บทที่ 113 ผู้ใช้พิษ บูโบ้
[TL. จริงๆไอ่ บูโบ้ นี่มันชื่อ ปุโป่ว นะ แต่มันเรียกยากเลยใช้เป็น บูโบ้ เลย 5555 ]
บทที่ 113 ผู้ใช้พิษ บูโบ้
เมืองเทียนหยุน
เมื่อไม่นานมานี้ เมืองแห่งนี้ตกอยู่ในความวุ่นวาย ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ก็มักจะมีนักรบต่อสู้กันทุกพื้นที่ในเมือง
มีนักรบตกตายไปเกือบทุกวัน
เมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย ซึ่งนั่นก็ย่อมหมายความว่านอกเมืองต้องอันตรายกว่าแน่นอน
ชาวบ้านที่อยู่ในเมืองมักจะเห็นสายฟ้าฟาดส่องแสงสว่างและมักจะเห็นจิตวิญญานดาบปรากฏขึ้นนอกเมือง บางครั้งก็มีเสียงร้องที่น่ากลัวดังออกมา . . .
ในระหว่างวัน ชาวบ้านมักจะมารวมตัวกันที่ถนน ทำให้วุ่นวายมากขึ้น และเมื่อค่ำคืนมาถึง พวกเขาก็ปิดประตูของพวกเขาแน่นหน่า และไม่กล้าออกไปข้างนอก
นักรบและทหารรับจ้าง ซึ่งมักจะอยู่รอบ ๆป่าทมิฬและหุบเขาเมฆาต่างก็ตกอยู่ในความกลัวและหนีเข้ามาอยู่ในเมืองเทียนหยุนเพื่อหลีกเลี่ยงภัยที่จะเกิดขึ้น .
คนที่รู้ข้อมูลจากภายในบอกว่า นี่คือการต่อสู้ระหว่างตระกูลใหญ่ทั้งห้าม . ตระกูลใหญ่ทั้งห้ามคือกองกำลังที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในสมาคมการค้า และเมื่อพวกเขาปะทะกัน ก็จะทำให้ชาวบ้านธรรมดาตกอยู่ในความหวาดกลัว และหวังว่า การต่อสู้จะจบลงในไม่ช้านี้
ทีห้องหินของตระกูลฉื่อ
สมาชิกคนสำคัญของตระกูลฉื่อ เช่น ฉื่อเจี้ยน , ฉื่อเตี่ย และ ฉื่อตั้ง ต่างก็ทำหน้าบึ้ง เหมือนกับว่ากำลังมีบางอย่างรบกวนจิตใจพวกเขา
ฉื่อเจี้ยนเองก็ไม่มีความสุขเช่นกัน
เมื่อฉื่อหยาน และกลุ่มจากไป ตระกูลฉื่อก็ได้เริ่มต้นรับมือและต่อสู้กับตระกูลโม่ พวกเขาชนะตระกูลโม่ได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้คนจากตระกูลโม่เอาแต่หลบอยู่ในตระกูล ไม่กล้าออกไปไหนในระหว่างวัน
อย่างไรก็ตาม
แต่ครึ่งเดือนผ่านมา ตระกูลโม่ก็ตอบโต้ด้วยแรงกดดันที่น่ากลัว
ในระหว่างการต่อสู้กับตระกูลฉื่อ มีคนแปลกหน้าได้เข้าร่วมกับคนของตระกูลโม่ คนเหล่านี้เป็นยอดฝีมือในการใช้พิษ และวิธีการของพวกมันก็เป็นที่อันตรายเป็นอย่างมาก , ทำให้ตระกูลฉื่อรู้สึกประหลาดใจ
ในช่วงการต่อสู้ครั้งล่าสุด สมาชิกในตระกูลฉื่อถูกวางยาพิษที่ร้ายแรง ทำให้นักรบหลายคนที่แข็งแกร่งต้องตายด้วยน้ำมือของตระกูลโม่
ฉื่อเจี้ยนนั้นถูกปัญหามากมายลุมล้อม และเมื่อเขาได้ยินว่าหยางไห่ เกี่ยวข้องกับทะเลไม่มีที่สิ้นสุด , ฉื่อเจี้ยนก็กลายเป็นยิ่งปั่นป่วนมากขึ้น
วันนั้น เมื่อราชาอสูร เสี่ยวฮานยี่ และกลุ่มของนักรบที่แข็งแกร่งจากตระกูลหยางขี่ค้างคาวโลหิตครามและลงไปที่ศาลาหมอก พวกเขาต่างก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่อยู่ไปทั่วเมืองเทียนหยุนทั้งหมด ทำให้ตระกูลตระกูลใหญ่ต่างก็รู้สึกไม่มั่นคง กลัวว่าศาลาหมอกนั้นจะลงมือทำอะไรบางอย่าง
หลังจากที่ หยางไห่ กลับมาที่ตระกูลฉื่อ และอธิบายพื้นเพของราชาอสูรเสี่ยวฮานยี่ให้ฟัง .
หลังจากที่ฉื่อเจี้ยนได้ยินที่หยาง ไห่ อธิบาย เขาไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลย เขากลับเป็นกังวลมากขึ้นนิดหน่อย
ฉื่อหยานนั้นมีพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์ จิตใจของเขามั่นคงและเป็นผู้ใหญ่ ในของความของฉื่อเจี้ยนเขาคิดว่าจะให้ฉื่อหยานนั้นเป็นผู้สืบทอดของเขา แต่ตอนนี้ตระกูลหยางจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุด กลับโผล่ออกมาและจะพาตัวเขาไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาก็เลยไม่รู้จะทำเช่นไร
เสี่ยวฮานยี่ นั้นลักษณะดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นั่นทำให้ฉื่อเจี้ยนหวาดกลัวอยู่ลึกๆ เขากังวลว่า เขาจะถูกแย่งตัวฉื่อหยานไป
เขาหวังว่าในอนาคตข้างหน้า เขาจะให้ฉื่อหยานฟื้นฟูตระกูลฉื่อ แต่ถ้าฉื่อหยานถูกพรากไปจากตระกูล และไปกับตระกูลหยางที่ทะเลไม่มีสิ้นสุด เขาจะต้องอาเจียนออกมาเป็นเลือดด้วยความโกรธแน่นอน
แต่ราชาอสูร เสี่ยวฮานยี่ นั้นหยิ่งยโสเป็นอย่างมากและมันยังมีนักรบที่แสนน่ากลัวติดตามอีกมากมาย ด้วยคำอธิบายของหยางไห่ทำให้ฉื่อเจี้ยนรู้ว่า ถึงแม้จะใช้ทุกอย่างในตระกูลฉื่อ เขาก็ยังไม่สามารถที่จะไปสู้กับคนพวกนี้ได้
ดังนั้น เมื่อขาคิดว่าหลานชายของเขาจะทิ้งเขาไป ก็ทำให้เขาขยฟันแน่น แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ไม่นานหลังจากที่เสี่ยวฮานยี่ ได้ออกจากเมืองไป , ตระกูลโม่ก็ได้เริ่มตอบโต้่ทันที
ตระกูลโม่ดูเหมือนจะได้รับความช่วยเหลือจากหุบเขามังกรพิษ เมื่อเร็วๆนี้ แม้แต่โม่ตั่วที่บาดเจ็บสาหัสก่อนหน้านี้ก็เริ่มที่จะปรากฏตัวขึ้นในเมืองเทียนหยุน บาดแผลบนร่างกายของมันดูเหมือนจะได้รับการรักษาจนเกือบหายดี และเขาก็พบมันในการต่อสู้ตกตายกับตระกูลฉื่อ
จากการต่อสู้เหล่านี้ เพราะด้วยความช่วยเหลือของหุบเขามังกรพิษ ทำให้ตระกูลฉื่อเสียหายหนักเป็นอย่างมากและนักรบหลายคนต่างก็ตกตายไป
ในช่วงนี้ตระกูลหลิงเองก็ยังพร้อมที่จะสร้างปัญหาอยู่ตลอด ถ้าพวกมันทำข้อตกลงกับตระกูล โม่ และ หุบเขามังกรพิษ หละก็ พวกมันจะต้องใช้โอกาสนี้กำจัดตระกูลฉื่อด้วยความหยิ่งยโสของพวกมันเป็นแน่
จากการต่อสู้ไม่กี่ครั้งนอกเมืองเทียนหยุน ตระกูลฉื่อสูญเสียเป็นอย่างมาก พวกเขาสูญเสียสามนักรบในระดับหายนะและปฐพีไป
" ท่านพ่อ ผู้มาเยือนจากหุบเขามังกรพิษได้พักอยู่กับตระกูลโม่ วันนี้ผมข้าได้ข่าวมาว่า ในเหล่าผู้มาเยือนจากหุบเขามังกรพิษนั้น มันอาจจะเป็นปรมจารย์แห่งหุบเขา ผู้ใช้พิษ บูโบ้ บูโบ้ไม่ได้เป็นเพียงแค่นักกลั่นสกัด มันนั้นยังมีระดับการบ่มเพาะในนภาแรกของระดับนภาอีกด้วย และด้วยพลังพิษของมัน นี่มันใช่เรื่องที่จะรับมือได้ง่ายๆแล้ว ! พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตระกูลโม่ได้เสนออะไรให้พวกมัน พวกมันถึงเชิญบูโบ้มาได้ คราวนี้เราเจอปัญญาแล้วจริงๆ" สีหน้าของฉื่อเตี่ยดูมืดมน เขาพูดด้วยเสียงกังวล " โม่ช่าวเกอ , โม่ชาสวเทียน ถูกฆ่าตาย โม่ซาย และ โม่ฉีเองก็ตายเช่นกัน ตอนนี้โมตั่วมันต้องคลั่งไปแล้วแน่ๆ ไม่งั้นมันคงไม่เชิญบูโบ้ผู้ใช้พิษมาจากหุบเขามังกรพิษแน่อน บูโบ้คนนี้น่าสงสัยเป็นอย่างมาก ตอนนี้โม่ตั่วได้เชิญปัญญานร้ายแรงมาแล้วจริงๆ "
" บูโบ้ ผู้ใช้พิษ "
ฉื่อเตี่ยอุทานออกมา ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นน่ากลัว เขากัดฟันของเขาแน่นและกล่าวว่า " โม่ตั่วมันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ บูโบ้นั้นเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง มันนั้นต้องการจะมาที่สมาคมการค้าและสร้างปัญหาให้อยู่เสมอ ในอดีตที่ผ่านมา เพราะมีเป่ยหมิงชางอยู่ มันจึงไม่พยายามที่จะสร้างปัญหา แต่ตอนนี้โมตั่วกลับเป็นฝ่ายชวนมันมา มันต้องมีเหตุผลอะไรแน่ๆถึงมาที่นี่ ข้าเกรงว่า ครั้งนี้ตระกูลโม่ กำลังจะถูกครอบงำโดยหุบเขามังกรพิษ "
ฉื่อเตี่ยหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร
" พี่ใหญ่ . บูโบ้ ผู้ใช้พิษ มีความสามารถในการใช้พิษเป็นอย่างมาก ว่ากันว่า มันได้กินพิษทุกประเภททุกวันเพื่อเสริมสร้างพลังของมัน ใครก็ตามที่อยู่ใกล้มัน จะต้องเน่าเปื่อยและตกตายไป มันเป็นหนึ่งในคนที่ชั่วร้ายที่สุดในโลกใบนี้ก็ว่าได้ . " ฉื่อเตี่ยสูดลมหายใจเข้าและพูดด้วยความโกรธ " ทำไม เป่ยหมิงชางถึงตาบอดเช่นนี้ ! ถ้าหากบูโบ้ควบคุมตระกูลโม่จริงๆหละ มันจะต้องกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ของตระกูลเป่ยหมิงเช่นกัน ข้าไม่รู้จริงๆว่า เป่ยหมิงชางนั้นคิดอะไรอยู่ "
" ดูเหมือนว่า ตอนนี้เป่ยหมิงชางจะไม่ได้อยู่ในสมาคมการค้า " ฉื่อเจี้ยน นิ่งเงียบไปชั่วขณะ แล้วเขาก็กัดฟันของเขาและกล่าวว่า " ฮันเฟิงส่งข่าวมา เขาบอกว่า เป่ยหมิงชางน่าจะอยู่ที่บึงมรณะ เมื่อเร็วๆนี้เป่ยหมิงชางได้ประกาศแก่ทุกคนว่าจะปิดประตูฝึกตน และมันก็ไม่ต้องการทราบปัญหาใดๆในสมาคมการค้า แม้แต่ตอนนี้เอง ที่ บูโบ้ผู้ใช้พิษ ปรากฏตัว มันก็ยังไม่ออกมาจากการฝึกตน ต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่นอน "
" มันจะไปที่บึงมรณะจริงๆรึ " ฉื่อเตี่ยหน้าก็เปลี่ยนไป "เจ้าเด็กฉื่อหยานเองก็อยู่ที่นั่น ถ้าเป่ยหมิงชางไปที่นั่นหละก็ ไม่ใช่ว่าฉื่อหยานตกอยู่ในอันตรายหลอกรึ ? "
ฉื่อเจี้ยนส่ายหัว ,กล่าวว่า " ไม่อันตรายแน่นอน ชิเสี่ยว และแม่นางจากศาลาหมอกเองก็อยู่ด้วย ถ้ามีสองคนนี้อยู่มีรึเป่ยหมิงชางจะกล้าก่อเรื่อง "
" นายท่าน ! นายท่าน ! "
ในขณะนั้นเอง , ก็มีเสียงร้องดังออกมาจากด้านนอก เป็นฮั่นจงที่วิ่งมาและพูดอย่างเร่งรีบ " นายท่าน ท่านไห่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยใครบางคน อาการบาดเจ็บของเขาร้ายแรงเป็นอย่างมาก ! "
" อะไรนะ ! "
สีหน้าของฉื่อเจี้ยนกลายเป็นเย็นชา ดวงตาของเขาแทบจะพ่นไฟออกมา . และเขาก็กล่าวว่า : " หยางไห่นั้นไม่เคยฝึกฝนวิชาต่อสู้ เขาไม่ใช่นักรบ นี้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วสมาคมการค้า ! ถ้าตระกูลโม่จะกล้าโจมตีหยางไห่หละก็ เท่ากับพวกมันทั้งหมดละเมิดกฏ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับหยางไห่ ข้าจะไปจัดการโม่ตั่วสะ !”
หลังจากฉื่อเจี้ยนคำรามออกมา เขารีบตาม ฮั่นจงไปและวิ่งไปที่หยางไห่ที่กำลังนอนอยู่
ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นของเลือดและยา หยาง ไห่ กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยเลือด หมอสามคนของตระกูลฉื่อต่างหยิบขวดและเหยือกไปมาอย่างวุ่นวาย พร้อมกับเทยาต่าง ๆอย่างต่อเนื่องลงไปในปากของหยางไห่ที่เต็มไปด้วยเลือด สีหน้าของพวกเขาดูจริงจังมากเป็นอย่างมาก
หยางไห่ มือและเท้าต่างก็กระดูกถูกหัก และหน้าอกของเขาก็ถูกปักด้วยดาบลึกลงไป เขายังคงไม่ได้สติ
นักรบสามคนในระดับหายนะคุกเข่าลงกับพื้นด้วยกัน ร่างของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยเลือด การแสดงออกที่จริงจังและฟันของพวกเขาก็ขบกันแน่น
" หวังเหว่ย , ใครเป็นคนทำ ? " สีหน้าของฉื่อเจี้ยนกลายเป็นน่ากลัว ในขณะที่ตาของเขากลายเป็นสีแดง เขาสูดลมหายใจลึกๆ และพูดด้วยเสียงต่ำ
" ตระกูลหลิงและตระกูลโม่ ขชอรัย " นักรบในระดับหายนะที่ชื่อ หวังเหว่ย ที่กำลังคุกเข่าบนพื้น และมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธออกพูดออกมา " เรากับนายท่านกำลังกลับมาจากร้ายขายยาในทิศทะวันตก แต่แล้วก็ถูกทำร้ายในตรอก นอกจากนักรบจากตระกูลโม่ที่ โจมตีแล้วยังมีคนจากตระกูลหลิง แล้วก็ยังมีคุณชายจากตระกูลหลิง หลิงเชาฟงอีกด้วย "
" หลิงเชาฟง ! " ชิ เจี้ยน ดวงตาเต็มไปความปรารถนาในการฆ่าฟัน " ไอ้บ้านั่น หาเรื่องตาย ! มันกล้าดียังไงมาโจมตีหยางไห่ ข้าจะกำจัดสะ ! "
" ท่าพ่อ หลิงเชาฟง นั้นต้องการจะแต่งงานกับโม่หยานหยู่เสมอมา ตอนนี้ข้าได้ยินว่าตระกูลโม่ได้ให้เงื่อนไขว่า ตราบใดที่พวกมันสามารถฆ่าสองทายาทโดยตรงของตระกูลฉื่อได้ ตระกูลโม่ ก็จะให้หลิงเชาฟงที่คลั่งไคล้ โม่หยานหยู่ นั้นแต่งงานกัน เมื่อเร็วๆนี้มีนักรบตระกูลหลิงวนเวียนอยู่รอบๆ ราวกับว่าพวกมันกำลังพยายามหาโอกาสที่จะโจมตี แต่เพราะทายาทโดยตรงของตระกูลเรามีความระมัดระวังเป็นอย่างมาก และไม่เคยออกไปจากตระกูล ทำให้เจ้าเด็กนี่ไร้ซึงโอกาส . แต่เพราะนายท่านไห่นั้นไม่ใช่นักรบ และเขาต้องไปจัดการเรื่องต่างๆในตระกูล ตัวข้านั้นไม่คิดเลยว่าหลิงเชาฟงจะบ้าคลั่งและมาจู่โจมท่านไห่ ซึ่งไม่เคยฝึกฝนวิชาต่อสู้เช่นนี้ ! " ฉื่อตั้งขบฟันแน่น
หยางไห่นั้นเป็นสามีของฉื่อซิงและฉื่อชิงนั้นก็เป็นน้องสาวของฉื่อตั้ง นั่นเป็นเหตุผลที่ความสัมพันธ์ของเขากับหยางไห่จึงสนิทกันมาก
หลายปีที่ผ่านมา หยางไห่ ทำงานและทุ่มเทให้กับตระกูลฉื่อเป็นอย่างมาก ฉื่อตั้งจึงสนิทกับหยางไห่และคิดว่าหยางไห่เป็นพี่ชายแท้ๆ
ตอนนี้หยางไห่ได้รับบาดเจ็บหนัก . ฉื่อตั้งจึงโกรธเป็นอย่างมาก เขาโกรธพอที่จะสังหารใครสักคนได้
" พี่ใหญ่ ไห่เอ๋ออาการสาหัสมาก ตระกูลหลิงต้องการที่จะให้เขาตายแน่นอน ! " ฉื่อเตี่ยขบฟันของเขาแน่น " ตระกูลหลิงกล้าทำการฝ่าฝืนกฏเช่นนี้ ! พี่ใหญ่ ! ถ้าเราไม่ไปสั่งสอนตระกูลหลิงหละก็ พวกมันต้องคิดว่าเราสามารถรังแกได้โดยง่ายแน่ ! "
" รบกวนเจ้าไปที่ตระกูลซั่วลับๆที เราต้องคุยเรื่องนี้กันอย่างระเอียด " ฉื่อเจี้ยนสูดลมหายใจเข้าและสั่งคำสั่งออกไป " นำผู้คนไปให้มากและจงระมัดระวังไว้ "
" ฮึ่ม ! " การแสดงออกฉื่อเตี่ยกลายเป็นเย็นชา " คนจากตระกูลหลิงและตระกูลโม่ไม่กล้าลงมือกับข้าแน่ ถ้าพวกมันกล้าเข้ามาหละก็ ข้าก็จะฆ่าพวกมันทั้งหมด ! "
" ยังไงก็ระวังด้วย " ฉื่อหยาน เตือนเขาอีกครั้ง
" ท่านพ่อ พี่ไห่จะปลอดภัยหรือไม่ ? " ฉื่อตั้งถามด้วยความกังวล.
ฉื่อเจี้ยนมองลึกไปที่หยางไห่ และถอนหายใจออกมา " ไม่ต้องห่วง ถ้าเป็นคนอื่นได้รับบาดเจ็บขนาดนี้คงตายไปแล้ว แต่ไห่เอ๋อนั้นพิเศา หากเขายังมีพลังชีวิตเหลืออยู่ในตัวเขา เขาจะต้องหายดีแน่นอน พวกมันกล้าที่จะโจมเขา นั่นหมายความว่า พวกมันนั้นไม่สนอะไรอีกแล้ว เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมโดยเร็วที่สุด "
" ขอรับ ! "
. . . . . . .
ในตรอกที่อยู่ห่างไกลระหว่างตระกูลฉื่อและตระกูลซั่ว มีสวนลับอยู่มากมาย สวนนี้ดูว่างเปล่า และมีวัชพืชเติบโตไปทั่วและมีใยแมงมุมอยู่ทุกที่
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ที่สวนแห่งนี้นี้ ปรากฏร่างขึ้นจำนวนมาก บางครั้งก็มีเสียงดังขึ้นจากกระท่อมและจากนั้นก็เงียบลง
"ท่านบูโบ้ วันนี้ตระกูลฉื่อจะต้องส่งนักรบยอดฝีมือไปที่ตระกูลซั่วแน่นอน ตอนนี้ตระกูลฉื่อเริ่มหวาดกลัวการโต้กลับของเราแล้ว มันต้องเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไปคุยกับซั่วชู หัวหน้าของตระกูลซั่วแนา . ครั้งนี้ ดูเหมือนว่า ฉื่อเตี่ยจะไปด้วยตัวเอง เมื่อถึงตอนนั้น ข้าก็หวังว่าท่านจะให้ยืมมือและใช้พิษของท่านจัดการฉื่อเตี่ยก่อน เมื่อมันถูกพิษเราก็จะฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย ! " เสียงของโมตั่วพูดออกมาเบาๆ
" อืมม . . . . . เหตุผลที่ฉันมาจากหุบเขามังกรพิษก็เพื่อช่วยตระกูลโม่ และ ลูกศิษย์ของข้า , เสี่ยโช่ว นั้นถูกฆ่าตาย ความแค้นนี้ต้องตอบแทนตระกูลฉื่อแน่นอน " ในที่มืดมิดเป็นเสียงที่เย็นชาตอบกลับมา
" น้องโม่ตั่ว ถ้าข้าช่วยเจ้าฆ่าฉื่อเตี่ยครั้งนี้ เจ้าจะแต่งแม่นางน้อยจากตระกูลเจ้าคนนั้นมาให้กับตระกูลของเรา หึหึ เจ้าเด็กเชาฟง นั้นโหยหาแม่นางน้อยจากตระกูลเจ้ามาเป็นเวลานาน เจ้าเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ตลอด เจ้าเด็กนั้นทนรอไม่ได้ เจ้าดูสิ เขานั้นไปลงมือกับหยางไห่เพื่อเจ้าเลย เจ้าหละคิดว่าไง ? "
" ทันทีที่ฉื่อเตี่ยตาย การแต่งงานระหว่าง หยานหยู่และเชาเฟิงจะจัดขึ้นทันที ! "
" เอาล่ะ ! ข้าจะรอ ! "_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ