ตอนที่แล้วบทที่ 10: สายฟ้า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12: ฟาดมันเข้าไป!

บทที่ 11: เหย่ซินเซีย


ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK [จบแล้ว]

สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)

สารบัญ ราชันเทพเก้าสุริยัน

สารบัญ โกลาหลแห่งอสนีบาต

••••••••••••••••••••

บทที่ 11: เหย่ซินเซีย

......

ในตอนนี้โม่ฝานนั้นมีความสุขมาก เขาเดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงโรงเรียนมัธยมหมิงเหวิน

โรงเรียนมัธยมหมิงเหวินนั้นเป็นโรงเรียนมัธยมสตรีล้วน มันเต็มไปด้วยหญิงสาวที่ละเอียดอ่อนและดูทันสมัยอย่างมาก ทั้งหมดมารวมตัวกันอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้

ความแตกต่างของโรงเรียนแห่งนี้ก็คือโรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้สอนเพียงเวทมนตร์ที่น่าเบื่อ แล้วก็ไม่ได้มีการเรียนการสอนเพื่อสอบไปวันๆเท่านั้น ทั้งหมดล้วนแต่เป็นลูกหลานของบุคคลระดับสูง เด็กหญิงในโรงเรียนแห่งนี้นั้นมีความรู้มากกว่าเวทมนตร์ที่ผู้อื่นร่ำเรียนมาเก้าปี มีนักเรียนมากมายที่มีพลังเวทมนตร์มานานแล้ว อีกทั้งพวกเธอยังมีอุปกรณ์เวทมนตร์ประจำตัวกันแล้วด้วยในบางคน

พวกเธอเป็นกลุ่มพิเศษที่เกิดมาจากกลุ่มคนที่มีเวทมนตร์อยู่แล้ว จิตวิญญาณนั้นต่อการสืบทอดทางสายเลือดได้อย่างดีเยี่ยม พวกเธอนั้นมีเวทมนตร์มาตั้งแต่ลืมตามองโลกใบนี้ ผิดจากโม่ฝานที่เป็นเพียงลูกหลานชาวนา เขาจะต้องไต่เต้าขึ้นไปทีละขั้นเท่านั้น

ถนนรอบโรงเรียนนั้นเต็มไปด้วยรถหรูลีมูนซีน แน่นอนว่าช่วงนี้คือช่วงเวลาเร่งด่วน โม่ฝานนั้นจำได้ดีว่าในช่วงฤดูร้อน เธอมักจะเดินไปเดินมาและใช้เวลาที่มีชื่นชมกับเหล่าดอกไม้ริมทางที่ถูกปลูกไว้ตามบ้านเรือน

โม่ฝานคิดจะเดินไปตามถนนหลักเรื่อยๆ จากนั้นเขาเลี้ยวเข้าไปในซอยเพื่อรอน้องสาวของตนเอง เธอชื่อเหย่ซินเซีย

บนถนนหู่ตงนั้นไม่ได้มีผู้คนมากนัก โม่ฝานเดินผ่านบ้านคนเข้ามาเรื่อยๆ ตรอกนี้เป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี

แม้ว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนไป แต่เหล่าผู้คนที่อยู่ในเมืองนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย บ้านไม้ไผ่หลังเล็กที่สามารถรอดพ้นจากฤดูหนาวที่แสนโหดร้ายอยู่ด้านหน้าของเขาในตอนนี้

‘ฉันมาถึงแล้ว… เหย่ซินเซียก็คงจะไม่ได้เปลี่ยนไปหรอกมั้ง!’

......

โม่ฝานยืนพิงกำแพงอยู่ที่กลางตรอก ท่าทีของเขาราวกับนักเลงคุมตรอกกำลังเฝ้ารอใครสักคน เขาชายตามองไปรอบๆเป็นครั้งคราว พร้อมกับคิดว่าจะเซอไพร้น้องสาวคนนั้นอยางไรดี แล้วใครจะรู้เวลาที่เธอจะกลับมาล่ะ? นี่ก็ผ่านมาครึ่งวันแล้วเธอยังไม่ปรากฏตัวเลย!

‘ทำไมยังไม่มาอีกนะ?’

โม่ฝานเริ่มรู้สึกหงุดหงิด

เมื่อเขาคิดเช่นนั้น เขาหลับตาพร้อมเข้าสู่สมาธิ นี่เป็นสิ่งที่เขาทำจนชินและรู้สึกว่าถ้าหากว่างเมื่อไหร่ เขาจะเข้าไปในโลกวิญญาณทันที!

ทันใดนั้น โม่ฝานได้ยินเสียงจากเนินเขาเล็กๆหลังตรอกแห่งนี้ ปกติเสียงเหล่านี้ควรจะสร้างความหนวกหูให้กับทุกคน แต่ทว่าทำไมมันกลับถูกส่งมาที่หูของเขา?

‘ผลของการทำสมาธิสามารถทำให้การรับรู้ดีขึ้นงั้นหรือ?’

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มี โม่ฝานเดินตามทิศทางของเสียงไปทันที

ทันทีที่เขาเดินออกมาจากตรอกเล็กๆ ภายในใจของเขารู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ความจริงแล้วภูเขาลูกนั้นอยู่ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตร ซึ่งเนินเขาเล็กๆนั้นมันเป็นบ้านหลังเก่าของเขาที่เพิ่งขายไป

หญ้าเขียวขจีนั้นปกคลุมไปทั่วเนินเขา ดอกไม้สวยงามราวกับสวนเล็กๆ มีชิงช้าเล็กๆตั้งอยู่ในสวนแห่งนั้น มันหยุดนิ่งไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น

มีหญิงสาวนั่งอยู่บนชิงช้าตัวนั้น ผมของเธอยาวสีดำปลิวไปตามสายลม ใบหน้าที่งดงามนั้นรับกับจมูกที่โด่ง ทุกสิ่งบนใบหน้าถูกจัดวางไว้เป็นอย่างดี ริมฝีปากบางสีชมพูเรื่อมองดูทำให้ชวนหลงใหลอย่างยิ่ง…

เธอมองไปด้านหน้าอย่างเฉื่อยชา นั่งอยู่เช่นนั้นราวกับดอกบัวที่ไม่ไหวติงอยู่ในน้ำนิ่ง เธอนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียวแต่กลิ่นหอมของเธอนั้นเป็นเอกลักษณ์และมาโชยมาตามลม

โม่ฝานเห็นเช่นนั้น เขาหยุดฝีเท้าลง ไม่รู้เมื่อไหร่กันที่เขาชอบมองเธอเงียบๆอย่างนี้ หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทุกครั้งที่ได้มองเธอแบบนี้ มุมปากของเขาโค้งขึ้นอย่างไม่อาจห้ามใจ มันคือรอยยิ้มที่ไม่สามารถปิดบังได้

อย่างไรก็ตามในเวลานั้นโม่ฝานรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

คิ้วของเขาขมวดแน่นพร้อมกับรีบเดินไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่ทันที

หญิงสาวผู้นั้นรู้สึกว่ามีบางคนกำลังมา เมื่อเธอเห็นใบหน้าของโม่ฝาน ใบหน้าของเธอไม่ได้ประหลาดใจนัก รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธออย่างสดใส เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาจะมาและเธอตั้งใจมารอเขาที่นี่

“พี่โม่ฝาน” หญิงสาวยิ้มออกมาพร้อมเอ่ยเสียงหวาน

“ไอ้พวกนั้นอีกแล้วใช่ไหม?” โม่ฝานเดินมาด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีเล็กน้อย

ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา

“วันนี้ฉันจะจัดการไอ้ขยะพวกนี้ให้อยู่ในถุง!” โม่ฝานโกรธพร้อมกับมองไปที่ภูเขาด้านหน้า

“ลืมมันไปเถอะ พวกเขาเยอะเกินไป” ซินเซียส่ายหัวพร้อมกับพยายามปลอบให้โม่ฝานใจเย็นลง

“จะลืมได้ยังไง? ก็ในเมื่อฉันยังไม่ได้จัดการกับพวกมันเลย!” โม่ฝานกล่าวพร้อมกับเดินขึ้นบันได!

ซินเซียพยายามที่จะหยุดโม่ฝานเอาไว้ แต่ทว่าโม่ฝานนั้นไม่ฟังอะไร เขาโกรธจัดพร้อมกับเดินขึ้นไปบนภูเขา

ซินเซียนั้นรู้อารมณ์ของโม่ฝานเป็นอย่างดี นับตั้งแต่ที่เธอยังเด็ก โม่ฝานมักจะปกป้องเธอไว้เสมอ เหตุผลที่โม่ฝานถูกเรียกว่าเป็นเด็กเกเรนั่นเป็นเพราะปกป้องน้องสาวของตนเอง ในทุกครั้งที่เธอถูกทำร้าย พี่ชายของเธอจะไม่ยอมปล่อยอันธพาลเหล่านั้นผ่านไป

นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นอยู่เสมอ แต่ในตอนนี้บุคคลที่เขากำลังจะวิ่งไปหาเรื่องนั้นไม่ใช่เหล่าอันธพาลแบบทั่วไป บุคคลเหล่านั้นไม่ได้ร่ำเรียนหนังสืออีกแล้ว เขาเหล่านั้นถูกเรียกว่าแก๊งหมีเขียว พวกเขามักจะรับงานจากเด็กสาวในโรงเรียนให้ไปทำร้ายคนที่พวกเธอไม่ชอบใจเสมอ

พวกมันมีกันอย่างน้อยห้าคน มีสองคนที่มีร่างกายแข็งแกร่งและตัวใหญ่กว่าโม่ฝานอย่างมาก ซึ่งโม่ฝานจะต้องถูกพวกเขาทุบตีอย่างโหดร้ายแน่นอนถ้าเขาวิ่งขึ้นไปบนนั้น

......

ศาลาบนเนินเขา

“ฉันถามหน่อยเถอะเสี่ยวปิง เช่นนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยงั้นหรอ…” ชายหนุ่มคนหนึ่งกล่าวออกมาในขณะที่ปากของเขาคาบบุหรี่และในมือถือไพ่โป๊กเกอร์

“เกินไปยังไง? นี่เป็นครั้งที่สิบหกที่ฉันสารภาพรักกับหล่อน ให้หล่อนมาเป็นแฟนของฉัน…. ในตอนนี้ฉันกำลังเล่นไพ่อยู่ในศาลา แล้วเธอจะต้องใช้เวลาคิดเรื่องนี้ไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ?” ผู้ที่ชื่อว่าเสี่ยวปิงกล่าวตอบอย่างเนื่อยๆ

เสี่ยวปิงนั้นมีรอยสักสีฟ้าที่คอของเขาอย่างชัดเจน แม้แต่แจ็กเก็ตที่โดดเด่นยังไม่อาจปกปิดมันไว้ได้ แน่นอนว่าท่าทีเช่นนี้ของเขาคือสิ่งที่ไม่ควรมีผู้ใดมายั่วยุ

“ใช่ ถ้าหากว่าเธอปฏิเสธ ก็แค่… ฮ่าฮ่าฮ่า! เพิ่มเงินให้อีก เพิ่มสักสองเท่าเลย!” ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกล่าวขึ้นมา

“ฮ่าฮ่า ไพ่แกแย่เกินไปรึเปล่าน่ะ!”

“ฉันจะนั่งเล่นอยู่อย่างนี้จนมืด ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเด็กหญิงคนนั้นจะสามารถใจแข็งได้ตลอด หึหึ” เสี่ยวปิงขยิบตาบอกกับพวกพ้องเป็นนัยๆว่าคืนนี้เขาจะต้องมีความสุข

ในการจัดการกับหญิงสาวคนนี้เรียกได้ว่ายากเย็นอย่างยิ่ง เธอไม่เคยยินยอมที่จะทำอะไรกับเขาแม้แต่น้อย ยิ่งนับวันเธอยิ่งสวยสะพรั่งขึ้นทุกวัน ทำให้เหล่าผู้คนที่ได้เห็นต่างพากันจินตนาการถึงหญิงของหงส์ที่หอมหวาน มีแต่คนกล่าวว่าเขาเป็นเพียงคางคกที่อยากจะลองชิมเนื้อของหงส์ เขาคิดที่จะจัดการกับเธอในวันนี้แล้วคอยดูว่าใครกันจะกล้าพูดเรื่องเช่นนี้

“อ่าจริงด้วย ฉันจำได้ว่าเธอมีพี่ชายด้วย โคตรจะน่ารำคานเลย!” อีกคนกล่าวขึ้นมา

“อืม เขาเป็นคนกล้าที่จะต่อสู้ แต่กล้ามากเกิน ไร้ซึ่งทักษะใดๆ ไม่ต่างอะไรกับเศษเนื้อที่วางไว้บนจาน เราสามารถทุบตีเขาได้ตามที่เราต้องการอยู่แล้ว!” เสี่ยวปิงกล่าวออกมาอย่างไร้กังวลใดๆ

“แน่นอน ฉันเคยจัดการกับเขาได้ด้วยตัวคนเดียวเมื่อก่อน ในตอนนี้ดูร่างกายฉันสิ ฮ่าฮ่า ฉันจะอัดเขาให้จบภายในนาทีเดียว!”

••••••••••••••••••••

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด