บทที่ 112 นภาที่ สาม ในระดับ มนุษย์
[TL .กลับมาแก้ไขความเข้าใจใหม่อีกครั้ง 555555555] [รู้สึกว่า เสี่ยวฮานยี่ จะไม่เกี่ยวข้องใดๆกับดินแดนสี่อสูรนะ ดินแดนสี่อสูร และราชาที่อยู่ในดินแดนสี่อสูรเองก็ยังเหลืออยู่อีก 3 ตัว จริงๆ มี 4 แต่ปู่ของพี่หยานเก็บไป 1 แล้วก็ ตระกูลหยางยังไม่สามารถจัดการกับดินแดนสี่อสูรได้นะครับ ผมเข้าใจผิดไปเอง ขออภัยด้วย T_T ปู่ของพี่หยานจะมีลูกน้องคนไหนอีกก็มารอดูกันครับ ตอนนี้ที่เห็นๆก็มีแค่เสี่ยวฮานยี่ ราชาอสูรของตระกูลหยาง !! ซึ่งไม่เกี่ยวข้งกับ ราชาอสูรในดินแดนสี่อสูร ]
บทที่ 112 นภาที่ สาม ในระดับ มนุษย์
ทางทิศตะวันออกของบึงมรณะ
ฉื่อหยานนั่งขัดสมาธอยู่กับพื้น และตาปิด ร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง อุณหภูมิของในร่างกายของเขาก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น
หยดเหงื่อปรากฏบนหน้าผากของเขา แต่มันก็ระเหยไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นในร่างกาย และมันก็เปลี่ยนเป็นไอน้ำ
ไม่นาน รอบๆร่างของฉื่อหยาน ก็ปรากฏหมองเป็นวงกลมขึ้น หมอกระเหยขึ้นมาจากความร้อนที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย . แต่ไม่นานมันก็หายไป
สีหน้าของฉื่อหยานเปลี่ยนเป็นดูมืดมน ดูราวกับว่าเขากำลังเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
เสี่ยวฮานยี่ ยืนอยู่ข้างๆ เขาด้วงสีหน้าโหดเหี้ยม ดวงตาของเขาจ้องไปที่ฉื่อหยาน เพื่อดูทุกการเปลี่ยนแปลงของฉื่อหยาน
ข้ารับใช้อสูรบางคนก็มามองดู ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน แต่ภายใต้การดูแลของเสี่ยวฮานยี่ พวกมันทำเพียงยืนดูเงียบๆ และก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงใดๆออกมา เพราะกลัวว่าพวกเขาอาจรบกวนฉื่อหยานได้
หลังจากไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ร่างกายก็ฉื่อหยานก็ค่อยๆสั่นสะท้าน และเหงื่อก็เริ่มไหลลง จากร่างกายของเขาเหมือนฝน ซึ่งเป็นผลให้เกิดกลุ่มไอก่อตัวขึ้น
จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดสิ้นสุด ฉื่อหยานไม่ร้องออกมาแม้แต่เสียงเดียวในขณะที่เจ็บปวดอยู่ เมื่อเวลาผ่านไป สีหน้าของฉื่อหยานก็เข้มงวดมากขึ้นในขณะที่เขากำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดในร่างกายของเขา
เสี่ยวฮานยี่ นั้นได้พูดถึงความเจ็บปวดกระบวนการดูดซึมเม็ดยาอายุวัฒนะนี่แล้ว
เด็กจากตระกูลหยาง ที่โดดเด่นก็จะได้รับเม็ดยาอายุวัฒนะนี่เช่นกัน และพวกเขาจะได้เม็ดยาเหมัน เพื่อช่วยในการแบกรับความเจ็บปวด . เม็ดยาเหมัน สามารถลดปริมาณของความเจ็บปวดที่เกิดจากเม็ดยาอายุวัฬนะได้ และสลายบางส่วนผลกระทบที่รุนแรงของสมุนไพรในเม็ดยาอายุวัฒนะได้บางส่วน และทำให้ผู้ที่กลืนกินมันเข้าไปรู้สึกเจ็บปวดน้อยลง
แต่เมื่อใช้เม็ดยาเหมัน ผลของเม็ดยาอายุวัฒนะก็จะลดลง 20% ในขณะที่เม็ดยาเหมันบรรเทาความเจ็บปวด มันก็จะลบล้างผลบางส่วนของเม็ดยาอายุวัฒนะไป
ในมือของเสี่ยวฮานยี่ คือเม็ดยาเหมัน ตอนแรกเขาว่าจะให้ฉื่อหยานไป
แต่เมื่อเห็นความสามารถและความทนทานที่ฉื่อหยาน ได้แสดงออกมาแล้ส เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ให้มัน เขาต้องการที่จะดูว่าจริงๆแล้วฉื่อหยานจะทนและผ่านมันมาได้หรือไม่ ถ้าฉื่อหยาน ที่รับความเจ็บปวดของเม็ดยาอายุวัฒไม่ได้จริงๆ เสี่ยวฮานยี่ก็จะนำเม็ดยาเหมันให้เขาไป
เสี่ยวฮานยี่ ไม่อยากให้พลังของเม็ดยาอายุวัฒนะที่ฉื่อหยานกินหายไป 20 เปอเซนต์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้บอกเรื่องที่เขามีเม็ดยาเหมันอยู่ เพราะหวังว่า ฉื่อหยานจัสามารถดูดซับพลังจากสมุนไพรที่อยู่ในเม็ดยายาอายุวัฒนะได้ และได้รับผลประโยชน์สูงสุด
แต่เขายังกังวล เขากังวลว่าฉื่อหยานจะไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะผ่อนคลายและยังคงเตรียมเม็ดยาเหมันไว้ตลอดเวลา
อีกด้านหนึ่ง
เซี่ยซินหยาน ก็เห็นทุกอย่าง และร่องรอยของความประหลาดใจแวบผ่านดวงตาคู่สวยของนาง
นางเป็นคุณหนูของตระกูลเซี่ย และความสัมพันธ์ระหว่าง ตระกูลเซี่ยและตระกูลหยางนั้นใกล้ชิดกันเสมอมาเพื่อที่เซี่ยซินหยานจะได้รู้เรื่องความลับที่อยู่เบื้องหลังเม็ดยาอายุวัฒนะและเม็ดยาเหมัน
นางรู้ดีว่าเด็กจากตระกูลหยาง ถ้าพวกเขาอยู่ในระดับหายนะ หรือระดับปฐพี พวกเขาก็จะได้รับเม็ดยาเหมันเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด
ในตระกูลหยาง มีเด็กมากมายที่อยากจะดูดซับพลังงานทั้งหมดของเม็ดยาอายุวัฒนะ และเต็มใจเลือกที่จะไม่เอาเม็ดยาเหมัน
อย่างไรก็ตาม แทบจะไม่มีใครทนได้เลย ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะเลือกที่จะหยุดกลางคัน และช่วยไม่ได้ที่จะกินเม็ดยาเหมันเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
เซี่ยซินหยานอยู่ไม่ไกลจากฉื่อหยานและเสี่ยวฮานยี่นัก เมื่อเสี่ยวฮานยี่เอายาอายุวัฒนะออกมา นางก็สังเกตเห็นว่า เสี่ยวฮานยี่นั้นไม่ได้เอาเม็ดยาเหมันให้ทันที
ตอนนั้น จิตใจที่งดงามของนางก็คาดเดาเจตนาของเสี่ยวฮานยี่ได้ทันที และรู้ว่าในจิตใจของเสี่ยวฮานยี่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่
เซี่ยซินหยานอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก นางสงสัยว่าฉื่อหยานจะทนได้จริงๆหรือไม่ หรือเขาลืมตาขึ้นมากลางคัน
เม็ดยามหัศจรรย์ทั้งเจ็ดในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด แต่ละอันนั้นมีลักษณะพิเศษเป็นของตัวเอง ยาอายุวัฒนะของตระกูลหยาง ขึ้นชื่อในความรุนแรงและดุร้าย ผลของยา จะสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในขณะที่กำลังดูดซับยา
นางรู้สึกว่าฉื่อหยานจะไม่สามารถที่จะทนมันได้แน่นอน และในไม่ช้าความเจ็บปวดก็จะครอบงำร่างกายของเขา ด้วยความคิดนี้ที่ปรากฏขึ้นในหัวของนาง เซี่ยซินหยานช่วยไม่ได้ ได้แต่มองไปที่ฉื่อหยานอย่างเงียบๆเสี่ยวฮานยี่ ขมวดคิ้ว . เขาเหลียวหลังไปดู และเห็นเซี่ยซินหยานแสดงออกเช่นนั้น เขาก็มือเรียกอย่างเงียบๆ
นางพยักหน้า เซียซินหยานส่งสัญญานกลับว่าเข้าใจแล้ว นางเอาแต่เงียบ และก้าวไปยืนดูฉื่อหยานอยู่ข้างๆ
วันเวลาได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ณ จุดนี้ร่างกายของฉื่อหยานเปลี่ยนเป็นสีแดงทั้งหมด พร้อมกับมีหมอกปกคลุมร่างกายของเขา สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวราวกับว่าเขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
สองวันผ่านไป
ร่างของฉื่อหยาน ก็สั่นเล็กน้อย และปริมาณหมอกรอบๆร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้น แต่ดวงตาของเขายังคงปิดสนิทอยู่ เขาต่อสู้กับยาที่รุนแรงในร่างกายของเขาอย่างเด็ดเดี่ยว
3 วันผ่านไป
หมอกรอบๆร่างของฉื่อหยานเริ่มที่จะใช้เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น ในวันนี้เอง เหงื่อบนร่างกายของ ฉื่อหยาน เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม
สีหน้าของเสี่ยวฮานยี่ เปลี่ยนเป็นจริงจังและกระทั่งความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
เซี่ยซินหยาน ก็ยังประหลาดใจอย่างลับๆ นางตกใจที่ฉื่อหยานสามารถทนได้ และรู้ว่า เวลานี้ ตระกูลหยางได้ค้นพบอัญมณีล้ำค่าแล้ว
มันจะหาได้ยาก ที่ลูกหลานของตระกูลหยางจะใช้ยาอมตะในขณะที่อยู่ในระดับมนุษย์ และยังคงทนได้อยู่สามวัน ผู้ที่สามารถทำเช่นนี้ได้จะต้องกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียง และมีอำนาจมากมายในอนาคตแน่นอน
วันที่สี่ต่อมา
ในวันนี้ ร่างกายของฉื่อหยาน ก็สั่นเทาอีกครั้ง เหงื่อบนร่างกายของเขา ทำให้เสื้อผ้าของเขาเปียกชื้น เขาดูเหมือนกับว่ากำลังแช่ลงไปในบ่อน้ำ
เหงื่อบนร่างกายของเขาไม่ได้เป็นสีโคลนอีกแล้ว แต่ตอนนี้มันเป็นสีดำ และมีกลิ่นเหม็นที่น่าเกลียด ซึ่งมันยังคงส่งกลิ่นออกมาอย่างรุนแรง
ในวันเองนี้เสี่ยวฮานยี่และเซี่ยซินหยานก็มีใบหน้าตกตะลึงชัดเจนเป็นอย่างมาก
เหล่าข้ารับใช้อสูรที่อยู่อีกด้าน ก็ยังประหลาดใจ หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว
นักรบเหล่านี้ที่อยู่ในระดับรู้แจ้งทั้งหมด แน่ใจว่าฉื่อหยานจะต้องกลายเป็นเสาหลักของตระกูลหยางแน่นอน ศักยภาพที่ไม่มีสิ้นสุดของเขา
ฉื่อหยาน ยังคงไม่ส่งเสียงใดๆออกมา แต่ฟันของเขาขบกันแน่น และร่างของเขาก็สั่น ร่างกายของเขาเหมือนเหล็กที่แช่ในลาวา และมันก็ร้องจนน่าตกใจ
4 วัน , 4 วัน นี้ฉื่อหยานไม่เคยร้องออกมาเลยสักครั้ง
ลูกหลานของตระกูลหยาง แม้จะเป็นผู้ชายแต่เมื่อเจอความลำบากเช่นนี้ ก็จะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อพวกเขาเอากินยาอายุวัฒนะเข้าไปโดยไม่กินยาเหมัน นอกจากนี้ บางคนอาจจะลงไปกลิ้งกับพื้น เพื่อที่จะพยายามบรรเทาอาการปวดในร่างกายของพวกเขา
แต่ฉื่อหยาน นั้นกลับนั่งอยู่เฉยๆอย่างมั่นคงเหมือนก้อนหินที่มีอายุเป็นพันปี
ในตอนท้ายของวันที่ห้า ฉื่อหยานก็คำรามออกมาดังลั่น เขายืนขึ้นและหมอกรอบๆตัวของเขาก็กลายเป็นคลื่นซัดกระจายออกมา
" คุณชายหยาน ! " เสี่ยวฮานยี่ ตะโกนด้วยเสียงลึก เขาพูดออกมาทันที : " ท่านสามารถทนได้จริงๆด้วย "
เขาเปิดดวงตาของเขาขึ้น ฉื่อหยานตากลายเป็นสีแดงเหมือนเลือด เขาขบฟันของเขา และยิ้มให้ออกมา " ยอดเยี่ยม ! "
" ยะ . . . . . . . ยอดเยี่ยม ? " การแสดงออกของเสี่ยวฮานยี่ ชะงัก เขาจ้องมอง ไปที่ฉื่อหยาน ด้วยอาการงง " ท่านไม่เจ็บปวดหลอกรึ ? "
" เจ็บปวดรึ ? "
ฉื่อหยานส่ายหัว พร้อมกับรอยแดงบนใบหน้าของเขาค่อยๆหายไป และเขาก็ยิ้ม : " ความเจ็บปวดได้หายไปหมดสิ้นแล้ว และตอนนี้ข้าก็ได้อยู่ในนภาที่สามของระดับมนุษย์แล้ว ยาอายุวัฒนะนี่มันช่างรุนแรงจริงๆ ข้าเกือบจะไม่สามารถกลั้นเสียงร้องได้แล้ว หึ... ตอนนี้ยาได้แพร่กระจายผ่านร่างกายของข้าทั้งหมดและความร้อนที่บ้าคลั่งก็ค่อยๆลดลงแล้ว "
" นภาที่สามในระดับมนุษย์ " นักรบตระกูลหยางทั้งหมดตะโกนออกมา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสะพึงกลัวของพวกเขา
อายุ 17 ปี นภาที่สามในระดับมนุษย์
แม้จะเป็นผู้ที่เติบโตขึ้นมาในตระกูลหยางและต่อให้บริโภคโอสถต่างๆเข้าไปนับไม่ถ้วน , ก็มีโอกาสน้อยมากที่จะบรรลุนภาที่สามของระดับมนุษย์ด้วยอายุเพียง 17 ปี
ฉื่อหยานนั้นเติบโตในสมาคมการค้าเสมอมา โดยไม่มีความช่วยเหลือของทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพจากตระกูลหยางใดๆมาก่อน แต่เขากลับบรรลุเข้าสู่นภาที่สามของระดับมนุษย์ได้ด้วยอายุเพียง 17 ปี ด้วยพรสวรรค์ในการบ่มเพาะเช่นนี้ มันเป็นเรื่องที่เกินจริงนัก
เสี่ยวฮานยี่เกิดประกายแสงในแววตา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวด้วยน้ำเสียงลึก " คุณชายหยาน ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินท่านต่ำเกินไปจริงๆ ท่านสามารถดูดซับพลังทั้งหมดของยาอายุวัฒนะ โดยใช้เวลา 5 วัน และยังไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือใด ๆจากภายนอก นั่นเป็นสิ่งที่น่าตกใจมาก ถ้าท่านหัวหน้าตระกูลรับรู้เรื่องที่ท่านทำไปหละก็ เขาจะต้องประหลาดใจแน่นอน ถ้าคุณชายหยานกลับไปที่ตระกูลตอนนี้ ท่านอาจจะได้รับรางวัลเป็นเกาะหนึ่งเกราะ และ สัตว์อสูรระดับ 6 มังกรสองหัว ก็เป็นได้”
" เกาะ ? สัตว์อสูรระดับ 6 มังกรสองหัว ? " ฉื่อหยานตกตะลึง " เกาะนั่นใหญ่หรือไม่ ? "
" ใหญ่กว่าเมืองเทียนหยุนนัก คุณชายหยานจะสามารถทำอะไรก็ได้กับมันก็ได้ หึหึ อย่าได้ตกใจเชียว คุณชายหยาน รอจนกว่าท่านจะกลับไปที่ตระกูล แล้วท่านก็จะรู้ว่าตระกูลของเรามั่งคั่งและทรงอำนาจเพียงใด ตอนนี้ ตระกูลของเราได้ครอบครองเกาะนับพัน บางเกาะก็ใหญ่กว่าสมาคมการค้านัก ถึงตอนนั้น นายน้อยฉื่อก็จะได้รู้ว่าสมาคมการค้าไหนเลยจะสำคัญ . " เสี่ยวฮานยี่พูดออกมาอย่างภูมิใจ
" ข้าจะรอดู " ฉื่อหยานพยักหน้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข
" คุณชายหยาน เราจะไปที่ทะเลไม่มีสิ้นสุดเลยหรือไม่ " เสี่ยวฮานยี่ครุ่นคิดสักครู่และกล่าวว่า " คุณชายไห่นั้นไม่ต้องการที่จะกลับไป และไม่ต้องการจะไปจากเมืองเทียนหยุน เราควรไปตอนนี้เสีย ตอนนี้ดินแดนสี่อสูรนั้นกำลังสร้างปัญญาอยู่ และข้าเองก็อยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ยิ่งเรากลับไปเร็วเท่าใด เราก็สามารถเป็นพลังให้กับตระกูลได้อีกนิด คุณชายหยานท่านยังต้องได้รับการทดสอบจากตระกูลและต้องปลูกฝัง ‘ลัทธิอมตะจุติ’ เพื่อให้ท่านเป็นเสาหลักของตระกูลได้อย่างรวดเร็ว "
" จะไปโดยไม่บอกลาได้รึ ? เราควรจะกลับไปที่เมืองเทียนหยุนก่อน ตอนนี้ที่เมืองเราต้องไปจัดระเบียบตระกูลโม่ ตระกูลหลิง ตระกูเป่ยหมิงเสียก่อน ไม่งั้นตระกูลฉื่ออาจจะไม่ปลอดภัย ก่อนที่ข้าจะไปจากที่นี่ ข้าไม่อยากให้มีศัตรูของตระกูลฉื่อเหลือรอดในเมืองเทียนหยุน ! " ฉื่อหยานขมวดคิ้วและครุ่นคิดสักพัก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่สมาชิกในตระกูลฉื่อจริงๆ แต่ ฉื่อเจี้ยน , ฮั่นต๋ง และหยางไห่ เองก็ได้ดูแลเขาเป็นอย่างดี ตอนนี้ตระกูลฉื่อ กำลังเผชิญปัญหา เขาไม่สามารถละทิ้งพวกเขาได้จริงๆ
กลุ่มของเสี่ยวฮานยี่ มีอำนาจพอที่จะกวาดล้างตระกูลทั้งหมดในเมืองเทียนหยุน ด้วยพลังนี้ อุปสรรคสำหรับตระกูลฉื่อก็จะหายไป และตระกูลฉื่อก็จะกลายเป็นผู้นำในสมาคมการค้าอย่างแท้จริง
เขารู้สึกว่าเขาควรจะทำอะไรเพื่อตระกูลฉื่อบ้าง ไม่งั้นเขาจะรู้สึกผิดอยู่ข้างในจิตใจ บุญคุณต้องแทน และความแค้นต้องชําระ เขายึดมั่นในกฏนี้เสมอมา
" คุณชายหยางเป็นคนที่น่าชื่นชมจริงๆ " เสี่ยวฮานยี่พยักหน้าและบอกว่า " เราก็จะกลับไปที่เมืองเทียนหยุนกัน”
" ลุงเสี่ยว " เซี่ยซินหยาน ก็พูดออกมา
" เอาล่ะ เจ้าเองก็ตามมาด้วย เราจะไม่อยู่ที่เมืองเทียนหยุนนานนัก เมื่อธุรกิจเสร็จเรียบร้อย เราก็จะรีบกลับไปทะเลไม่มีที่สิ้นทันที " เสี่ยวฮานยี่พูด
เซี่ยซินหยานพยักหน้า " ตกลง ข้าจะจัดการพร้อมกับท่าน ท่านลุงเสี่ยว " .
ขณะพูดคุย เซี่ยซินหยานก็จ้องลึกไปที่ ฉื่อหยาน นางลังเลอยู่สักพัก แล้วกล่าวว่า " ลุงเสี่ยว ฉื่อหยานนั้นก็ได้รับจิตวิญญานแห่งดวงดาวของพรรคสามเทพมาเช่นกัน ท่านอย่าได้ลืมเชียว "
" เรื่องนี้ท่านหัวหน้าตระกูลจะจัดการเอง . "เสี่ยวฮานยี่ยิ้ม" พรรคสามเทพนั้นขัดแย้งกับตระกูลหยางเสมอมา ถ้าพวกเขารู้ว่า ฉื่อหยานได้รับสืบทอดจิตวิญญานดวงดาวต่อจากโอหยางจื่อหละก็ ข้าหละสงสัยจริงๆว่าหน้าตาพวกมันจะเป็นยังไง ฮ่าๆ คุณชายหยานช่างโชคดีเสียจริง ที่คราวนี้เขาได้รับตราประทับจิตวิญญานดั่งเดิมมาด้วย ท่านหัวหน้าตระกูล จะต้องหัวเราะจนปากฉีกแน่นอน หึหึ "
" ไปกันเถอะ " โดยไร้ซึ่งความกังวล ฉื่อหยานขึ้นไปบนหลังของค้างคาวโลหิตครามระดับหกและบินนำหน้าไปทันที ._______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ