ตอนที่ 10 เวทมนตร์
ฮารุกะไขกุญแจแล้วเข้าไปในอพาร์ทเม้นท์
“โซระ ฉันกลับมาแล้ว และฉันก็ซื้อเค้กมาด้วยนะ อยากกินใหม?”ฮารุกะก็ถามขึ้นแต่เขากลับไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากเธอ เขาจึงเดินเข้าไปและเห็นว่าเธอกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องนั่งเล่น จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วเข้าไปลูบหัวเธอ
โซระไม่ได้มองเขาแต่พูดออกมาว่า “นายมาช้า”
“โทษที เมื่อกี้ฉันไปพบเพื่อนเก่ามา”ฮารุกะก็พูดออกมา
โซณะขมวดคิ้วในขณะที่มองเขา “เพื่อนเก่า? ผู้หญิงหรอ?”
“อืม”ฮารุกะตอบออกมา
“ใครกัน?”โซระถาม
“คาซูมิกะโอกะ จำเธอได้ใหม?”ฮารุกะถามขึ้น
“อ่อ ผู้หญิงคนนั้น”โซระก็พยักหน้าให้เขา
ฮารุกะเห็นสีหน้าแปลกๆของเธอ “เป็นไรไปหล่ะ?”
โซระมองเขาอย่างไม่มั่นใจและถามออกมาว่า “นายคบกับเธองั้นหรอ?”
ฮารุกะก็ส่ายหัว “ไม่หนิ ไม่ได้คบสักหน่อย”
“จริงหรอ?”โซระถามขึ้น
ฮารุกะพยักหน้า “อืม เราเป็นเค่เพื่อนกันเฉยๆ”
“ดี แล้วเค้กหล่ะอยู่ใหน”จู่ๆโซระก็เปลี่ยนท่าทางเป็นเจ้านายออกมาทันที
ฮารุกะก็ส่ายหัวแล้วลูบหัวเธออย่างแรง
“อย่าขยี้ผมฉันสิ!!”โซระก็พูดออกมาในขณะที่มองเขาอย่างรังเกียจ
“อย่าลืมแปลงฟันก่อนนอนหล่ะเข้าใจใหม? ฉันจะกลับไปที่ห้องหล่ะ”ฮารุกะอยากจะลองฝึกเวทมนตร์ที่เขาได้จากยาจิมะสักหน่อย
โซระก็ยิ้มออกมาในขณะที่มองเขา จากนั้นเธอก็อ่านหนังสือต่อไปเพราะเธอจำเป็นต้องเข้าโรงเรียนเดียวกับพี่ชายของเธอในปีหน้าให้ได้
-----
ฮารุกะก็เปิดโทรศัพท์และเริ่มอ่านหนังสือแนะนำเวทมนตร์ที่ยาจิมะส่งมาให้ทุกคน
เวทมนตร์นั้นได้เกิดขึ้นมาหลายศตวรรษแล้ว เวทมนตร์ทุกๆประเภทนั้นเกิดขึ้นมา เวทมนตร์แรกเริ่มหรือจากแก่นแท้แห่งเวทมนตร์หรือเวทมนตร์โบราณ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเวทมนตร์ทั้งหมด ครั้งหนึ่งเวทมนตร์นั้นเคยเป็นบ่อเกิดของความข่มเหงและความหวาดกลัวของผู้คนมากมายก็ได้ค่อยๆกลายเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันแล้ว
“เวทมนตร์แรกริ่ม?”ฮารุกะไม่มั่นใจในเรื่องนี้เนื่องจากเขาจำเกี่ยกวับอนิเมะหรือมังงะของแฟรี่เทลไม่ได้ทั้งหมด
เวทมนตร์แรกเริ่มนั้นไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ใหนด้วยความที่คลุมเคลือไม่แน่นอนของมัน ผู้คนต่างก็คิดกันว่า เวทมนตร์แรกเริ่มนี้เป็นแก่นแท้ของเวทมนตร์ทุกประเภท ซึ่งเนเวทย์ที่อยู่เหนือเวทย์ทุกประเภท และหลังจากนั้นก็ได้มีการเปิดเผยออกมาว่าแหล่งกำเนิดของเวทมนตร์แรกเริ่มนั้นคือความรู้สึกรัก
“ความรัก งั้นหรอ?”ฮารุกะก็รู้สึกเลี่ยนเมื่อคิดถึงมัน จากนั้นเขาก็ส่ายหัวและตัดสินใจค่อยคิดเกี่ยวกับเวทมนตร์แรกเริ่มทีหลัง
เวทมนตร์ไม่ใช่ ‘ปฎิหารย์’แต่มันเป็นพลังเพื่อก้าวข้าม ‘จิตสำนึก’ที่เกิดจาก ‘เหตุผล’ได้กล่าวกันว่าพลัง ‘จิตวิญญาณ’ที่หลั่งไหลอยู่ภายในตัวจอมเวทย์รวมเข้ากับพลัง ‘จิตวิญญาณ’ที่หลั่งไหลอยู่ภายในธรรมชาติ เวทมนตร์ก็จะก่อกำเนิดขึ้นมา
ยาจิมะก็ยังอธิบายเพิ่มด้วยว่ากระบวนการนี้จะทำให้เวทมนตร์แสดงผลขึ้น ดังนั้นสำหรับจอมเวทย์ที่ใช้เวลา ยิ่งจิตใจผู้นั้นแข็งแกร่ง เขาก็จำเป็นต้องใช้สมาธิที่มากขึ้น
การใช้เวทมนตร์จากพลังเวทย์นั้นไม่ว่าจะเป็นจากจอมเวทย์หรือแหล่งพลังเวทย์ โดยหลักแล้วเวทมนตร์นั้นมีอยู่ 2 ประเภทนั้นคือ แคสเตอร์เมจิค(เวทย์ที่จะถูกปล่อยออกจากร่ายกายผู้ใช้เพื่อใช้งาน) กับผู้ใช้เวทย์ (เป็นเวทย์ที่ผู้ใช้ต้องถือครองอุปกรณ์ในการร่ายเวทมนตร์) ซึ่งภายใน2ประเภทนี้ก็ยังมีหมวดหมู่แตกแขนงไปอีก
ฮารุกะเข้าใจว่าเวทย์แสงและเวทย์บีบอัดที่ยาจิมะแชร์มานั้นคือเวทมนตร์ประเภทแคสเตอร์เมจิค และเขายังเข้าใจอีกว่าเขาจำเป็นต้องใช้พลังเวทย์มิฉะนั้นเขาคงไม่สามารถใช้งานเวทย์ได้
“เพียง 10% งั้นหรอ?”ฮารุกะรู้ว่าในแฟรี่เทลนั้นมีประชากรเพียง 10% เท่านั้นที่สามารถใช้เวทมนตร์ได้และที่เหลือนั้นไม่มีความสามารถในการใช้เวทมนตร์ ในสายตาของเขา เขาคิดว่าเวทมนตร์นี้มันน่าสนใจขึ้นเยอะทีเดียว จากนั้นเขาก็อ่านทำความเข้าใจเรื่องพลังเวทย์ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้
พลังเวทย์เป็นพลังงานที่ทำให้จอมเวทย์สร้างเวทมนตร์ขึ้นมาซึ่งมันก็คืออีเทอร์นาโน ในร่างกายของจอมเวทย์ทุกคนนั้นจะมีที่กักเก็บพลังเวทย์ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดปริมาณพลังเวทย์ของแต่ละคน ในกรณีที่มันว่างเปล่าหรือใช้พลังเวทย์จนหมด อีเทอร์นาโนหรือจากบรรยากาศรอบๆก็จะซึบซับสู่ร่างกายของจอมเวทย์ ซึ่งอนุภาคเหล่านี้ก็จะเข้าไปทำการเติมเต็มที่กักเก็บพลังเวทย์ หรือก็คือทำให้พลังเวทย์ของจอมเวทย์กลับมาใช้งานเวทย์ได้เหมือนเดิม
“อีเทอร์นาโน งั้นหรอ”ฮารุกะเข้าใจว่าเขาต้องใช้อีเทอร์นาโนในการใช้เวทมนตร์ ดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่าอีเทอร์นาโนมันคืออะไร
อีเทอร์นาโนหรืออีกชื่อเรียกหนึ่งก็คืออนุภาคพลังเวทย์
อีเทอร์นาโนนั้นอยู่อาศัยภายในสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบหรือแม้กระทั่งในชั้นบรรยากาศ
“ช่างเป็นความคิดที่แปลกประหลาดจริงๆ”ฮารุกะก็ส่ายหัว เขานั้นได้ตัดสินใจว่าจะไม่คิดเรื่องมันมากนักเนื่องจากคนโง่ก็ยังสามารถเป็นจอมเวทย์ได้เลย ตัวอย่างเช่น ตัวละครหลักของเรื่องแฟ่รี่เทล เขาไม่ได้หมายความว่าตัวละครหลักเป็นคนโง่แต่ก็เรียกยังว่าฉลาดไม่ได้ด้วยซ้ำ
ฮารุกะเข้าใจว่าไม่ว่าเขาจะสามารถใช้เวทมนตร์ได้หรือไม่นั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเขามีอนุภาคพลังเวทย์หรือไม่ ตอนนี้เขาควรจะลองใช้เวทย์ดู จากนั้นเขาก็มองไปที่เวทมนตร์แสงและเวทมนตร์บีบอัด
เวทมนตร์แสงนั้นเป็นเวทย์ประเภทแคสเตอร์เมจิตที่เกี่ยวข้องกับธาตุแสง เวทมนตร์นี้จะทำให้จอมเวทยืที่ใช้งานสามารถควบคุมแสงหรือนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆได้หลากหลาย ปกติแล้ว วิธีใช้งานนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับมือที่มักใช้ในการร่ายเวทย์แสง เมื่อใช้ในการโจมตี เวทย์นี้จะสามารถก่อร่างเป็ฯรูปทรงกลมซึ่งสามารถใช้การขว้างปาหรือกระทั่งสร้างเป็นลำแสงยิงใส่ฝ่ายตรงข้าม และเวทย์แสงนี้ก็ยังสามารถปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของผู้ใช้ได้อีกด้วย และมันสามารถทำให้ศัตรูต่อบอดหรือระเบิดรอบข้างได้ซึ่งขึ้นอยู่กับความสว่างหรือความร้อนของแสงที่ปล่อยออกมา
เวทมนตร์บีบอัดเป็นเวทมนตรี่สามารถบิดงอโครงสร้างร่างกายของผู้ใช้แล้วบีบอัดร่างกายของผู้ใช้ได้ตามต้องการ เวทมนตร์นี้มีจุดประสงค์ในการแอบหรือลักลอบทำอะไรลับๆได้อย่างสะดวกสบายอย่างเช่นการแอบซ่อนโดยการเกาะกำแพงหรือพุ่งผ่านช่องว่างหรือพื้นที่ขนาดเล็ก
ฮารุกะก็ครุ่นคิดอยู่ซักพักแล้วจึงตัดสินใจใช้เวทย์แสงเป็นเวทย์แรก