บทที่ 20: ดวงดาว!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 20: ดวงดาว!
“ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากของโรงเรียนเทียนหลาน อีกอย่างมู่หนิงเซวียนั้นกลับมาจากมหาวิทยาลัยจักรพรรดิในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนพอดี ฉันเลยเชิญให้เธอมาเป็นแขกรับเชิญในวันนี้น่ะ อีกอย่างฉันอยากให้เธอเป็นส่วนหนึ่งในสักขีพยานในการสอบครั้งนี้ด้วย” มู่เห่อกล่าวออกมา
มู่เห่อนั้นมองมู่ไป๋ที่ใบหน้างุนงง เขารู้ดีว่ามู่ไป๋นั้นไม่เข้าใจในการกระทำนั้น จึงตบบ่าของเด็กน้อยคนนี้พร้อมกล่าวว่า “อย่าได้กังวลเลย ตอนที่แกทดสอบ ฉันจะดูมันพร้อมกับเธอ เมื่อผู้นำครอบครัวของเราเห็นว่าแกพยายามฝึกฝนอย่างหนัก แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องจ่ายทรัพยากรเพิ่มอย่างแน่นอน เหล่าลูกหลานในครอบครัวเรานั้นไม่ได้โดดเด่นทุกคน ดวงดาวปีศาจนั้นมีเพียงสองถึงสามเท่านั้น และแกเป็นหนึ่งในนั้นที่ควรได้รับมัน!”
“ดวงดาว… ดวงดาวปีศาจ ฉันยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับมันใช่ไหม?” มู่ไป๋เบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น
“แน่นอน แกรู้รึเปล่าว่าทำไมตระกูลของเราถึงแตกต่างจากพวกนักเวทย์ทั่วไป เหอะ พวกเรานั้นมียีนส์ที่เหนือกว่า อิทธิพลที่มากกว่าใช่ไหมล่ะ นั่นแหละสิ่งที่ยอดเยี่ยมของพวกเรา! ฮ่าฮ่า ถ้าหากว่าแกสามารถขึ้นเป็นศิษย์หลักที่โดดเด่นได้ ของที่แกจะได้รับนั้นแน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก และเมื่อได้รับมันมาแล้ว แกไม่ต้องกังวลว่าจะสู้ใครเขาไม่ได้!” มู่เห่อกล่าวออกมา"
“ฉันจะทำให้ได้!”
“ฉันจะต้องโดดเด่นมากที่สุดในวันนี้!”
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมู่ไป๋จึงต้องการสิ่งของชิ้นนั้นอย่างมาก ในเด็กรุ่นเดียวกันพวกเขาต่างต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะควบคุมเวทย์ แต่ทว่าทุกสิ่งจะง่ายดายขึ้นเมื่อได้รับไม้เท้าดวงดาวชิ้นนี้
เวลาฝึกซ้อมของทุกคนนั้นมีจำกัดอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วสามารถฝึกฝนได้ติดต่อกันเป็นเวลาห้าชั่วโมงเท่านั้น นี่คือขีดจำกัดของการฝึกฝนเวทมนตร์
แต่ว่าไม้เท้าดวงดาวนั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยเหลือนักเวทย์ทุกคนให้พ้นจากข้อจำกัดเหล่านี้
มู่ไป๋นั้นไม่รู้หรอกว่าไม้เท้าดวงดาวนั้นทำงานอย่างไร แต่เขารู้เพียงว่ามันสามารถให้พลังเวทย์ฟื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็วหลังจากความเหนื่อยล้าของการฝึก เช่นนี้จะสามารถลดเวลาได้อีกมากและจะได้รับเวลาฝึกเพิ่มขึ้น
โดยทั่วไปแล้วเมื่อฝึกเวทมนตร์ห้าชั่วโมง จะเหลืออีกสิบเก้าชั่วโมงที่จะทำอะไรก็ได้
สิบเก้าชั่วโมงนี้จะเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนจากการเหนื่อยล้าหรือทำอย่างอื่นที่เป็นส่วนตัว
สำหรับนักเรียนคนอื่นที่ต้องการไปไกลมากกว่านี้ ก็ไม่อาจทำได้ ทั้งหมดติดอยู่กับเวลาสิบเก้าชั่วโมงที่ต้องพักผ่อน ซึ่งมันทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ แต่ถ้าหากพวกเขาฝืนต่อไปจะทำให้พลังของพวกเขาบาดเจ็บได้
แน่นอนว่าไม้เท้าดวงดาวจะสามารถเยียวยาส่วนนี้ได้
ดังนั้นการย่นระยะเวลาในการพักผ่อนตรงนี้ และเพิ่มเวลาฝึกฝนย่อมเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก!
ถ้าเพียงเวลาหนึ่งถึงสองวันแน่นอนว่ามันคงจะไม่มีผลอะไรมาก แต่ถ้าหากทำเช่นนี้ได้เป็นเวลาสองถึงสามเดือน แน่นอนว่าความก้าวหน้าของบุคคลผู้นั้นย่อมก้าวกระโดดและไปไกลกว่าผู้อื่น!
อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพการทำสมาธิของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บ้างก็ช้าหรือเร็ว ทุกสิ่งล้วนแต่ต้องใช้เวลา แต่ด้วยความช่วยเหลือของไม้เท้าดวงดาว แน่นอนว่าในอนาคตทุกสิ่งจะต้องเป็นไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน แม้จะมีพรสวรรค์เล็กน้อยแต่บวกการฝึกฝนอย่างหนัก จะต้องให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า!
“คุณลุงเคยบอกฉันว่านักเรียนที่อยู่อันดับหนึ่งมีสิทธิ์ที่จะได้รับไม้เท้าดวงดาว จริงงั้นหรือ?” มู่ไป๋กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น
“แน่นอน เพราะว่าโรงเรียนนั้นก็มีทรัพยากรอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามสิ่งที่โรงเรียนนั้นมีอยู่นั้นจำกัด นักเรียนในโรงเรียนนั้นมากเกินไป เช่นนี้จึงต้องมีการสอบประจำปี นักเรียนที่ได้อันดับสูงสุดในห้องเรียนสามารถได้รับไม้เท้าแห่งดวงดาวยืมใช้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยคะแนนของแก ฉันว่าคงไม่มีปัญหาเรื่องนี้ ในเวลานั้นฉันจะใช้ตำแหน่งของตัวเองเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับแกแล้วกัน แต่ทว่ามันอยู่ต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนฉันคงจะทำอะไรไม่ได้มาก เช่นนั้นแกจึงต้องโดดเด่นด้วยตัวเองให้มากที่สุด ห้ามทำให้ตระกูลมู่ของเราเสียชื่อเด็ดขาด!” มู่เห่อกล่าวกับมู่ไป๋ด้วยใบหน้าที่เฉียบขาด
“มั่นใจได้เลยว่าคุณลุงจะไม่ผิดหวัง!”
“ไม่มีประโยชน์ที่จะทำเพื่อฉัน แกต้องแสดงให้มู่หนิงเซวียและอาวุโสเห็นว่าแกมีความสามารถ!” มู่เห่อตบบ่าของมู่ไป๋เบาๆ
มู่ไป๋พยักหน้าพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ “เหอะ เสี่ยวปิง… แกจะมาแข่งกับฉันได้ยังไงกันนะ ถึงแกจะมีเวทย์สายฟ้า แต่ด้วยอำนาจของตระกูลฉัน แกลืมเรื่องที่จะเอาชนะฉันไปได้เลย ฮ่าฮ่า”
“อ่า จริงด้วย แล้วเด็กที่ชื่อโม่ฝานนั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ?” มู่เห่อกล่าวออกมาในทันทีที่เขานึกได้ เขารู้ว่าเด็กคนนี้เข้ามาทางประตูดำด้วยการจัดการของเขาเอง
“ขยะชิ้นหนึ่ง เดี๋ยวก็หายไปจากโรงเรียน!” มู่ไป๋กล่าวออกมาอย่างเหยียดหยาม
มู่ไป๋นั้นรังเกียจโม่ฝานอย่างมาก
ในตอนที่พวกเขายังเด็กอยู่ พวกเขาเติบโตมาพร้อมกับ ทั้งหมดเป็นกลุ่มเพื่อนเล่นด้วยกันมาก่อน พวกเขามักจะเล่นเจ้าชายกับเจ้าหญิงเสมอ ซึ่งโม่ฝานและโม่หนิงเซวียนั้นสนิทกันอย่างมาก ทั้งสองมักจะอยู่ด้วยกันเสมอ เป็นความสัมพันธ์ที่มู่ไป๋ไม่สามารถเข้าถึงได้เลย
อะไรคือเด็กหนุ่มที่ยากจนพยายามจะปีนป่ายขึ้นมาเด็ดดอกฟ้า? ทำไมเขาไม่สำเหนียกในฐานะของตนเองล่ะ?
เขารู้รึเปล่าว่าพลังที่แท้จริงคืออะไร? สถานะของตนเองคืออะไร? ทำไมผู้คนถึงเหยียดหยามและคอยรังแกเขาอยู่เสมอ
บุตรชายของคนรับใช้ผู้นั้นไม่เคยรู้สึกรู้สากับความเกลียดชังที่เขาได้รับ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังยืนอยู่บนถนนที่เต็มไปด้วยน้ำขยะ แต่เขากลับมีความสุขกับมัน!
“เหอะ ฉันจะส่งเขากลับไป เช่นนี้ฉันจะได้มีคำอธิบายกับโม่เซี่ยจิงว่าในส่วนนี้ฉันไม่สามารถช่วยได้จริงๆ บุตรของเขาโง่เกินไป ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้หรอก เขาไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักเวทย์ เฮ้อ มีผู้คนมากมายต้องสูญเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้เข้าเรียน แต่ปัญหาก็คือมันไม่มีปัญญาที่จะเรียนซะอย่างนั้น เขาคาดหวังว่าบุตรชายของตนเองจะกระโดดเข้าประตูและกลับออกไปเป็นมังกรงั้นหรือ? โง่จากรุ่นสู่รุ่นจริงๆ!” มู่เห่อกล่าวออกมาพร้อมกับพ่นควันจากซิกการ์อย่างหงุดหงิด
ในตอนนี้ดวงตาของมู่เห่อนั้นราวกับจิ้งจอกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เขาเหยียดร่างกายขึ้นด้วยความสง่างามและเหยียดหยามบุคคลที่พูดถึงอย่างสุดความสามารถ!
••••••••••••••••••••
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••