ตอนที่ 51 อำลาครอบครัว
"ไม่เลว! พูดได้เลยว่ายาขวดนี้มีคุณภาพสูง!"
“มีโอกาสสามครั้ง แต่เขาทำสำเร็จภายในครั้งที่สอง ดูเหมือนว่าเขาจะเก่งเรื่องการปรุงยา!”
“เมื่อคิดว่าเขาเรียนรู้วิธีการผลิตยาพันธุกรรมใหม่ๆภายในระยะเวลาอันสั้น ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถที่น่าประทับใจมากในการเป็นนักพันธุศาสตร์!”
...
ผู้สัมภาษณ์ยังคงศึกษายาบ้าระห่ำ(แก้จากนักรบคลั่ง)ที่เฟิงหลินเพิ่งปรุงเสร็จ พวกเขาต่างพากันชื่นชมเฟิงหลิน
"ขอแสดงความยินดีด้วย เฟิงหลิน! คุณคือคนมีความสามารถที่เรากำลังมองหา ด้วยความรู้ด้านทฤษฎีที่แข็งแกร่งและความสามารถในปฏิบัติจริง! เราสามารถเซ็นสัญญากันตอนนี้ได้เลย!" ผู้สัมภาษณ์หลักยิ้ม มีสัญญาเสมือนปรากฏตัวต่อหน้าเฟิงหลิน
นี่คือสัญญาเสมือนจริง แต่ก็ยังใช้ได้เมื่อลงทะเบียนรหัสเสมือนของแต่ละบุคคล
และรหัสเสมือนนั้นก็เชื่อมโยงกับตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคน ดังนั้นมันจึงถูกต้อง
เนื่องจากเฟิงหลินมาสัมภาษณ์ และใช้ความพยายามอย่างมากที่จะผ่าน เขาจะไม่ปฏิเสธแน่นอน
เพื่อความปลอดภัย เขายังคงตรวจสอบสัญญาอย่างละเอียดสามครั้ง เขาไม่เจอช่องโหว่ใด ๆ ในกฎหมาย มันเป็นสัญญาฝึกงานสามเดือนโดยจ่ายเงินขั้นพื้นฐาน 50,000 เหรียญทุกเดือน หากเขาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่โดดเด่น เขาสามารถเปลี่ยนเป็นพนักงานประจำได้
แม้ว่าสัญญาจะเป็นเวลาสามเดือน แต่จะมีการลาพักร้อนสำหรับปีใหม่ ในเวลานั้นเขาจะสามารถกลับสู่โลกและมีส่วนร่วมในการแข่งขันจัดอันดับของตระกูลได้ นอกจากนี้การสอบของวิทยาลัยก็อีกหกเดือน มีเวลาอีกมากและการฝึกงานจะไม่กระทบการสอบเข้าวิทยาลัยของเขา
หลังจากพิจารณาสถานการณ์ต่างๆแล้ว เฟิงหลินก็เลิกลังเล และเซ็นชื่อในสัญญา
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สังเกตว่าเมื่อเขาเซ็นสัญญา ผู้สัมภาษณ์ได้ลอบมองกันอย่างลับๆ
เมื่อเซ็นสัญญาผู้สัมภาษณ์หลักก็ยิ้มและถามว่า "เฟิงหลินคุณจะเริ่มทำงานได้เมื่อไหร่"
"ยิ่งเร็วยิ่งดี! ผมจะทำตามข้อตกลงของบริษัท !" เฟิงหลินกล่าว รับรู้ได้ถึงการเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดแรงงาน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผู้สัมภาษณ์ก็มีรอยยิ้มพึงพอใจ
"ดีมาก! เราจะจองตั๋วกระสวยอวกาศให้คุณทันที จะใช้เวลาเพียงหกชั่วโมงในการเดินทางจากโลกตรงไปยังดาวอังคาร" ผู้สัมภาษณ์หลักจองตั๋วออนไลน์ทันที ดูราวกับว่าเขาไม่อยากรอและอยากให้เฟิงหลินออกเดินทางในทันที
เฟิงหลินพบว่าสิ่งนี้แปลกเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก
ในไม่ช้าผู้สัมภาษณ์หลักก็ทำการจองสำเร็จและตั๋วรับส่งอวกาศอิเล็กทรอนิกส์ก็ถูกส่งมาทางออนไลน์ รายละเอียดทั้งหมดระบุไว้ในตั๋ว
"กระสวยอวกาศรุ่น ฮาร์เลย์ 989 ออกเดินเวลา: เที่ยงวันพรุ่งนี้ ชั้นเฟิร์สคลาสหรู เลขที่นั่ง 11!"
กระสวยอวกาศฮาร์เลย์รุ่นนี้เป็นที่รู้จักกันดี ยิ่งกว่านั้นพวกเขาจองที่นั่งเฟิร์สคลาสที่แพงที่สุดให้กับเขา บริษัทยาไจแอนท์ช่างใจปล้ำ!
เฟิงหลินพอใจกับข้อตกลงเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามเขาเซ็นสัญญาไปแล้ว และมีผลผูกพันธ์ตามกฎหมาย มันสายเกินไปที่จะมานึกเสียใจตอนนี้
อาจกล่าวได้ว่าบริษัทยาไจแอนท์เป็นผู้มีความรู้ทางด้านยาพันธุกรรมในระบบสุริยะ นอกจากนี้เฟิงหลินเองก็ไม่ได้มีเงินหรือชื่อเสียง พวกเขาจะต้องการอะไรจากเขา
เฟิงหลินหัวเราะเยาะตัวเอง และไม่คิดมาก
"ผมจะรับตั๋ว! และออกเดินทางตรงเวลาในวันพรุ่งนี้!" เฟิงหลินพยักหน้าให้ผู้สัมภาษณ์ และเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง
เนื่องจากเขาจะมุ่งหน้าไปทำงานแล้ว เขาจะต้องขอลาครูของเขา และจากนั้นก็ลาครอบครัว มิฉะนั้นอาจมีความสับสนวุ่นวายอย่างมากโดยไม่มีเหตุผลหากทุกคนคิดว่าเขาหายตัวไป
ด้วยความคิดเดียว เขาก็หายตัวไปทันที
ผู้สัมภาษณ์ทั้งห้าคนยิ้ม แต่เมื่อเฟิงหลินหายตัวไป รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเย็นชา
...
ในจักรวาลเสมือนจริงอันกว้างใหญ่ ดวงดาวส่องแสงสว่างจ้า และทางช้างเผือกก็ลอยขึ้นสูง มันเป็นฉากที่น่าจดจำ
มันเป็นเรื่องน่าเสียดายและน่าเศร้าที่เขาไม่มีเวลาเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ เขาจะรอโอกาสอีกครั้งในอนาคต รอวันได้สัมผัสกับมันอีกครั้ง
เฟิงหลินมองนาฬิกาหลังจากออกจากห้องเสมือนจริง และตระหนักว่าแม้เขาจะใช้เวลาครึ่งวันอยู่ภายในนั้น แต่เวลาข้างนอกเพิ่งผ่านไปเพียง 30 นาที
เขานึกถึงความกังวลก่อนหน้านี้ของเขาและหัวเราะเบาๆอย่างหมดกังวล
เมื่อเห็นว่าสายแล้ว เขาก็รีบกลับบ้าน
พรุ่งนี้เป็นวันที่สำคัญมาก และเขาจำเป็นต้องเตรียมตัว
"เฟิงหลินกลับมาแล้ว!" เมื่อเขากลับถึงบ้านก็พบว่าพ่อแม่ของเขากลับมาจากโรงงานแล้ว พวกเขาดุเฟิงหลินทันทีหลังจากเห็นเขา
"ทำไมถึงไม่บอกอะไรเราเลย เรื่องการทำงานนอกเวลาเจ็ดวัน"
"ลูกทำให้เราเป็นห่วง! เราคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับลูก!"
...
คำตำหนินั้นเต็มไปด้วยความกังวลอย่างมาก
เฟิงหลินรู้สึกอบอุ่นภายใน
"ผมกำลังจะเรียนจบแล้ว ตอนนี้ผมโตพอแล้ว! ผมจะออกไปทำงานอะไรที่ผมควรทำไม่ได้เหรอ?" เฟิงหลินไม่เปิดเผยอะไรเลย และแค่ยิ้ม
หลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน ใบหน้าของพ่อและแม่ก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า พวกเขาไม่มีแรงที่จะตำหนิต่อ
เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาถามเพิ่มเติม เฟิงหลินเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว “ใช่แล้ว! ผมใช้เงินที่ได้จากการทำงานเสริมซื้อสารอาหารเกรดกลางมาด้วย มันไม่เพียงแค่ให้พลังงานเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงน้องชายและน้องสาวอีกด้วย”
เขาเดินไปที่ตู้เย็นและนำของเหลวสารอาหารเกรดกลางออกมาห้าขวด
"เย้! เราได้ดื่มของเหลวสารอาหารระดับกลางอีกแล้ว!" เมื่อน้องสาวของเฟิงหลินได้ยิน ทั้งคู่ก็รีบพุ่งไปหาเขาเหมือนลูกแมวโลภสองตัว
พ่อแม่ของเฟิงหลินมองไปที่สารอาหารระดับกลาง อารมณ์ของพวกเขาดีขึ้น พวกเขารู้สึกละอายใจ เสียใจและหมดหนทาง
พวกเขารู้สึกละอายใจที่แม้ว่าพวกเขาจะเป็นพ่อแม่ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ลูกๆมีชีวิตที่ดีได้
พวกเขารู้สึกเสียใจ เพราะถ้าเฟิงหลินมีอาหารบำรุงเพียงพอ ความสามารถในการฝึกฝนของเขาจะไม่เลวร้ายขนาดนี้ เขาอยู่ปีสามในโรงเรียนมัธยม แต่พลังของเขากลับมีแค่0.4 เขาไม่มีความหวังที่จะไปสอบวิทยาลัย และต้องทำงานในโรงงานของตระกูล และหมดโอกาสตลอดชีวิตของเขา
พวกเขารู้สึกหมดหนทาง เพราะพวกเขาเป็นคนระดับต่ำที่ไม่อาจรับเรื่องนี้ได้
รสชาติของสารอาหารระดับกลางไม่เลวเลย พวกมันลิ้มรสได้ดีกว่าของเหลวสารอาหารเกรดต่ำ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าน้องๆของเฟิงหลินจะพึงพอใจอย่างมาก แต่พ่อแม่ของเขากลับรู้สึกไร้รสชาติราวกับว่าพวกเขากำลังทานขี้ผึ้ง
เฟิงหลินบอกได้เลยว่าพ่อแม่ของเขากำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกพวกท่านว่าเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว
หากเขาบอกเรื่องนี้อย่างกะทันหัน การเปลี่ยนแปลงที่มากมายนี้จะทำให้ทั้งสองคนตกใจ และทำให้พวกเขากังวลโดยไม่จำเป็น
เฟิงหลินเพียงคอยดูแลครอบครัวนี้ และปล่อยให้พ่อแม่กับน้องๆมีสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตที่มั่นคง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ความมุ่งมั่นของเขาที่จะแยกตัวออกจากตระกูลก็เพิ่มขึ้น
"พ่อแม่ ผมไปลาออกจากโรงเรียนแล้ว ผมจะทำงานนอกเวลาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า!" เฟิงหลินพูด
พ่อแม่ของเขาที่กำลังดื่มของเหลวสารอาหารหยุดดื่มทันทีที่ได้ยิน
พ่อของเฟิงหลินมีสีหน้าเสียใจ "ลูกจะไปนานแค่ไหน? อย่าลืมการฝึกงานของตระกูลนะ ไม่อย่างงั้นหัวหน้าพ่อบ้านจะตำหนิและลงโทษลูกได้!"
"ไม่ต้องกังวลครับ แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น!" เฟิงหลินเล่าเรื่องโกหกให้พวกเขาฟัง
หากเขาไม่กลับมาหลังจากหนึ่งสัปดาห์และตระกูลติดตามเรื่องนี้ เฟิงหลางจะคอยจัดการเรื่องนี้ ดังนั้นเฟิงหลินจึงไม่กังวล
พ่อแม่ของเขาพยักหน้าและไม่คัดค้านเพิ่มเติม
ท้ายที่สุดมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เงินที่ได้สามารถนำไปซื้ออาหารเสริมให้เฟิงเฉิงและเฟิงซินได้ เพิ่มความสามารถในการบ่มเพาะของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะต้องมีเส้นทางเดียวกันกับเฟิงหลิน
เมื่อเฟิงหลินพูดจบ บรรยากาศก็ผ่อนคลายมากขึ้น พวกเขาพูดคุยและหัวเราะไปกับอาหารค่ำมากขึ้น
เมื่อเห็นว่ามันสายแล้ว พ่อแม่ของเฟิงหลินก็พาน้องชายและน้องสาวของเขาไปนอน
เฟิงหลินกลับไปที่ห้องนอนที่มืดมิด และหุบยิ้มทันที
คราวนี้เขาไม่ได้พยายามบ่มเพาะ เขาพยายามนอนบนเตียงแทน
เขาจ้องมองเพดาน และไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงนอนไม่หลับ
พรุ่งนี้เป็นวันที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขา ถ้าเขาก้าวไปอย่างถูกต้อง โลกจะเปิดรอเขา และเขาจะสามารถไปไดด้ทุกที่ที่เขาต้องการ
ถ้ามันเป็นทางเลือกที่ผิด เขาก็จะถูกไล่ออกจากตระกูล และใช้ชีวิตลำพังในจักรวาล
เฟิงหลินเชื่อมั่นว่าเขาไปได้ดี อย่างไรก็ตามมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะพาพ่อแม่และน้องๆของเขาไปด้วย!
ดังนั้นเขาจะไม่ทิ้งทุกคนไปอย่างเห็นแก่ตัว จนกว่าจะไม่มีทางออกอื่นๆ
เขาไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในการเดินทางครั้งนี้
หากไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็จะ ...
ไม่ ทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยดี...
แน่นอน ...
เฟิงหลินนอนหลับลึกท่ามกลางความคิดมากมาย
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น
เฟิงหลินแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรผิดปกติ และเริ่มทำความสะอาดห้อง เก็บยาแห่งชีวิตทั้งหมดไป นี่เป็นทรัพยากรที่มีค่าและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการบ่มเพาะที่จะตามมา
หลังจากดูพ่อแม่และน้องๆที่หลับสนิท เฟิงหลินก็หันหลังกลับและออกจากบ้าน
พ่อแม่ลาก่อน!
น้องชายน้องสาวลาก่อน!