บทที่ 22: สุนัขรับใช้
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 22: สุนัขรับใช้
คำพูดของมู่หนิงเซวียนนั้นสั้นมาก เธอไม่ได้กล่าวอะไรมากมายนักแต่โม่ฝานรู้สึกว่าเหล่าสหายร่วมโรงเรียนของเขาจะตื่นเต้นอย่างมาก นี่ถ้าพวกเขาสามารถได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยจักรพรรดิได้มันจะดีแค่ไหนกันนะ?
มหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นเป็นสถาบันเวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศ มันเป็นเรื่องยากมากถ้าหากผู้คนในเมืองเล็กๆแห่งนี้สามารถเข้าไปเรียนที่นั่นได้
ด้วยอัตราแรงงานภายในเมืองแห่งนี้นั้นด้อยกว่าเมืองอื่นมาก หลายครอบครัวไม่มีฐานะดีพอที่จะสนับสนุนบุตรหลานของตนเองให้เก่งกาจมากพอ อีกทั้งยังต้องมีพรสวรรค์เรื่องนี้อย่างมากด้วยเช่นกัน เช่นนี้มู่หนิงเซวียจึงกลายเป็นดาวเด่นที่เต็มไปด้วยอัจฉริยะและได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจักรพรรดิโดยไม่ต้องเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมก่อน! เห็นได้ชัดว่าเธอเก่งเกินกว่าใครจะสามารถจินตนาการได้
“พี่ฝาน พี่น่ะจะต้องฝึกฝนอย่างหนักในสองปีที่เหลือนี้และต้องเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ตระกูลมู่จะไม่สามารถมายุ่งย่ามอะไรได้อีกต่อไป ฮ่าฮ่า ถ้าเวลานั้นมาถึ…. เฮ้ย!” จางหู่กล่าวออกมาแต่กลับสะดุดทันที
จางหู่ยังกล่าวไม่จบ จ้าวคุณซานนั้นโผล่มาจากด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัวเพื่อยืนตรงหน้าของเขา
“อยากจะขำให้คอแตกจริงๆ วันนี้พี่ฝานของแกจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนนี้ เลิกฝันถึงมหาลัยเถอะ ฮ่าฮ่า” จ้าวคุณซานเยาะเย้ยอย่างมีอารมณ์
“ไอ้จ้าวคุณ แกเป็นโรคอะไรเหรอ ถึงรุกรานพวกฉันไม่หยุดหย่อน? พี่ฝานไปทำเวรกรรมอะไรไว้กับแกนักนะ นี่พวกฉันแค่คุยกันเพียงสองคนเท่านั้น จู่ๆแกก็กระโดดออกมาแล้วยังกรีดร้องราวกับหมาข้างถนน” จางหู่เริ่มก่นด่าอย่างออกรส
จางหู่นั้นเป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยม ระดับความฉลาดของเขาติดอันดับต้นๆของห้อง เขาสามารถต่อกรกับจ้าวคุณซานได้อย่างออกนอกหน้า “แกที่ควบคุมดวงดาวได้เพียงหกดวง ยังมีหน้ากระโดดออกมาหัวเราะเยาะคนอื่นด้วยงั้นเหรอ? ฮ่าฮ่า ตลก!”
“ฉันไม่ได้รุกราน เพียงแค่รู้สึกว่าละอายใจแทนเท่านั้น ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพวกแกถึงได้ไร้ยางอายและสามารถทำตัวสนิทสนมกับมู่หนิงเซวียเช่นนั้นได้ ความหน้าด้านของแกในวันนี้ฉันคิดว่ามันจะเกินไปหน่อยแล้ว เหอะ หยุดความปรารถนาเพ้อฝันของแกกับมู่หนิงเซวียซะเถอะ ยังไง… ในวันนี้แกก็จะต้องโดนไล่ออก! อีกอย่างคนอย่างแกน่ะดีแต่สร้างปัญหา ถ้าหากในวันนั้นแกไม่สร้างเรื่อง ตระกูลของฉันก็คงจะไม่ถูกขับไล่” จ้าวคุณซานชี้หน้าโม่ฝานพร้อมตะโกน
จ้าวคุณซานนั้นเป็นคนของเมืองนี้และตระกูลของเขานั้นเป็นคนรับใช้ตระกูลมู่ด้วยเช่นกัน
จะกล่าวว่าคนรับใช้ก็ดูจะรุนแรงไปหน่อยสำหรับในยุคนี้ แต่หญิงสาวในตระกูลมู่นั้นชื่นชอบดอกไม้อย่างมาก พวกเขาจะต้องจ้างคนสวนไว้มากมายซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ของตระกูลซาน แล้วถ้าในตอนนี้ไม่ใช่ตระกูลซานที่ดูแลอยู่ แล้วใครกันล่ะที่ทำ?
ตระกูลมู่นั้นใหญ่มาก พวกเขาอยู่ร่วมกันกว่าร้อยคนในคฤหาสน์หลังใหญ่ด้านบนของภูเขา ซึ่งบุคคลโดยรอบกว่าพันล้วนแต่เป็นคนรับใช้ของตระกูลมู่ทั้งสิ้น
มีหลายครอบครัวที่ต้องการจะอยู่อย่างเช่นตระกูลของโม่ฝานและจ้าวคุณซาน เพราะตระกูลมู่นั้นยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองเล็กๆแห่งนี้
จ้าวคุณซานนั้นเกลียดโม่ฝานอย่างมาก ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเขาและโม่เซี่ยจิง จ้าวคุณซานจะมีชีวิตที่ดีมากกว่านี้!
“ฉันถามแกจริงๆนะโม่ฝาน แกไม่มีสมองงั้นเหรอ? แกคิดอะไรอยู่ที่ไปหมายปองกับเจ้าหญิงเช่นนั้น? เธอเป็นคนที่แกควรจะชื่นชมอยู่ห่างๆไม่ควรไปใกล้ชิด เช่นนี้ชีวิตของเราจะก็ดีขึ้น แกคิดว่าแกจะเป็นคางคกที่สามารถได้ลิ้มลองเนื้อหงส์งั้นเหรอ? นี่มันชีวิตจริงไม่ใช่ละครทีวีที่เจ้าหญิงจะยอมแต่งงานกับยาจก ประสาท!” จ้าวคุณซานก่นด่าโม่ฝานด้วยความรังเกียจ
การปรากฏตัวของมู่หนิงเซวียทำให้จ้าวคุณซานเผยความอึดอัดใจทั้งหมดออกมา
โม่ฝานนั้นเคยทำสิ่งที่โง่เขลาในอดีตและมันส่งผลต่อหลายครอบครัวมากในตอนนั้น
เจ้าหญิงก็คือเจ้าหญิง… เราควรจะเฝ้ามองเธอจากตรงนี้เท่านั้น
นี่ไม่ใช่เทพนิยายที่คนธรรมดาจะสามารถก้าวข้ามผ่านช่องว่างเหล่านี้ไปได้ ถ้าหากสิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้นำตระกูลมู่โกรธจัด พวกเขาสามารถจัดเก็บภาษีคนเมืองนี้เพิ่มขึ้นและเช่นนั้นผู้คนจะต้องทำงานกันแบบถวายชีวิต!
ในวันนี้ชายวัยกลางคนสวมใส่ชุดสูทสีขาวยืนอยู่กลางเวที เขาคือผู้นำของเมืองนี้!
ชื่อของเขาคือมู่โจวอวิ๋น เขาคือคนที่เก่งกาจและเขย่าเมืองเล็กๆนี้ให้สั่นสะเทือน!
คนที่โกรธโม่ฝานในเหตุการณ์ครั้งนั้นก็คือเขาคนนี้
ซึ่งในตอนแรกมู่โจวอวิ๋นไม่คิดที่จะให้มู่ฝานได้ก้าวเข้ามาในพื้นที่ของตระกูลมู่ด้วยซ้ำ นี่นับว่าเป็นความเมตตาอย่างถึงที่สุดของเขาแล้ว!
“จ้าวคุณซาน แกช่วยหุบปากก่อนได้ไหม!”
“ทำไม? ฉันผิดอะไร?” จ้าวคุณซานกล่าว
โม่ฝานจ้องมองที่จ้าวคุณซานอย่างเกรี้ยวกราด!
แต่ความจริงแล้วคำพูดเหล่านั้นของจ้าวคุณซานทำให้โม่ฝานรู้สึกผิด ซึ่งสิ่งที่มันเป็นไปทั้งหมด มันมากเกินกว่าที่เขาเคยจินตนาการไว้อย่างมาก
บางคนนั้นเข้าใจสิ่งต่างๆได้หลังจากที่เติบโตขึ้น บางคนหัวเราะเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่โง่หรือยากจน ขับไล่ให้พวกเขาออกไปจากสังคม แต่ตนเองนั้นไปเรียนต่อในสถานที่ดีๆและกลับมาพร้อมกับความภาคภูมิใจ คนเหล่านี้สามารถหางานได้อย่างง่ายดายและมีรายได้นับหมื่น แต่ทว่าทั้งหมดกลับคิดว่ามันน้อยเกินไป แต่ในส่วนของคนยากจนที่พยายามฝึกฝนอย่างหนักทำได้เพียงแช่ตัวเองอยู่ในมหาลัยที่ไม่ได้ดีมาก และต้องอดทนต่อการถูกเหยียดหยามถึงภูมิหลังตลอดเวลา โลกในอุดมคตินั้นไม่มีอยู่จริง จิตวิญญาณของคนยากคนนั้นเป็นเพียงแค่หมาล่าเนื้อเท่านั้น เพื่อให้อยู่รอดไปวันๆ!
จ้าวคุณซานนั้นเผยความเหยียดหยามผู้อื่นออกมา ซึ่งความจริงแล้วเขาควรจะฝึกฝนตนเองมากกว่าที่จะไล่สาปแช่งคนอื่นอย่างนี้ ความฝันที่เขาเคยวาดไว้นั้นพังทลายไปตรงหน้า ซึ่งสิ่งนี้เขาไม่อาจยอมรับมันได้ ฝันร้ายในค่ำคืนที่โหดเหี้ยมยังไม่โหดร้ายกับเขามากเช่นนี้!
แน่นอนว่าโม่ฝานไม่ได้ขอบคุณจ้าวคุณซานที่ทำให้เขามองเห็นโลกความเป็นจริง เขากล่าวออกมาอย่างเกียจคร้าน “จ้าวคุณซาน แกคงเป็นได้แค่หมารับใช้ เป็นหมาอย่างเหมาะสมเลยล่ะ! เป็นหมาที่รู้ว่าฉันควรจะทำอะไรหรือไม่ควรทำอะไรซะด้วยนะ ชื่นชม ฉันชื่นชมแกจริงๆ!” โม่ฝานโต้กลับ
“แล้วแกเป็นตัวอะไรล่ะ? ถ้าฉันเป็นหมา ฉันก็คงจะเป็นหมาที่ได้กินแต่ของดีๆ อยู่ในบ้านหลังเล็ก สวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ แต่ถ้าแกเป็นหมา แน่นอนว่าแกก็คงจะนอนอยู่ใต้สะพานแล้วก็กินน้ำจากกองขยะ! อ๋อ สิ่งที่ทำให้แกมาที่โรงเรียนนี้ได้ก็เพราะกองขยะนั่นไม่ใช่เหรอ? แต่สุดท้ายแล้วแกก็ต้องถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพราะแกมันห่วยแตก ฉันอยากจะถามลุงโม่เซี่ยจิงเหลือเกินว่าเขารู้สึกเสียใจไหมที่มีลูกห่วยแตกแบบนี้!” จ้าวคุณซานโต้กลับอย่างดุเดือด
ความจริงแล้วจ้าวคุณซานนั้นรู้สึกอับอายอย่างมากที่โม่ฝานด่าเขาแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้วจ้าวคุณซานก็ต้องรับยอมว่าตนเองเป็นได้เท่านี้และเขาก็ยังเปรียบเทียบว่าตนเองอยู่เหนือกว่าโม่ฝานเช่นเดิม
โม่ฝานมองไปที่ฝูงชนรอบๆ
ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่คนๆหนึ่ง… มู่ไป๋!
เขาคือเด็กหนุ่มที่มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่นอย่างแท้จริง
เมื่อก่อนในวัยเด็ก ถ้าหากไม่พอใจใคร พวกเขาจะวิ่งเข้าไปทุบกระจกบ้านของคนเหล่านั้น
แต่ในตอนนี้ทุกคนเติบโตขึ้น โลกแห่งนี้ได้เปลี่ยนเป็นโลกเวทมนตร์อย่างแท้จริง เหล่าเด็กๆที่เคยโดนมู่ไป๋ทำร้ายในกาลก่อน ตอนนี้พวกเขาคิดหาทางที่จะเอาคืนอย่างแน่นอน เพราะในโลกนี้ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเป็นตัวตัดสิน!
จ้าวคุณซานคือหมารับใช้ของมู่ไป๋ เขาใช้คนๆนี้เพื่อออกรับหน้าแทนตลอดเวลา สถานะเช่นนี้ทำให้จ้าวคุณซานอึดอัดใจอย่างมาก แต่เขาก็ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงมันได้เลย …เช่นนี้โอกาสที่โม่ฝานจะล้างแค้นยังมาไม่ถึง สักวันคงจะมีโอกาสที่ดีกว่านี้ในการลงดาบมู่ไป๋ด้วยตัวเอง!
‘อืม… รอก่อนเถอะ’
‘มาดูกัน… ว่าอะไรที่จะทำให้แกยอมเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา!’
ในตอนนี้โม่ฝานนั้นเต็มไปด้วยพรสวรรค์ เขามีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับหมาเหล่านี้ ไม่ว่าจะอีกกี่ร้อยปีเขาก็จะไม่ยอมตัดใจ… ความแค้นทั้งหมดนี้จะต้องถูกชำระอย่างสาสม!
••••••••••••••••••••
••••••••••••••••••••