MLVF Ch.10 ทำไมเธอถึงหนีไปจากฉัน? (1)
MLVF Ch. 10 ทำไมเธอถึงหนีไปจากฉัน? (1)
ผมสีเงินของเอียนปลิวสไวอย่างนุ่มนวลโดยสายลมฤดูใบไม้ผลิ เขาใช้นิ้วกวาดผมออกจากใบหน้าและดวงตาสีฟ้าของเขาส่องประกายในแสงแดด หลุยส์ยืนแช่แข็งจับลูกบิดประตูขณะที่เธอจ้องมองไปที่เขา
'ลมแรงๆนี่คงอนุญาตให้แค่ตัวละครหลักใช้ใช่มั้ยคะ? '
มันเป็นเอฟเฟกต์ที่สวยงามอย่างแท้จริง! เมื่อเทียบกับสภาพของหลุยส์ ผมยาวของเธอแทบจะพันกันเป็นก้อนๆเมื่อลมพัดผ่าน ถึงอย่างนั้นก็เถอะ นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมความงามของนักแสดงนำชาย
หลุยส์ฝืนยิ้มบนใบหน้าของเธอ ในยามที่มีปัญหาการยิ้มเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด บุคคลอื่นมักจะยิ้มโดยอัตโนมัติเมื่อเจอปัญหา ริมฝีปากของเอียนโค้งขึ้นนิดๆ แต่มันก็เป็นรอยยิ้ม
ตอนนี้เราต้องทำตัวให้เป็นธรรมชาติฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ แต่ฉันหวังว่าคุณจะสนุกกับชีวิตที่น่ารื่นรมย์ของคุณ และจากนั้นฉันก็จะขอลาไปเป็นแค่ผู้ช่วย
หลุยส์ค่อยๆถอยกลับเข้าไปในห้องโถง เขาไม่ละสายตาจากใบหน้าของเธอ เธอกระแทกประตูอย่างรวดเร็วด้วยเสียงดังปังทันทีและถอนหายใจยาว รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหุบลงอย่างรวดเร็ว เธอหันศีรษะของเธอไปด้านข้างและมองที่ป้าย สงสัยว่าเธอมาผิดที่หรือเปล่า
สภานักเรียน
ฉันมาถูกที่แล้วนี่!
'เอียนเป็นสภานักเรียนในนวนิยายต้นฉบับเหรอ?'
เธอไม่แน่ใจ มันเป็นเวลาเกือบสิบปีแล้วที่เธออ่านนิยายครั้งล่าสุด แต่เธอแน่ใจว่ามันค่อนข้างขัดแย้งกับตัวละครต้นแบบ เอียน อัธโมเนียล คราวน์ เป็นเจ้าชายผู้โดดเดี่ยวที่ไม่มีใครสักคนให้ไว้ใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาไม่เคยจริงใจและเขาก็ไม่ได้ชอบปล่อยมุขตลก ผู้คนที่อยู่ใกล้เขามักจะพยายามใช้ประโยชน์จากเขาและหลุยส์คนเก่าก็ไม่ต่างกัน ใครก็ต้องการแต่งงานกับเขาเพื่ออยู่ในสังคมของชนชั้นสูงทั้งนั้น สเตลล่า ลาพิสเป็นคนเดียวที่ไม่คาดหวังอะไรจากเขาและเขาก็หมกมุ่นอยู่แต่กับเธอ
คำว่า "หมกมุ่น" ไม่ใช่การพูดเกินจริง แท็ก“The Fake Lovers of the Academy” เต็มไปด้วยคำหลักเช่น #คนติดเมีย #ผู้ชายไร้เดียงสา #กู้วิกฤติเจ้าชายผู้โดดเดี่ยว
ดังนั้นมันเป็นเรื่องแปลกที่เขาเป็นสภานักเรียน ซึ่งมันทำให้เขาต้องปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนหลายคน
'ฉันไม่จำเป็นต้องสนใจ'
มันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้าย ถ้าเอียนเป็นส่วนหนึ่งของสภานักเรียนเขาน่าจะพบสเตลล่าซึ่งทำงานพาร์ทไทม์ที่ห้องสมุดบ่อยๆ
'อย่างไรก็ตามฉันควรจะอยู่ห่างจากที่นี่ไว้'
หลังประตูนั่นเป็นเส้นทางไปสู่นรก บอสตัวสุดท้ายนั่นพร้อมจะบดขยี้เธอ 'มาเลยสิ มารับจุดจบที่แสนเลวร้ายของเธอ' เธอไม่สามารถเสี่ยงกับการก้าวเท้าเข้าไปในสถานที่นั้นได้
'แต่…'
หลุยส์ม้วนเส้นผมสีทองของเธอ
ภาพเอียนที่ยิ้มอย่างเปล่งประกายภายใต้สายลม แน่นอนว่าเธอไม่ได้เธอตกหลุมรักเขา แล้วก็ไม่ได้คิดว่าเขาเท่ห์ด้วย! ไม่อย่างแน่นอน! เธอต้องขอบคุณประสบการณ์อันยาวนานในการเป็นเพื่อนของเขา
หลุยส์จับมือจับประตูอีกครั้งและหลังจากนั้นไม่นานก็บิดและเปิดประตู
เอียนยังคงยืนอยู่ที่เดิมเขาหันหลังขณะที่เขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ บางทีเขาอาจจะมีเรื่องให้คิดอย่างหนักเกี่ยวกับบางอย่าง ดูเหมือนว่าเธอจะรบกวนเขา ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเมื่อเขาเห็นเธอ ...
'นี่มันไม่ปกติแล้ว ปกติเขาจะยิ้มแบบนี้เมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือ'
เธอเดินเข้าไปในห้องประชุมสภาและถามด้วยเสียงเบาๆ
“…คิดอะไรอยู่เหรอคะ?”
เขาไม่ได้หันมามองเธอทันที หลุยส์มองดูภาพของแสงและเงาที่ด้านหลังของเขา หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็หันหน้ามา
“ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับดอกไม้”
"ดอกไม้? “
"ใช่"
เขาเคาะคางราวกับว่าเขายังตัดสินใจไม่ได้
''เรากำลังจะจัดงานปาร์ตี้สำหรับภาคการศึกษาใหม่ และสำหรับงานปาร์ตี้ -”
“มันต้องมีดอกไม้สินะคะ”
“โอ้ เธอช่างรู้ใจฉันจริงๆ”
หลุยส์รู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อเอียนส่งรอยยิ้มให้เธอ เธอคิดว่าเขาคงไม่ว่าอะไรที่เธอปิดประตูหนีออกจาห้องมะกี้นี้
“หากคุณกำลังมองหาดอกไม้สำหรับงานเลี้ยง คุณต้องพิจารณาเกี่ยวกับสถานที่และบรรยากาศ มีสวนดอกไม้ใกล้ๆที่คุณสามารถใช้งานเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ค่ะ”
ขณะที่หลุยส์กำลังพูดเอียนก้าวช้าๆเข้าหาเธอ
เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ ปลายเท้าของพวกเขาเกือบจะสัมผัสกัน
“- และเราควรเขียนรายงานที่ต้องรับมือกับ…ฝ่าบาท?”
“…ทำไมเธอยังเรียกฉันแบบนั้น”
“คือ..”
หลุยส์ยิ้มอย่างนุ่มนวลและนำปลายนิ้วของเธอมาจิ้มที่ริมฝีปากของเธอ
“นิสัยมันไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆนี่คะ”
หลุยส์ถอยหลังไปหนึ่งก้าว
"เรื่องนั้นฉันเห็นด้วย.. แต่เธอควรมีสติกว่านี้นะ”
เอียนเดินไปอีกก้าวหนึ่งและค่อยๆลดระยะห่างระหว่างพวกเขา หลุยส์ถอยห่างออกไปจนกระทั่งเธอชนเข้าประตูหลังเธอ หลุยส์เหงนหน้าขึ้น เอียนมองเธอด้วยท่าทางชั่วร้าย
“อย่าทำนิสัยที่เธอชอบถอยห่างทุกครั้งเวลาที่เห็นฉัน”
อาจมีความหมายซ่อนเร้นอยู่หลังคำพูดของเขาเช่น: “ฉันจะลากเธอไปลงนรกถ้าเธอชอบวิ่งหนีเวลาเห็นหน้าของฉัน”
…ช่างเป็นคนที่น่ากลัวอะไรยังงี้คะ! เขาสามารถทำลายสถานะทางสังคมของเธอถ้าเขาต้องการ หลุยส์พยายามยิ้มให้หวานที่สุดเพื่อที่จะรอดจากนรกขุมนี้
“แหม.. ฉันไม่ได้มีปัญหาแล้วฉันก็ไม่ได้วิ่งหนีสักหน่อยนะคะ”
"จริงๆเหรอ?"
เอียนยิ้มเยาะและเหยียดแขนออกไปเอนตัวเธอขณะที่หลุยส์เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยท่าทางตกใจ เธอถูกขังอยู่ในเงามืดของเขา คนบ้าหลุยส์ ซวีนี่ เธอน่าจะไม่สนใจใบหน้าที่มีปัญหาของเขา เธอคิดถูก!
“ในตอนแรก ขณะที่ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับดอกไม้ฉันคิดว่าฉันควรมีที่ปรึกษาที่ช่วยฉันได้”
ที่ปรึกษาอาจหมายถึงหลุยส์ เธอศึกษาดอกไม้และต้นไม้ในเรือนกระจกของพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก
“แน่นอนว่าฉันจะช่วยคุณ -”
“แต่ทันทีที่ดวงตาของเราสบกันเธอก็ถอยกลับและปิดประตูทันที”
“...”
"ปัง!"
เขาเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงที่ดังราวกับว่าเขาไม่พอใจกับท่าทางอย่างงั้น
“ฉันไม่ได้ปิดอย่างนั้นนะคะ ฉันแค่ปิดมันเบา ๆเอง-”
การประท้วงที่ขี้อายของเธอไม่ได้ผลมากนัก
“เธอกระแทกประตูเพราะว่าเธอมีปัญหากับใบหน้าของฉัน”
เธอไม่ได้มีปัญหากับหน้าของเขา แต่เธอก็วิ่งหนีไป มันเป็นพฤติกรรมของสัตว์เล็กๆที่ต้องการเอาชีวิตรอดค่ะ!
“ฉันจำได้ว่าฉันหยุดเธอไม่ให้วิ่งไปที่รั้วนั้น”
"ขอบคุณสำหรับครั้งนั้นค่ะ“
“ฉันจำได้ว่าตกลงที่จะเก็บความลับเรื่องสมัยเด็กของเราไว้”
“ขอบคุณสำหรับสิ่งนั้นเช่นกันค่ะ”
“แต่ว่าทำไม”
เอียนเอนตัวเข้ามาด้านในและมองหลุยส์ตัวต่อตัว เขาอยู่ใกล้เธอจนเธอรู้สึกถึงลมหายใจของเขา
“ทำไมเธอถึงหนีไปจากฉัน”