสอบเธอยังกังวลแทบตาย แต่ในตอนนี้เธอกลับได้เอ!”
“บ้าจริง เวทมนตร์นี่ลึกลับเกินไป ฉันไม่สามารถเชื่อเธอได้อีก!”
ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้ลู่เจียนฮัวตกตะลึงไปชั่วขณะ
ฉันคงเป็นได้แค่ขนนกที่ล่องลอยสินะ อย่างเขาก็คงจะทำได้แค่บีเท่านั้น ซึ่งการไปให้ถึงเอนั้นยากเกินไป!
ชุ่ยมู่เชิงนั้นเป็นอาจารย์ประจำชั้น เขาตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขาโดนเด็กหญิงตรงหน้าโกหกงั้นเหรอ? อย่างไรก็ตามผลของการสอบนี้ทำให้เขามีความสุขอย่างมาก!
เมื่อผลการเรียนของทั้งหมดออกมาแล้ว ทุกคนในห้องจะถูกนำมาเฉลี่ยกัน ชุ่ยมู่เชิงนั้นคิดว่าห้องเรียนที่เขาดูแลจะต้องติดหนึ่งในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน
คู่แข่งที่ดูน่ากลัวนั้นคือห้องเจ็ดซึ่งอยู่ถัดไปจากเขา ชู่จ้าวหยู่ที่เป็นเจ้าของธาตุสายฟ้าคนนั้น หวังว่ามู่ไป๋จะโดดเด่นเท่าหรือมากกว่าเขานะ!
“เอาล่ะ เธอต้องการจะสอบอีกครั้งหรือไม่?” ผู้ควบคุมหันไปหาเหย่วหยู่ล
เหย่วหยู่ส่ายหัวอย่างรวดเร็วพร้อมกล่าว “อ่า ฉันปล่อยดวงดาวทั้งหกไปหมดแล้ว ไม่ต้องการสอบอีก!”
“ดี เราจะตัดสินชั้นเรียนต่อไปของเธอจากคะแนนที่ได้รับร่วมกับอาจารย์ท่านอื่น” ผู้ควบคุมกล่าวออกมา
“ขอบคุณอาจารย์!”
เหย่วหยู่เดินออกมาอย่างมีความสุข เดิมทีเธอคิดว่าต้องการจะพูดคุยกับเพื่อน แต่เธอพบว่าเพื่อนของเธอที่อยู่ห่างไปไม่ถึงเมตร ต่างพากันมองเธอด้วยอารมณ์ที่แปลกประหลาด
‘ฉันทำอะไรผิดล่ะเนี่ย? มันก็เป็นเพียงผลลัพธ์ที่ดีรึเปล่า?’
“ต่อไป จางหู่” ผู้ควบคุมขานชื่อ
จางหู่นั้นไม่คิดว่าลำดับของตนเองจะมาถึงรวดเร็วเช่นนี้ เขาได้แต่ตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้
“พี่ฝาน ฉันต้องไปล่ะ” จางหู่หันมากล่าวกับโม่ฝาน
“อือ โชคดีล่ะ สงบใจเข้าไว้!” โม่ฝานกล่าว
“อ้วกหมาอย่างแก เอาใบหน้าที่ไหนไปพูดกับคนอื่นเขาอย่างนั้น บอกตัวเองดีกว่าไหม?” จ้าวคุณซานกล่าวออกมาลอยๆ
โม่ฝานหันไปมองจ้าวคุณซานด้วยสายตาที่เหยียดหยามและเย็นชา เขากล่าวออกมาเบาๆ “นี่แกคิดจะสาระแนทุกประโยคที่พวกฉันคุยกันเลยรึไง?”
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••