GED : 2 สายเลือดวิหคเพลิง (2)
GED : 2 สายเลือดวิหคเพลิง (2)
.
ห้าปีต่อมา เมืองชายแดนทางเหนือของอาณาจักรจุ๋นวู๋
“ท่านอาจารย์!”
เฟิงหวูกรีดร้องเสียงดังขณะสะดุ้งขึ้นจากเตียง!
“คุณหนู คุณหนู ท่านเป็นอย่างไรบ้าง…”
ฉิวหลิง หัวหน้าสาวใช้รีบวิ่งเข้ามาในห้อง นางวางอ่างทองแดงที่เต็มไปด้วยน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนจะรีบพุ่งเข้าไปหาเฟิงหวู
ฉิวหลิง มองเฟิวหวูผู้เป็นคุณหนูลำดับห้าใบหน้างดงามของตระกูล..ทว่าตอนนี้ใบหน้าของเธอกลับซีดเหมือนกระดาษ
น้ำเสียงอันอ่อนโยนของฉิวหลิงเอ่ยถามขึ้นเบาๆ “คุณหนู ฝันร้ายหรือคะ?”
เฟิงหวูมองฉิวหลิงก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่ง เหตุการณ์ทุกอย่างค่อยๆชัดเจนขึ้น
จัวชิงอวิ๋นทำลายโลหิตวิหคเพลิงของนางและเพื่อช่วยเหลือนาง อาจารย์ของนางต้องหายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ....สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความฝัน! มันคือความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน!
หลังจากโลหิตวิหคเพลิงของนางถูกทำลาย เด็กสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้มีพรสวรรค์ก็ได้กลายเป็นสิ่งน่าอับอายของตระกูลเฟิง นางกับท่านแม่และน้องชายถูกขับไล่ออกมาอยู่ที่คฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลเฟิงในเขตชายแดนของอาณาจักร
ฉิวหลิงหยิบรองเท้าให้เฟิงหวูก่อนจะพยุงนางมานั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งและเริ่มลงมือแต่งตัวให้
....
“ท่านพี่! ท่านพี่! ข้าได้รับจดหมายจากเมืองหลวง!”
เฟิงหวูได้ยินเสียงฝีเท้าอันเร่งรีบดังใกล้เข้ามาไม่นานหลังจากนั้น เด็กชายคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
เด็กชายมีอายุประมาณสิบสองปี ทั้งยังมีหน้าตาหล่อเหลา
ผิวของเด็กหนุ่มขาวราวกับหิมะ รูปร่างหน้าตางดงาม โดยเฉพาะดวงตา ขนตายาวเป็นแพ ดวงตากลมโตสดใสเปล่งประกาย
ไม่ทันให้เฟิงหวูออกปากถาม เสี่ยวฉีก็รีบยัดจดหมายใส่มือนาง “ท่านพี่ รีบอ่านเร็วเข้า!”
ในมือนางคือซองจดหมายสีแดงซึ่งนั่นหมายถึงสัญญาณเตือน นางไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาจึงเร่งรีบเช่นนี้
แม้ว่าน้ำเสียงของเฟิง เซี่ยวฉีจะเต็มไปด้วยความกังวลแต่เฟิงหวูก็ยังคงใจเย็นดังเช่นเคย นางกางจดหมายออกด้วยนิ้วอันเรียวงามของตนและรีบอ่านอย่างรวดเร็ว
“ท่านพี่!” เฟิง เสี่ยวชิงมองเฟิงหวูโดยไม่กระพริบตา เมื่อเห็นพี่สาวขมวดคิ้วเล็กน้อย เด็กหนุ่มพลันรู้สึกไม่สบายใจ “มีบางสิ่งเกิดขึ้นในเมืองหลวงใช่หรือไม่? มีเหตุอันใดหรือ?”
ฉิวหลิงทั้งอยากรู้อยากเห็นและวิตกกังวลในเวลาเดียวกัน
เฟิงหวูโบกจดหมายในมือเบาๆและยิ้ม “ไม่มีสิ่งใด ชุนหลิงเหยียกำลังจะเดินทางมาที่นี่เพื่อตรวจตราเมืองในเขตชายแดน”
ฉิวหลิงกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ “องค์ชายรัชทายาทผู้ทรงอำนาจที่สุดในอาณาจักรนี้กำลังจะมาที่นี่งั้นหรือ?”
เฟิงหวูพยักหน้าเบาๆ “พวกเราสามารถหลีกเลี่ยงการพบหน้าเขาได้ แต่ในตอนนี้ตระกูลเฟิ่งพยายามทำให้องค์ชายรัชทายาทกลับมาโปรดปรานพวกเขาอีกครั้ง ข้าเกรงว่านี่พวกเขาอาจจะส่งคนของตระกูลมาที่นี่”
“อะไรนะ? แล้วพวกเราควรทำอย่างไรกันดี?!” เฟิง เสี่ยวชิงตกใจ “พวกเราถูกเนรเทศออกมาอยู่คฤหาสน์เก่า ๆ ในขอบชายแดนแล้วนะ! พวกเขายังต้องการสิ่งใดอีกหรือ? รึจะมาฆ่าพวกเรากันแน่?!”
เฟิงหวูหันไปมองเฟิง เสี่ยวชิงด้วยความไม่พอใจนัก “เจ้าใจเย็นๆก่อน!”
เฟิง เสี่ยวฉีเป็นกังวลจนแทบร้องไห้ “ท่านพี่จะให้ข้าใจเย็นได้อย่างไร? ในเมื่อท่านตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เมื่อก่อนท่านเคยจัดการพวกเขาได้เพียงแค่สะบัดมือเพียงครั้งเดียว! แต่ในยามนี้...การฝึกตนทั้งหมดที่ผ่านมาของท่านถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว!”
“คุณชาย!” ฉิวหลิงเอ่ยห้ามปรามเฟิง เสี่ยวชิง
เฟิง เสี่ยวฉีเพิ่งตระหนักได้ว่าเขากล่าวเกินไปแล้วดังนั้นเขาจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปากตนเองไว้ ก่อนดวงตาจะเบิกกว้างและมองเฟิงหวูด้วยความรู้สึกผิด
เฟิงหวูเพียงแค่ยิ้มให้เขา “ถูกทำลายไปแล้วอย่างไรเล่า? คิดว่าพี่สาวของเจ้าจะไม่สามารถหาวิธีกลับมาเริ่มฝึกตนได้งั้นหรือ?”
ดวงตาของเฟิง เสี่ยวชิงเปล่งประกายขึ้นในทันที “ท่านพี่! ท่านสามารถทำเช่นนั้นได้จริงหรือ? ท่านหาวิธีได้แล้วหรือ?”
เฟิงหวูไหวไหล่ “ยัง”
ท่าทางของเฟิง เสี่ยวชิงเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดในทันที
แววตาของเฟิงหวูเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่ไม่มีใครได้ทันสังเกต
อาจารย์ของนางกล่าวไว้ว่าการที่นางจะกลับมาเริ่มฝึกตนได้นั้น นางต้องปรุงเม็ดยาฟื้นฟูพลังวิญญาณขั้นที่ 9ให้สำเร็จเสียก่อน
นางรู้สูตรยานั้นและสามารถปรุงมันขึ้นมาได้อย่างไรก็ตามนางยังคงต้องการส่วนผสมสุดท้ายนั่นก็คือผลจิตวิญญาณอมตะ
เฟิงหวูเฝ้ามองผลจิตวิญญาณอมตะมาตลอดห้าปีและมันใกล้สุกงอมเต็มที...
ขณะเดียวกันเฟิงหวูก็รู้ดีว่าบุตรคนโตและบุตรคนที่หกจากตระกูลเฟิงกำลังจะมา เมื่อเจ้าสารเลวทั้งสองคนนั้นมาถึง ท่านแม่และน้องชายผู้ไร้เดียงสาของนางจะต้องประสบกับความทุกข์ยากโดยที่นางไม่อาจปกป้องพวกเขาได้ ดังนั้นนางจึงจำเป็นต้องได้ผลจิตวิญญาณอมตะมาครอบครองให้เร็วที่สุดเพื่อเริ่มการฝึกตนใหม่อีกครั้ง!
เฟิงหวูกำหมัดแน่นชุนหลิงเหยียเจ้ามาที่นี่เพียงเพื่อตรวจสอบชายแดนทางตอนเหนือจริงๆงั้นหรือ?!
จบตอน