บทที่ 141 ผนึกที่ภูเขาน้ำแข็ง
บทที่ 141 ผนึกที่ภูเขาน้ำแข็ง
ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน ได้อยู่ในถ้ำมาแล้วเป็นเวลาสามวัน
ผ่านมา 3 วัน ถึงแม้จะอยู่ในถ้ำ พวกเขาก็ยังรู้สึกหนาวเย็นและมันก็หนาวขึ้นเรื่อยๆ
เปลวเหมันเยือกแข็งเป็นเปลวไฟนภา มันอยู่ระหว่าสวรรค์และแผ่นดินมาเป็นเวลาเนินนาน เปลวเหมันเยือกแข็ง มันมีจิตสำนึกของตัวเอง และมันเป็นก็เป็นตัวตนที่พิเศษอย่างมากบนโลกใบนี้
เกาะเหมินลั่วนั้นถูกปกคลุมด้วยภูเขาไฟ มีนักสู้ระดับพระเจ้าแท้จริงบางคน กำลังพยายามที่จะผสานเข้ากับเปลวเหมันเยือกแข็ง เขาพยายามจะใช้ภูเขาไฟบนเกราะเหมินลั่วในการควบคุมมัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็ล้มเหลวในที่สุด .
แล้วเปลวเหมันเยือกแข็งก็ถูกปิดผนึกตั้งแต่นั้นมา ซึ่งมีสัญลักษณ์เหล่านั้นลอยอยู่ สามารถเห็นได้จากในภูเขาน้ำแข็ง พวกมันเหล่านั้นที่พวกเขาเห็นภายในภูเขาน้ำแข็ง เป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้ปิดผนึกเปลวอัคคีเยือกแข็ง
หลังจากผ่านมานับหมื่นปี พลังของผนึกก็ค่อยๆลดลง เปลวเหมันเยือกแข็งอย่างก็เริ่มหลุดออกจากผนึกขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดมันก็โผล่ออกมาจากก้นทะเล และ ปรากฏขึ้นบนเกาะเหมินลั่ว
คนจากขุมพลังทั้งสี่นั้นต้องการที่จะได้สิ่งลึกลับที่อยู่ในภูเขาน้ำแข็ง ดังนั้นพวกเขาทำลายมันและโจมตีไปที่ภูเขาน้ำแข็ง นั่นส่งผลให้พลังของผนึกลดลงและในที่สุดเปลวเหมันเยือกแข็งก็หลุดออกมา มันได้กลายเป็นสัตว์อสูรน้ำแข็งนับพัน และตอนนี้มันก็วิ่งไปทั่วเกาะเหมินลั่ว ทำให้ดินแดนแห่งภูเขาไฟนี้กลายเป็นนรกบนดินไป
เปลวเหมันเยือกแข็งเป็นเปลวไฟนภา นอกจากนักรบในระดับพระเจ้าแท้จริงแล้ว จะเป็นเรื่องยากมากที่จะผนึกมัน
เมื่อนักรบจากขุมพลังทั้งสี่ตระหนักว่านั่นเป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในภูเขาน้ำแข็ง โดยไม่ลังเลทันพวกเขาก็หลบหนีออกมาจากภูเขาน้ำแข็งทันทีและในที่สุดพวกเขาก็ออกจากเกาะไป
น้ำแข็งนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็ง บนเกาะเหมินลั่ว สัตว์อสูรน้ำแข็งกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆด้วยพลังความเย็นจากเปลวเหมันเยือกแข็ง
พลังความเย็นนี้ทำให้สัตว์อสูรน้ำแข็งเหล่านั้นแข็งแกร่งดั่งเหล็ก , และทำให้พวกมันเคลื่อนไหวและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว จำนวนของสัตว์อสูรน้ำแข็งฝูงใหญ่นี้มีมากเกินไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ขุมพลังทั้งสี่จะรับมือไหว ดังนั้นพวกเขาจึงล่าถอยไป
เซี่ยซินหยาน รู้เรื่องพลังของสัตว์อสูรน้ำแข็งดี เพื่อป้องกันการไล่ล่าของสัตว์อสูรน้ำแข็ง ทันที นางจึงขุดถ้ำและเข้ามาซ่อนอยู่ด้านใน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรน้ำแข็ง
นี่ก็ผ่านมา 3 วันแล้ว
พลังความเย็นที่อยู่ภายนอกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เกาะเหมินลั่วได้กลายเป็นเงียบสงบอย่างสมบูรณ์ราวกับสัตว์อสูรน้ำแข็งน้ำหมดได้หายไป
" สัตว์อสูรน้ำแข็งนี่เกิดขึ้นจากเปลวเหมันเยือกแข็ง หลังจาก ที่เกาะเหมินลั่วตกอยู่ในความสงบแล้ว พลังของสัตว์อสูรน้ำแข็งก็จะถูกดูดกลืนโดยเปลวเหมันอัคคี ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมา สัตว์อสูรน้ำแข็งคงจะหายไปจากเกาะเหมินลั่วหมดสิ้นแล้ว " เซี่ยซินหยาน ขมวดคิ้วของนางเล็กน้อย และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า " เราควรออกไปข้างนอกและหาโอกาสหลบหนีออกจากเกาะนี่เสีย "
" เมื่อนักรบของขุมพลังทั้งสี่ได้หลบหนีไป แน่นอนว่าพวกเขาส่งข่าวเหตุการณ์ครั้งนี้ออกไปแน่ เมื่อถึงตอนนั้น ก็ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่านักรบในระดับพระเจ้าแท้จริงจะต้องการเปลวเหมันเยือกแข็ง และมายังเกาะเหมินลั่วจากทุกทิศทาง เมื่อเหล่าปรมจารย์ในระดับพระเจ้าแท้จริงมาถึงที่นี่ เกาะเหมินลั่วก็จะตกอยู่ในความวุ่นวายมากขึ้น อืม….. มันถึงเวลาแล้วสินะที่เราต้องไป " ฉื่อหยานพยักหน้า
หลังจากใช้เวลาสี่วันในการฟื้นฟูภายใต้พลังของจิตวิญญานอมตะ สภาพทางกายภาพของฉื่อหยานก็กลับมาสมบูณณ์แล้ว
หลังจากผ่านภัยพิบัติครั้งนี้มา พลังจิตวิญญานของฉื่อหยานดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไป ด้วยชีวิตที่ตกอยู่ในความเป็นความได้ เขาได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตมากขึ้น และดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกได้ถึงการพัฒนาที่เพิ่มขึ้น
ระดับหายนะนั้นจะต้องผ่านประสบการณ์ความเป็นความตายของชีวิตในระดับหนึ่งจึงจะสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับใหม่ได้
ถึงแม้จะมีพลังปราณลึกลับเพียงพอ ก็ต้องมีความเข้าใจในชีวิตด้วยเช่นกัน
หากปราศจากความเข้าใจในชีวิตแล้ว แม้ว่าจะมีพลังปราณลึกลับมากมาย ก็เป็นเรื่องยากที่จะก้าวหน้าต่อไป
เหตุการณ์อันตรายนี้ จริงๆแล้วเป็นประโยชน์อย่างมากต่อทั้งเขาและเซี่ยซินหยาน .
ทั้งสองช่วยกันกำจัดหินที่ขวางอยู่ทางเข้าถ้ำและค่อยๆเข้าใกล้ทางออกขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากผ่านมาเป็นเวลาสั้นๆ สุดท้ายก็เหลือเพียงหินสองสามก้อนที่กำลังถูกเคลื่อนย้าย แล้วทั้งสองก็เดินออกมาจากถ้ำ
หลังจากที่พวกเขาได้ออกจากถ้ำ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที และสีหน้าของพวกเขากลายเป็นตกตะลึง
ภายใต้แสงจันทร์ , พื้นดินรอบๆพวกเขากลายเป็นน้ำแข็งส่องแสงแวววามเหมือนกระจก ทุกอย่างกลายเป็นน้ำแข็งและพื้นดินก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นของน้ำแข็งที่แช่แข็งหนาถึงสองถึงสามเมตร
พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยพลังความเย็น พลังความเย็นเป็นเหมือนหมอกสีขาว ค่อย ลอยอยู่เหนือพื้นดิน
ทั้งสองอยู่ในสถานที่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะ และมองไม่เห็นแม้แต่จุดสีเขียวของต้นไม้ได้เลย
ทั้งเกาะเหมินลั่วถูกเปลี่ยนไป ภูเขาไฟที่มอดแล้วกลายเป็นภูเขาน้ำแข็ง ตั้งตระหง่าน และส่องแสงแวววาวภายใต้แสงจันท์ ทำให้เหมือนดูเหมือนอยู่ในความฝัน
ไกลออกไป นักรบทั้งหมด ต่างก็หยุดนิ่งในลักษะท่าที่กำลังวิ่งอยู่ พวกเขาถูกแช่แข็งกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งพวกเขาตกตายตายไปด้วยน้ำแข็งที่ปกคลุมอยู่
เพราะการมีอยู่ของเปลวเหมันเยือกแข็ง , เกาะเหมินลั่ว กลายเป็นภูเขาน้ำแข็งที่ดูเก่าแก่ ซึ่งมีน้ำแข็งและก้อนน้ำแข็งอยู่ทั่วทุกพื้นที่
เมื่อปลดปล่อยพลังจิตวิญญานออกไป พวกเขาก็พบว่าไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตแม้แต่นิดเดียว สัตว์อสูรน้ำแข็งก็สงบลงไปไปอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งที่ดูเหมือนมีชีวิต.
" ทุกคนบนเกาะ เหมินลั่ว คงจะถูกแช่แข็งตายไปหมดแล้ว นี่มันนรกบนดินชัดๆ " เซี่ยซินหยาน ถอนหายใจ ออกมา" นักรบจากขุมพลังทั้งสี่นั้นได้ทำลายผนึกที่ปิดผนึกเปลวเหมันเยือกแข็งไป เพียงเพราะพวกเขาต้องการที่จะรู้ความลับของภูเขาน้ำแข็ง ในที่สุดพวกเขาก็ได้ปลดปล่อยเปลวเหมันเยือกแข็งออกมาและหลบหนีออกจากเกาะเหมินลั่วกันไป แต่ผู้คนที่อาศัยอยู่เกาะห้องนี้ไม่ทราบและไม่ทันตั้งตัว ทำให้พวกเขาถูกแช่แข็งจนตาย นี่มันน่าเศร้ายิ่งนัก "
สีหน้าของฉื่อหยานก็กลายเป็นเย็นชา และเขาก็กล่าวเบา ๆ " ข้าสงสัยว่า จะมีนักรบจากขุมพลังทั้งสี่สักกี่คนที่ รอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ ข้าหละอยากให้พวกมันตายภายใต้เปลวเหมันเยือกแข็งจริงๆ”
" ยอดฝีมือระดับนภานั้นตอบสนองอย่างรวดเร็ว มันสามารถพาผู้คนบางส่วนหลบหนีไปจากหายนะครั้งนี้ได้ ดินแดนทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์นั้นมีสมบัติที่ล้ำค่ามากมาย ทำให้นักบวช ซูหยานฉิงและคนของนางสามารถหลบหนีไปได้ แต่สำหรับบุคคลที่ไม่สำคัญพวกเขาต่างก็ตกตายบนเกาะเหมินลั่วแห่งนี้ . คนที่ไม่ได้ยอดฝีมือระดับนภาพาหลบหนีไปหละก็คงจะยากมากที่พวกเขาจะมีชีวิตรอด ถ้าพวกเขาไม่ได้ซ่อนในถ้ำเหมือนอย่างที่เราทำ " .
" แกร๊กกก แกร๊กก แกร๊กก ! "
ภูเขาไฟมอดแล้วที่อยู่ห่างออกไปพันเมตรก็เริ่มแตกร้าวขึ้น
ร่างที่งดงามก็ค่อยๆโผล่ศีรษะออกมาจากรอยแตก หนึ่งในนั้นผู้นำที่วิเศษจากดินแดนทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์ นักบวช ซูหยานฉิง
ด้านหลังซูหยานฉิง , เป็นหญิงที่งดงามมากมายกำลังยืนเรียงกันอยู่ด้วยสายตาที่ตกตะลึง พวกนางตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกาะเหมินลั่ว
เซี่ยซินหยาน ขมวดคิ้วและนำผ้ามาใส่ปิดหน้านางอย่างเงียบๆ " ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่เราที่ฉลาดนะ . พวกเขาสมควรรู้จักวิธีหลบซ่อนจากสัตว์อสูรน้ำแข็ง และดูเหมือนพวกเขายังมีสมบัติลับที่สามารถสร้างถ้ำได้ทันทีอีกเ่วย ข้ารู้อยู่แล้วว่านางต้องไมาตายง่ายๆแน่ " .
ซูหยานฉิง ยืนอยู่อย่างสง่างามไกลออกไป ใบหน้าของนางไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา นางสวมเสื้อคลุมราชวงศ์ที่มีสีขาวราวหิมะ , แววตาของนางดูเย็นชา นางจ้องไปที่ฉื่อหยานและเซี่ยซินหยานที่อยู่ห่างไกลออกไปพันเมตร ดูเหมือนนางจะอยากรู้ว่าพวกเขาใช้วิธีใดถึงรอดมาได้
ซูหยานฉิง จ้องมองไปในทิศทางของพวกเขาสักครู่ จากนั้นนางก็หันกลับไปเงียบๆ และออกคำสั่งแก่หญิงงามสองสามคนที่อยู่ข้างๆนาง หลังจากนั้น ฉื่อหยานก็เห็นหญิงสาวสองคนที่อยู่ในระดับปฐพีค่อยๆเดินมาทางพวกเขา
หญิงสาวทั้งงสองคนนี้มีสีหน้าที่ดูหยิ่ง และใบหน้าที่งดงามของพวกนางก็ดูเย็นชา เกือบจะคล้ายกับน้ำแข็งที่ปกคลุมไปทั่วเกาะเหมินลั่วตอนนี้
หญิงสาวทั้งสองคนนี้ดูจากหน้าตา น่าจะมีอายุประมาณสามสิบปี พวกนางมีขาที่ยาว พวกนางทั้งคู่มีดวงตาที่เล็กพร้อมกับคิ้วบางและผมที่ยาวปะไหล่ ด้วยเอวบางๆ พวกนางค่อยๆก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม
หญิงสาวทั้งสอง ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อย การแสดงออกของพวกนางดูเย็นชา หลังจากมาถึง หนึ่งสาวคนหนึ่งก็พูดขึ้นเบาๆ " ท่านนักบวชของเราปรารถนาที่จะพบพวกเจ้าทั้งสอง ตามเรามา"
แล้วหญิงสาวทั้งสองก็มองไปที่ฉื่อหยานและเซี่ยซินหยานอย่างไม่แยแส แล้วพวกนางก็หันกลับไปและก้าวเดิน ราวกับว่าพวกนางนั้นไม่อยากจะเสวนาด้วยหากไม่ใช่เพราะคำสั่งของซูหยานฉิง
ดวงตาที่สดใสของเซี่ยซินก็เต็มไปด้วยความโกรธ นางสูดลมหายใจเข้าอย่างเงียบๆ
ฉื่อหยานขมวดคิ้วของเขาลงเล็กน้อยและกล่าวอย่างไม่แยแส " พวกเจ้าอยากพบพวกข้าไม่ใช่รึ ไม่ใช่พวกข้าอยากพบ ? " .
" หืม ? "หญิงสาวทั้งสองดูเหมือนจะได้ยินเสียงที่อยู่เบื้องหลังพวกนาง ดวงตาของพวกตาเล็กๆของพวกนาง ก็เต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อทั้งคู่หันกลับไปมองฉื่อหยานและเซี่ยซินหยาน . ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้น " เจ้าพูดว่าอะไรนะ ? "
" ไม่มีอะไร " เซี่ยซินหยาน ตอบเบาๆ นางดึงเสื้อของฉื่อหยานและ ส่งสัญญาณ ไม่ให้เขาทำอะไร หรือพูดอะไร นางลดหัวของนางลงเล็กน้อยลง และลากฉื่อหยานไป พร้อมกับนาง
ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน เดินตามหญิงสองคนดินแดนทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์ไป และไม่นานก็มาอยู่ข้างๆซูหยานฉิง .
ซูหยานฉิง ผมยาวของนางมวยขึ้นสูง และรูปลักษณ์ของนางดูไม่โดนเด่นนัก แต่ดวงตาของนางนั้นใสราวกับน้ำสะอาด ทำให้รู้สึกเยือกเย็น นางยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกับขมวดคิ้ว ในขณะที่นางมองฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน แล้วนางจึงพูดเบาๆ " พวกเจ้าออกมาเมื่อใด ? เจ้าพบเจอคนอื่นหรือเห็นอะไรแปลกๆหรือไม่ ? "
ฉื่อหยาน ทำตัวสำรวมและเขาก็ส่ายหัว " เราเพิ่งออกมาเหมือนกัน แล้วเรารู้ได้ไงว่าเกาะเหมินลั่วตอนนี้เป็นยังไง ? " .
ซูหยานฉิง มองไปที่ฉื่อหยานอย่างลึกซึ้งสักพักและ นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงสั่งออกมา " เจ้าสองคน ไปดูที่ภูเขาน้ำแข็ง ที่แตกออกมาสิ ถ้าเจ้าเจออะไร ก็กลับมาบอกข้าและข้าก็จะให้อาวุธระดับลึกซึ้งแก่เจ้าเป็นรางวัล "
ที่ภูเขาน้ำแข็งตอนนี้ได้แตกออกแล้ว มันเป็นที่ๆเปลวเหมันเยือกแข็งถูกปิดผนึกอยู่ มันมีแนวโน้มเป็นอย่างมากที่เปลวเหมันเยือกแข็งยังคงอยู่ภายใต้มัน
ถ้าพวกเขาไปสำรวจพื้นที่รอบๆ และถูกพบโดยเปลวเหมันเยือกแข็งหละก็ พวกเขาจะต้องตายแน่นอน จะไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะรอดกลับมา
คนที่มาจากดินแดนทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์นั้นดูเหมือนจะไม่กล้าเสี่ยง และไปดูด้วยตัวเอง แต่พวกนางกลับต้องการฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน ไปตรวจสอบออกและตายแทนพวกนาง นี่ช่างโหดร้ายและเห็นแก่ตัวยิ่งนัก
" ขออภัยด้วย เรายังอยากมีชีวิตอีกนานและเราไม่ต้องการที่จะตาย . . . " ฉื่อหยานทำหน้าบึ้ง และส่ายหัวของเขาอย่างหนักแน่น " ตอนนี้พวกเราจะออกจากเกาะ เหมินลั่ว แล้ว แต่ก็น่าเสียดายนะที่เราไม่มีโอกาสที่จะทำความคุ้นเคยกับอาวุธระดับลึกซึ้งของเจ้า”
" หืม ? " ซูหยานฉิง ขมวดคิ้วของนางเล็กน้อยแสดงให้เห็นถึงความรำคาญ
" เจ้าหนุ่ม ไม่ว่าเจ้าจะต้องการหรือไม่ เจ้าก็ต้องไป " หญิงสาวระดับรู้แจ้งคนหนึ่งที่งดงามและมีหน้าอกใหญ่ ก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เย็นชาและดวงตาที่เยือกเย็น " ถ้าเจ้าไม่ไป เราก็จะฆ่าเจ้าสะ ! "
หน้าของฉื่อหยานก็เปลี่ยนไป
" วูช วูช วูช วูช วูช วูช "
เสียงแหลมดังออกมาจากที่ห่างไกล ครู่ต่อมา เขาก็เห็นเฉินตั่ว และหญิงชราคนหนึ่งจากตระกูลฟางกำลังหิ้วตงฟางเห้ออยู่ในมือข้างหนึง และอีกข้างหนึ่งก็หิ้วกู่เจียงเก้ออยู่ พวกเขารีบบินออกจากเกาะเหมินลั่วอย่างรวดเร็ว
กู่เจียงเก้อ นั้นเป็นเจ้าของดาบฆ่ามังกร . ดาบที่ปิดผนึกสัตว์อสูรมังกรไฟเขาสั้นและมังกรไฟเขาสั้นก็เป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายอย่างมาก ดังนั้นมันจึงมีอำนาจพิเศษในการต่อต้านความเย็นและทนต่อสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด ซึ่งเขาก็ได้นำมันมาด้วย
กลุ่มนี้มีจำนวนด้วยกัน 4 คน เฉินตั่วและหญิงชราทั้งสองนั้นอยู่ในระดับนภา ตงฟางเห้ออยู่ในระดับรู้แจ้ง และ กู่เจียงเก้อ ก็อยู่ในระดับหายนะ
ดูเหมือนทั้งสี่ได้ส่’ข่าวออกไปแล้ว และกำลังรอกำลังเสริมมาช่วยเหลือ แต่พวกมันก็ยังคงกังวลว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากเปลวเหมันเยือกแข็งและคิดว่าอาจจะมีสมบัติลึกลับในภูเขาน้ำแข็ง ดังนั้นหลังจากที่สัตว์อสูรน้ำแข็งทั้งหมดหายไป พวกมันก็กลับมาด้วยความโร�
" เฮ้ ! " ตงฟางเห้ออุทานออกมา และสั่งหญิงแก่ที่อยู่ข้างๆ และหญิงชราก็ปล่อยตงฟางเห้อและกู่เจียงเก้อ ลงไปยืนอยู่ข้างๆ ซูหยานฉิง .
เฉินตั่ว ก้มมองลงมาจและก็ลอยลงมาจากท้องฟ้า โดยมองไปที่ฉื่อหยานและเซี่ยซินหยานอย่างต่อเนื่อง .
" เฉาหยุน , นี่มันคืออะไรกัน ? " เฉินตั่ว ที่ลงมาถึงพื้นดิน เขาก็มองอย่างเย็นชาไปที่หญิงงดงามจากดินแดนทะเลสาปศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังคุกคาม ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยานอยู่ และเขาก็ถามเบาๆ
" เราอยากให้พวกเขาสองคนนี้ไปดูสถานการณ์ให้ แต่พวกเขาดูเหมือนจะไม่ต้องการที่จะให้ความร่วมมือ " เมื่อเผชิญหน้ากับเฉินตั่ว การแสดงออกของเฉาหลงก็ไม่เย็นชาและหยิ่งหยองอีกต่อไปนางกลับยิ้มไปที่เขาและพูดอย่างอ่อนน้อม " ข้ากำลังเจรจากับพวกเขา เอ๊ะ ข้าไม่รู้เลยว่าพวกท่านก็อยู่ด้วย "
หลังจากเฉินตั่วและคนอื่นๆได้ยินที่นางพูด พวกเขาก็ขมวดคิ้วพร้อมกันและมองไปที่ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน ด้วยความดุร้าย_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ