ตอนที่แล้วบทที่ 100 มั่นคง !
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 102 ไม่มีอะไรที่ข้าทำไม่ได้ !

บทที่ 101 ตัวตนถูกเปิดเผย


บทที่ 101 ตัวตนถูกเปิดเผย

เป่ยหมิงเช้อ วิ่งเข้าไปใน [ หลุมแรงโน้มถ่วง ]

วงหมุนนี้สร้างขึ้นมาจากพลังปราณหยินและพลังปราณลึกลับซึ่งเป็นพลังที่อยู่ในธรรมชาติ และมีผลต่อการทำงานของร่างกายของนักรบ .

ทันทีที่ เป่ยหมิงเช้อ บุกเข้าไปในวงหมุนมันก็รู้สึกได้ทันทีและสีหน้าของมันก็เปลี่ยนไป

ภายในวงหมุน เป่ยหมิงเช้อ ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างช่วยไม่ได้ ร่างของมันหมุนไปมาอย่างไม่รู้จบ ตอนแรกภายในไม่กี่วินาที หัวของมันก็ทิ่มลง ต่อมาร่างกายของมันก็ขดลงเหมือนลูกบอล มันไม่สามารถแม้แต่จะคงสภาพไว้เช่นเดิมได้

ฉื่อหยานซึ่งเป็นคนสร้าง [ หลุมแนงโน้มถ่วง ] นั้นไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย เขามองไปที่เป่ยหมิงเช้ออย่างเรีนบเฉยจากนั้นเขาก็ลงมือทันที

" บูม บูม ! ! ! ปัง ปัง ! "

ฉื่อหยานพุ่งเข้าใส่เป่ยหมิงเช้อ เหมือนกับมังกรทะยาน เขสเคลื่อนไหวแขนของเขาจับไปที่เอวของเป่ยหมิงเช้อ และกระแทกเข่าของเขาเข้าไปที่ร่างของมัน

จากนั้นเขาก็เรียกใช้ [ ดรรชนีย์ทะลวง ] , ฉื่อหยานแทงมือของเขาที่ช่วงเอวของเป่ยหมิงเช้อ

" ติ๊ง ! ติ๊ง ! "

เสียงแตกร้าวดังมาจากเอวของเป่ยหมิงเช้อ

ภายใต้เสื้อคลุมของเป่ยหมิงเช้อ มันสวมใส่เกราะมราปกคลุมด้วยเกล็ดไว้ ซึ่งดูเหมือนกับคริสตัล และส่งพลังความเย็นออกมา

[ ดรรชนีย์ทะลวง ] ไม่สามารถทำลายเกราะคริสตัลนั่นได้ แต่ก็สามารถสร้างลอบหลุมขึ้นบนเกราะของเป่ยหมิงเช้อได้

เป็น เป่ยหมิงเช้อ ที่อยู่ในวงหมุน มันประหลาดใจมันรีบใช้จิตวิญญานขั้วอัคคเหมันอีกครั้ง

ทันใดนั้น เกราะคริสตัลของมันก็ขยาย และครอบคลุมร่างกายทั้งหมดของมัน !

จู่ๆ เป่ยหมิงเช้อ ก็ถูกปกคลุมด้วยเกราะคริสตัลทั่วร่าง

เกราะและอาวุธเหล่านี้เป็นของคู่กับจิตวิญญานขั้วอัคคีเหมันของ เป่ยหมิงเช้อ

ภายใต้พลังของจิตวิญญานขั้วอัคคีเหมันจำนวนมาก อากาศเย็นก็ไหลเข้าไปในเกราะ และมันก็เริ่มต้นทำงาน , ปรากฏเป็นอากาศเย็นยะเยือกไหลออกมาจากเกราะ

[ ดรรชนีย์ทะลวง ] ของฉื่อหยานนั้นแม้จะสามารถสร้างหลุมให้กับเกราะของเป่ยหมิงเช้อได้ , แต่นิ้วของเขาก็ถูกแทรกซึมโดยอากาศหนาวเย็นเหล่านั้นซึ่งมันค่อยๆเพิ่มขึ้ยและแช่แข็งนิ้วของเขา

เป่ยหมิงเช้อ ที่ยังคงติดอยู่ใน [ หลุมแนงโน้มถ่วง ] ร่างของมันยังคงหมุนวนอยู่ มันไม่สามารถทรงตัวให้ร่างอยู่เฉยๆได้ และจากนนั้นมันก็ถูกโจมตีโดยฉื่อหยาน

อย่างไรก็ตาม ภายใต้การคุ้มครองของเกราะคริสตัล เป่ยหมิงเช้อนั้นไม่มีความกังวลอะไรเลย มันกำลังรอโอกาสที่จะตอบโต้กลับอยู่

ไม่ !

แสงเย็นยะเยือกประกายผ่านดวงตาของฉื่อหยาน เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และสุดท้าย ก็เรียกพลังงานเชิงลบของ [ บ้าคลั่ง ] ออกมา

ความโหดร้ายและกระหายเลือดอารมณ์ที่แตกต่างกันไปมากมายเติบโตขึ้นในร่างของเขา และฉื่อหยานก็ถูกล้อมรอบไปด้วยควันสีขาว

ร่างกายของตี่ย่าหลานสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อนางมองไปที่ฉื่อหยานด้วยประหลาดใจและนางก็ร้องออกมา , " ติงหยาน ! "

มู่หยู่เตี๋ยสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อนางจ้องสายตาของนางไปที่ฉื่อหยาน สีหน้าของนางก็กลายเป็นซับซ้อน

เมื่อฉื่อหยานใช้ [ บ้าคลั่ง ] , พลังงานเชิงลบของเขาก็พลุ่งพลานออกมาและกลายเป็นควันหนาทึบอากาศรอบๆถูกปกคลุมไปด้วย ความกระหายเลือด ความโหดเหี้ยม และความบ้าคลั่ง

หลังจากได้มองดูฉากเหตุการณ์เช่นี้ ตี่ย่าหลาน และมู่หยู่เตี๋ยก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มจากตระกูลฉื่อคนนี้ คือ ติงหยาน !

" เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ! ! ! " มู่หยู่เตี๋ยส่ายหน้าอย่างหนักด้วยใบหน้าที่ซับซ้อนและพึมพำว่า " เป็นไปไม่ได้ ! ! ! ! นี่มันไม่ถูกต้อง ! รูปลักษ์ของเขาต่างกันโดยสิ้นเชิง และ ติงหยานก็เป็นเพียงนักรบนิรนามเท่านั้น . เขาจะเป็นคุณชายจากตระกูลฉื่อได้อย่าง ? มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ . . . . . . . "

มู่หยู่เตี๋ยไม่แน่ใจว่า จะปักใจเชื่อดีหรือไม่ !

" ฉื่อหยาน... ติงหยาน... ! "

และเพราะว่าฉื่อหยานและตี่ย่าหลานนั้นสนิทกันมาก่อน ดังนั้นนางจึงรู้ได้ทันทีว่าเป็นฉื่อหยานเพราะนางนั้นรู้ว่า [ บ้าคลั่ง ] มีเพียงฉื่อหยานคนเดียวที่ใช้มัน ไม่ว่ารูปลักษ์ของฉื่อหยานจะเปลี่ยนไปเท่าใด เขาก็เป็นคนเดียวที่ใช้ [ บ้าคลั่ง ] แน่นอน

มู่หยู่เตี๋ยจ้องมอง ฉื่อหยาน อย่างตกตะลึงพูดไม่ออก และความคิดขิงนางก็เต็มไปด้วยความรู้สึกต่าง ๆ

ตี่ย่าหลาน ดวงตาเป็นประกายและหน้าอกของนางกระเพื่อม นางถอนหายใจออกมาสั้นๆขณะที่มองไปยังฉื่อหยาน จู่ๆนางก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับเขา และนางก็หันไปพูดกกับมู่หยู่เตี๋ย " เสี่ยวเตี๋ย เป่ยหมิงเช้อกำลังสู้กับติงหยานอยู่ . . . . . . . มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน ข้าไม่อยากให้พวกเขาทั้งสองนั้นเจ็บปวดเลย ! "

มู่หยู่เตี๋ยสูดลมหายใจเข้าลึกและสงบสติลงพร้อมกัยส่ายหน้า " ท่านคิดว่าท่านสามารถหยุดพวกเขาได้งั้นรึ ? "

ตี่ย่าหลาน ดูสับสน แต่นางยังกล่าวว่า " เราต้องลองดู "

" ท่านไม่รู้จักเป่ยหมิงเช้อรึไง " มู่หยู่เตี๋ยถอนหายใจ " เขาจะได้รับทุกอย่างที่เขาต้องการ ! และ ติงหยานเองก็ไปพูดยัวยุเป่ยหมิงเช้ออีก เป่ยหมิงเช้อจะต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ แม้ว่า ติงหยานจะเป็นคุณชายของตระกูลฉื่อ แต่เขาก็ไม่สามารถรับมือกับเป่ยหมิงเช้อได้แน่ เพราะตระกูลเป่ยหมิงนั้นมีอำนาจมากกว่าตระกูลฉื่อนัก "

" ไม่ ! ! ! ! ! ข้าจะหยุดพวกเขา ! " ตี่ย่าหลาน ดูมุ่งมั่นและร้องออกมา , " ติงหยานหยุดเดี๋ยวนี้นะ ! นายน้อยเป่ยหมิง ! หยุดเถอะ ! "

ฉื่อหยานนั้นได้ยินเสียงร้องของตี่ย่าหลานอย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่ได้ตอบกลับอย่างใด

ในที่สุดพลังงานเชิงลบก็ปกคลุมไปทั่วเส้นชีพจรของเขา และพลังของฉื่อหยานก็เพิ่มขึ้น . จู่ๆ เขาก็เรียก [ ผนึกแห่งชีวิต ] ออกมา และผนึกเจ็ดอันก็ปรากฏขึ้น และมันก็พุ่งไปยังเป่ยหมิงเช้อ

" ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ! "

เป่ยหมิงเช้อ โดนจู่โจมเจ็ดครั้งอยาสงต่อเนื่องกันและกระเด็กออกมาจาก [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] ของฉื่อหยานโดยกระเด็นไปไกลห้าสิบเมตร

" ปุ ! "

เป่ยหมิงเช้อสำลักโลหิตออกมาจากปากและกระดูกที่หน้าอกของมันก็แตกหัก ที่เกราะคริสตัลสีของมันจางลง และไม่สามารถทนต่อ [ ผนึกแห่งชีวิต ] ของฉื่อหยานได้

หลังจากที่ล้มไปบนพื้น เป่ยหมิงเช้อ ก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าซีดและเลือดที่มุมปากของมัน

" ติงหบาน ! " ตี่ย่าหลาน ก็ตะโกนออกมา " หยุดนะ ! เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ ! "

เป่ยหมิงเช้อ ลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่ดูน่าเกลียด และถือดาบแยกนภาไว้ หลังจากเช็ดเลือดบนใบหน้าของมันแล้ว , มันก็จ้องไปที่ฉื่อหยานอย่างโหดเหี้ยม " ฉื่อหยานข้าจะฆ่าเจ้า และทำลายตระกูลฉื่อของเจ้าสะ ! "

" เจ้ากล้ารึ ! " ฉื่อหยานตกอยู่ในความเดือดดาล และเขาเลียริมฝีปากของเขา " หึ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ! "

" ติงหบาน ! " ตี่ย่าหลาน กรีดร้องออกมาอีกครั้ง

มู่หยู่เตี๋ยเริ่มกังวล และนางก็กล่าวออกมา , " ติงหยาน เจ้าก็รู้พลังของตระกูลเป่ยหมิงดี ไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่เจ้าจะเป็นศัตรูกับเป่ยหมิงเช้อ ! "

ฉื่อหยานหายใจเข้าและหันไปมองสองสาวและตะโกนออกมาโดยไม่แยแส " ข้าไม่รู้จักพวกเจ้า ! "

แล้วเขาก็เดินเข้าไปหา เป่ยหมิงเช้อ ทีละก้าว ทีละก้าว

ทุกก้าวที่เขาก้าวผ่าน พื้นที่รอบๆก็จะกลาบเป็นบิดเบี้ยว เขาเคลื่อนไหวพร้อมกับควบคุม [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] อยู่ตลอดเวลา

ตราบใดที่เขาอยู่ใน [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] ฉื่อหยานก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจิตวิญานย้นระยะจองเป่ยหมิงเช้อและเขาก็มั่นใจว่าเขาสามารถทรมาน เป่ยหมิงเช้อ อย่างช้า ๆในวงหมุนได้แน่นอน

เป่ยหมิงเช้อ เองก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง

เมื่อเห็นฉื่อหยานเข้ามาใกล้ ใบหน้าของ เป่ยหมิงเช้อ ก็กลายเป็นเย็นชา แทนที่จะใช้จิตวิญญานย้นระยะ มันกลับนั่งลงที่พื้น

และดาบแยกนภาก็เคลื่อนไหวออกมา

ปรากฏเป็นเปลวไฟสีแดงและสีฟ้าที่เจิดจ้าขึ้นที่ดาบแยกนภา และมันก็อยู่เหนือศีรษะของฉื่อหยาน

" บูม ! "

ดาบปลดปล่อยหนามกระแทกลงมา และเกิดเป็นเสียงระเบิดดังขึ้นทั่วพื้นที่

ดาบแยกนภาปลดปล่อยหนามสีแดงและสีฟ้าออกมา และ มันก็ตัดผ่านทุกสิ่งอย่าง !

ภายในวงหมุน หนามที่เต็มที่ไปด้วยจิตสังหารก็พุ่งผ่านไปทั่ววงหมุน

" ชี ! ชี ! "

และรอยดาบก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของ ฉื่อหยาน

ดาบแยกนภานั้นเป็นดาบที่คมมาก และเช่นเดียวกับ [ มีกวิญญานทมิฬ ] ของมู่ฮุ่ย พวกมันสามารถตัดผ่านจิตวิญญานกายาแข็งของฉื่อหยานได้

อาวุธระดับวิญญาณ ! น่ามหัศจรรย์นัก !

ฉื่อหยาน ก็ตกใจ แล้วเคลื่่อนไหวออกจากวงหมุนในขณะที่ร่างของเขาฉะโลมไปด้วยเลือด ปรากฏเป็นความเจ็บปวดความที่ร้อนฉ่าอยู่บนร่างของเขา

แผลหลายสิบแผลที่เกิดจากดาบถูกทิ้งไว้บนร่างฉื่อหยาน โดยดาบแยกนภาของเป่ยหมิงเช้อ ปรากฏเป็นแผลลึกบนร่างของเขา

‘’ ย้นระยะ ! ‘’

ทันทีเป่ยหมิงเช้อ ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ฉื่อหยาน พร้อมกับกัมปั้นที่เต็มไปด้วยจิตวิญญานขั้วอัคคีเหมันและมันก็ชกไปที่ฉื่อหยานจากด้านหลัง

" บูม ! "

ฉื่อหยานกระเด็นไปข้างหน้าประมาณสิบเมตรและสำลักเลือดออกมา

ก่อนที่เขาจะได้เช็คเลือดที่มุมปาก ฉื่อหยานก็ใช้พลังปราณหยินและสร้างกำแพงพลังหยินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่กำแพงพลังหยินปรากฏขึ้น ฉื่อหยานก็ พบว่า เป่ยหมิงเช้อ นั้นได้มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว และมันก็มองมาที่เขาพร้อมกับเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันที่อยู่ในมือ

ถ้าไม่ใช่เพราะฉื่อหยาน สร้างกำแพงพลังหยินขึ้นมาด้วยความรวดรเ็ว เป่ยหมิงเช้อคงจะใช้เฟลวไฟขั้วอัคคีเหมันโจมตีมาที่เขาและเขาต้องระเบิดออกเป็นชิ้นๆแน่

" กลับมา ! "

เป่ยหมิงเช้อ ตะโกนพร้อมกับยื่นแขนออกไป และมองไปที่ดาบแยกนภาที่กำลังลอยกลับมาที่มือของมันอย่างรวดเร็วเหมือนกับสายฟ้าฟาด

เป่ยหมิงเช้อที่ถือดาบแยกนภาไว้ในมือก็ แสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ " ข้าขอดูหน่อยว่าเจ้าจะตอบโต้กลับยังไง ! "

ฉื่อหยานดูมืดมน เขารู้กีว่า [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] นั้นจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อใช้กับสิ่งมีชีวิต แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับดาบแยกนภา

ถ้าเขาอยู่ใน [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] เป่ยหมิงเช้อก็จะควบคุมดาบแยกนภาและจู่โจมมาที่เขา

ถ้าเขาต้องออกจากวงหมุน เป่ยหมิงเช้อ ก็จะสามารถเข้าถึงตัวและโจมตีมาที่เขาได้โดยใช้จิตวิญญานย้นระยะ

น่ารำคาญนัก !

เป่ยหมิงเช้อ นั้นครอบครองจิตวิญญานแฝด และยังมีอาวุธลับอีกมากมาย มันมีทั้งดาบที่ใช้โจมตีและเกราะที่ใช้ป้องกัน

" คุณชายเช้อ , ได้โปรดอย่าฆ่าเขา ! เขาเป็นเพื่อนของข้า " ตี่ย่าหลาน อยู่ๆก็ร้องไห้ออกมา เมื่อนางตระหนักว่าฉื่อหยานกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย

" คุณชาย ได้โปรดไว้ชีวิตเขา " มู่หยู่เตี๋ยลังเลและพยายามที่จะโน้มน้าวมัน

เป่ยหมิงเช้อ ไม่ได้เคลื่อนไหวมใด มันส่ายหัวแล้วกล่าวอย่างใจเย็น " ข้ามักจะทำถามทุกอย่างที่พวกเจ้าขอ และถ้าฉื่อหยานนั้นไม่ได้แสดงพลังที่น่ากลัวออกมาให้ข้าเห็นในวันนี้ ข้าก็สามารถไว้ชีวิตมันได้ แต่ตอนนี้ , มันเป็นไปไม่ได้แล้ว มันเป็นนักรบในระดับมนุษย์ แต่กลับมีวิชาต่อสู้ลึกลับที่สามารถสังหารชีวิตได้ และมันเองก็เป็นอันตรายต่อตระกูลของข้า เช่นนั้นมันก็สมควรตาย ! "

หลังจากพูดจบ , เป่ยหมิงเช้อ ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป และควบคุมดาบแยกนภาพุ่งไปที่หัวของฉื่อหยานโดยตรง

ดาบแยกนภาพุ่งผ่านเหมือนกับดาวตกและปลดปล่อยหนามออกมากระจายไปทั่ว

หนามพุ่งผ่านลงไปและเกิดระเบิกขึ้นทั่วทุกที่

" ติงหยิน ! " ตี่ย่าหลาน ร้องออกมาด้วยความทุกข์

" ห๊ะ . . . . . . . " มู่หยู่เตี๋ยสั่นเบาๆ และก็ปรากฏความเจ็บปวดขึ้นในดวงตา

" [ ผนึกแห่งความเป็นความตาย ] "

ฉื่อหยานพูดขึ้นมา 6 พยางค์

ระหว่างที่ดาบปลดปล่อยหนามออกมา ฉื่อหยานก็ตัดสินใจทันทีโดยปราศจากความกลัวในดวงตาของเขา

ภายใต้การจ้องมองของมู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน ที่มืกขวาและมืดซ้ายของฉื่อหยานมีบางสิ่งเล็กกำลังขยายตัวขึ้น

ตอนนั้นเอง พลังงานทั้งสองสายที่แตกต่างกันก็ระเบิดออกมาจากแขนทั้งสองข้างของเขาอย่างน่ากลัว

 

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1195 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด