บทที่ 167 ทุกนาทีเท่ากับชีวิต
บทที่ 167 ทุกนาทีเท่ากับชีวิต
นักรบชูร่าขี่อยู่บนหลังของมัน ค้างคาวโลหิตครามก็ค่อยๆบินอยู่เหนือเกาะเมฆา บนข้างคาวโลหิตครามที่อยู่ด้านหน้า เป็นโม่ต้วนหุน ที่มีใบหน้าจริงจังพร้อมกับตามี่ส่องประกายออกมา
มันเป็นครั้งที่สองที่เขาได้มายังเกาะเมฆา
ครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่พร้อมกับนักรบชูร่า เขากวาดล้างและฆ่าคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกู่ทั้งหมด
โดยทั่วไปแล้ว ตระกูลกู่คงจะไม่กล้าเล่นตุกติ๊ก แต่โม่ต้วนหุน ก็ยังระมัดระวังเป็นอย่างมาก ทันทีที่เขามาถึงที่เกาะเมฆา เขาก็ใช้พลังวิญญานของเขาสัมพัสออกไปรอบๆเกาะ
ก่อนที่เขาจะมาถึงเกาะเมฆาโม่ต้วนหุน ได้รับข้อความจากหยางชิงตี้ เขาว่าการเดินทางครั้งนี้จะอันตราย
หยางชิงตี้กำลังจัดการกับอสูรที่อาศัยอยู่ในดินแดนสี่อสูรอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเดินทางมาคุยกับกู่ลีได้ แต่เขานั้นได้คาดการณ์แล้วว่าฉื่อหยานจะมายังเกาะเมฆา เขาจึงต้วนโมต้วนหุนให้ทำอะไรอย่างรอบคอบ
โม่ต้วนหุน เชื่อในคำพูดของ หยางชิงตี้ จึงทำให้เข้าเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลา
ด้วยคำเตือนของหยางชิงตี้ โม่ต้วนหุนจึงระมัดระวังเป็นอย่างมาก และแม้กระทั่งให้ค้่างคาวโลหิตครามบินช้าๆเพื่อดูความผิดปกติ
ที่ด้านหลังของเขามี ราชสีห์วายุอัศนี อยู่ เป็นเซี่ยซินหยาน และเหอซิงเหมิน ทั้งคู่นั่งอยู่เงียบๆ
ดวงตาของนางทั้งสองส่องสว่างเมื่อพวกนางค่อยๆไปมองไปที่เกาะเมฆา
โดยเฉพาะเซี่ยซินหยาน สายตาของนางดูกังวล นางรู้ว่าฉื่อหยานนั้นอยู่บนเกาะเมฆา นางอยากจะพบเขาเป็นอย่างมาก แต่นางก็ไม่รู้ว่าจะหาเขาเจอได้อย่างไร
เหอซิงเหมิน ดูผ่อนคลาย เมื่อนางมองไปแล้วเห็นเซี่ยซินหยานกังวล นางก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น
ด้วยพฤติกรรมของเซี่ยซินหยานดูเหมือนว่านางจะเป็นห่วงฉื่อหยานเป็นอย่างมาก
ตลอดการเดินทางเหอซิงเหมิน ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับฉื่อหยานมากมาย นางอยากเจอฉื่อหยานคนนี้จริงๆ , นางอยากจะรู้ว่าคนแบบไหนที่ทำให้องค์หญิงแห่งทะเลเคียร่าเป็นเช่นนี้
" ระวังตัวไว้ เรากำลังจะลงไปที่พื้นดิน " โม่ต้วนหุน ตะโกนออกมาขณะที่เขาคุมค้างคาวโลหิตครามลงอย่างช้าๆ
ในลานหิน สมาชิดตระกูลกู่มากมายจ้องมองอย่างหงุดหงิดไปที่ค้างคาวโลหิตคราม
ค้างคาวโลหิตครามลงตามมาพร้อมกับโม่ต้วนหุนทีละตัว เมื่อลงจากค้างคาวโลหิตครามโม่ต้วนหุนก็ขมวดคิ้ว หลังจากมองไปรอบๆ เขาก็ถามว่า " ใครเป็นคนรับผิดชอบที่นี่ ? "
ทูตของตระกูลกู่ที่อยู่ในระดับนภาก็ ยืนขึ้นอย่างสุภาพ " ท่านโม่ โปรดรอสักครู่ นายท่านของข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ เขากำลังลงนามบางอย่างเกี่ยวกับเหมืองแร่ และเขาจะมาที่นี่ทันทีเมื่อได้รับข้อความ " .
โม่ต้วนหุนแสยะยิ้ม " ใครคือ กู่ลี ? มันกล้าดียังไงให้ข้ารอ "
" อภัยให้ข้าด้วยท่านโม่ ข้าขออภัยจริงๆ ! " ทูตก้มหน้าลงขณะที่เหงื่อของเขาไหลออกมา และพูดด้วยเสียงสั่นๆ
ในฐานะของที่เป็นหัวหน้าของสามราชาชู โม่ต้วนหุน มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยม ในการต่อสู้ที่ผ่านๆมา โม่ต้วนหุน ได้ฆ่ายอดฝีมือไปมากมาย !
ในบรรดาราชาชูร่าทั้งหมด โม่ต้วนหุน เป็นคนที่พูดน้อยที่สุด แต่เขากลับฆ่าคนได้มากที่สุด ถ้าเขาลงมือ เขาไม่เคยปล่อยให้ใครรอดชีวิตไปได้
" ครึ่งชั่วโมง " โม่ต้วนหุน ขมวดคิ้ว " ถ้ามันยังไม่มา ข้าจะฝังคนที่อยู่ที่นี่พร้อมกับมัน ข้าจะกวาดล้างเกาะเมฆาอีกครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งที่สองที่ข้าจะได้เพลิดเพลิน
สมาชิกของตระกูลกู่หน้าก็ซีดลงหลังจากได้ยิน และนักรบที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำก็เริ่มสั่นเทา
พวกเขาจะไม่สนใจหากเป็นคนอื่นพูด แต่นี่คือโม่ต้วนหุนที่พูดออกมา ดังนั้นพวกเขาจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
โม่ต้วนหุน ไม่เคยพูดล้อเล่น และเขาทำตามคำที่เขาพูดเสมอ เขาบอกว่าจะทำเขาก็สามารถฆ่าคนทั้งเกาะได้
" ท่านโม่ ข้าจะส่งข้อความให้นายท่านทันที " ทูตคนนั่นเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเขา โค้งคำนับและหันไป ส่งข้อความทางนกอินทรี
โม่ต้วนหุน ยินอยู่กับที่เหมือนต้นไม้โดย ไม่ได้พูดสักคำ เขาหลับตาลงเหมือนกับว่าเขากำลังหลับ
โดยไม่มีการตอบรับ เหล่าสมาชิกตระกูลกู่นั้นรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก
ที่บ่อรวมวิญญาน
เป็นวิญญาณที่รวมกันอยู่ในอากาศ หลังจากที่วิญญานแต่ละดวงค่อยๆถูกดูดเข้าไปก็มีใบ้หน้าที่หน้ากลัวปรากฏออกมา
มีเสาหินหลากสีสันตั้งอยู่ในหุบเขา ซึ่งแกะสลักด้วยพลังพลังทุกรูปแบบที่แข็งแกร่ง
ด้วยหมอกในหุบเขา มีแสงทึบเป็นรูปแบบม่านพลังเพื่อป้องกันไม่ให้วิญญาณหลุดออกไป
วิญญาณนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในบ่อรวมวิญญาน
มีวิญญาณนับหมื่นลอยอยู่ไปทั่วทุกมุมของบ่อรวมวิญญาน
วิญญาณเหล่านี้เหมือนกับภูติผี ที่มีใบหน้าแตกต่างกันไป แต่พวกเขาทั้งหมดต่างก็ส่งอารมณ์ความแค้นและความเกลียดชังออกมา
ข้างบ่อรวมวิญญานมีคนยื่นอยู่สองคน คือ กู่เจียงเกอ และ กู่ลี
กู่ลีขมวดคิ้ว จ้องมองไปที่บ่อรวมวิญญานด้วยสีหน้าจริงจัง
กู่เจียงเกอ ดูเหมือนร้อนใจ มันเดินไปรอบๆบ่อรวมวิญญานเพื่อตรวจดูว่า ทุกอย่างปกติหรือไม่
อินทรีส่งสาร บินผ่านความมืดเข้ามาใกล้ๆ
กู่เจียงเกอ ยืนมือออกไปที่นกอินทรีและหยิบข้อความมาพร้อมกับมองผ่านตัวอักษรนั้น " ท่านพ่อ โม่ต้วนหุน บอกว่า ถ้าท่านไม่ไปหามันภายในครั่งชั่วโมง มันจะกวาดล้างเกาะให้เป็นทะเลเลือด "
กู่ลีหน้าก็หันมาด้วยสีหน้าจริงจัง เขาถอนหายใจ " ปล่อยมันไป "
" แล้วผู้คนที่อยู่ที่นั่นหละ ? " กู่เจียงเกอ คิดสักครู่ " เจ้าต้องเสียสละพวกเขารึ ? "
" อย่าสน " กูลี่มองอย่างไม่แยแส " ถ้าอสูรนั่นมาก่อนก็ถือว่าพวกเขาโชคดีไป มีเพียงเจ้าและข้าเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แล้วก็เป็นเราที่หายตัวไป ถ้าเบื้องบนรู้เรื่องนี้ เราต้องหนีไม่รอดและถูกฆ่าแน่นอน "
" ข้าเข้าใจแล้ว " กู่เจียงเกอ พยักหน้า
" เจ้าตรวจสอบปัญหาทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่ " กู่ลีถาม
" ขอรับ สบายใจได้ เราสามารถเริ่มได้ทันที "
" ดี ! ! ! ข้าจะเรียกวิญญานของอสูรมาที่นี่ ระวังและอยู่รอบๆข้าไว้ ก่อนที่วิญญานของอสูรจะมา อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้ ไม่งั้นโม่ต้วนหุนมันจะมาที่นี่ทันที "
" ไม่ต้องห่วงท่านพ่อ ข้ารู้ว่าควรทำเช่นไร "
" ดี " .
ฉื่อหยานก็วิ่งมาด้วยใบหน้าจริงจังเขาวิ่งเข้ามาในหุบเขาเพื่อมายังไข่มุกรวมวิญญานด้วยความเร็วสูงสุด
เมื่อโม่ต้วนหุนมาถึง พวกมันจะต้องลงมือแน่นอน
หลังจากนี้ อสูรที่มาเยือนอาจจะปรากฏออกมาเมื่อใดก็ได้ !
อสูรนั่นมาที่นี่เพื่อจัดการโม่ต้วนหุร ดังนั้นพวกมันจึงเล็งโม่ต้วนหุนเป็นเป้าหมายแรก
ในถึงตอนนั้น เมื่อวิญญานของอสูรที่มาเยือนออกจากหุบเขาไป ฉื่อหยานก็จะเข้าไปในหุบเขา และหยุดม่านพลังด้วยพลังความเย็น จากนั้นเขาก็จะเข้าไปเอาไข่มุกรวมวิญญานที่บ่อรวมวิญญาน
ฉื่อหยาน นั้นไม่มั่นใตว่าโม่ต้วนหุนจะ สามารถรับมือกับอสูรที่มาเยือนได้หรือไม่ แต่มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะไปบอกโม่ต้วนหุนตอนนี้
ตอนนี้เขาต้องดำเนินการแผนของเขาและขโมวไข่มึกรวมวิญญานให้ได้เร็วที่สุด
เมื่อเขาได้ไข่มุกรวมวิญญานมา เขาก็จะสามารถจัดการกับอสูรที่มาเยือนได้ .
มันคงจะดีถ้าโม่ต้วนหุน ยังมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้น
ฉื่อหยานคิดแผนการได้มากมาย แต่สุดท้ายเขาก็เลือกใช้แผนนี้
แหวนสายโลหิตสั่นไปมา และเปลวเหมันเยือกแข็งที่อยู่ภายในก็ตื่นเต้น เพราะมันนั้นอยากจะได้ไข่มุกรวมวิญญานเป็นอย่างมาก
สิบนาทีต่อมา
คลื่นพลังก็ล้นทะลักออกมาจากหุบเขา !
บรรยากาศชั่วร้ายกระจายไปทั่วท้องฟ้าบนเกาะเมฆา !
ในนั้นมีกระแสของพลังวิญญานที่กำลังรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน ก็มีคลื่นพลังวิญญานที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้นเหนือหุบเขา ซึ่งนั่นทำให้ฉื่อหยานตกใจเป็นอย่างมาก
เมื่อวิญญานปรากฏตัวขึ้นเหนือหุบเขา บรรยากาศที่ชั่วร้ายก็รวมตัวกันเหนือหุบเขาทำให้ดูเหมือนเป็นค่ำคืนที่มืดมิด
แม้แต่ฉื่อหยานก็พบว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะมองเห็นด้วยบรรยากาศเช่นนี้
ในขณะเดียวกัน คลื่นวิญญาณที่แข็งแกร่งอีกจุดหนึ่งก็พุ่งมาจากเหมืองของตระกูลกู่ และเป็นจุดสีเขียวพุ่งมาเหมือนกับดาวตก
จุดนั่นส่องแสงออกมาเหมือนกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
แม้ว่าฉื่อหยานจะมองรอบๆไม่ค่อยเห็นเพราะบรรยากาศชั่วร้าย แต่เขาก้ยังสามารถมองเห็นจุดแสงสีเขียวได้อย่างชัดเจน
ที่จุดแสงนั่น คือหัวหน้าของราชาชูร่าทั้งสาม โม่ต้วนหุน !
ฉื่อหยานสัมพัสได้ว่า จุดแสงสีเขียวเต็มไปด้วยจิตสังหาร และดูเหมือนว่าเขาพร้อมที่จะต่อสู้กับอสูรที่มาเยือน
จ้องไปที่จุดสีเขียว ฉื่อหยานก็รู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้น เขาเชื่อว่า โม่ต้วนหุน จะต้องสามารถเอาชนะวิญญานของอสูรที่มาเยือนได้แน่นอน
ดังนั้นเขาจึงพุ่งเข้าไปในหุบเขาอย่างไม่ลังเล
วิญญานของอสูรที่มาเยือนก็ได้ลอยออกไปจากหุบเขาและพุ่งไปยังจุดสีเขียวซึ่งเป็นโม่ต้วนหุน .
นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดของฉื่อหยาน ที่จะขโมยไข่มุกรวมวิญญาน !_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ