บทที่ 15: พูดคุยเกี่ยวกับปีศาจ!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 15: พูดคุยเกี่ยวกับปีศาจ!
......
หลังจากที่ไปส่งเหย่ซินเซียกลับไปที่บ้านของป้าและรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน โม่ฝานคิดที่จะฝึกเวทมนตร์อีกครั้ง แต่เมื่อเขาเริ่มฝึกควบคุมมันอีกครั้ง ศีรษะของเขาหมุนแทบจะระเบิดออก อาการเช่นนี้ราวกับว่าเขาหักโหมเล่นเกมส์มาแล้วสามวันสามคืนในร้านอินเตอร์เน็ตโดยไม่หลับนอน และในตอนนี้ร่างกายของเขามันเริ่มประท้วงแล้ว!
‘มันเกี่ยวกับพลังเวทย์รึเปล่านะ???’
‘ทำไมเพลียขนาดนี้นะ? ปกติงั้นเหรอ?’
‘หรือเป็นเพราะฉันใช้พลังไปถึงสองครั้งในวันเดียวเลยทำให้พลังวิญญาณของฉันอ่อนล้า?’
‘มันผิดปกติรึเปล่านะ บนรถบัสฉันก็ไม่ได้ปลดปล่อยพลังงานเต็มที่สักหน่อย เพียงแค่ใช้มันสองครั้งเท่านั้น แต่ตอนนี้พลังเวทย์ของฉันกลับว่างเปล่าซะแล้ว!’
‘ฉันว่าฉันใช้เวลาห้าเดือนในการทำสมาธิ ซึ่งมันทำให้พลังเวทย์ของฉันใหญ่พอสมควร แต่ใครจะไปรู้ว่าเพียงปลดปล่อยสายฟ้าออกมาเพียงสองครั้ง พวกมันจะว่างเปล่าทันที!’
โดยปกติแล้วดวงดาวภายในโลกวิญญาณนั้นจะเปล่งประกายส่องแสงสวยงาม พวกมันจะวิ่งไปมาภายในนั้นอย่างกระฉับกระเฉงอยู่เสมอ แต่ในตอนนี้ทั้งหมดอ่อนล้าและอยู่ในความมืดมิด ไร้แสง ไร้ความวุ่นวาย ทุกอย่างค่อยๆตกลงไปสู่ความมืด
เห็นเช่นนั้นในครั้งแรกโม่ฝานตกใจมาก จากนั้นเขาค่อยๆผ่อนคลายและเริ่มให้ร่างกายพักผ่อน ดวงดาวทั้งหลายค่อยๆเปล่งแสงขึ้นมา แม้ว่าจะช้ามากแค่ก็ได้รู้ว่ามันไม่ได้หายไปไหนเลย พวกมันแค่เหนื่อยเท่านั้น
“ดูเหมือนว่ากลุ่มดวงดาวเหล่านี้จะน้อยเกินไป ทุกครั้งที่ใช้เวทมนตร์ออกไป พวกมันจะอ่อนล้าและแสงของมันค่อยๆจางหายไปเพราะพลังงานของพวกมันถูกใช้สินะ”
“อืม ดวงดาวพวกนี้เก็บพลังเวทย์เอาไว้!”
ในตอนนี้เขาไม่สงสัยอีกแล้วว่าทำไมซุยมู่เชิงถึงเน้นย้ำว่าให้ทำสมาธิทั้งวันทั้งคืน แม้ว่ามันจะน่าเบื่อก็ตาม ถ้าหากนักเวทย์ไม่ได้ฝึกทำสมาธิอย่างจริงจัง เช่นนั้นความสามารถของเขาก็ไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา
ประโยคนี้สามารถเข้าใจได้โดยง่ายดาย ถ้าหากคุณมีแค่ทักษะมากมายแต่กลับไม่มีพลังจะใช้ คุณก็คือขยะเปียกชิ้นหนึ่งเท่านั้น!
‘ฉันควรลืมมันไปซะ ถ้าหากไม่ต้องการจะเป็นเช่นนั้น คงต้องรีบเข้านอนแล้วหรือว่าอยากจะกลายเป็นขยะจริงๆ!’
......
ภายในห้องนอน โม่ฝานหลับสนิทจนถึงเช้าก็ยังไม่ตื่นขึ้นมา…
แน่นอนว่าเหย่ซินเซียรู้ว่าเขาเพลียมาก จนบ่ายคล้อยเธอก็ยังไม่คิดที่จะปลุกเขาแต่อย่างใด
โม่ฝานค่อยๆเหยียดตัวลุกขึ้นจากเตียงและรู้สึกว่าตัวเองสดชื่นอย่างมาก
เขารีบเข้าสู่โลกวิญญาณอย่างชำนาญ จากนั้นตรวจสอบกลุ่มดาวทั้งหมดของตัวเอง เขาพบว่ามันสว่างขึ้นมาแล้ว อีกไม่นานก็คงจะฟื้นคืนพลังอย่างเต็มที่แน่นอน
“เฮ้อ ฉันไม่ควรจะเปิดเผยเรื่องธาตุสายฟ้าต่อคนภายนอกจริงๆ แม้ว่านี่จะเป็นกฏของสังคม แต่มันจะถูกทำลายโดยเหล่าคนที่อิจฉาก็ย่อมได้เสมอ อย่างเช่นตระกูลมู่ที่สามารถปิดท้องฟ้าทั้งหมดได้ด้วยนิ้วโป้ง ฉันคงจะต้องรีบฝึกฝนธาตุไฟเอาไว้เพื่อปิดบังสายตาของคนอื่นแล้วล่ะ!” โม่ฝานคิดได้เช่นนั้น เขาลุกขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟันทันที
อย่างไรก็ตามในขณะที่พลังงานของฉันมีเต็มที่ในวันนี้ แล้วถ้าหากฝึกฝนสายฟ้าตลอดวัน… ฉันจะฝึกฝนธาตุไฟยังไงดีล่ะ?
โม่ฝานนั้นใช้เวลาไปทั้งหมดห้าเดือนเพื่อฝึกฝนธาตุสายฟ้า อย่างไรก็ตามในตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องมองธาตุไฟว่ามันพิเศษอย่างไรกัน
อีกครึ่งปีจะมีการสอบประเมินเวทมนตร์ ถ้าหากไม่ต้องการจะเปิดเผยธาตุสายฟ้าในตัว โม่ฝานจะต้องควบคุมธาตุไฟให้ได้ อีกทั้งยังต้องฝึกทักษะแรกของธาตุไฟอีกด้วย!
แต่ถ้าหากโม่ฝานทำเช่นนั้น หมายความว่าทักษะสายฟ้าของเขาจะหยุดพัฒนาไปครึ่งปี!
ถ้าหากไม่เข้าสู่สมาธิไปเล่นกับพวกมันบ่อยๆ กลุ่มดาวเหล่านั้นจะอ่อนแอลงอย่างไร้เหตุผล!!!
......
ตอนนี้โม่ฝานเริ่มทำแผนเล็กๆเพื่อใช้สำหรับการทำสมาธิครั้งต่อไปของเขา
ยังมีเวลาเหลือมากกว่าหกเดือนก่อนการสอบจะมาถึง โม่ฝานตั้งเวลาไว้สิบชั่วโมงต่อวัน เขาจะใช้เวลาแปดชั่วโมงเพื่อจัดการกับธาตุไฟ และอีกสองชั่วโมงเพื่อจัดการกับธาตุสายฟ้า
ด้วยวิธีนี้ ธาตุสายฟ้าจะเติบโตช้ามาก แต่พวกมันก็ยังสามารถควบคุมได้!
แปดชั่วโมงต่อวันนั้นเป็นการเรียนรู้ธาตุไฟของโม่ฝาน ซึ่งมันมากกว่านักเรียนคนอื่นๆถึงสามชั่วโมง คนเหล่านั้นสามารถใช้เวลาฝึกฝนสมาธิได้เพียงห้าชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
......
ในมื้อกลางวันเฉี่ยวกู่โม่ชิงกลับมาจากที่ทำงาน
เฉี่ยวกู่โม่ชิงนั้นไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา เธอผอมมาก ผิวของเธอออกสีเหลืองซีดและเธอเก่งมาก!
“โม่ฝานมานี่หน่อยสิ ฉันได้ยินมาว่าเธอเข้าเรียนที่โรงเรียนเวทมนตร์เทียนหลานใช่ไหม ในเวลานี้เธอจะต้องตั้งใจเรียนให้มาก ถ้าหากเธอสามารถเป็นนักเวทย์ชั้นหนึ่งได้ เธอจะได้รับเกียรติจากบรรพบุรุษตระกูลโม่ของเรา!” โม่ชิงกล่าวออกมา
‘หืม เกียรติอะไรกันน่ะ?’
‘คนเหล่านั้นตายไปไม่รู้กี่ชั่วอายุคนแล้วล่ะ?’
‘โอ้… ฉันไม่รู้เลยว่านี่มันเรื่องบ้าอะไร!’
“ป้าครับ… ทำไมผมไม่เห็นใครเลย?” โม่ฝานถาม
“อ๋อ… เขาเอาเสบียงไปส่งให้กับพวกนักฆ่าน่ะ ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ เขาเป็นแค่คนธรรมดา แต่กลับมีความกล้าหาญที่จะเดินเข้าไปในภูเขาเพื่อพบเจอกับเหล่าปีศาจ แล้วจะห้ามไม่ให้มันกลืนเขาได้ยังไงนะ!” โม่ชิงบ่นออกมาอุบอิบ
“แล้วพวกปีศาจเหล่านั้นมันอยู่ไกลจากเมืองของเรามากรึเปล่า?” โม่ฝานกล่าวออกมา
โลกนี้แตกต่างออกไปจากโลกเดิมมาก ด้านนอกเมืองเต็มไปด้วยอสูรเวทมากมาย ไม่ต้องกล่าวถึงคนธรรมดาว่าจะเดินผ่านสถานที่เหล่านั้นได้อย่างไร แม้แต่นักเวทย์ก็ตายตกไปเพราะพวกมันเหมือนกัน!
“เธอไม่ได้เห็นคำเตือนของสมาพันธ์นักฆ่านั้นเหรอ? เมื่อเร็วๆนี้เหล่าปีศาจพวกนั้นมันได้ขยายพันธุ์มากมาย พวกมันดุร้ายมากขึ้นและเขาเตือนไม่ให้คนธรรมดาออกไปที่ด้านนอกกำแพงนั่นโดยเด็ดขาด!” โม่ชิงกล่าว
“เขาไม่ได้พูดเกินจริงไปหน่อยเหรอ?” โม่ฝานยิ้ม
แม้ว่าโม่ฝานจะอยู่ในขั้นฝึกหัด แต่เขาก็อ่านหนังสือเยอะมาก เขารู้ว่าปีศาจเหล่านั้นอยู่ไกลจากกำแพงเมืองพอสมควร สมาคมนักฆ่านั้นมักจะออกไปจัดการพวกที่อยู่รอบเมืองอยู่เสมอ นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของคนที่อยู่ในเมืองนี้
“เหอะ สิ่งที่เธอได้อ่านมานั้นมันโง่เง่าสิ้นดี เธอคิดดูเถอะว่านายกคนไหนจะไม่อยากให้เมืองของตัวเองสงบสุขและปลอดภัย แม้ว่าเมืองนี้จะถูกปีศาจรุกรานและคุกคามอย่างหนัก เขาก็จะต้องประกาศออกมาว่ามันยังปลอดภัยอยู่เสมอ พวกเขาสามารถควบคุมทุกอย่างได้… แต่ในความจริงในรอบๆกำแพงนั้นเต็มไปด้วยปีศาจ ทั้งด้านนอกและในกำแพง และคนธรรมดาอย่างพวกเรานั้นไม่ควรจะไปยุ่งย่ามแถวนั้น” โม่ชิงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตึงเครียด
โม่ฝานฟังเช่นนั้น เขาเผยรอยยิ้มออกมาอย่างสบายๆ “โธ่ป้า คิดมากเกินไปรึเปล่าน่ะ”
“ใช่ เธอยังเด็ก คงไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดเท่าไหร่ แต่ฉันจะบอกความจริงให้นะ ความจริงก็คือป้าของเธอเนี่ยมีสายข่าววงในมากมาย อีกอย่างเธอควรจะรู้ว่าป้าทำงานในโรงพยาบาล!”
“อ่า” โม่ฝานพยักหน้า
โชคดีที่โม่ชิงไม่ได้บอกว่าเธอทำงานในวัด ไม่อย่างนั้นโม่ฝานคงจะรู้สึกปวดหัวตุบแน่นอน
“มีคืนหนึ่งฉันต้องไปรักษาคนกับหมอ ซึ่งเขาดูเหมือนนักเวทย์ ผลก็คือด็อกเตอร์หวางเย้ยหยันเด็กคนนั้นและกล่าวว่าถ้าหากเธอยังเป็นแค่เด็กฝึกหัด ก็ไม่ควรจะโง่เง่าอย่างนี้ ที่ไม่สามารถแยกแยะยาพิษกับน้ำเปล่าได้ แม้แต่คนทั่วไปก็ยังต้องฉุกคิดว่ามันคืออะไร จงรีบไปเถอะ ไปหาสมาคมนักฆ่าซะ ไปอยู่ที่นั่น อย่าลืมบอกพวกเขาล่ะว่าเธอเจอมันที่ไหน ให้เขามาเก็บกวาดด้วย ไม่อย่างนั้นคงจะมีคนโง่มากมายมาที่โรงพยาบาล!!!” โม่ชิงกล่าวกับโม่ฝานอย่างแผ่วเบาราวกับกังวลว่าใครจะมาได้ยิน
โม่ฝานมองดูการกระทำของโม่ชิง เขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงทันทีเพราะท่าทางของเธอย่อมไม่โกหก
‘ถ้าอย่างนั้นก็จะมีปีศาจแฝงตัวอยู่ในเมืองน่ะสิ ใช่ไหมล่ะ?’
‘น่ากลัวเกินไปแล้ว ปีศาจเหล่านี้มันฉลาดเกินไป ถ้าหากใครได้พบมัน… ต้องตายแน่นอน!’
••••••••••••••••••••
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••