บทที่ 159 เพิ่มความแข็งแกร่งอาวุธลับ
บทที่ 159 เพิ่มความแข็งแกร่งอาวุธลับ
ฉื่อหยานดูไม่แยแส เขาเหยียบไปที่มือข้างซ้ายของคาร์มอน ทำลายมัน และ เขาก็จากไป
หน้าผาก คาร์มอนก็เต็มไปด้วยเหงื่อ มันทำได้แค่ยืนขึ้นเฉยๆด้วยความช่วยเหลือของฮั่วเจีย
ภายในเรือ
เจตต์ นาโน และคนอื่น ๆกำลังจ้องไปที่ฉื่อหยาน ที่ค่อยๆหายไปอย่างตกตะลึง และหลังจากที่พวกเขามองไปที่ คาร์มอนกับฮั่วเจียการแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
ลินดานั้นไม่ได้หยุดฉื่อหยานเลย“คาร์มอน เจ้าหยุดคิดเรื่องแก้แค้นสะ เจ้าไม่สามารถเอาชนะเขาได้หลอก มิเช่นนั้นแม้แต่ข้าก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้ !”
คนอื่นนั้นได้รับรู้เพียงความโหดร้ายเล็กน้อยของฉื่อหยานเท่านั้น แต่ลินดานั้นได้เห็นความโหดร้ายของเขาจริงๆมาแล้ว เมื่อเขาฆ่าโจรสลัดนับสิบโดนไม่ลัง
การต่อสู้นั้นประทับใจลินดาเป็นอย่างมาก แม้แต่นักรบในระดับหายนะก็ไม่สามารถรับมือกับฉื่อหยานได้ แล้วนับประสาอะไรกับคาร์มอน มันนั้นไม่รู้ว่าเลยว่าหากไปทำเขาหงุดหงิดหละก็มันโดนเขาฆ่าแน่นอน
จริงๆแล้ว ลินดาไม่จำเป็นต้องพูดด้วยซ้ำ ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฮั่วเจียและ คาร์มอน ทุกๆคนก็ตระหนักได้แล้วว่าฉื่อหยานโหดเหี้ยมเพียงใด .
พวกเขาทั้งสองต่างก็ถูกทุบตีโดยฉื่อหยาน และทุกคนต่างก็รู้ดีว่าสองคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด
เจตต์รู้สึกสงสาร คาร์มอนขึ้นมาทันที .
ผู้หญิงที่เขารักมานานหลายปีไปมีอะไรกับชายอื่น และนั่นก็ทำให้ตัวเขาเองอับอายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เจตต์ นั้นเข้าใจความเจ็บปวดของคาร์มอนดี
ใบหน้าของคาร์มอนกลายเป็นบิดเบี้ยวเนื่องจากเสียแขนไป
มันไม่ได้ยินเสียงลินดาที่กล่าวเตือนเลย ดวงตาของมันส่องประกายดุร้ายออกมา มันมองไปที่ฉื่อหยานราวกับว่าจะกลืนกิน
ลินดาขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงเย็นชา " คาร์มอน ข้าหวังว่า เจ้าจะไม่ทำอะไรโง่ๆนะ ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ แต่ก็ไม่ใช่ตลอดไป เขายอมปล่อยเจ้าก็เพราะข้า ถ้าเจ้าไปก่อกวนเขาหละก็... " .
" เห้ย ! ! ! ! ! ! อยู่ให้ห่างจากข้า ! " คาร์มอนตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง " มันดีกว่าข้าตรงไหน ? เจ้ารู้หรือไม่ข้าเสียสละอะไรเพื่อเจ้าบ้าง ? หลายปีมานี้ ข้าปกป้องเจ้าเช่นเจ้าเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของข้า แต่ตอนนี้เจ้ากลับเลือกชายแปลกหน้า ! เจ้านี่มันไร้ยางอายจริงๆ ! "
คาร์มอนหดหู่หลังจากรู้ความจริง และตอนนี้เขาก็กลายเป็นบ้าคลั่ง
การแสดงออกของลินดากลายเป็นเย็นชา " ข้าเองก็ปฏิเสธเจ้าหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าก็ยังตื้ออยู่ได้ มันไม่ใช่ธุระของเจ้าที่ข้าจะเลือกเขา เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถควบคุมชีวิตของข้าได้เพียงเพราะเจ้ารักข้างั้นรึ ! ข้าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงใดๆเพื่อเจ้า”
คาร์มอนใบหน้าดูหน้าเกลียดและมันก็หายใจอย่างหนักหน่วง แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่มองไปที่ลินดาด้วยความเกลียดชัง
มองผ่านสายตาของคาร์มอน ลินดาก็รู้ทันทีว่านางกับมันจะไม่มีทางเหมือนเดิม นางจึงถอนหายใจและส่ายหน้า และพูดอย่างหมดหนทาง " ดี หลังจากเสร็จสิ้นงานนี้ เจ้าก็สมควรจะหยุดทำงานร่วมกับเราสะ ! "
หลังจากลังเล ลินดาก็มองไปที่เจตต์ " เจ้าก็เช่นกัน หลังจากเสร็จงานนี้ หากเจ้าต้องการก็สามารถไปได้ "
เจตต์ นาโน และคนอื่น ๆ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาดูกังวล
ฉื่อหยานกลับมาที่กล่องสินค้าและเอาหินดวงจันทร์สีเขียวออกมาและถ่ายทอดพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งเข้าไปในหินพระจันทร์สีเขียว
ตอนที่เขาต่อสู้กับหลินเสี่ยวชาง เขาได้ใช้หินพระจันทร์สีเขียว และฉื่อหยานก็ได้สังเกตเห็นถึงประสิทธิภาพของมันว่ารุนแรงเพียงใด
หลายวันที่ผ่านมา ฉื่อหยานได้หินพระจันทร์ สีเขียวจากเจ็ทและสหายของเขาผ่านลินดาประมาณสิยห้าก้อน เขามักจะถ่ายทอดพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งเข้าไปในหินพระจันมร์สีเขียวทุกครั้งที่เขาว่าง
ตอนนี้ เขามีหินพระจันทร์สีเขียวที่เต็มไปด้วยพลังความเย็นจากเปลวเหมันเยือกแข็งอยู่สิบสี่ก้อน
เมื่อหินพระจันมร์สีเขียวกำลังดูดซับพลังความเย็นจากแหวสายโลหิต ,ฉื่อหยานก็ได้ถ่ายทอดพลังปราณลึกลับของเขาผสมเข้าไป
เขาเพ้งสมาธิไปที่หินพระจันที์สีเขียว
ที่ตรงกลางของหินพระจันมร์สีเขียว มีพื้นที่เล็กๆอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเพ้งสมาธิไปที่มัน ฉื่อหยานก็ค้นพบครั้งยิ่งใหญ่
เขาหลับตา ฉื่อหยานรู้สึกได้ถึงพลังความเย็นจากเปลวเหมันเยือกแข็ง ขณะที่มันกำลังค่อยๆไหลเข้าไปในหินพระจันทร์สีเขียว
ความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจของเขา
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาถ่ายทอดพลังงานเชิงลบเข้าไปในหินพระจันทร์สีเขียว
ฉื่อหยานเริ่มทดลองทันทีที่เขาคิดได้เช่นนั้น
ตามที่เขาต้องการ พลังงานเชิงลบไหลไปตามแขนของเขา และแทรกซึมเข้าไปในหินพระจันทร์สีเขียวที่อยู่ในมือของเขา
เมื่อพลังงานเชิงลบไหลเข้าไปอยู่ในหินพระจันทร์สีเขียว หินก้อนนั้นก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ดุร้าย
พลังงานเชิงลบดูเหมือนจะขัดแย้งกับพลังความเย็นในหินพระจันทร์สีเขียวและมันก็เริ่มต่อต้านกับพลังความเย็นอย่างรุนแรง
รอยแตกเล็กๆค่อยปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของหินดวงจันทร์สีเขียว ,และทันที มันก็ระเบิดออกและพลังความเย็นก็กระจายออกมา
พลังงานเชิงลบขับไล่พลังความเย็นออกมาจากหินพระจันทร์สีเขียว !
หินพระจันทร์สีเขียวไม่สามารถรองรับพลังงานเชิงลบได้ ดังนั้น เมื่อพลังความเย็นหายไป หินพระจันทร์สีเขียวก็ระเบิดออกเป็นเศษเล็กเศษน้อยและพลังงานเชิงลบที่อยู่ภายในก็กระจายตัวออกมา
เปลวเหมันเยือกแข็งและพลังงานเชิงลบไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ .
ฉื่อหยานขมวดคิ้วและจ้องมองไปที่เศษหินเล็กๆที่อยู่บนพื้น
หลังจากนั้น ฉื่อหยานหยิบหินพระจันทร์สีเขียวเม็ดอื่นออกมา เขาเริ่มถ่ายทอดพลังความเย็นภายแหวนสายโลหิตเข้าไปในหินพระจันทร์สีเขียว และหลังจากนั้น เขาก็ควบคุมพลังปราณลึกลบของเขและพยายามถ่ายทอดมันเข้าไปในหินพระจันทร์สีเขียว
พลังปราณลึกลับทะลักออกมาจากหินพระจันทร์สีเขียวเหมือนเส้นใยที่โปร่งแสง
หลังจากถ่ายทอดพลังปราณลึกลับเข้าไป รอยแตกก็เริ่มปรากฏขึ้นบนหินจันทราสีเขียวมากขึ้นเรื่อยๆ และหลังจากนั้นเขาก็ถ่ายทอดพลังความเย็นเข้าไปอีกครั้ง หินพระจันทร์สีเขียวก็ไม่ระเบิดออก
ด้วยความประหลาดใจ , ฉื่อหยานก็พบว่า พลังปราณลึกลับสามารถอยู่ร่วมกับพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งได้
เขานั้นไม่รู้เลยว่า ตั้งแต่ที่ร่างกายเขาได้ดูดซับพลังความเย็นมาเป็นจำนวนมาก พลังปราณลึกลับของเขาก็ได้ผสมกับพลังความเย็นแล้ว ซึ่งนั่นทำให้พลังปราณลึกลับของเขาเป็นที่ถ่ายทอดเข้าไปในหินพระจันทร์สีเขียวสงบและไม่ต่อต้านกับพลังความเย็น
เมื่อหินพระจันทร์สีเขียวมีพลังปราณลึกลับอยู่ภายใน พลังความเย็นที่อยู่หินพระจันทร์สีเขียวก็มีมากกว่าหินก้อนอื่นๆถึง ห้าเท่า ๆ !
พลังความเย็นห้าเท่าทะลักออกมาจากหินพระจันทร์สีเขียวพร้อมกับพลังปราณลึกลับ ด้วยพลังความเย็นที่มันมีทำให้เกิดรอยแตกหนาขึ้นบนหินพระจันทร์สีเขียว
ฉื่อหยานย้ายหินพระจันทร์สีเขียวออกจากแหวนสายโลหิตอย่างใจเย็น
เขาขมวดคิ้ว ฉื่อหยานสังเกตไปที่หินพระจันทร์สีเขียวที่ผิดปกตินี้ แล้วหลับตาลง เขาสัมพัสไปที่พลังที่อยู่
ภายในหินดวงจันทร์สีเขียวก้อนนี้ พลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งหลอมรวมกับพลังปราณลึกลับ และมันก็กลายเป็นเส้นสายที่ส่องแสงออกมาบนพื้นผิวของหินพระจันทร์สีเขียวเป็นรูปดอกไม้
ครุ่นคิดสักพัก ฉื่อหยานก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ท้ายเรือ
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ ฉื่อหยานก็ขว้างหินจันทราสีเขียวลงแม่น้ำไกลออกไป
ด้วยแรงที่ปาออกไปทำให้หินพระจันทร์สีเขียวระเบิดออกทันที
" บูม ! "
ห่างจากเขาสามสิบเมตร เส้นสายของเปลวไฟและพลังความเย็นก็ระเบิดออกในครั้งเดียว
รอบๆหินพระจันทร์สีเขียว น้ำทะเลกลายเป็นถูกแช่แข็งและมันก็ระเบิดออกแท่งน้ำแข็งนับร้อยออกมา
บริเวณรอบๆกลายเป็นสว่างจ้า ในขณะเดียวกันมันก็เต็มไปด้วยอากาศที่หนาวเย็นและบริเวณรอบๆก้ถูกแช่แข็ง
" ชิส์ ! ! ชู่ ! ! ! ! ชู่ ! ! ! ! "
" ชิส์ ! ! ชู่ ! ! ! ! ชู่ ! ! ! ! "
แท่งน้ำแข็งนับลอยพุ่งออกไปทุกทิศทาง ขณะเดียวกันแท่งน้ำแข็งนับสิบก็พุ่งมาที่ฉื่อหยาน
" เกิดอะไรขึ้น ? " ลินดา ร้องออกมา
กลุ่มคนรวมทั้งเจ็ทก็ได้ออกจากในเรือและมองไปที่น้ำแข็ง ทันทีพวกเขาก็หมอบลง
" ปัง ปัง ! "
เรือถูกกระแทกโดยแท่งน้ำแข็งห้าถึงหกแท่ง และพุ่งผ่านไปเหมือนกับลูกศร
แท่งน้ำแข็งสามแท่งทะลุผ่านดาดฟ้าเรือและปักอยู่อย่างนั้น
แท่งน้ำแข็งหลายแท่งตกลงไปในทะเล
ฉื่อหยาน ยืนอยู่บนดาดฟ้า ด้วยสี่หน้าเรียบเฉย แต่ลึกๆแล้วเขานั้นค่อนข้างมีความสุข
ผลกระทบของหินพระจันทร์สีเขียวก้อนนี้แข็งแกร่งและรุนแรงกว่าหินพระจันทร์สีเขียวก่อนหน้านี้นัก !
และเป็นเรื่องยากมากที่นักรบระดับหายนะจะรับมือกับแท่งน้ำแข็งพวกนั้น
ที่จุดกลางของระเบิดก็ส่งอากาศหนาวเย็นและคลื่นกระแทกที่รุนแรงออกมา
ฉื่อหยาน เดาว่าไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือระดับมนุษย์คนไหน หากเจอเช่นนี้ร่างของพวกมันจะต้องฉีกขาดแน่นอน
" ฉื่อหยาน มีคนโจมตีเรางั้นรึ ? " ลินดาร้องออกมาและเดินเข้ามาใกล้ๆฉื่อหยานอย่างรวดเร็ว แล้วมองไปที่ฉื่อหยาน แล้วนางก็ถามว่า " เจ้าเป็นอะไรหรือไม่ ? โจรสลัดมาอีกแล้วงั้นรึ ? "
" ไม่ " ฉื่อหยานก็ส่ายหัวและยิ้ม " ข้าได้สร้างบางสิ่งขึ้นและทดสอบมันเล็กๆน้อยๆ มันไม่เลวเลยจริงๆ หึหึ "
ฉื่อหยาน นั้นประทับใจและรู้สึกมีความสุขกับหินพระจันทร์สีเขียวเป็นอย่างมาก เขาเริ่มครุ่นคิดถึงวิธีการที่จะใช้จัดการกับกู่เจียงเก้อ
" เล็กๆน้อยๆ ? "
กลุ่มคนรวมทั้ง เจ็ท ดวงตาของพวกเขาก็กลายเป็นหวาดกลัว
" อืม... ข้าว่าข้าควรจะพูดกับคาร์มอน ให้เขาเลิกยุ่งกับลินดาสะ " คารี่ที่มักจะอยู่กับคาร์มอนก็ยิ้มออกมาอย่างสำนึก_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ