ตอนที่ 9 เข้าใจผิด
ตอนที่ 9 เข้าใจผิด
มิเระนำทีมและเข้าประชิดโลดแล่นผ่านกิ่งไม้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เข้าประชิดอย่างเงียบๆ เธอโบกมือและทีมก็หยุดทันที หลังจากท่าทางนั้นคนในทีม นินจาเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไรและซ่อนตัวอยู่ตามต้นไม้
เมื่อมองลงจากต้นไม้ ฟางหลั่นที่มีทหารกว่าหนึ่งร้อยคนก่อขบวนทัพเป็นแนวป้องกันแบบวงแหวน โดยที่เดินหน้าอย่างเดียว มีระยะห่างเท่ากันระหว่างทหารกับทหาร มันมีความสะดวกในการเปลี่ยนตำแหน่งระหว่างด้านหน้าและด้านหลังเพื่อให้พวกเขาสนับสนุนซึ่งกันและกัน
“พวกเขาใส่ชุดที่แปลกมาก”
มิเระพูดออกมา
แม้ว่าคนเหล่านี้จะอ่อนแอ แต่เธอก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
เธอโบกมือครั้งหนึ่ง มีดคุไนสามเล่มก็โผล่ขึ้นมาแล้วพุ่งเข้าไปปักอยู่ด้านหน้าของฟางหลั่น
ในพริบตาเดียวมีดคุไนจำนวนมากก็ถูกปล่อยออกมาอยู่ด้านหน้าของฟางหลั่น ทำให้แนวป้องกันตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด
"ระวัง!! มีศัตรู!”
ฟางหลั่นตระโกนออกมาเสียงดัง และเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้รอบ ๆ ตัวเขาทันที แต่หลังจากผ่านไปสองสามรอบเขาก็ไม่พบศัตรู
ทุกคนในกองทัพนั้นมีความแข็งแกร่งทางร่างกาย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าไปปะทะโดยตรง
“พวกเจ้าเป็นใคร? มีใครเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดบ้าง?” มิเระที่ซ่อนตัวอยู่บนกิ่งไม้ตระโกนออกมา
นินจาอีกสามคนที่อยู่บนต้นไม้เองก็เตรียมที่จะทำการโจมตีเช่นกัน
ทั้งสองฝั่งเตรียมที่จะปะทะกันแล้ว
ในเวลานี้ฟางหลั่นและคนอื่นๆได้ยินเสียงที่มิเระพูด แต่ด้วยภาษาที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน พวกเขาได้แต่ให้เตรียมที่จะพร้อมรบเท่านั้น
“หัวหน้า ดูเหมือนพวกเขาจะพร้อมสู้นะ”
แม้ว่าจะไม่เข้าใจกันด้วยเรื่องของภาษา แต่ด้านภาษากายทำให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมสู้มาก
“เข้าใจแล้ว พวกนี้ทำไมมันหัวรั้นขนาดนี้นะ”
“น่าสมเพชจริงๆ!”
มิเระส่ายหัวแล้วเดินออกมาจากต้นไม้พร้อมกับยิ้มเยาะก่อนที่จะพูดว่า
“ฆ่าพวกมันให้หมด!”
นินจาเป็นเครื่องจักรสังหาร เมื่อพบกับศัตรูพวกเขาจะไร้ซึ่งความเมตตาใดๆ
“สู้!”
ฟางหลั่นพูดออกมาเมื่อเห็นพวกนินจาปรากฎกาย
ทหารกว่าหนึ่งร้อยคนตระโกนออกมาเป็นเสียงเดียว ทุกคนกระชับดาบและหอกในมือให้มั่น
“คาถาไฟ บอลเพลิงยักษ์!!”
มิเระกระโดดก่อนที่จะประสานอินอย่างรวดเร็ว ในทันทีนั้นเธอก็สูดหายใจเข้าลึกก่อนที่จะพ่นลมหายใจที่มีบอลเพลิงยักษ์ตามออกมาทางปากของเธอ
“ยกโล่!!”
สีหน้าของฟางหลั่นเปลี่ยนไปอย่างมากและตระโกนออกมาด้วยความฉุนเฉียวเมื่อเจอพลังที่เหนือธรรมชาติเช่นนี้
เหล่าทหารต่างก็ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดแล้วยกโล่ไว้เหนือหัวของพวกตน
“ฮะ!”
ทหารยกโล่ไปทางด้านนึง แต่ก็มีอีกร่างนึงที่เหยียบอยู่บนกิ่งไม้
“คาถาไฟ บอลเพลิงยักษ์!!” หลังจากที่ประสานอินเสร็จ ปากของคนปริศนานั้นก็ปรากฎบอลเพลิงขนาดยักษ์ออกมาแล้วพุ่งไปยังคาถาเพลิงของมิเระโดยทันที
คาถาเพลิงของทั้งสองปะทะกันกว่า 5 หรือ 6 วินาทีก่อนที่จะหายไป
สายตาอันเย็นชาของมิเระ เห็นร่างกายของชายคนนึงกระโดดขึ้นมาอยู่บนกิ่งไม้ พร้อมกับมองเธออย่างเย็นชา
ในทันใดนั้นชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นบนหน้าอันเยาว์วัย
“อะไรกัน!”
พลโล่ที่ยกโล่ขึ้นมาก็ผ่อนโล่ของพวกเขาลง พวกเขาเห็นร่างๆนึงที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้
“นายเป็นใคร?”
มิเระถามออกมาอย่างเย็นชา
“อย่าทำร้ายกันเลย นินจาจากโคโนฮะ พวกเราไม่ได้มีความบาดหมางต่อกันและกัน”
เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าวออกมา
มิเระมองไปยังทหารที่อยู่ด้านล่างก่อนที่จะพูดว่า
“นายเป็นพวกเขางั้นหรอ”
“ใช่แล้ว เขาเป็นทหารของชั้น โปรดอย่าทำเช่นนี้อีก”
ในขณะนั้น ทหารอยู่อยู่บนพื้นก็เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ ทันใดนั้นพวกเขาก็ตกอยู่ในความตกใจภายในทันที
“ว้าว!”
ทหารทั้งหมดหนึ่งร้อยคนและฟางหลั่น พวกเขาทั้งหมดยืนตรงในขณะนี้และเอากำปั้นกระแทกเข้าที่หน้าอก
“ฝ่าบาท!!”
ถึงแม้ศัตรูของพวกเขาจะอยู่ด้านหน้า แต่ทว่าพวกเขาก็เป็นทหารที่จงรักภักดีต่ออาณาจักร นี้แสดงจิตวิญญาณสูงสุดของพวกเขาต่อหน้าของราชาพวกเขา
ฉินยี่ยิ้มแล้วกระโดดมายืนอยู่ด้านหน้าของทหารของเขา
“ก็อย่างที่เห็น ชั้นเป็นผูู้นำของพวกเขา”
ฉินยี่พูดออกมาด้วยภาษาญี่ปุ่น
มิเระแววตาเป็นประกายเล็กน้อย และในทันทีร่างของยืนอยู่ตรงหน้าของฉินยี่
“นายบอกว่านายไม่ได้เป็นภัยกับพวกเรา แต่ที่ผ่านมา พวกนายโจมตีคนของพวกเราอย่างต่อเนื่อง” ใบหน้าของฉินยี่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากได้ยินคำเหล่านี้ ฉินยี่กล่าวว่า
“ภาษาของเราและเธอมันแตกต่างกัน ทหารของชั้นเลยคิดว่าหมู่บ้านโคโนฮะ กับหมู่บ้านซึนะงากุเระเป็นศัตรูกัน”
“ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
มิเระก้าวพร้อมกับยิ้มออกมา
“เป็นเรื่องเข้าใจผิดงั้นเหรอ?”
ในทันใดนั้นร่างของมิเระก็หายไปในทันที พร้อมกับโผล่อยู่ด้านหน้าของฉินยี่พร้อมกับมีดคุไนในมือของเธอ หมายจะบั่นคอของเขา
ทหารที่อยู่ด้านหลังเขารวมกับฟางหลั่นต่างก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีทันที
“ฝ่าบาท!”
มีดคุไนอันคมกริบที่กำลังแทงไปยังคอของฉินยี่ ต่างก็ทำให้หัวใจของทหารเหล่านี้ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
แต่ทว่า ในวินาทีนั้น
ตู้ม!!
หมอกสีขาวกระจายตัวออกมาพร้อมกับฉินยี่ที่ปรากฎตัวอยู่ด้านหลังของมิเระ เสียงของเขาดังขึ้นมาว่า
“ก็บอกแล้วไม่ได้มาร้าย พวกโคโนฮะนี้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอย่างงี้หรอ?”
มิเระแววตาเป็นประกายก่อนที่จะยิ้มออกมา
“เยี่ยม”
“งั้นเหรอ งั้นชั้นจะให้เห็นอะไรเด็ดๆอีกนะ”
ฉินยี่พูดออกมาด้วยท่าทางไม่หยี่หระ
มือของเขาประสานอินอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถมองตามได้ทัน
“เขาประสานอินเร็วมาก!”
“การประสานอินนี้มัน!?”
เธอมองไม่ทันในการประสานอินของฉินยี่ตั้งแต่ต้นจนจบ มันทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก
นี้มันคาถารูปแบบไม้ หมู่บ้านโคโนฮะไม่เคยเห็นการประสานอินแบบนี้!
“คาถาไฟและลม มังกรเพลิงวายุ!!” ฉินยี่สูดลมหายใจลึกก่อนที่จะพ่นออกมา
ตู้ม!!!!
สายลมที่กระหนํ่ามาพร้อมกับเปลวเพลิง ทัศนะวิสัยถูกบดบังภายในพริบตา ทุกอย่างเต็มไปด้วยเปลวเพลิง เปลวเพลิงพวกนี้โหมกระหนํ่าอย่างรวดเร็วไม่นานก็ได้มาถึงกลุ่มของมิเระ
“หัวหน้า!!”
“ท่านมิเระ!!”
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากหลังต้นไม้ ในทันทีนั้นก็ปรากฎร่างเงาของคนทั้งสามคนมายืนอยู่ตรงหน้าฉินยี่
ฟางหลันตอบสนองอย่างรวดเร็วพร้อมกับล้มกรอบทั้งสามคนเอาไว้
“หยุด!”
ในทันใดนั้นเสียงของมิเระก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างของเธอที่ปรากฎกายออกมา เธอมองไปยังฉินยี่
ฉินยี่ดูเหมือนจะไม่สนใจเท่าไหร่ เขารู้อยู่แล้วว่าคาถาของเขาไม่สามารถกลืนกินมิเระได้
“ขีดจำกัดทางสายเลือด”
แววตาของมิเระเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ ชั้นพัฒนามันเอง”
เธอสูดหายใจเข้าลึกพร้อมสงบสติอารมณ์
“ถ้าท่านบอกว่าท่านไม่ได้เจตนาร้าย ถ้าเช่นนั้นเราก็ไม่เป็นศัตรูกัน”
“เราจะรายงานให้ท่านทราบโดยเร็วที่สุด”
“แล้วเราขอให้ท่านควบคุมทหารของท่านไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงครามระหว่างโคโนฮะ และซึนะงากุเระ”
ฉินยี่ยิ้มออกมา
“อย่าห่วงเลย ฉันจะหาทหารของชั้นให้เร็วที่สุด”
“ขอถามอีกคำถาม ไม่ทราบว่าตอนนี้ใครเป็นโฮคาเงะกัน?”
เขาเองก็มีข้อสงสัยของเขาเช่นกัน
“เป็นท่านเซนจู ฮาราชิมะ”
หลังจากที่ตอบ ร่างของมิเระและทีมของเธอก็หายไปอย่างรวดเร็ว