ตอนที่แล้วGE280 แก้แค้นให้เผ่าลั่วหยุน (5) [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE282 โชคชะตาหวนคืน [ฟรี]

GE281 ครอบครองจิ้งจอกน้อย [ฟรี]


หนึ่งเดือนผ่านไป เหล่าผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณนับร้อยต่อสู้เพื่อจะได้เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าไปเยือนแดนสาม

ในการประลองสนมอสูรวู่หยานได้อันดับ 2 ลู่เจี่ยเฟินได้อันดับ 3

ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เสียงการต่อสู้ดังสนั่นหวั่นไหว ราวกับจะแพร่ไปทั่วทั้งแดนสอง

เรื่องที่หวางเซี่ยวและคนของมันตาย ไม่มีผู้ใดกล่าวโทษหนิงฝาน เพราะหากผู้ใดก้าวขึ้นไปประลองบนเวที ย่อมเตรียมใจที่ตายเอาไว้แล้ว

แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าอสูรโบราณของเหล่าผู้ที่ถูกสังหารย่อมไม่อยู่เฉย แต่ด้วยยามนี้หนิงฝานยังอยู่ในแดนสอง จึงไม่ต้องใส่ใจเรื่องตามล่า

ต่อให้พวกมันส่งผู้ใดมา ก็คงไม่มีใครกล้ายั่วยุหนิงฝาน

ทางใต้ของเมืองลั่วหยุน… ตำหนักแห่งหนึ่งรับหน้าที่ออกล่าอสูรเพื่อนำมาเซ่นสังเวย

การจะเปิดประตูสู่แดนสามนั้น ทุกคนต้องร่วมมือออกล่าสัตว์อสูร อย่างน้อยๆก็ต้องใช้โลหิตของอสูรในขอบเขตแก่นทองคำจำนวน 5 แสนตัว

นอกจากนี้การจะสร้างประตูมิตินั้น ทุกเผ่าต้องทุ่มทรัพยากรกว่าครึ่งเพื่อสร้างข่ายอาคม

เรื่องราวทั้งหมดนั้นหนิงฝานไม่ใส่ใจ ยามนี้เขาอยู่ในตำหนักของตนกับว่านเอ๋อร์เพื่อพักรักษา มีเหล่าทหารมากมายคุ้มกัน

ภายในห้องนอน หนิงฝานและว่านเอ๋อร์นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง หลับตา สองมือประสานสัมผัสกัน ยามนี้ หนิงฝานกำลังนำนางโคจรวิชาขัดเกลาผสาน

หยินของนางจะช่วยเสริมหยางของหนิงฝาน เสริมการรักษาให้รวดเร็วยิ่งขึ้นเป็นเท่าทวี วิชาที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ หนิงฝานเพิ่งจะใช้มันได้หลังจากบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ ซึ่งเขาการทำเช่นนั้น ทำให้เขาและนางรักษาอาการบาดเจ็บได้พร้อมๆกัน

ยามนี้ อาการบาดเจ็บที่ว่านเอ๋อร์ได้จากการฝืนใช้ปีกหงส์เพลิงได้หายเป็นปกติ ที่สำคัญ ระดับปราณอสูรของนางก็เพิ่มพูน

แต่อาการบาดเจ็บของหนิงฝานยังไม่หายดี เขาสูญเสียโลหิตไปมากเกินไป ดังนั้นยามนี้สีหน้าของเขายังคงดูซีดเซียว

เมื่อได้อยู่ร่วมกับหนิงฝาน นางได้สัมผัส สูดกลิ่นบุรุษอย่างใกล้ชิด ยิ่งได้สัมผัสกาย ใบหน้าของยิ่งแดงระเรื่อ หัวใจเต้นรัว

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้อยู่ร่วมเตียงกับบุรุษ

แม้ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาทั้งสองจะพักรักษาตัว แต่สิ่งที่ผู้คนพูดคุยกันคือ หนิงฝานคงกำลังร่วมรักกับว่านเอ๋อร์

ในระหว่างการฝึกฝนหรือพักรักษาตัวนั้น หนิงฝานจะจดจ่อตั้งใจไม่กล่าวคำ

ว่านเอ๋อร์จ้องมองหนิงฝานที่สงบนิ่งด้วยความสงสัย

“ใครๆก็รู้ว่าข้าเป็นภรรยาเจ้า แต่เจ้ายังไม่ได้แต่งงานกับข้าเลย… อีกอย่าง อายุกระดูกข้าก็ปาเข้าไป 900 ปีแล้ว แต่อายุกระดูกเจ้าเพียงแค่ 400 ปีเท่านั้น ข้าแก่กว่าเจ้ามาก”

ในโลกของการฝึกฝน อายุไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผู้ใดที่มีระดับทัดเทียม ศักดิ์ฐานะย่อมทัดเทียม ที่สำคัญ หากผู้ใดมีอายุกระดูกน้อยกว่า แสดงว่าผู้นั้นมีพรสวรรค์มากกว่า

แต่ดูเหมือนจะมีว่านเอ๋อร์เพียงคนเดียวเท่านั้นที่คิดมากเรื่องอายุ

สำหรับหนิงฝานแล้ว นอกจากจื่อเฮ่อแล้ว ภรรยาคนอื่นๆล้วนมีอายุมากกว่าทั้งนั้น

ไม่นานหนิงฝานก็ผ่อนลมหายใจ สงบปราณในร่าง และลืมตาขึ้นช้าๆ

“อาการบาดเจ็บดีขึ้นมาแล้ว… คาดไม่ถึงว่าการจะล้มหวางเซี่ยว ข้าต้องงัดพลังทั้งหมดออกมาสังหารมันจนบาดเจ็บสาหัส แต่อย่างน้อยข้าก็เข้าใจร่างวิญญาณมากขึ้น”

หนิงฝานรู้ดีว่า ระดับพลังของตนในยามนี้ สามารถต่อกรได้เพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูง แต่การจะสังหารอีกฝ่ายให้ตายสนิท ต้องทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะ

แต่ดูเหมือนว่านเอ๋อร์จะรู้ว่าหนิงฝานคิดอะไร นางจึงกล่าวขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“นี่เจ้า! เจ้าเพิ่งบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ การที่สังหารหวางเซี่ยวได้โดยที่ตัวเจ้าแค่บาดเจ็บสาหัสก็ดีมากๆแล้ว! เจ้ารู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ที่ข้าเห็นเจ้าถูกน้ำแข็งหุ้ม ข้ากลัวแค่ไหน… ข้าไม่อยากเสียเจ้าไปนะ!”

นางสั่นเทาไปทั้งตัว แม้นางเชื่อว่าหนิงฝานจะรอด แต่ตอนนี้ นางปวดใจมาก

“ใครที่คิดร้ายกับเจ้า ข้าจะไม่ปล่อยไว้เด็ดขาด...”

ใครจะกล้าคิดร้ายกับนาง แค่คนเหล่านั้นเห็นนางก็เห็นหน้าหนิงฝานลอยมา

หนิงฝานไม่รู้ว่าหากตนปล่อยให้หวางเซี่ยวรอดไป มันจะสั่งให้ซูฉินกลับมาทำร้ายว่านเอ๋อร์อีกหรือเปล่า...

เหตุที่ผีเสื้อกล้าต่อกรกับจักรพรรดิสวรรค์ก็เพราะมันมีความกล้า กล้าที่จะปกป้องคนที่มันรัก

จิตใจว่านเอ๋อร์สั่นไหว นางรู้สึกราวกับว่า หนิงฝานเป็นเพียงคนทั่วๆไปที่มีความกล้าบ้าบิ่น

วู่หยานก็เหมือนกัน นางรู้ว่าผู้เป็นน้องสาวรักหนิงฝาน นางถึงกับยื่นมือช่วยจนต้องถูกทำโทษ

“เจ้าไม่ต้องกลัว ข้าไม่เป็นอะไรหรอก… หนิงฝาน...เจ้าบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าให้ข้าฟังได้หรือเปล่า?”

นางจ้องมองเข้าไปในดวงตาหนิงฝาน นางเห็นความเหน็ดเหนื่อย โด่ดเดียว และอ้างว้าง

บุรุษที่ผ่านความยากลำบากเหมือนหนิงฝาน สมควรผ่านเรื่องราวมาร้อยพัน

“เจ้าอยากฟังเหรอ?”

“อืม… ข้าอยากรู้จักเจ้าให้มากขึ้น...” นางกล่าวด้วยสายตาจริงจัง ก่อนเอนกายซบอกเขา แม้แผ่นอกของหนิงฝานจะดูบาง แต่กลับแข็งแกร่งอย่างที่สุด

เผ่าพันธุ์อสูรนั้นไม่ลังเล หากได้รัก...พวกนางก็จะยึดมั่นรักคนผู้นั้น

“บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่าได้ปิดบังข้า และให้ข้าได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าด้วย...”

นางไม่ได้สนใจรูปกายของลู่เป่ย แต่นางอยากเห็นตัวตนที่แท้จริงของหนิงฝาน

“ได้สิ...” หนิงฝานโคจรปราณ รูปร่างและใบหน้าค่อยๆกลับคืนสภาพเดิม… ร่างกายของเขาไม่เปลี่ยนไปมากนัก แต่ใบหน้าดูหล่อเหลาและมีสง่ามากขึ้น ซึ่งหากเทียบกับใบหน้าของลู่เป่ยแล้ว หนิงฝานหน้าตาดีกว่ามาก

“เจ้ายังเยาว์มาก… หากได้เดินคู่กันคนอื่นคงคิดว่าเจ้าเป็นน้องข้า...” นางกล่าว ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอายและตื่นเต้น

“คงจะเป็นแบบนั้น...”

แต่แล้วมือของหนิงฝานก็ไม่อยู่เฉย เขาสวมกอดนางแน่นจนนางตกใจ นางเปล่งเสียงอุทานและพยายามผละออกจากหนิงฝาน แต่เขากลับรวบตัวนางมากอดไว้ไม่ปล่อย

เมื่อมีสาวงามอยู่ข้างกาย หนิงฝานย่อมไม่ปล่อยโอกาส

“เจ้าจะหนีไปไหน?”

“ข้าไม่ได้หนี… ปล่อยข้าเถอะ มือเจ้า...มือของเจ้า!”

ในระหว่างที่นางรักษาร่วมกับหนิงฝานอยู่นั้น หางของนางปรากฏขึ้น!

ยามนี้ทั้งสองสัมผัสกายแนบชิด หนิงฝานเคลื่อนมือสัมผัส เค้นคลึงหน้าอกของนาง เมื่อถูกสัมผัส นางรู้สึกไร้เรี่ยวแรงราวกับไม่อาจขัดขืน

นางเขินอายเมื่อถูกหนิงฝานสัมผัสกาย แต่สีหน้าท่าทางเช่นนั้นก็ทำให้หนิงฝานพึงพอใจ

เผ่าจิ้งจอกของนางมีร่างกายพิเศษเฉพาะ เมื่อหนิงฝานสัมผัสบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก ร่างกายของนางจะมีการตอบสนอง

หนิงฝานเคลื่อนมือสัมผัสบั้นท้ายของนางเบาๆ หากเป็นสตรีทั่วไปจะหน้าแดงด้วยความเขินอาย แต่ว่านเอ๋อร์กลับดวงตาพร่ามัน ร่างกายเห่อร้อนราวกับพร้อมรับสิ่งที่กำลังจะตามมา

แต่นั่นถือเป็นเรื่องดี เพราะยิ่งนางตอบสนองเช่นนั้น หนิงฝานยิ่งลุ่มหลงในตัวนาง

“มิน่าพวกพี่ๆในเผ่าถึงได้ชอบมีคนรักเป็นมนุษย์… มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง อื้ม~~”

นางส่งเสียงครางกระเส่าเมื่อหนิงฝานเคลื่อนมือมายังหน้าท้อง เคลื่อนต่ำลงท้องน้อยและสัมผัสไปยังจุดที่อ่อนไหวที่สุด

“จิ้งจอกน้อย… เจ้าบอกว่าเจ้าแก่กว่าข้า ขอข้าดูให้ชัดๆเถอะว่าเจ้าแก่กว่าข้าตรงไหน...”

“ข้าหมายถึง...อายุกระดูก… ไม่ใช่… ไม่ใช่… อื้ม~~”

นางรู้สึกราวกับความรู้สึกที่อัดแน่น แผ่ซ่านไปทั่วร่างจนทำให้นางสั่นสะท้าน นางยังไม่ได้ทันได้กล่าวจบ หนิงฝานก็เริ่มลุกล้ำเรือนร่างของนางไปทุกๆส่วน ยิ่งมือคู่ใหญ่สัมผัสเข้าที่หน้าอกของนางอย่างเต็มมือ นางยิ่งรู้สึกราวกับอัสนีแล่นไปทั่วร่าง ลมหายใจถี่กระชั้น

ใบหน้าแดงก่ำเห่อร้อน หว่างขาปรากฏสัญญาณเตรียมพร้อม หางของนางเคลื่อนพริ้วไหว

มีคำกล่าวว่าเผ่าพันธุ์จิ้งจอกนั้นไวต่อความรู้สึก และง่ายที่จะกระตุ้นอารมณ์ ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ

มือข้างหนึ่งหนิงฝานกำหน้าอกนางไม่ปล่อย มืออีกข้างเคลื่อนไปสัมผัสหางของนาง

เมื่อมือสัมผัสหาง นางรู้สึกราวกับความรู้สึกที่เก็บซ่อนมาทั้งหมดได้ปะทุออกมาในคราวเดียว จนนางแทบจะทนไม่ไหว

“อย่า… อย่าจับตรงนั้น… ตรงนั้น… ตรงนั้นมัน...”

“คาดไม่ถึงว่าหางเจ้าจะไวต่อความรู้สึกขนาดนี้”

หนิงฝานค่อยๆลูบสัมผัสหางของนางอย่างเบามือ แต่นั่นยิ่งทำให้ความรู้สึกที่นางได้รับรุนแรงมากขึ้น นางจึกที่นอนแน่ ขาสองข้างหนีบกัน ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากแดงก่ำราวกับพร้อมประทับรอยจูบ

แล้วหนิงฝานก็เคลื่อนริมฝีปากเข้าสัมผัสริมฝีปากนางอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกนุ่มละมุนแผ่ซ่าน พร้อมกับร่างกายนางที่สั่นเทามากขึ้นเรื่อยๆ… กระทั่งนางถึงจุดสุดยอด!

นางหอบเหนื่อย ดวงตาพร่ามัว เพียงสัมผัสนางก็ถึงจุดยอดแล้ว

“สตรีเผ่าจิ้งจอกช่างน่าสนใจจริงๆ...”

“น่าสนใจอะไร! น่าไม่อาย” นางกล่าว

“ข้าหมายความว่า เจ้างดงามและทรงเสน่ห์มาก”

“ฮึ่ม… บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าให้ข้าฟังได้แล้ว...” นางบ่นกล่าวหนิงฝาน

นางรู้ว่าที่หนิงฝานสัมผัสร่างกายนาง เป็นเพราะเขาแสดงความเป็นเจ้าของ และชื่นชอบในเสน่ห์ของนาง

“ความเป็นมาของข้า... ที่นี่คือโลกพิรุณ ข้าอาศัยอยู่ในแคว้นหวู่ เมื่อตอนนั้นข้าอายุได้ 3 ปี ถูกคนของตระกูลหนิงเก็บไปเลี้ยง...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด