บทที่ 188 การวิวัฒนาการของจิตวิญญานต่อสู้ทั้งสอง
บทที่ 188 การวิวัฒนาการของจิตวิญญานต่อสู้ทั้งสอง
ฉื่อหยานแน่นอนว่าเขารู้ว่าหยดน้ำสีขุ่นนี่มาจากไหน , และยังรู้อีกด้วยว่าพวกมันทำอะไรได้บ้าง
เขาส่งพลังวิญญาณของเขาเข้าไปในกล้ามเนื้อของเขา และค่อย ๆสังเกตุไปที่หยดน้ำสีขุ่นเหล่านี่น , ทันทีฉื่อหยานก็คบคิดสิ่งต่างๆในสมองของเขา
พลังประหลาดนี้สามารถกระตุ้นปลุกและเพิ่มพลังให้กับจิตวิญญานต่อสู้ได้ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพลังปราณลึกลับได้อีก และมันยังมีประโยชน์อยู่อีกมากมาย
เขานั้นรู้มาตลอดว่าพลังนี้ได้ให้ประโยชน์แก่เขามามากแค่ไหน
แต่ดูเหมือนว่าพลังประหลาดทั้งหมดนี่ยังไม่ถูกลั่นและหลอมรวมเข้ากับร่างกายเขา
หลังจากได้รับข้อความจากเปลวเหมันเยือกแข็ง ฉื่อหยานก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ด้วยความคิดของเขาทันทีเขาก็ตัดสินใจที่จะลองหลอมรวมมันเข้าไปในเซลล์และร่างกายของเขา เพื่อให้พวกมันไปสารอาหารแก่ร่างกายของเขา
ภายในร่างกาย พลังไฟที่รุนแรก็งเริ่มไหลอยู่ในเส้นชีพจรและกระจายไปทั่วร่างกายของเขา
ภายใต้การปรับแต่งร่างกาย กล้ามเนื้อของเขากระฉับมากขึ้นมันจึงทำให้กล้ามเนื้อของเขาแข็งแกร่งขึ้นและสามารถปรับตัวได้มากขึ้นเมื่อเขารวบรวมพลังปราณลึกลับ หรือ พลังงานเชิงลบ
หลังจากที่ฉื่อหยานปรับแต่งมาจนถึงขณะนี้ ฉื่อหยานก็ได้รู้อะไรบางจากการปรับแต่งด้วยไฟ
เขารู้ว่าการปรับแต่งนี้มันแปลกประหลาดมาก หลังจากที่ร่างกายของเขาได้รับการปรับแต่งโดยไฟปฐพี ร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
" หยดน้ำสีขุ่น นั่นไม่ใช่ของเหลวในร่างของเจ้าและมันก็ไม่ระเหยไปหลังจากโดนไฟ เจ้าเพียงแค่ต้องใช้พลังไฟละลายหยดน้ำสีขุ่นเหล่านี้และพวกมันก็จะซึมเข้าไปในเซลล์ เนื่้อเยื่อ และ กล้ามเนื้อ ของเจ้า ในความเป็นจริง มันไม่ได้ยากเลย เจ้าก็เพียงแค่นำพลังไฟไปที่หยดน้ำสีขุ่นเท่านั้น "
เปลวเหมันเยือกแข็งส่งข้อความไปยังฉื่อหยาน และอธิบายอย่างระเอียด
ฉื่อหยานก็เข้าใจทันที
หลังจากที่กระตุ้นไปที่พลังไฟอยู่หลายสิบครั้ง มันก็กลายเป็นลูกไฟจุดเล็กๆ , ลูกไฟจุนั่นเป็นพลังไฟของไฟปฐพีและมันก็ได้กระจัดกระจายอยู่ทั่ร่างของฉื่อหยาน
เมื่อใดที่เขาใช้สมาธิควบคุมลูกไฟเล็กๆนี้ไปที่หยดน้ำสีขุ่น มันก็จะละลายและกระจายเข้าไปในเนื้อเยื่อและเซลล์
ฉื่อหยานก็เริ่มที่จะทดลอง
เมื่อเขาตั้งสมาธิไปที่จุดๆหนึ่ง จิตใจของเขาเริ่มขยาย เหมือนกับแว่นขยาย
ตรวจสอบไปที่เส้นชีพจรซึ่งเต็มไปด้วยพลังไฟ เขาควบคุมมันและหลอมรวมมันไปที่เนื้อที่หน้าอก
หลังจากที่เขาตั้งสมาธิอยู่หลายครั้ง ไฟก็ค่อยๆเปลี่ยนไป และมันก็กลายเป็นแสงที่ส่องกระจายออกไปเป็นจุดๆมากมาย
ฉื่อหยานตั้งสมาธิไปที่พลังวิญญาณของเขาและทันที พลังวิญญานของเขาก็ถูกแบ่งออกเป็นพลังเล็กๆมากมายซึ่งถูกถ่ายทอดเข้าไปในลูกไฟเล็กๆเหล่านั่น และเขาก็พยายามที่จะควบคุมลูกไฟเล็กๆเหล่านั้นเพื่อให้พวกมันเข้าไปยังหยดน้ำสีขุ่น
มันราบรื่นเป็นอย่างมาก !
ลูกไฟเล็กๆนับพันภายในร่างกายของเขาก็เริ่มที่จะมุ่งเข้าไปที่หยดน้ำสีขุ่น
ความรู้สึกที่อัศจรรย์ก็เกิดขึ้นในหัวใจของเขามากมาย
ฉื่อหยาน ก็สัมพัสได้ว่ามรา ที่หน้าอกของเขา มีกระแสคลื่นที่อบอุ่น ตอนนี้กระแสคลื่นที่อบอุ่นนี้เป็นเหมือนสารอาหารชนิดหนึ่ง ซึ่งมันกำลังซึมซับเข้าไปในกล้ามเนื้อของเขา
ด้วยความสุขภายในใจ ฉื่อหยานร่างกายของเขาที่ทนต่อความเจ็บปวดมาอย่างยาวนานก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปทั้งร่างกาย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ภายในลาวา ฉื่อหยาน กำลังฝึกฝน " หลอมทรดอยู่ " อย่างหนัก และด้วการเปลี่ยนแปลงของพลังแปลกประหลาดซึ่งอยู่ในหยดน้ำสีขุ่นที่อยู่ในร่างของเขา พลังไฟที่ไหลเข้ามาในร่างเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไป
ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าใด .
และปรับแต่งมาแล้วกี่ครั้ง
ในวันนี้ ฉื่อหยานก็ตื่นขึ้นมา และดวงตาของเขาก็ส่องแสงเจิดจ้า เหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า
เปลวเหมันเยือกแข็งนั้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มันปิดกั้นพลังไฟไว้และหยุดไม่ให้มันไหลเข้ามา
" เป็นเช่นไรบ้าง ? " เปลวเหมันเยือกแข็งก็ถาม
ฉื่อหยานยิ้ม
เพียงคิดแค่ครั้งเดียว ผิวของเขาจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นสี เหลืองเขียว
ขั้นที่สามของจิตวิญญานกายาแข็ง ! ! ! ! ! ! ! !
เขาหยิบดาบฆ่ามังกรขึ้นมา เขาฟันไปที่แขนของเขาเบาๆและแผลก็ปรากฏขึ้นมา .
เมื่อแผลปรากฏขึ้นมา เนื้อเยื่อของเขาก็ดูเหมือนกับว่ามันมีชีวิตเป็นของตัวเอง มันค่อยๆเชื่อมติดกันด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ และมันก็ เริ่มฟื้นฟูรอยแผลอย่างรวดเร็ว
แล้วแผลที่ปรากฏขึ้นมา ก็ถูกฟื้นฟูกลับมาเป็นดังเดิม
ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ จะสามารถฟื้นฟูได้ทันทีในระหว่างสู้อยู่ !
นี้เป็นขั้นที่สามของจิตวิญญานอมตะ !
จิตวิญญานต่อสู้ทั้งสองของเขาพัฒนาขึ้น !
" นี่น่าประทับใจนัก ! " เปลวเหมันเยือกแข็งก็ตกใจเช่นกัน " ดูเหมือน ' หลอมทรหด ' จะเป็นวิชาปรับแต่งร่างกายที่เหมาะกับเจ้าจริงๆ หลังจากผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้ ร่างกายของเจ้าก็เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ไม่เพียง แต่จะสามารถทนกับพลังไฟ แต่จิตวิญญานต่อสู้ทั้งสองยังพัฒนาขึ้นอีกด้วย นี่เป็นเรื่องน่ายินดีนัก ดีจริงๆ ! "
ฉื่อหยานมีความสุขเป็นอย่างมาก " ตอนนี้ข้าแน่ใจแล้วว่า ข้าตัดสินใจถูกต้อง ที่ยอมรับเงื่อนไขของเจ้า”
" แน่นอน ข้าบอกเจ้าแล้วว่า เจ้าจะต้องไม่เสียใจแน่นอน " เปลวเหมันเยือกแข็งก็กล่าวอย่างภูมิใจ " ดูไข่มุกรวมวิญญานเถอะ ตอนนี้ไข่มุกถูกลั่นและพลังวิญญานของมันก็พร้อมแล้ว ห้ามนำไข่มุกนั่นเข้าใกล้หยกผลึกไฟอีก มิเช่นนั้น พลังวิญญานของมันจะถูกเผาโดยแกนเพลิง ตอนนี้เราสมควรออกไปจากที่นี่ได้แล้ว "
ฉื่อหยานก็สะดุ้งและมองไปที่ไข่มุกรวมวิญญาน
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด ไข่มุกรวมวิญญานก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม ไข่มุกดูเรียบเนียนและดูเหมือนจะมีบางอย่างที่แปลกประหลาดเคลื่อนไหวอยู่ภายใน
ไม่มีควันสีดำที่ดูน่ากลัวลอยออกมาจากไข่มุกอีกแล้วและ ไข่มุกรวมวิญญานที่ถูกกลั่นโดยหยกผลึกไฟก็สูญเสียพลังในการดูดกลืนวิญญานไป
" หลังจากถูกกลั่น พลังวิญญานในไข่มุกรวมวิญญานก็จะบริสุทธิ์ จากนี้ไปไข่มุกรวมวิญญานนี่ไม่ใช่สมบัติวิเศษอีกต่อไป มันจะเป็นเพียงภาชนะบรรจุพลังวิญญานเท่านั้น หลังจากออกจากที่นี่ ยังต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย เพื่อให้พลังวิญญานปรับตัวก่อนจึงจะสามารถดูดซับได้ .
" แล้วแกนเพลิงหละ ? "
" จิตสำนึกของแกนเพลิงนั้นยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็น่าจะใกล้แล้ว , หลังจากขั้นตอนนั้น , พลังไฟของภูเขาไฟหมื่นปีก็ได้รวมอยู่ในร่างของมันแล้ว ตอนนี้จิตสำนึกของมันไม่มีเกี่ยวข้องกับภูเขาไฟหมื่นปีอีก สิ่งที่มันต้องการตอนนี้ ก็คือเวลา เจ้าต้องเอามันไปกับเจ้าด้วย "
" เอาไปกับข้ารึ ? " ฉื่อหยานครุ่นคิดสักครู่ แล้วเขาก็เอาขวดบริสุทธิ์ขึ้นมาบนฝ่ามือและ กล่าวว่า " ด้วยสิ่งนี้ ตอนแรกข้าตั้งใจว่าจะใช้มัน แต่จากที่เห็น มันจะสามารถบรรจุแกนเพลิงได้จริงรึ ? "
เปลวเหมันเยือกแข็งไม่ได้ตอบทันที และก็แอบสังเกตขวด
หลังจากที่สังเกตสักพักเปลวเหมันเยือกแข็งก็พูด " ไม่ ถ้าเป็นแกนเพลิงยังไม่วิวัฒนาการอย่างสมบูรณ์ มันก็สามารถบรรจุได้อยู่หลอก แต่ตอนนี้ไม่สามารถทำได้แล้ว เจ้าขวดนี่จะปิดสนิทและไม่อากาศถ่ายเท , ขวดนี่จะผนึกพลังของมันและนั่นจะเป็นอันตรายต่อการวิวัฒนาการของมันด้วย ดังนั้น จึงไม่สมควรใช้มัน "
ฉื่อหยาน ตะลึง
ขวดนี่เขาเอามาเพื่อบรรจุแกนเพลิง แต่ตอนนี้ แกนเพลิงได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งตอนนี้มันอยู่ในขั้นตอนของวิวัฒนาการไปเป็นเปลวไฟนภา และกำลังสร้างจิตสำนึกให้สมบูรณ์
ในตอนนี้ , การผนึกของขวดบริสุทธิ์นั้นจะรบกวนการวิวัฒนาการของแกนเพลิงและอาจจะทำลายการวิวัฒนาการของมัน
" ถ้าใช้ขวดนี่ไม่ได้ ก็เป็นการยากที่จะนำมันไปกับข้า " ฉื่อหยานลังเลอยู่สักพัก และถามว่า " ไม่มีวิธีอื่นแล้วงั้นรึ ? "
" ไม่แน่ " เย็นเปลวไฟลังเลเล็กน้อยและทันทีก็พูดว่า " เจ้าลืมไปแล้วรึข้าอยู่ที่ไหน "
ฉื่อหยานตาก็ส่องประกายออกมา
" นี่เป็นแหวนที่วิเศษมาก มันสามารถบรรจุจิตสำนุกได้ ถ้าข้าอยู่ได้ แกนเพลิงก็สมควรอยู่ได้เช่นกัน แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าแหวนวงนี้จะผนึกแกนเพลิงด้วย หรือ ไม่ ซึ่งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเจ้า แต่ต่อให้เจ้าจะสามารถควบคุมแหวนได้อย่างสมบูรณ์ มันก็ยังไม่ีปัญหาอยู่อีกอย่าง "
" มันคืออะไร ? "
" นั่นก็คือ ข้าเองก็อยู่ที่นี่ หากข้าอยู่เจ้านั้นจะต้องไม่กล้าเข้ามาแน่นอน " เปลวเหมันเยือกแข็งพูดอย่างภาคภูมิใจว่า " ไม่ต้องพูดก็น่าจะรู้ ต่อให้จิตสำนึกของมันสมบูรณ์แล้วก็ตาม มันก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า เพราะข้าเป็นจุดอ่อนตามธรรมชาติของมัน”
" ตราบใดที่เจ้าไม่ปล่อยพลังออกมาหรือปล่อยจิตสำนึกออกมา มันก็ไม่เป็นไรแล้วมิใช่รึ ? "
" หากมันยังไม่เข้ามาอยู๋ ข้าก็สามารถซ่อนตัวตนของข้าได้ แต่หลังจากที่มันเข้ามาในแหวนแล้ว , ข้าก็ไม่สามารถซ่อนมันได้อีกต่อไปแล้ว และเมื่อมันเจอกับข้า มันก็จะคิดว่าเจ้าหลอกมัน ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่เจ้าไม่อยากให้เกิดขึ้นไม่ใช่รึไง ?"
" ก็ใช่ ถ้าเป็นแบบนั้น เราจะทำเช่นไรดี ? "
" ข้าจะไม่ซ่อนตัวตนของข้าและเจ้าก็พยายามสื่อสารกับมัน ถ้าความรักที่มีต่อเจ้ามีมากกว่าความกลัวที่มีต่อข้า มันก็สมควรเต็มใจเข้ามา มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะไม่ส่งผลต่อความรู้สึกของเจ้า จำเอาไว้ว่า เมื่อมันรู้สึกว่าเจ้าหลอกมัน มันก็เริ่มที่จะคิดว่าเจ้าเป็นศัตรูของมัน
" ข้าจะพยายาม "
ฉื่อหยาน สูดหายใจเข้าลึกๆ ส่งพลังวิญญาณของเขาออกไปและพยายามที่จะกระตุ้นพลังไฟบางส่วนที่อยู่ในร่างของเขา และก็เข้าไปใกล้กับแกนเพลิง
หลังจากมันรู้สึกได้ถึงพลังวิญญานของ ฉื่อหยาน แกนเพลิงก็มีความสุขเป็นอย่างมาก และมันก็เริ่มมาพัวพันกับฉื่อหยานอย่างสนิท
ฉื่อหยานไม่รีบเกินไป เขาจะเล่นกับมันก่อน แล้วจึงค่อยสื่อสารกับมันด้วยพลังวิญญาน เพื่อที่จะได้คุยกันง่ายๆ
จนกว่าฉื่อหยานจะรู้สึกว่าเขากับมันจะอยู่ในบรรยากาศที่สนิทกันมากที่สุดเขาจึงค่อยสื่อสารกับมัน เขาเข้าไปพัวพันกับแกนเพลิง และมันก็ลอยออกมาจากหยกผลึกไฟ พอมันออกมา เขาก็ยื่นมือของเขาออกไปพร้อมกับแหวนสายโลหิตและ บอกให้เปลวเหมันเยือกแข็งส่งจิตสำนึกออกมาผ่านพลังวิญญานของเขา
เมื่อเปลวเหมันเยือกแข็งส่งจิตสำนึกออกมาจากแหวนสายโลหิต แกนเพลิงก็ตกใจเหมือนกับนกที่ตื่นกลัวและมันก็รีบหนีกลับไปในหยกผลึกไฟ โดยไม่สนใจความเป็นมิตรที่ออกมาจากพลังวิญญานของฉื่อหยาน้ลย
ฉื่อหยานช่วยไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เขารีบส่งข้อความไปทางพลังวิญญานของเขาอย่างรวดเร็วและพยายามที่จะอธิบายถึงความตั้งใจของเขา
แกนเพลิงนั้นตกใจและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก และรูปร่างของมันที่อยู่ภายในหยกผลึกไฟก็เปลี่ยนไปมาด้วยความตกใจ , ไม่ว่าฉื่อหยานพยายามเท่าใด มันก็ไม่ยอมออกมาจากหยกผลึกไฟ
" มันไม่ได้ผล " หลังจากที่ผ่านมาเป็นเวลานาน ฉื่อหยานก็ดึงพลังวิญญานกลับมา และคุยกับเปลวเหมันเยือกแข็งอย่างหมดหนทาง
" ไม่หลอก เจ้าเกือบทำสำเร็ตแล้ว " โดยไม่คาดคิด เปลวเหมันเยือกแข็งก็พูดสิ่งที่น่ายินดีออกมา
" อะไรนะ ? " ฉื่อหยาน ตะลึง
" ข้าบอกว่า เจ้าเกือบจะทำสำเร็จแล้ว ! " เปลวเหมันเยือกแข็งตอบกลับไปอีกครั้ง และอารมณ์ของมันก็ค่อนข้างตื่นเต้น " แหวนวงนี้ มันมาจากไหน ? เจ้าได้มันมายังไง ? ตอนนี้ เจ้าไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแหวนงั้นรึ ? "
" การเปลี่ยนแปลงอะไรรึ ? " ฉื่อหยาน ก็งง
" แหวนของเจ้า หลังจากที่มันรู้สึกได้ถึงแกนเพลิง ทันทีมันก็เริ่มผนึกตัวตนของข้า ! หลังจากแกนเพลิงหนีไป ตัวตนของข้าก็ถูกปิดผนึก และภายในแหวน ก็ได้มีพื้นที่ใหม่ถูกสร้างขึ้น ภายในพื้นที่นั่น มันเป็นเหมือนกับรูปแบบของหยกผลึกไฟขนาดเล็ก "
" อะไรนะ ? " ฉื่อหยาน แปลกใจ
" แหวนวงนี้ใช้พลังไฟที่ไหลเข้ามาและใช้มันสร้างเป็นรูปแบบของหยกผลึกไฟอย่างน่าอัศจรรย์ และมันก็ปิดผนึกพลังของข้า มันเตรียมพร้อมทุกอย่างเพื่อให้แกนเพลิงเข้ามาอยู่ ! มันรู้ว่าเจ้าต้องการจะทำสิ่งไหนและต้องการจะทำอะไร ดังนั้นมันจึงเตรียมพร้อมให้เจ้า ! เจ้าได้แหวนนี่มาจากที่ใดกัน ? ข้าอยู่ในแหวนนี่ แต่กลับสัมพัสไม่ได้ถึงจิตสำนึกของแหวนนี่เลย , แหวนวงนี้ , นับได้ว่า เป็นแหวนของพระเจ้าอย่างแท้จริง ! "