บทที่ 5: พลังที่ตื่นขึ้น!
ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
สารบัญ จอมมารสะท้านภพ (เรื่องใหม่)
••••••••••••••••••••
บทที่ 5: พลังที่ตื่นขึ้น!
“ถัดไป….”
“ถัดไป….”
“ถัดไป….”
“จางหู่!”
ไม่ใช่ใครคนอื่นคนไกลที่ไหน เขานั่งอยู่ข้างๆกับโม่ฝาน เมื่อได้ยินเสียงเรียกเขายืนขึ้นพร้อมกับหันไปกล่าวกับโม่ฝาน “เฮ้ ฝาน… ฉันไปก่อนล่ะ”
“พยายามเข้าล่ะ”
“เฮ้ย ฉันหวังว่าแกจะได้ธาตุน้ำนะ” จ้าวคุณซานพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน จางหู่ไม่ได้สนใจพร้อมกับเดินไปที่หินเวทย์พร้อมกับค่อยๆวางมือลงไปอย่างช้าๆและหลับตา
“ว้าว ยอดเยี่ยม ธาตุลม เป็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมมาก เจ้าต้องฝึกฝนอย่างหนักอย่าขี้เกียจล่ะ!” อาจารย์ประจำชั้นกล่าวออกมาด้วยใบหน้าตื่นเต้น
ในตอนนี้อาจารย์ประจำชั้นนั้นรู้สึกมีความสุขมาก เพราะนักเรียนในชั้นของเขาล้วนแต่มีพรสวรรค์ ถ้าหากทุกคนฝึกฝนอย่างหนัก แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องได้เข้ามหาลัยที่ยอดเยี่ยม
แน่นอนว่าผู้ที่จะสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับเขาได้ที่สุดก็คือ มู่ไป๋ที่เป็นอันดับหนึ่ง พรสวรรค์ธาตุน้ำแข็งที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีครอบครัวที่ร่ำรวยอยู่เบื้องหลัง!
ดูเหมือนว่าห้องแปดนี้จะมีสิทธิ์ที่จะได้อยู่ในอันดับต้นๆของโรงเรียนได้ไม่ยากเย็นนัก
“ถัดไป….”
“ถัดไป….”
“ถัดไป….”
“ถัดไป….”
เปลวไฟลุกโชนขึ้นบนก้อนหินเวทย์
ฉากนี้ทำให้ทุกคนในชั้นเรียนเบิกตาโพล่ง
“ไฟ… ธาตุไฟ!”
“ผู้หญิงเหรอ อะไรกัน?”
ช่วงเวลานั้นเอง หญิงสาวคนนั้นกลายเป็นจุดสนใจของคนในชั้นเรียน ธาตุไฟนั้นเป็นสิ่งที่โดดเด่นมากที่สุด มันเป็นสิ่งแรกที่ผู้โหยหาเวทมนตร์คิดถึง ถ้าหากว่าเลือกได้อะนะ…
แต่น่าเสียดายที่ธาตุไฟนั้นมีอยู่น้อยมาก พวกมันไม่ค่อยปรากฏขึ้นมาสักเท่าไหร่นัก ภายในชั้นเรียนหนึ่งถ้าหากมีสามคนที่ครอบครองมัน นับว่ามากแล้ว
“เธอชื่อซูมิน ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลูกสาวของอาจารย์ในโรงเรียนนี้” ผู้คนเริ่มซุบซิบ
“เธอสวยมาก ฉันอยากรู้จักเธอ!”
“ต้องระวังตัวให้ดี แม้ว่าซูมินจะดูเงียบและนิ่งเฉย แต่ทว่าหญิงสาวที่สามารถปลุกธาตุไฟขึ้นมาได้ ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน”
“อืม ที่แกพูดก็ดูมีเหตุผลแหละ”
“ว้าว บุตรสาวของหวางฮั่วนั้นทำได้ยอดเยี่ยม แม่ของเธอคงจะดีใจมากที่เธอเหมือนกับเขา!” อาจารย์ประจำฉันกล่าวออกมา
“ขอบคุณอาจารย์!”
“ถัดไป… ธาตุลม!”
“ถัดไป… ธาตุแสง!”
“อาจารย์ ผมจะไปดาดฟ้า อย่าห้ามผม!” นักเรียนที่ปลุกธาตุแสงขึ้นมาเมื่อครู่กล่าวอย่างหดหู่
“ถัดไป… ธาตุน้ำ!”
“เฮ้ นายธาตุแสง รอฉันด้วย ฉันจะไปกับนายด้วยเหมือนกัน!”
“ถัดไป…”
......
ในที่สุดนักเรียนทั้งหมดได้ถูกปลุกพลังเวทย์ขึ้นมาจนหมดสิ้น โม่ฝานนั้นอยู่ในลำดับที่สี่สิบแปด หัวใจของเขาเคลื่อนไหวเล็กน้อย ภายในใจของเขารู้สึกประหม่าอย่างมาก เขาเพิ่งจะรู้จักเวทมนตร์ได้เพียงสามเดือนเท่านั้น อีกทั้งเขายังไม่รู้ว่าจะมีอะไรผิดพลาดในการปลุกพลังเวทย์ครั้งนี้หรือไม่!
“สี่สิบแปด โม่ฝาน!”
“โชคดีนะ ฮ่าฮ่า” จ้าวคุณซานเหลือบหัวมามองอย่างเย้ยหยัน
“ถ้าหากแกซื้อหม้อมาหนึ่งใบ แกก็มีแต่หม้อที่ว่างเปล่า ถ้าแกโชคดีหน่อยแกก็คงจะได้ธาตุน้ำหรือธาตุแสง แต่ถ้าหากแกฝึกไม่ได้เรื่อง แกก็จะไม่สามารถเดินในระดับต่อไปได้ หรือถ้าแกโชคร้ายไม่สามารถปลุกพลังเวทย์ได้ ฮ่าฮ่า ก็คงจะ…” จ้าวคุณซานพูดไว้เพียงเท่านั้นแล้วจำเป็นต้องหุบปากทันที
“แกจะหุบปากได้รึยัง?” จางหู่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ
ภายในหัวใจของจางหู่นั้น โม่ฝานเปรียบเสมือนพี่ชายของเขา แม้ว่าคะแนนเวทมนตร์ของเขาจะต่ำมาก แต่ก็ยังสามารถเข้าสู่โรงเรียนเทียนหลานได้ ไม่ว่าเขาจะเข้ามาด้วยวิธีไหน แต่จางหู่ก็ไม่ต้องการที่จะให้โม่ฝานถูกเหยียดหยามไม่ว่าจากใคร!
การเรียนการสอนเวทมนตร์ภาคบังคับเก้าปีได้ทำหน้าที่ในการสร้างรากฐานสำหรับการปลุกพลัง รวมถึงทฤษฎีการฝึกฝนหลังจากนั้น ถ้าหากไม่สามารถเรียนรู้อย่างต่อเนื่องได้ แน่นอนว่าการฝึกฝนทั้งหมดจะจบลง ถือว่าล้มเหลวทันที
โม่ฝานไม่สนใจเสียงเหล่านั้น เขาลุกขึ้นพร้อมกับเดินออกไปด้านหน้า
“อ่า นั่นเขา ว่ากันว่าเขามาจากประตูดำนะ”
“เขาเป็นใครเหรอ ฉันว่าเขาดูหล่อมากเลยนะ” หญิงสาวในชั้นเริ่มซุบซิบ
“เขาแย่มาก ฉันเคยอยู่โรงเรียนเดียวกับเขามาก่อนแต่คนละห้อง” หญิงสาวอีกคนที่ศีรษะเหมือนเห็ดกล่าวออกมาด้วยปากใหญ่ๆของเธอ
“ถ้าเป็นอย่างนั้น การปลุกก็คงจะแย่มากๆ!”
“เขาจะปลุกพลังเวทย์สำเร็จรึเปล่านะ”
“ข้าขอกล่าวไว้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะล้มเหลว คะแนนสอบของเขามีเพียงหนึ่งหลักเท่านั้น ฮ่าฮ่า ไม่รู้จะเอาอะไรมาสำเร็จจริงๆ” จ้าวคุณซานกล่าวออกมาอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งคำพูดนี้ทำให้จางหู่รู้สึกกังวลอย่างมาก
“หยุดหยาบคายได้แล้ว!” อาจารย์ประจำชั้นจ้องไปที่จ้าวคุณซานที่กำลังสร้างปัญหา
มุมปากของมู่ไป๋โค้งขึ้นเล็กน้อย โม่ฝานนั้นน่ารังเกียจในสายตาของเขาอย่างมาก การที่โม่ฝานอับอายต่อหน้าทุกคนเป็นสิ่งที่เขาปรารถนา ผู้ชายคนนี้เป็นขยะ เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะอยู่เคียงข้างกับมู่เซวียหนิงงั้นเหรอ? ใครกันที่หล่อเหลาราวเทพบุตร? ใครกันที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ทางเวทมนตร์? เหอะ มู่เซวียหนิงควรจะเลือกแต่งงานกับเขามากกว่า!
“ไอ้ขยะ ฉันได้ยินมาว่าแกต้องขายบ้านของตัวเองเพื่อมาปลุกพลังเวทย์ในวันนี้ ถ้าหากว่าแกล้มเหลวล่ะก็… ทางเดียวที่เหลือก็คือต้องไปกระโดดแม่น้ำสักที่แหละนะ ตัวปัญหาชัดๆ!” มู่ไป๋กระซิบเบาๆในขณะที่โม่ฝานเดินผ่านเขา
โม่ฝานหงุดหงิดที่ได้ยินอย่างนั้น เขารีบเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
“โม่ฝาน วางมือลงไปบนก้อนหินสิ” อาจารย์ประจำชั้นกล่าวออกมาอย่างสงบ
ในฐานะที่เป็นอาจารย์ประจำชั้น แน่นอนว่าเขารับรู้สถานการณ์ของนักเรียนตัวเองเป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา…
ในการสอบที่ผ่านมานักเรียนคนนี้นั้นมีคะแนนสอบอยู่ที่ระดับล่าง การเข้าสู่โรงเรียนเทียนหลานได้แสดงว่าเขานั้นมีเส้นสาย แต่ทว่าตอนนี้เขามองว่าโม่ฝานนั้นมาจากครอบครัวที่ยากจน ไม่มีพื้นหลังที่ดี ไร้พรสวรรค์อีกทั้งจะทำให้ระดับของห้องเรียนนี้ตกต่ำไปด้วย
‘เฮ้ ไม่มีทางน่ะ ฉันคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นหรอก หวังว่าเด็กคนนี้จะปลุกพลังเวทย์ขึ้นมาได้นะ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะโดนหัวเราะไปอีกร้อยปีเลยละมั้ง!’ เขาคิดในใจอย่างเจ็บปวด
มือของโม่ฝานสั่นไหวตลอดเวลา เขามีอาการประหม่าอย่างชัดเจน
“ใจเย็นกว่านี้ อย่าสั่น” อาจารย์ประจำชั้นกล่าวออกมา
โม่ฝานใช้มือขวาจับข้อมือซ้ายไว้แน่น จากนั้นวางลงบนหินเวทมนตร์ช้าๆเพื่อปลุกพลังเวทย์
มันเย็นมาก หรือว่ามันจะเป็นน้ำแข็ง? มันเย็นเกินไปแล้ว…
โอ้ ไม่หรอก หรือว่าฉันกำลังจะมีไข้นะ? ทำไมหนาวจัง…
“ปิดตาลงซะและนึกถึงพลังปราณบนโลกนี้!” อาจารย์ประจำชั้นเริ่มแนะนำ
นักเรียนคนนี้มีปัญหาจริงๆ แม้แต่กระบวนการพื้นฐานเขาก็ยังไม่รู้! ให้ตายเถอะ
โม่ฝานได้ยินเช่นนั้น เขารีบทำตามพร้อมกับปิดตาลงอย่างรวดเร็ว
โลกที่ถูกเรียกว่าพลังปราณนั้นจะมองเห็นได้ก็เมื่อปิดตาลง ผู้คนทั่วไปมักจะเห็นภาพซ้อนราวกับความฝัน ภาพเหล่านั้นจะสลับวนไปเรื่อยๆราวกับหนังเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าหากเข้าสู่โลกของพลังปราณแล้ว ทุกสิ่งจะว่างเปล่า จิตใจจะเงียบสนิท ไม่รับรู้สิ่งใด เหมือนกับท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งดวงดาว
ในโลกของวิญญาณนั้นไม่มีสิ่งใดเลย ทั้งหมดมีเพียงความว่างเปล่า แต่ในขณะที่โม่ฝานวางมือลงบนหินปลุกพลังเวทย์ เขารู้สึกถึงพลังที่ถาโถมเข้ามา…
พลังนี้ไหลเข้ามาในร่างกายของเขาผ่านทางฝ่ามือ ทันใดนั้นเหมือนกับว่าพลังเวทมนตร์บางอย่างข้ามผ่านโลกวิญญาณพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว มันเป็นพลังที่ยอดเยี่ยมและน่าประหลาดใจ!