ตอนที่แล้วตอนที่ 50 สำเร็จ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 52 ออกจากโลก

ตอนที่ 51 อำลาครอบครัว


"ไม่เลว! พูดได้เลยว่ายาขวดนี้มีคุณภาพสูง!"

“มีโอกาสสามครั้ง แต่เขาทำสำเร็จภายในครั้งที่สอง ดูเหมือนว่าเขาจะเก่งเรื่องการปรุงยา!”

“เมื่อคิดว่าเขาเรียนรู้วิธีการผลิตยาพันธุกรรมใหม่ๆภายในระยะเวลาอันสั้น ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถที่น่าประทับใจมากในการเป็นนักพันธุศาสตร์!”

...

ผู้สัมภาษณ์ยังคงศึกษายาบ้าระห่ำ(แก้จากนักรบคลั่ง)ที่เฟิงหลินเพิ่งปรุงเสร็จ พวกเขาต่างพากันชื่นชมเฟิงหลิน

"ขอแสดงความยินดีด้วย เฟิงหลิน! คุณคือคนมีความสามารถที่เรากำลังมองหา ด้วยความรู้ด้านทฤษฎีที่แข็งแกร่งและความสามารถในปฏิบัติจริง! เราสามารถเซ็นสัญญากันตอนนี้ได้เลย!" ผู้สัมภาษณ์หลักยิ้ม มีสัญญาเสมือนปรากฏตัวต่อหน้าเฟิงหลิน

นี่คือสัญญาเสมือนจริง แต่ก็ยังใช้ได้เมื่อลงทะเบียนรหัสเสมือนของแต่ละบุคคล

และรหัสเสมือนนั้นก็เชื่อมโยงกับตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคน ดังนั้นมันจึงถูกต้อง

เนื่องจากเฟิงหลินมาสัมภาษณ์ และใช้ความพยายามอย่างมากที่จะผ่าน เขาจะไม่ปฏิเสธแน่นอน

เพื่อความปลอดภัย เขายังคงตรวจสอบสัญญาอย่างละเอียดสามครั้ง เขาไม่เจอช่องโหว่ใด ๆ ในกฎหมาย มันเป็นสัญญาฝึกงานสามเดือนโดยจ่ายเงินขั้นพื้นฐาน 50,000 เหรียญทุกเดือน หากเขาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่โดดเด่น เขาสามารถเปลี่ยนเป็นพนักงานประจำได้

แม้ว่าสัญญาจะเป็นเวลาสามเดือน แต่จะมีการลาพักร้อนสำหรับปีใหม่ ในเวลานั้นเขาจะสามารถกลับสู่โลกและมีส่วนร่วมในการแข่งขันจัดอันดับของตระกูลได้ นอกจากนี้การสอบของวิทยาลัยก็อีกหกเดือน มีเวลาอีกมากและการฝึกงานจะไม่กระทบการสอบเข้าวิทยาลัยของเขา

หลังจากพิจารณาสถานการณ์ต่างๆแล้ว เฟิงหลินก็เลิกลังเล และเซ็นชื่อในสัญญา

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สังเกตว่าเมื่อเขาเซ็นสัญญา ผู้สัมภาษณ์ได้ลอบมองกันอย่างลับๆ

เมื่อเซ็นสัญญาผู้สัมภาษณ์หลักก็ยิ้มและถามว่า "เฟิงหลินคุณจะเริ่มทำงานได้เมื่อไหร่"

"ยิ่งเร็วยิ่งดี! ผมจะทำตามข้อตกลงของบริษัท !" เฟิงหลินกล่าว รับรู้ได้ถึงการเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแรงงาน

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้สัมภาษณ์ก็มีรอยยิ้มพึงพอใจ

"ดีมาก! เราจะจองตั๋วกระสวยอวกาศให้คุณทันที จะใช้เวลาเพียงหกชั่วโมงในการเดินทางจากโลกตรงไปยังดาวอังคาร" ผู้สัมภาษณ์หลักจองตั๋วออนไลน์ทันที ดูราวกับว่าเขาไม่อยากรอและอยากให้เฟิงหลินออกเดินทางในทันที

เฟิงหลินพบว่าสิ่งนี้แปลกเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก

ในไม่ช้าผู้สัมภาษณ์หลักก็ทำการจองสำเร็จและตั๋วรับส่งอวกาศอิเล็กทรอนิกส์ก็ถูกส่งมาทางออนไลน์ รายละเอียดทั้งหมดระบุไว้ในตั๋ว

"กระสวยอวกาศรุ่น ฮาร์เลย์ 989 ออกเดินเวลา: เที่ยงวันพรุ่งนี้ ชั้นเฟิร์สคลาสหรู เลขที่นั่ง 11!"

กระสวยอวกาศฮาร์เลย์รุ่นนี้เป็นที่รู้จักกันดี ยิ่งกว่านั้นพวกเขาจองที่นั่งเฟิร์สคลาสที่แพงที่สุดให้กับเขา บริษัทยาไจแอนท์ช่างใจปล้ำ!

เฟิงหลินพอใจกับข้อตกลงเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตามเขาเซ็นสัญญาไปแล้ว และมีผลผูกพันธ์ตามกฎหมาย มันสายเกินไปที่จะมานึกเสียใจตอนนี้

อาจกล่าวได้ว่าบริษัทยาไจแอนท์เป็นผู้มีความรู้ทางด้านยาพันธุกรรมในระบบสุริยะ นอกจากนี้เฟิงหลินเองก็ไม่ได้มีเงินหรือชื่อเสียง พวกเขาจะต้องการอะไรจากเขา

เฟิงหลินหัวเราะเยาะตัวเอง และไม่คิดมาก

"ผมจะรับตั๋ว! และออกเดินทางตรงเวลาในวันพรุ่งนี้!" เฟิงหลินพยักหน้าให้ผู้สัมภาษณ์ และเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง

เนื่องจากเขาจะมุ่งหน้าไปทำงานแล้ว เขาจะต้องขอลาครูของเขา และจากนั้นก็ลาครอบครัว มิฉะนั้นอาจมีความสับสนวุ่นวายอย่างมากโดยไม่มีเหตุผลหากทุกคนคิดว่าเขาหายตัวไป

ด้วยความคิดเดียว เขาก็หายตัวไปทันที

ผู้สัมภาษณ์ทั้งห้าคนยิ้ม แต่เมื่อเฟิงหลินหายตัวไป รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเย็นชา

...

ในจักรวาลเสมือนจริงอันกว้างใหญ่ ดวงดาวส่องแสงสว่างจ้า และทางช้างเผือกก็ลอยขึ้นสูง มันเป็นฉากที่น่าจดจำ

มันเป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าเศร้าที่เขาไม่มีเวลาเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ เขาจะรอโอกาสอีกครั้งในอนาคต รอวันได้สัมผัสกับมันอีกครั้ง

เฟิงหลินมองนาฬิกาหลังจากออกจากห้องเสมือนจริง และตระหนักว่าแม้เขาจะใช้เวลาครึ่งวันอยู่ภายในนั้น แต่เวลาข้างนอกเพิ่งผ่านไปเพียง 30 นาที

เขานึกถึงความกังวลก่อนหน้านี้ของเขาและหัวเราะเบาๆอย่างหมดกังวล

เมื่อเห็นว่าสายแล้ว เขาก็รีบกลับบ้าน

พรุ่งนี้เป็นวันที่สำคัญมาก และเขาจำเป็นต้องเตรียมตัว

"เฟิงหลินกลับมาแล้ว!" เมื่อเขากลับถึงบ้านก็พบว่าพ่อแม่ของเขากลับมาจากโรงงานแล้ว พวกเขาดุเฟิงหลินทันทีหลังจากเห็นเขา

"ทำไมถึงไม่บอกอะไรเราเลย เรื่องการทำงานนอกเวลาเจ็ดวัน"

"ลูกทำให้เราเป็นห่วง! เราคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูก!"

...

คำตำหนินั้นเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก

เฟิงหลินรู้สึกอบอุ่นภายใน

"ผมกำลังจะเรียนจบแล้ว ตอนนี้ผมโตพอแล้ว! ผมจะออกไปทำงานอะไรที่ผมควรทำไม่ได้เหรอ?" เฟิงหลินไม่เปิดเผยอะไรเลย และแค่ยิ้ม

หลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน ใบหน้าของพ่อและแม่ก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า พวกเขาไม่มีแรงที่จะตำหนิต่อ

เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาถามเพิ่มเติม เฟิงหลินเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว “ใช่แล้ว! ผมใช้เงินที่ได้จากการทำงานเสริมซื้อสารอาหารเกรดกลางมาด้วย มันไม่เพียงแค่ให้พลังงานเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงน้องชายและน้องสาวอีกด้วย”

เขาเดินไปที่ตู้เย็นและนำของเหลวสารอาหารเกรดกลางออกมาห้าขวด

"เย้! เราได้ดื่มของเหลวสารอาหารระดับกลางอีกแล้ว!" เมื่อน้องสาวของเฟิงหลินได้ยิน ทั้งคู่ก็รีบพุ่งไปหาเขาเหมือนลูกแมวโลภสองตัว

พ่อแม่ของเฟิงหลินมองไปที่สารอาหารระดับกลาง อารมณ์ของพวกเขาดีขึ้น พวกเขารู้สึกละอายใจ เสียใจและหมดหนทาง

พวกเขารู้สึกละอายใจที่แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพ่อแม่ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ลูกๆมีชีวิตที่ดีได้

พวกเขารู้สึกเสียใจ เพราะถ้าเฟิงหลินมีอาหารบำรุงเพียงพอ ความสามารถในการฝึกฝนของเขาจะไม่เลวร้ายขนาดนี้ เขาอยู่ปีสามในโรงเรียนมัธยม แต่พลังของเขากลับมีแค่0.4 เขาไม่มีความหวังที่จะไปสอบวิทยาลัย และต้องทำงานในโรงงานของตระกูล และหมดโอกาสตลอดชีวิตของเขา

พวกเขารู้สึกหมดหนทาง เพราะพวกเขาเป็นคนระดับต่ำที่ไม่อาจรับเรื่องนี้ได้

รสชาติของสารอาหารระดับกลางไม่เลวเลย พวกมันลิ้มรสได้ดีกว่าของเหลวสารอาหารเกรดต่ำ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าน้องๆของเฟิงหลินจะพึงพอใจอย่างมาก แต่พ่อแม่ของเขากลับรู้สึกไร้รสชาติราวกับว่าพวกเขากำลังทานขี้ผึ้ง

เฟิงหลินบอกได้เลยว่าพ่อแม่ของเขากำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกพวกท่านว่าเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว

หากเขาบอกเรื่องนี้อย่างกะทันหัน การเปลี่ยนแปลงที่มากมายนี้จะทำให้ทั้งสองคนตกใจ และทำให้พวกเขากังวลโดยไม่จำเป็น

เฟิงหลินเพียงคอยดูแลครอบครัวนี้ และปล่อยให้พ่อแม่กับน้องๆมีสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตที่มั่นคง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ความมุ่งมั่นของเขาที่จะแยกตัวออกจากตระกูลก็เพิ่มขึ้น

"พ่อแม่ ผมไปลาออกจากโรงเรียนแล้ว ผมจะทำงานนอกเวลาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า!" เฟิงหลินพูด

พ่อแม่ของเขาที่กำลังดื่มของเหลวสารอาหารหยุดดื่มทันทีที่ได้ยิน

พ่อของเฟิงหลินมีสีหน้าเสียใจ "ลูกจะไปนานแค่ไหน? อย่าลืมการฝึกงานของตระกูลนะ ไม่อย่างงั้นหัวหน้าพ่อบ้านจะตำหนิและลงโทษลูกได้!"

"ไม่ต้องกังวลครับ แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น!" เฟิงหลินเล่าเรื่องโกหกให้พวกเขาฟัง

หากเขาไม่กลับมาหลังจากหนึ่งสัปดาห์และตระกูลติดตามเรื่องนี้ เฟิงหลางจะคอยจัดการเรื่องนี้ ดังนั้นเฟิงหลินจึงไม่กังวล

พ่อแม่ของเขาพยักหน้าและไม่คัดค้านเพิ่มเติม

ท้ายที่สุดมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เงินที่ได้สามารถนำไปซื้ออาหารเสริมให้เฟิงเฉิงและเฟิงซินได้ เพิ่มความสามารถในการบ่มเพาะของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะต้องมีเส้นทางเดียวกันกับเฟิงหลิน

เมื่อเฟิงหลินพูดจบ บรรยากาศก็ผ่อนคลายมากขึ้น พวกเขาพูดคุยและหัวเราะไปกับอาหารค่ำมากขึ้น

เมื่อเห็นว่ามันสายแล้ว พ่อแม่ของเฟิงหลินก็พาน้องชายและน้องสาวของเขาไปนอน

เฟิงหลินกลับไปที่ห้องนอนที่มืดมิด และหุบยิ้มทันที

คราวนี้เขาไม่ได้พยายามบ่มเพาะ เขาพยายามนอนบนเตียงแทน

เขาจ้องมองเพดาน และไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงนอนไม่หลับ

พรุ่งนี้เป็นวันที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขา ถ้าเขาก้าวไปอย่างถูกต้อง โลกจะเปิดรอเขา และเขาจะสามารถไปไดด้ทุกที่ที่เขาต้องการ

ถ้ามันเป็นทางเลือกที่ผิด เขาก็จะถูกไล่ออกจากตระกูล และใช้ชีวิตลำพังในจักรวาล

เฟิงหลินเชื่อมั่นว่าเขาไปได้ดี อย่างไรก็ตามมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะพาพ่อแม่และน้องๆของเขาไปด้วย!

ดังนั้นเขาจะไม่ทิ้งทุกคนไปอย่างเห็นแก่ตัว จนกว่าจะไม่มีทางออกอื่นๆ

เขาไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนี้

หากไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็จะ ...

ไม่ ทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยดี...

แน่นอน ...

เฟิงหลินนอนหลับลึกท่ามกลางความคิดมากมาย

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น

เฟิงหลินแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรผิดปกติ และเริ่มทำความสะอาดห้อง เก็บยาแห่งชีวิตทั้งหมดไป นี่เป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบ่มเพาะที่จะตามมา

หลังจากดูพ่อแม่และน้องๆที่หลับสนิท เฟิงหลินก็หันหลังกลับและออกจากบ้าน

พ่อแม่ลาก่อน!

น้องชายน้องสาวลาก่อน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด