ตอนที่ 9 เกี้ยวพาราสี
ฮารุกะอยากจะรู้ชื่อของเมดคนนี้เนื่องจากเธอน่ารักมากแต่เขาตัดสินใจจะไม่ทำแบบนั้นเนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงสายตาของเธอที่พุ่งเป้ามาที่เขา และเขาก็ยังรู้ด้วยว่าเมดคนนี้เป็นใครเนื่องจากเขาเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ในอนิเมะที่เขาเคยดูเมื่อชาติที่แล้ว
“ฉันชื่อมินะรินสกี้ ขอรับออเดอร์ได้ใหมค่ะ?”มินะรินสกี้ก็ถามขึ้น
“มินะรินสกี้?”อูตะฮะก็มองเมดคนนี้
“เธอรู้จักงั้นหรอ?”ฮารุกะถาม
“ฉันเคยได้ยินว่าเธอเป็นเมดในตำนานหรืออะไรสักอย่างเนี่ยแหละ”อูตะฮะพูดขึ้น
“มะ-ไม่ ฉันไม่ใช่เมดในตำนานสักหน่อย!”มินะรินสกี้พูดออกมาพร้อมกับโบกมือไปมา เธอรู้สึกอายมากเมื่อเธอได้ยินคนเรียกเธอว่าเมดในตำนาน เธอมาทำงานที่นี่ก็เพื่อพัฒนาทักษะการพูดคุยของเธอให้ดีขึ้นเท่านั้นแต่จู่ๆเธอกลับกลายเป็นเมดในตำนานไปเสียแล้ว
“ที่นี่มีอะไรแนะนำไหม?”ฮารุกะไม่ได้สนใจเรื่องเมดตำนานมากนัก นั่นเพราะเขาหิวเนื่องจากระบบเผาผาญของเขานั้นดีกว่าคนปกตี เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติเนื่องจากในโลกแห่งนี้มีผู้คนมากมายที่ไม่ว่าจะกินอาหารมากเพียงใดก็ไม่มีทางอ้วน
“ดิฉันขอแนะนำข้าวห่อไข่ออกทางร้านค่ะ”มินะรินสกี้ก็พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
ฮารุกะก็พยักหน้า “ฉันขอกาแฟหนึ่งแก้ว”
“งั้นฉันขอกาแฟกับเค้ก”อูตะฮะพูด
จากนั้นมินะรินสกี้ก็พยักหน้าให้ทั้งสองคน “ดิฉันจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้ โปรดรอสักครู่นะค่ะ”เธอก้อมหัวแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อสั่งออเดอร์ จากนั้นเธอก็หันกลับมามองพวกเขาทั้งสอง เธอค่อนข้างจะอิจฉาพวกเขาเพราะเธอไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ชายในโรงเรียนของเธอเลยสักคนเนื่องจากโรงเรียนของเธอนั้นเป็นโรงเรียนหญิงล้วน
อูตะฮะก็หันไปมองเมดคนนั้นและมองกลับมาที่ฮารุกะอีกรอบ “เมดคนเมื่อกี้เป็นไงบ้างหล่ะ?”
“น่ารักละมั้ง”ฮารุกะก็ตอบแบบไม่มั่นใจ
“จริงหรอ?”อูตะฮะก็มองไปที่ฮารุกุพร้อมกับกอดอก
“แต่เธอน่ารักกว่า”ฮารุกะก็พูดพร้อมท่าทางที่พ่ายแพ้
อูตะฮะก็พยักแหน้าและรู้สึกค่อนข้างพอใจในคำตอบของเขา “ดี”
“แล้วจู่ๆเธอมาเขียนนิยาได้อย่างไงกัน?”ฮารุกะถามออกมา
“หืม ฉันสนใจเรื่องนี้มาสักพักแล้วและฉันก็คิดว่าฉันก็มีพรสวรรค์เหมือนกัน”อูตะฮะพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“อืม ฉันคิดว่าเรื่องที่เธอเขียนก็ค่อนข้างดีทีเดียว”ฮารุกะก็พูดออกมา
อูตะฮะก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “นายยังไม่ได้อ่านหนิ แล้วนายมั่นใจได้อย่างไร?”
“ฉันไม่รู้แต่ฉันรู้สึกได้ว่านิยายของเธอคงจะดีแน่ๆ”ฮารุกะพูดออกมา เขารู้ว่าเธอจะกลายเป็นนักเขียนนิยายที่โด่งดังซึ่งเธอมียอดขายนิยายถึง 5 แสนเล่ม เนื่องจากเขาเคยเห็นเธอทำในอนิเมะตอนชาติที่แล้ว
เขาไม่ได้เห็นเพียงตัวละครจาก Yosuga no Sora เท่านั้นแต่เขายังเห็นตัวละครจากอนิเมะเรื่องอื่นด้วยเหมือนกัน เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะดีใจหรือร้องไห้ดีกับสถานการณ์แบบนี้แต่เขารู้สึกมีความสุขที่เขาได้พบผู้หญิงที่สวยขนาดนี้
พวกเขาก็คุยกันไปจนกระทั่งของที่พวกเขาสั่งมาถึง
“ขอบคุณที่รอค่ะ! นี่คืออเดอร์ของนายท่านและคุณหนู!”มินะรินสกี้ก็ยกออเดอร์ของพวกเขามาเสิร์ฟ จากนั้นเธอก็หยิบขวดซอสมะเขือเทศออกมาแล้วพูดว่า “นายท่านต้องการให้ฉันเขียนข้อความบนข้าวห่อไข่ของท่านใหมค่ะ?”
ก่อนที่ฮารุกะจะได้ทันพูดว่าเขาต้องการให้เขียนอะไรบนข้าวห่อไข่ อูตะฮะก็ได้พูดออกมาแทน
“ให้ฉันเป็นคนเขียนบนข้าวห้อไข่ของเขาได้ใหม?”อูตะฮะก็พูดกับมินะรินสกี้
“อ่า แน่นอนค่ะ เชิญค่ะคุณหนู”เธอก็พูดออกมาพร้อมกับส่งขวดซอสมะเขือเทศให้
ฮารุกะค่อนข้างสนใจว่าเธอจะเขียนอะไรให้เขา เขารอเธอเขียนอยู่สักพัก และจากนั้นเขาก็ต้องปากสั่นออกมา
“เชิญ กินเลย ที่รัก”อูตะฮะก็ยิ้มออกมาพร้อมพูด
“เธอรู้ไหม แม้ว่าเธอจะเรียกฉันด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแบบนั้นแต่สิ่งที่เธอเขียนบนข้าวห่อไข่ของฉันกลับแย่กว่าอีก”ฮารุกะมองข้าวห่อไข่ของเขาที่มีคำว่า *สารเลว*เขียนอยู่ด้านบน
อูตะฮะก็ยิ้มออกมา “จริงหรอ? นายควรจะกินก่อนนะ ฉันคิดว่าตอนกินร้อยๆอร่อยกว่าเยอะ”
“เธอนี่มันจริงๆเลย!!”ฮารุก็ส่ายหัวให้กับผู้หญิงคนนี้
มินะรินสกี้รู้สึกอยากร้องไห้เมื่อเธอเห็นพวกเขาทั้งสองจีบกันต่อหน้าเธอ แถมเธอก็ยังถูกเมินอีกด้วยทำให้เธอน้ำตาไหลออกมาในขณะที่มองทั้งสองคน
“นะ–นี่ อย่าร้องเลย เอ้านี่ขวดซอสมะเขือเทศของเธอ”อูตะฮะก็พูดออกไปอย่างกังวล เธอไม่คิดว่าเมดคนนี้จะร้องไห้ออกมา
“มะ–ไม่ เป็นความผิดของฉันเองค่ะ พวกคุณท่านทั้งสองเชิญจีบกันต่อได้เลย”จากนั้นเธอกก้มหัวแล้วออกไป
อูตะฮะก็แสดงสีหน้าอย่างตกตะลึงจนกระทั่งเธอได้ยินเสียงของฮารุกะ
“ว้าว เธอทำเมดคนนั้นร้องไห้ด้วยหล่ะ”ฮารุกะก็หยิบช้อนและเตรียมจะกินแต่มือของเขาก็ถูกหยุดโดยอูตะฮะ จู่ๆเขาก็มองเห็นเธอกินอาหารของเขา
“มันอร่อยจริงๆ”อูตะฮะดูท่าทางประหลาดใจ
ฮารุกะคิดว่าผู้ชายคนที่ได้เธอคนนี้เป็นแฟนคงลำบากมากแน่ จากนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วกินข้าวห่อไข่ต่อไปจนกระทั่งเขามองเห็นเธอดูหน้าแดงๆ
“เป็นอะไรหรือป่าว?”ฮารุกะถาม
“ไม่มี อะไรไอ้โง่เอ้ย”อูตะฮะก็อายหน้าแดงและหันไปมองทางอื่น เธอคิดว่าหมอนี่มันโง่หรือแค่แกล้งกันแน่นเนื่องจากพวกเธอทั้งสองกินข้าวช้อนเดียวกันซึ่งนั่นก็คือการจูบทางอ้อมนั่นเอง
“จริงด้วย มันอร่อยมากเลย”ฮารุกะก็คิดขึ้น เขาสงสัยว่าเขาจะขอสูตรข้าวห่อไข่นี้ได้หรือป่าวเพราะเขาอยากจะทำกินที่บ้าน
“หมอนี่ไม่สังเกตเลยงั้นหรอ?”อูตะฮะก็รู้สึกว่าเธอคงจะคิดมากไปเนื่องจากเธอเห็ฯเขากินข้าวห่อไขไปโดยไม่สนใจอะไรเลยสักนิด
“อะไรหรอ? เธออยากกินอีกหรือไง?”ฮารุกะก็ถามเธอ
อูตะฮะก็หน้าแดงอีกครั้ง เธอรู้สึกว่าหมอนี่จงใจจะแกล้งเธอ เธอก็งอนจากนั้นเธอก็ทำให้เขาเห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นหัวหน้า “อ้ามมม”
ฮารุกะก็ขยับช้อนมาทางเธออย่างช้าๆ
อูตะฮะก็กังวลขึ้นมาทันทีเมื่อเธอเห็นว่าเขาต้องการป้อนเธอ เธอจึงหลับตาและกินข้าวห่อไข่ที่เขาป้อนเธอ จากนั้นเธอก็เคี้ยวอย่างช้าๆ
“เป็นไงหล่ะ?”ฮารุกะถาม
“ก็ดี ฉันขอเพิ่ม?”อูตะฮะถาม
“เธอควรจะซื้อเองนะรู้ใหม”ฮารุกะก็ถอนหายใจ
“ไม่ ฉันอยากได้จากนาย”อูตะฮะพูดออกมา
“ช่างเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวซะจริง อ้าปากสิ”ฮารุกะพูด
“อ้ามมม”
ทุกคนในร่างก็มองพวกเขาทั้งสองคนและรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเพราการกระทำของพวกเขาทั้งสอง “โทษที พวกนายทั้งสองช่วยไปจีบกันข้างนอกได้ใหม???”