บทที่ 103 พื้นที่ยุบตัว
บทที่ 103 พื้นที่ยุบตัว
แสงดาวอบอวลอยู่บนท้องฟ้าเหมือนหยาดฝน รวมกันเป็นเงาคริสตัลที่ส่วนหัวใจของรูปปั้นหิน
ตอนนั้นเอง แสงดาวที่อยู่ในคริสตัลก็ส่องแสงออกมา , แพรวพราวและยั่วยวน
คริสตัลลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างช้าๆ ไปที่มือสีเขียวขนาดใหญ่ที่ฉื่อหยานสร้างขึ้นมา
ฉื่อหยานค่อนข้างมีความสุขและทันทีก็เริ่มที่จะควบคุมไปที่คริสตัลให้เข้ามาหาเขาใกล้ๆ
ผลึกถูกลากมาด้วยมือยักษ์สุดท้ายมันก็ลอยออกมาจากหลุมลึกและลอยเข้ามาหาฉื่อหยาน
" ปัง ปัง ปัง ! "
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นดังออกมาจากหลุมลึก หลังจากที่คริสตัลออกมาจากหลุม คริสตัลที่คิดอยู่กับผนังก็ระเบิดและแตกกระจายเป็นชิ้นๆพร้อมกับส่องแสงเจิดจ้าออกมา
แสงดาวบนท้องฟ้ากลายสลัวอีกครั้งในทันที
ปรากฏว่าเป็นในหลุมลึกที่ยุบตัวลงไป คลื่นดวงดางลึกลับบนท้องฟ้าก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ มันมีปฏิกิรยาที่คลุมเครือ ขณะเดียวกันก็มีพลัง ปราณลึกลับ ก๊าซพิษ และเปลวไฟเริ่มกระจายออกไป .
มองลงมาจากท้องฟ้า จะพบว่า ภูเขาที่เหมือนรูปปั้นหินเริ่มที่จะแตกร้าว และละลายลง
ในเวลาเดียวกัน
ที่ส่วนเท้าของรูปปั้น กลุ่มของ ชิเสียว เป่ยหมิงชาง รู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่อย่างชัดเจน และพลังที่พันธนาการพวกเขาไว้ก็ลดลง
สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป และทันทีพวกเขาก็พยายามที่จะใช้พลังของพวกเขาเพื่อทำลายพันธนาคารที่เหนี่ยวรั้งพวกเขาอยู่
พวกเขาถูกขังอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน และประสบความล้มเหลวที่จะหลบหนีหลังจากพันธนาการเหล่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่อย่างนิ่งเฉย
แต่เมื่อเห็นที่พื้นที่กำลังจะยุบตัวลงและพลังงาน ที่พันธนาการไว้ก็ลดลง พวกเขาจึงลองพยายามกันอีกครั้ง
ที่สองขาของรูปปั้นแตกร้าวในขณะที่พลังพันธนาการที่อยู่ส่วนเท้าก็อ่อนแอลง . . . . . . .
ขณะที่แรงกดดันจากรูปปั้นหินเริ่มอ่อนแรงลง ชิ เสี่ยว และ เป่ยหมิงชาง ก็ดิ้นรนโดยฉวยโอกาศจากส่วนขาของรูปปั้นที่แตกร้าว
ถ้ามันเป็นแบบนี้ พวกเขาก็จะออกมาจากใต้ส้นเท้าได้ในเวลาอันสั้นแน่นอน
. . . . .
ในพื้นที่ส่วนหัวใจของรูปปั้นหิน
ปรากฏเป็นหลุมลึกยุบลงไปและคริสตัลที่ผนังก็ระเบิดออกมา ในขณะที่แสงแพรวพร่วจากคริสตัลที่ติดอยู่ตรงผนังสีสันก็เปลีย่นไป และค่อยๆ จางหายไป
ทั่วทั้งผนังมีคริสตัลที่ส่องแสงปกป้องคริสตัลรูปปัวใจอยู่ ดังนั้น เมื่อคริสตัลรูปหัวใจลอยออกมา หน้าที่ของพวกมันจึงจบสิ้น
มือสีเขียวขนาดใหญ่ลอยเข้าไปหาคริสตัลที่กำลังส่องแสงเป็นประกายเหมือนดวงดาวอยู่เหนือหัวของ ฉื่อหยาน
คริสตัลนั่นคือแกนกลางของดาวตกที่มีอำนาจลึกลับจากดวงดาว
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองคริสตัล ฉื่อหยานก็ขมวดคิ้วและเริ่มที่จะคิดบางอย่าง
ควรจะจัดการกับคริสตัลเช่นไรดี
ฉื่อหยานหน้ามุ่ยและคิดสักพัก และเดาว่าไข่มุกพลังหยินนั้นต้องมีการเชื่อมต่อกับคริสตัลแน่นอน เขาจึงสามารถสัมพัสถึงคริสตัลนั่นได้
ฉื่อหยานช่วยไม่ได้ที่จะยืดมือออกไปจับผลึกที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขา
" บูม ! "
คริสตัลก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นและประกายแสงมากมายก็ไหลผ่านเข้าไปในร่างกายของฉื่อหยาน
ในที่สุดพลังที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกจากดวงดาวก็ไกลเข้าไปในทุกรูขุมขนของฉื่อหยานและมันก็อัดแน่นกันอยู่ในหัวใจของเขา
" ปัง ปัง ! ปัง ปัง ! "
เสียงที่เหมือนกลองทุ้มก็ดังออกมาจากหัวใจของฉื่อหยาน ท่ามกลางแสงที่แพรวพราว หัวใจของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างประหลาด
แสงจากดวงดาวฝังรากลึกลงไปในหัวใจของฉื่อหยาน และกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจเขา
ในทันที หัวใจของ ฉื่อหยานก็เปลี่ยนไป ราวกับว่ามันกลายเป็นคริสตัลและเริ่มส่องประกายออกมา
หลังจากนั้น จิตใจของเขาก็กลับมาเป็นปกติ แสงจากดวงดาวหลอมรวมเข้าไปในหัวใจฉื่อหยาน และปล่อยอากาศที่หนาวเย็นออกมา
" ปัง ปัง ปัง ! "
เสียงระเบิดที่ดูน่ากลัวก็ดังออกมาจากส่วนส้นเท้า กลุ่มของนักรบในระดับนภาร่วมมือกันและในที่สุดส่วนของเท้าก็แตกออกและพวกเขาหลบหนีออกมาได้
นักรบยอดฝีมือในระดับนภาลอยขึ้นท้องฟ้าทีละคนเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากข้างบน
พื้นที่แปลกประหลาด กำลังยุบตัวลง และคลื่นแสงจากดวงดาวก็กลายเป็นเสาที่ส่องแสงออกมา
เสาที่ส่องแสงส่องตรงลงมาจากท้องฟ้า และพุ่งมายังฉื่อหยาน
ฉื่อหยาน ที่ยืนอยู่ในหลุมลึกก็หายตัวไปทันที !
" ปัง ปัง ปัง ! ปัง ปัง ปัง ! "
พื้นที่แปลกประหลาดก็ค่อยๆ แตกร้าวเหมือนกระจก
หลังจากที่คริสตัลหายไปไปที่รูปปั้นหินก็แตกหักชิ้นส่วนกระจายออกมาและกลายเป็นฝุ่น
ระหว่าง เสียงระเบิดที่ดังขึ้น เจ็ดครั้ง พื้นที่รอบๆก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กลุ่มของชิเสี่ยวได้ออกมาจากพื้นที่แห่งนั้นจากรอยแตกและปรากฏตัวขึ้นที่หุบเขาพลังหยิน
ในหุบเขาพลังหยิน
รอยแตกก็ค่อยๆปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสายฟ้าหลากสีสัน เกิดเป็นรอยแตกที่เหมือนกับคลื่นดวงดาว ตกลงมาจากท้องฟ้า
เซี่ยซินหยานดูไม่แยแสและพึมพำออกมา " ผ่านมาเจ็ดวัน ในที่สุดพวกเขาก็ออกมา "
" ท่านคิดว่าตราประทับแก่นแท้จิตวิญญานยังอยู่ภายในหรือไม่ "
" เราจะได้รู้กัน เมื่อฉื่อหยานออกมา " เซี่ยซินหยานดูไม่แยแสและนางก็กล่าวออกมา " แต่ข้าไม่คิดว่าเขาจะปรากฏในหุบเขาพลังหยิน”
" ทำไมกัน ? "
" ตาเฒ่านั้นได้วางแผนไว้ทุกอย่างแล้ว ถ้าชายคนนั้นทำได้จริงหละก็ บางทีเขาอาจจะถูกส่งไปตัวไปที่ทะเลไม่สิ้นสุดแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่แห่งนั้น ตาเฒ่านั่นต้องใช้พลังเป็นอย่างมากในการสร้างพวกมันทั้งหมด ข้าเดาว่าเขาอาจจะส่งฉื่อหยาน ไปยังสถานที่ ที่ไกลออกไปจากบึงมรณะเพื่อให้เขาปลอดภัยในช่วงเวลาหนึ่ง "
" เช่นนั้นเราควรทำเช่นไรดี ? "
" ไปกันเถอะ ออกจากหัวหุบเขาพลังหยินและไปจากบึงมรณะกัน”
" คุณหนู ทันทีที่พบเขา จะให้ฆ่าเลยหรือไม่ "
" หาเขาให้พบก่อนค่อยว่ากัน "
ทั้งสามรวมทั้งเซี่ยซินหยาน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงขึ้นในหุบเขาพลังหยิน พวกเขาก็ได้เล็งเห็นผลบางอย่างดังนั้นพวกเขาจึงจากหุบเขาพลังหยินไปโดยไม่บอกใคร
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลังจากที่เซี่ยซินหยานจากไปก็มีร่างมนุษย์ร่างหนึางโผล่ขึ้นจากหนึ่งในรอยแตกบนท้องฟ้า
" ปัง ปัง ปัง ! "
นักรบที่มีระดับต่ำกว่าระดับนภาทั้งหมดที่ก็ตกลงมาจากท้องฟ้า และหัวของพวกเขาก็หมุนไปมา
เหล่าคนที่ระดับต่ำกว่านภา เช่น มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน ก็มีเลือดไหลออกมากจากปากของพวกเขา และพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ฮันเฟิงมองไปอย่างขมขื่นและ กู่หลงก็ร้องออกมาทันทีหลังจากที่พวกเขายืนขึ้น " นายน้อย ! นายน้อย ! "
เป่ยหมิงชาง ชิเสี่ยว ซัวชีและจักพรรดิ์แห่งโลกมืด ที่อยู่ในระดับนภา ก็ลอยลงมาจากบนท้องฟ้า และค่อยๆยืนที่พื้นและสังเกตุไปรอบๆด้วยความสับสน
" เช้อเอ๋อ ! " เป่ยหมิงชางคำรามออกมาแล้วจ้องมองไปยังกุ้ยหยินและจิ่วฉาน " เช้อเอ๋อของข้าอยู่ไหน ! "
กุ้ยหยินและจิ่วฉานก็ถูกขังอยู่ในส่วนเท้าของรูปปั้นเช่นกัน แต่ไม่ได้อยู่กับเป่ยหมิงชาง ดังนั้น เป่ยหมิงชาง จึงไม่ได้เห็นพวกมันอยู่ในพื้นที่แปลกประหลาดแห่งนั้น
" นายน้อยเข้ามาด้วยก็จริง แต่ข้านั้นไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน " หยินกุยดูเศร้าหมองและกังวล " เราถูกคุมขังอยู่ในพื้นที่แห่งนั้นทันทีที่เข้าไป และเราก็พึ่งพบโอกาศหลบหนีตอนมันปรากฏรอยแตกร้าวขึ้น " .
" เช้อเอ๋อ ! เช้อเอ๋อ ! " เป่ยหมิงชางคำรามออกมา " เจ้าอยู่ที่ไหน ! "
" มู่ฮุ่ย " จักพรรดิ์แห่งโลกมืดใบหน้าของมันก็เปลี่ยนไป เมื่อมันมองหามู่ฮุ่ยไม่พบ มันก็เริ่มที่จะตะโกนพร้อมกับ เป่ยหมิงชาง
เนื่องจากเสียงได้สะท้อนไปทั่วพื้นที่พลังหยิน , เป่ยหมิงชางและ จักพรรดิ์แห่งโลกมืด คิดว่า มู่ฮุ่ยและเป่ยหมิงเช้อจะต้องได้ยินและกลับมาแน่นอน
อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ไม่ได้รับการตอบสนองใดกลับมา
" เช้อเอ๋อ ยังอยู่ข้างในนั้น ! " เป่ยหมิงชางใบหน้าเริ่มซีดและมองขึ้นไปสู่ท้องฟ้าเพื่อมองไปที่รอยร้าวที่กำลังหายไป
และรอยร้าวทั้งหมดก็หายไป
อย่างรวดเร็ว , เป่ยหมิงชางก็ตระหนักได้ถึงความเป็นจริงอันโหดร้ายนี้ ใบหน้าของมันดูน่ากลัวเหมือนสัตว์อสูรที่บ้าคลั่ง ในขณะที่ปรากฏเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันออกมาจากดวงตาของมัน
" เสี่ยวเตี๋ย เช้อเอ๋ออยู่ไหน ! ? " ด้วยเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันที่ออกมาจากตาของมัน เป่ยหมิงชางมองไปที่มู่หยู่เตี๋ยด้วยความโกรธ
" ข้า . . ข้า . . . " มู่หยู่เตี๋ยดูกังวลด้วยแววตาของ เป่ยหมิงชางที่ดูน่ากลัว นางนั้นพูดไม่ออก
เป่ยหมิงชางร้อนใจและดวงตาของมันก็ส่องแสงออกมา . มันเหยียดแขนของมันไปที่มู่หยู่เตี๋ยและเส้นสายพลังสีฟ้าก็ลอยเข้าไปในร่างของ มู่หยู่เตี๋ย .
" เช้อเอ๋ออยู๋ที่ไหน ! ? " เป่ยหมิงชางถามอีกครั้ง
ทันทีที่มู่หยู่เตี๋ยถูกพลังสีฟ้าของ เป่ยหมิงชาง ใบหน้าของนางกลายเป็นหมองคล้ำ นางหมดสติลงและร่างกายของนางก็พูดขึ้น " เขาถูกฆ่าโดย ฉื่อหยาน "
ตี่ย่าหลาน พยายามพูดห้ามออกมา แต่เมื่อนางเห็นมู่หยู่เตี๋ยดูผิดปกติไป นางก็เอาแต่เงียบ
" ฉื่อหยาน ! " เป่ยหมิงชางคำรามเหยียดยาวออกมา
มันนั้นรักและเอ็นดูเป่ยหมิงเช้อเป็นอย่างมาก , เพราะมันนั้นได้รับสืบทอดจิตวิญญานแฝด และเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเป่ยหมิง ตระกูลและพ่อแม่ต่างก็ตั้งความหวังไว้กับมันสูงมาก แต่ตอนนี้เป่ยหมิงเช้อกลับถูกฆ่าตาย เป็นปกติที่เป่ยหมิงชางจะโกรธเป็นอย่างมาก
เส้นสายขั้วอัคคีเหมันก็ลอยออกไปเหมือนเมฆและพยายามครอบคลุมไปรอบๆฮันเฟิงและ กู่หลง
กูหลงที่อยู่ใกล้กับเป่ยหมิงชางมากที่สุด เขาก็ถูกห่อหุมไปด้วยเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันอย่างรวดเร็วและกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งและก็ระเบิดออกมา
ฮันเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไป และหลังจากร่างของเขาสั่นเทา เขาก็เคลื่อนไหวออกไป
" ข้าจะทำลายตระกูลฉื่อของเจ้า ! " เป่ยหมิงชาง นั้นตะโกนออกมาเหมือนสัตว์ร้ายไปที่ฮันเฟิง
" อาจารย์ ! " ซั่วฉื่อร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว
ชิเสี่ยว ขมวดคิ้ว และถอนใจออกมา เขาไม่เต็มใจที่จะจัดการกับหมอกหนาทึบที่เต็มไปด้วยขั้วอัคคีเหมันของเป่ยหมิงเช้ออย่างนักและเขาก็พูดออกมา " เป่ยหมิงชาง , ชีวิตแลกชีวิต "
เขารู้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานมาก หากเขาต้องสู้กับเป่ยหมิงชาง
หลังจากที่ลังเลเล็กน้อย เขาก็สกัดกั้นขั้วอัคคีเหมันที่ล้อมรอบฮันเฟิงอยู่ และตะโกนว่า " ฮันเฟิง เจ้าไปสะ ! "
ฮันเฟิงพุ่งไกลออกไปจากพื้นที่พลังหยินอย่างรวดเร็วเหมือนกับภูผีโดยไม่ลังเลใด ๆ
ตอนนั้น เขาก็รู้แล้วว่า เป่ยหมิงชางจะต้องไม่ยอมหยุดแน่ เขาเลยต้องรีบไปให้เร็วที่สุด เขาต้องกลับไปที่ตระกูลฉื่อโดยที่ยังมีชีวิตอยู่และส่งข้อความให้พวกเขาหลบหนีจากการถูกสังหาร
" ชิ เสี่ยว ! เจ้ากล้าดียังไงมาหยุดข้า ! " เป่ยหมิงชาง คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง " จ้าจะฆ่าทุกคน ใครก็ตามที่พยายามที่จะหยุดข้าในวันนี้ ข้าจะฆ่ามันสะ ! "
" นี่ แม่นางมู่ ท่านเห็นลูกศิษย์ขของข้าที่ชื่อ มู่ฮุ่ยหรือไม่ ? " จักพรรดิ์แห่งโลกมืดถามไปที่มู่หยู่เตี๋ยด้วยเสียงแปลกๆ
" เขาถูกฆ่าโดย ฉื่อหยานด้วยเช่กัน พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าโดยฉื่อหยาน . . . . . . . " มู่หยู่เตี๋ยยังคงไม่ได้สติ นางนั้นไม่รู้เลยว่านางกำลังพูดอะไร
ซูซี่เฮอหน้าของมันเริ่มซีดและดวงตาของมันเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธ มันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า พุ่ง ออกไปจากบึงมรณะ
พลังที่แข็งแกร่งถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของมันไปทุกทิศทาง
เพื่อสัมพัสว่าฉื่อหยานนั้นหลบซ่อนอยู่ที่ใด . . .
. . . . .
ในขณะเดียวกัน ในบริเวณที่เงียบสงบในหุบเขาพลังหยินก็มีเงาดำเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอยู่_______________________________________
ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ