ตอนที่ 189 หุบเขานภาลัย
แสงดาบเย็นยะเยือกปะทะเข้ากับกระบี่ผ่านพลังลมปราณ
แสงดาบเย็นยะเยือกบดขยี้เงากระบี่อย่างง่ายดาย
"อะไร?"แสงแวววาวอันน่าประหลาดปรากฏขึ้นในสายตาของกู่ฉางเชิง"แก่นทองคำนี้..."
เขาเป็นนักรบที่มีการบ่มเพาะระเบิดหยินขั้นสูงสุด ด้วยการต้านทานกระบวนท่าของเขา แม้แต่นักรบระเบิดหยินขั้นแรกยังต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่
สำหรับนักรบที่มีการบ่มเพาะต่ำกว่าขั้นระเบิดหยิน พวกเขานั้นไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้
แต่นักรบอาณาแก่นทองคำตรงหน้าเขาไม่เพียงแต่ไม่พ่ายแพ้
ชึบ!
เงาดาบปรากฏขึ้นต่อหน้ากู่ฉางเชิงดั่งอสรพิษร้าย
กู่ฉางเชิงเย้ยหยัน พลังจากแก่นแท้แห่งไฟปรากฏขึ้นในมือของเขา พร้อมกับกระบี่ที่ฟันไปทางเจียงวู่เฉิง
เคล้ง!
ในระหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด เขาได้ใช้พลังอย่างเต็มที่
"อะไร?"กู่ฉางเชิงตกใจเมื่อเขารู้ว่าเขาถูกกดดันในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาถูกบังคับให้ล่าถอยและต้องต้านทานการโจมตี
ในเวลาเดียวกัน เจียงวู่เฉิงกวัดแกว่งดาบยาวของเขาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ดาบของเขานั้นลื่นไหลเหมือนสายน้ำ
"เพลงดาบเสียสละ!"
ชึ่บ!
แสงที่น่าหวาดหวั่นปรากฏอยู่ด้านหน้ากู่ฉางเชิง มันล่องลอยอยู่ในอากาศ กู่ฉางเชิงไม่กล้าที่จะดูแคลนเจียงวู่เฉิงอีก เขาเหวี่ยงดาบอย่างต่อเนื่องอีกครั้งเพื่อพยายามที่จะตอบโต้
อย่างไรก็ตาม มันสายเกินไปแล้วที่จะบีบให้เจียงวู่เฉิงถอยกลับไป
ปัง!
ด้วยการปะทะกันของพลังอันน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ กู่ฉางเชิงทำเสียงฮึดฮัดและก้าวถอยหลังอย่างเชื่องช้า
เจตนาสังหารปรากฏอยู่ภายในดวงตาของเจียงวู่เฉิง
ชึบ!
แสงดาบพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
มันเคลื่อนที่ด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ
การเคลื่อนไหวของเจียงวู่เฉิงที่ใช้อยู่นี้คือ กระบวนท่าที่เก้าของเพลงดาบไร้ลักษณ์
แม้ว่าความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาจะไม่ดีขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ทักษะดาบและวิชาดาบของเขาก็ยังดีขึ้นและเขายังเรียนรู้กระบวนท่าที่เก้าของเพลงดาบไร้ลักษณ์
ในตอนนี้ กระบวนท่าที่เก้านั้นพุ่งไปเข้าไปที่ลำคอของกู่ฉางเชิงด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
ดวงตาของกู่ฉางเชิงเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ
เขาไม่ต้องการที่จะพ่ายแพ้เช่นนี้ เพราะเขายังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งเต็มและเขายังไม่ได้มีโอกาส
หากเขาได้รับโอกาสอีกครั้ง แม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้กับเจียงวู่เฉิงอีกครั้ง เขาก็จะไม่กลัว แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว
ฟุบ!
ร่างกายของกู่ฉางเชิงหล่นลงไปที่พื้น ในขณะที่เจียงวู่เฉิงมองไปที่ร่างกายของเขาด้วยสายตาที่เย็นชา
"เจ้านี่ช่วงอวดดี เจ้านั้นดูถูกข้าเกินไป"เจียงวู่เฉิงส่ายหัวพร้อมรอยยิ้ม
ด้วยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจียงวู่เฉิง เขาสามารถที่จะสู้กับนักรบที่มีการบ่มเพาะระเบิดหยินได้ แต่กู่ฉางเชิงนั้นมีการบ่มเพาะอยู่ที่ระเบิดหยินขั้นสูงสุด ความแข็งแกร่งโดยรวมของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าเจียงวู่เฉิงเล็กน้อย
เจียงวู่เฉิงเชื่อว่าเขาสามารถที่จะชนะได้ แต่ไม่สามารถฆ่าเขาได้ในการต่อสู้
หลังจากทั้งหมดเมื่อนักในขั้นระเบิดหยินเลือกที่จะใช้วิชาล่องนภา เจียงวู่เฉิงก็ไม่สามารถที่จะต่อสู้กับเขาได้
อย่างไรก็ตาม กู่ฉางเชิงนั้นดูถูกเขาตั้งแต่แรก เขาไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับเจียงวู่เฉิงและเจียงวู่เฉิงจึงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้โดยการใช้พลังอย่างเต็มที่
ในเวลาเพียงไม่นาน กู่ฉางเชิงถูกเจียงวู่เฉิงฆ่าก่อนที่เขาจะใช้ความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่
หลังจากฆ่ากู่ฉางเชิง เจียงวู่เฉิงก้มลงและหยินปลอกแขนสีเลือด
หลังจากหยิบปลอกแขนสีเลือดแล้ว เจียงวู่เฉิงยิ้มและพูดพึมพำ"ด้วยปลอกแขนอันนี้ มันน่าจะเพียงพอต่อความต้องการในการทดสอบนี้!"
"ถังวู่จี ไปกันเถอะ"
เจียงวู่เฉิงหันหลังกลับและเดินจากไปพร้อมกับถังวู่จีที่วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขาทิ้งศพของกู่ฉางเชิงไว้บนพื้นดินภายใต้วงล้อมของกลุ่มโจรที่กำลังตกตะลึง
แม้แต่ใบหน้าของนางพญาก็ยังเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
"นั่นเป็นผสานกันระหว่างแก่นแท้ทั้งสามชนิด ลม,ไฟและน้ำ"
"นักรบระเบิดหยินขั้นสูงสุดถูกฆ่าโดยใครสักคนที่อยู่ในขั้นอาณาแก่นทองคำขั้นกลาง!"
"อัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมนั้นควรมาจาก1ใน12ราชวงศ์ที่เข้าร่วมเทศกาลไล่ล่าสุดตะวันออก"
...
หลังจากได้รับปลอกแขนของกู่ฉางเชิง เจียงวู่เฉิงก็มั่นใจว่าเขาต้องผ่านข้อกำหนดของทดสอบแรกแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับผู้ลี้ภัยในเวลาที่หลงเหลืออยู่
เวลากลางคืนมาถึงอย่างรวดเร็ว
"ถังวู่จี"
เจียงวู่เฉิงมองไปที่ถังวู่จีและโยนแหวนมิติไปให้และพูดว่า"ข้าได้ฆ่านักรบขั้นระเบิดหยินไปเป็นจำนวนมาก ทุกอย่างของพวกเขาอยู่ในแหวนวงนี้ ข้าให้เจ้า"
"นายท่าน ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร?"ถังวู่จีมองเจียงวู่เฉิงอย่างสงสัย
"ข้ามีบางอย่างที่จะต้องทำ ดังนั้นมันจึงไม่สะดวกที่จะพาเจ้าไปด้วย เอาของเหล่านี้กลับไปที่ราชวงศ์เทียนซ่ง เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับนิกายเก้าจักรพรรดิ พวกเขาเพิ่งเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลามากพอที่จะมาฆ่าเจ้า"เจียงวู่เฉิงกล่าว
ถังวู่จีขมวดคิ้วของเขาและมองเจียงวู่เฉิงจริงจัง จากนั้นเขาก็พยักหน้าและจากไป
ไม่นานหลังจากที่ถังวู่จีจากไป
กริฟฟินนั้นปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของเจียงวู่เฉิงพร้อมกับทหารที่สวมชุดเกราะสีดำ
"ราชวงศ์เทียนซ่ง เจียงวู่เฉิง"
"ห้าวันได้สิ้นสุดลงแล้ว เวลาแห่งการไล่ล่าได้สิ้นสุดลง ตอนนี้เจ้าต้องมากับข้า"ทหารเกราะดำพูดด้วยเสียงเย็นชา พลังที่แผ่ออกมาจากร่างของเขานั้นเห็นได้ชัดว่าอยู่ขั้นระเบิดหยิน
"ตกลง"เจียงวู่เฉิงขึ้นไปบนหลังกริฟฟินโดยไม่ลังเล จากนั้นเขาก็รีบไปที่ใจกลางที่ราบสุดตะวันออกพร้อมกับทหารเกราะดำ
แม้ว่าที่ราบสุดตะวันออกเป็นทุ่งหญ้าที่ไร้ขอบเขต แต่ก็ยังมีภูเขาและแม่น้ำอยู่บ้าง
ที่ใจกลางของที่ราบสุดตะวันออกเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ที่เรียกว่าหุบเขานภาลัย
มันถูกเรียกว่าหุบเขานภาลัยเพราะเป็นสถานที่ที่ผู้คนจะสามารถก้่าวเข้าสู่ระดับใหม่
ทหารเกราะดำพาเจียงวู่เฉิงไปยังทางเข้าหนึ่งของหุบเขานภาลัย
"มันเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าอัจฉริยะของราชวงศ์เทียนซ่ง ลงไปเถอะ"ทหารเกราะดำกล่าว
เจียงวู่เฉิงพยักหน้าและกระโดดลงไป
อัจฉริยะสองสามคนกำลังรออยู่ที่ทางเข้าของรอยแยก นั่นรวมถึงซูรู
เมื่อวู่เฉิงปรากฏตัวที่ทางเข้า พวกเขาทุกคนก็มองดู
"พี่สาม"ซูรูรีบไปยืนเคียงข้างเจียงวู่เฉิงทันที
"น้องสี่ เจ้าได้รับปลอกแขนมากี่อันในการไล่ล่า?เจ้ามั่นใจว่าจะผ่านในบททดสอบแรก?"เจียงวู่เฉิงถาม
ซูรูส่ายหัวและพูดว่า"ข้าไม่แน่ใจ ข้ามีมันเพียงแค่นิดเดียว"
ใบหน้าของเจียงวู่เฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขามีปลอกแขนเพียงพอที่จะผ่านบททดสอบ แต่น่าเสียดาบที่เขาไม่สามารถจะมอบปลอกแขนให้แก่ซูรูได้
"คนที่มาถึงแล้วให้รออยู่ที่นี่ หลังจากอัจฉริยะทั้งหมดของราชวงศ์เทียนซ่งมาถึง ข้าจะประกาศถึงความต้องการขั้นต่ำของปลอกแขน"ผู้เฒ่าที่สวมชุดสีม่วงที่ยืนรออยู่หน้าทางเข้ากล่าว
เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสคนนี้ไม่ได้มาจากราชวงศืเทียนว่ง แต่มาจากที่อื่น มิฉะนั้นเขาจะไม่เฉยเมยกับเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์อย่างนี้
แต่เจียงวู่เฉิงและคนอื่นๆไมได้โกรธแต่อย่างใด พวกเขาทำเพียงแค่ยืนรอเงียบๆ
หลังจากนั้นไม่นาน อัจฉริยะของราชวงศ์เทียนซ่งทุกคนต่างก็มารวมตัวกันที่แห่งนี้
...