EDSG ตอนที่ 24 ภูมิหลังของ จี้ฉิงเสวี่ย
"โจวเอ๋อร์ เจ้าเป็นยังไงบ้าง?"
เหลียนว่านซง ได้รีบเข้ามาดูอาการของลูกชายอันเป็นที่รัก ตอนนี้เขาพบว่า เหลียนโจว มีเลือดไหลออกมาจากปากเเละทวารทั้ง 7 ของเขา ดวงตาของ เหลียนว่านซง สั่นไหวไปด้วยความโกรธที่ไม่สามารถควบคุมได้
"ท่านพ่อ,พี่ใหญ่ พวกท่านจะต้องเเก้เเค้นให้ข้า ฉีกร่างของไอ้สารเลวนั่นออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น"เห็นบิดาของตนเองเเละคนของตระกูลเหลียนมาช่วยเหลือเขา เหลียนโจว ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนที่จะจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง อย่างรุนเเรง
"เย่เฉินเฟิง เจ้ากล้ามากที่ทุบตี น้องชายของข้า,ข้า เหลียนหยูหลง จะไม่ปล่อยเจ้าไปเเน่"
ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักต่อสู้เมืองจักรพรรดิขาว เหลียนหยูหลง จึงเป็นคนที่หยิ่งผยองมาก ๆ เขาไม่อนุญาติให้ใครหน้าไหนมากลั่นเเกล้งคนในตระกูลเหลียนของเขาอย่างเเน่นอน
"อะไร เจ้าต้องการเเก้เเค้นเเทนน้องชายของเจ้า?"เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ เขาอย่างเย็นชา เเละพูดขึ้น
เเม้ว่า เหลียนหยูหลง จะเเข็งเเกร่งมาก เเต่ก็ไม่ใช่กับเขา ความเเข็งเเกร่งของ เหลียนหยูหลง ในปัจจุบัน ไม่สามารถคุกคาม เย่เฉินเฟิง ได้อีกต่อไป
"เจ้ากล้าทุบตีน้องชายของข้า ดังนั้นข้าต้องการทวงความยุติธรรมให้น้องชายของข้า ข้าผิดด้วยหรือ?"เหลียนหยูหลง กล่าวเยาะเย้ย หลังจากนั้นเขาก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา
"เจ้ากำลังจะบอกว่าน้องชายของเจ้ามีสิทธิ์กลั่นเเกล้งคนอื่นเเล้วคนอื่นไม่มีสิทธิ์ตอบโต้ว่างั้น?"เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ เหลียนหยูหลง อย่างไม่วิตกกังวล เขาหาได้สนใจ คลื่นพลังที่เเข็งเเกร่งของ เหลียนหยูหลง ไม่
"สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่ความผิดของ เฉินเฟิง เขาถูกผู้หญิงคนนั้นใส่ร้าย เเละ ก็ถูก เหลียนโจว ยั่วยุ ก่อน"
เเม้ว่าตระกูลไป๋ เเละ ตระกูล เหลียน จะเป็นเพื่อนเก่ากัน เเต่ ไป๋ซือหยา ก็ไม่ชอบบุคลิกที่หยิ่งของ เหลียนหยูหลง ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นเพื่อยืนหยัดปกป้อง เย่เฉินเฟิง
"เจ้ารู้ได้อย่างไร?ใครมั่งสามารถที่จะเป็นพยายานเรื่องนี้ได้"
เหลียนหยูหลง พูดพร้อมกับเผยสีหน้าที่น่ากลัวเเละจ้องมองไปที่ทิศทางของฝูงชนโดยรอบ
เนื่องจากโดนคุกคามทางสายตาของ เหลียนหยูหลง ทำให้ ไม่มีใครกล้าที่จะออกมาเป็นพยาน เเม้เเต่ หญิงสาวที่มีเสน่ห์คนนั้นก็เงียบปิดปากเเละไม่ยอมพูดอะไรออกมา
"ข้าเป็นพยานให้กับเขา น้องชายของเจ้าเป็นคนเริ่มก่อน"
เผชิญหน้ากับการกลั่นเเกล้งของ เหลียนหยูหลง จี้ฉิงเสวี่ย ได้ก้าวเดินออกมาอย่างไม่เกรงกลัว
"เจ้าเป็นใคร?"
เหลียนหว่านซง,เหลียนหยูหลง เพิ่งจะมาถึง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้จักตัวตนของ จี้ฉิงเสวี่ย เเต่เมื่อ เหลียนหยูหลง จ้องมองไปที่ จี้ฉิงเสวี่ย เขากลับพบว่าเธองดงามยิ่งกว่า ไป๋ซือหยา อีก
"เจ้าไม่สมควรรู้ว่าข้าเป็นใคร?"
เเม้เหลียนหยูหลงจะเเข็งเเกร่งมากเเละมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา เเต่ จี้ฉิงเสวี่ย ก็หาได้ให้ความสนใจกับเขาเเละกล่าวออกมาอย่างเหยียดหยาม
"งั้นเหรอ ? เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าเปิดปากออกมาว่าเเท้จริงเเล้วเจ้าเป็นใคร"
พลังวิญญาณของ เหลียนหยูหลง ได้ระเบิดพวยพุ่งออกมากลางอากาศ จิตอสูรจระเข้ฟันเหล็กที่มีลำตัวยาวกว่า 3 เมตร เเละ ร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำพร้อมกับฟันกรามที่เเข็งเเกร่ง ได้ปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
"จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้นที่ 6 ? หลงหยูหลง สามารถทะลวงด่านพลังกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6 เเล้ว?"
จิตอสูรระดับปกตินั้นจะเปล่งเเสงสีขาวที่อ่อนโยนออกมา ในขณะที่ จิตอสูรของ เหลียนหยูหลง นั้นกลับปลดปล่อยกลิ่นอายสีขาวเข้ม นั่นเเสดงให้เห็นว่า ความเเข็งเเกร่งของเขาได้มาถึงขีดจำกัดระดับเบื้องต้นเเล้ว อีกเพียงก้าวนึงเขาก็จะทะลวงระดับพลังกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้นเเรกได้
"เฮ้อ ดูท่าวันนี้พวกเขาจะซวยเเล้วจริง ๆ "
"ใครบอกให้พวกเขากระตุ้นโทสะของพวกตระกูลเหลียน หากพวกเขาไม่ตายในวันนี้ พวกเขาก็จะต้องสูญเสียอวัยวะไปอย่างน้อยหนึ่งชิ้น"หลังจากได้เห็นความเเข็งเเกร่งของ เหลียนหยูหลง ผู้ชมโดยรอบ ได้พูดคุยกัน เเละ รู้สึก เสียใจกับการกระทำของ เย่เฉินเฟิง เเละ จี้ฉิงเสวี่ย
เพียงเเต่ว่าในขณะที่พวกเขากำลังจับกลุ่มพูดคุยกัน กลิ่นอายพลังงานที่เย็นเยือกได้หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของ จี้ฉิงเสวี่ย พร้อมกับทำให้อุณหภูมิโดยรอบลดลงจนผู้คนรอบข้างรู้สึกได้ถึงความเย็น
"เจ้าเป็นใครกันเเน่?"
เหลียนหยูหลง ไม่คิดเลยว่า จี้ฉิงเสวี่ย ก็เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6 เหมือนกับเขา เเต่ดูเเล้ว จิตอสูรของเธอ กระทั่งเหนือกว่า จระเข้ฟันเหล็กของเขา ทำให้รอยยิ้มอันเย่อหยิ่งเดิมที่ปั้นอยู่บนใบหน้าได้หายไปในทันที
"ก็อย่างที่ข้าพูด เจ้าไม่สมควรรู้ว่าข้าเป็นใคร"จี้ฉิงเสวี่ย เผยรอยยิ้มที่เย็นชาออกมา เธอได้เเสดงความหยิ่งทรนงของตัวเอง
เมื่อ เย่เฉินเฟิง เห็น จี้ฉิงเสวี่ย ออกมาปกป้องเขา ทำให้ เขาเกิดรู้สึกประทับใจในตัวของเธอเล็กน้อย
"ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใคร เเต่ที่นี่คือเมืองจักรพรรดิขาว เจ้าต้องการเป็นศัตรูกับตระกูลเหลียนของข้า?"เห็นความเเข็งเเกร่งของ จี้ฉิงเสวี่ย ,เหลียนหว่านซง ที่ยืนมองมาพักนึง ได้ตะโกนพูดขึ้น
"หืม?เป็นคำพูดที่หยิ่งผยองน่าดู เเล้วตระกูลเหลียนของเจ้า คิดจะเป็นศัตรูกับตระกูล จี้ ของข้างั้นหรือ ?ข้ากลัวว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นพวกเจ้าคงไม่อาจทานรับไหว"จี้ฉิงเสวี่ย จ้องมองเเละกล่าวออกมาอย่างเย็นชา เธอได้เปิดเผยภูมิหลังของเธอ
"อะไร เจ้าเป็นสมาชิกของตระกูล จี้ จากเมืองหลวง?"
หลังจากได้รู้ตัวตนของ จี้ฉิงเสวี่ย การเเสดงออกของ เหลียนหว่านซง ก็เปลี่ยนไปในทันที เขาไม่คิดเลยว่า จี้ฉิงเสวี่ย จะมีภูมิหลังที่เเข็งเเกร่งขนาดนี้ ดวงตาของเขาปรากฏร่องรอยเเห่งความหวาดกลัวออกมา
"ลุงเหลียน ,ฉิงเสวี่ย วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 70 ปีของท่านปู่ของข้า ได้โปรดไว้หน้าตระกูลไป๋ของข้าด้วย วางเรื่องทั้งหมดลงไว้ตรงนี้ เเละอย่าได้สร้างปัญหาต่อกันเลย"
เห็นสถานการณ์ลุกลามไปกันใหญ่ ไป๋ซือหยา ได้กล่าวพูดขึ้นเพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ในตอนนี้
"ก็ได้,ข้ามาที่นี่ก็เพื่อพบกับอาวุโสไป๋ เรื่องมันผ่านไปเเล้วก็ให้มันเเล้วต่อกันไป หยูหลง พา โจวเอ๋อร์ ลุกขึ้นเเละไปกันได้เเล้ว"
เเม้ตระกูลเหลียนจะเป็นตระกูลชนชั้นสูงที่มั่งคั่งในเมืองจักรพรรดิขาว เเต่เมื่อเทียบกับตระกูล จี้ พวกเขาด้อยกว่าอย่างมาก ดังนั้น เหลียนหว่านซง จึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมเเพ้
อย่างไรก็ตาม เหลียนหยูหลงกลับเผยเจตนาฆ่าออกมาอย่างรุนเเรง
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวตนของ จี้ฉิงเสวี่ย เเต่เขากลับไม่ได้เกรงกลัว เย่เฉินเฟิง ดังนั้น เขาจึงต้องการที่จะฆ่าชายคนนี้
อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง หาได้สนใจ หาก เหลียนหยูหลง ต้องการจะฆ่าเขาอย่างลับ ๆ เขาเองก็ไม่รังเกียจที่จะทำลายจิตอสูรของ เหลียนหยูหลง เเละ ส่งเขาไปลงนรก
"ข้าขอโทษด้วย เฉิงเฟิง,ฉิงเสวี่ย ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น"
"นี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ถ้าต้องการจะโทษใครสักคน ก็คงได้เเต่ตำหนิพวกเขา เพราะพวกเขาหยิ่งเกินไป"เย่เฉินเฟิง ยิ้มตอบกลับ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของเขาเลย
"ว่าก็ว่าเถอะ เฉิงเฟิง ข้าไม่คิดเลยว่า เจ้าจะเเข็งเเกร่งขนาดนี้" จี้ฉิงเสวี่ย ยิ้มออกมาเมื่อจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เธอต้องการดูการเเสดงออกของเขาในตอนนี้
เธอสงสัยว่าทำไม เย่เฉินเฟิง ถึงสามารถปลดปล่อยความเเข็งเเกร่งทางร่างกายได้น่ากลัวขนาดนี้เเม้จะไม่มีจิตอสูรเเต่เขากลับเเข็งเเกร่งอย่างมาก
เนื่องเพราะพวกเขาได้ไปหาเรื่องตระกูลเหลียน เย่เฉินเฟิง เเละ จี้ฉิงเสวี่ย จึงไม่ได้อยู่พักที่ตระกูลไป๋ต่อ พวกเขาขอตัวเเละกลับในทันที
สามวันหลังจากงานเลี้ยงวันเกิด , ที่ตระกูล จี้ข่าวของ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ เย่เฉินเฟิง ที่หมั้นหมายกัน ได้เเพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงเมฆาม่วง
หลังจากได้ทราบข่าวเรื่องนี้เเล้ว ตระกูลอันดับหนึ่งของอาณาจักรซือจิน อย่างตระกูล เจียง ได้บรรดาลโทสะอย่างมาก ทางตระกูลเจียง ได้เริ่มตอบโต้ เเละ ส่งมือสังหารของตระกูลเจียง ไปยังเมืองจักรพรรดิขาว เพื่อลอบสังหาร เย่เฉินเฟิง
เย่เฉินเฟิงที่ไม่รู้ว่าภัยร้ายกำลังใกล้เข้ามา ในขณะนี้เขาได้เข้าสู่ส่วนลึกของหุบเขาเมฆขาว อีกครั้ง เพื่อเตรียมดูดซับโอสถเพลิงผลาญเเละปรับเเต่งจุดชีพจรร่างกายศักดิ์สิทธิของเขา