EDSG ตอนที่ 6 มรดกทักษะ
หลังจากผ่านไปไม่รู้ระยะเวลา เย่เฉินเฟิง ที่นั่งนิ่งราวกับรูปปั้นหิน จู่ ๆ เขาก็เปิดเปลือกตาขึ้น มือทั้งสองของเขาอัดเเน่นไปด้วยพลังก่อนที่จะชกหมัดออกไปกระเเทกหินที่อยู่เบื้องล่างของเขาทำให้หินเเข็งนั่นเเตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
ร่างของเขาเหมือนกับวิหคยักษ์ที่เพียงดีดตัวเพียงนิดเดียวก็ลอยตัวขึ้นไปบนอากาศสูงก่อนที่เขาจะออกหมัดที่เต็มไปด้วยพละกำลัง 1,000 จินออกไป ทำให้น้ำตกที่ถูกชกแยกออกจากกัน
“ในที่สุดข้าก็สามารถเข้าสู่ขั้นแรกของชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 ได้”
เย่เฉินเฟิงได้ยืมกระแสน้ำอันทรงพลังเพื่อลอยลงมาจากบนท้องฟ้าก่อนที่จะตกลงที่เบื้องล่างในที่สุด
เมื่อสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างกายของเขาตอนนี้ เย่เฉินเฟิง เผยให้เห็นความปิติยินดีอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเขาเพิ่งสามารถเปิดขั้นแรกของชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 จุด ซึ่งก็คือ ปรับสภาพผิว ได้เพียงเท่านั้น ผลึกวิญญาณที่ ฉีตงเทียน เหลือทิ้งเอาไว้ก็หมดไปแล้ว หากเขาต้องการบุกเบิกชีพจรศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 ภายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เขาจะต้องหาวิธีซื้อผลึกวิญญาณ
แต่ทว่านับตั้งแต่ที่เขาถูกขับไล่ออกจากตระกูลเย่,ตระกูลเย่ ก็หยุดมอบทรัพยากรทั้งหมดแก่เขา และ ราคาผลึกวิญญาณคุณภาพต่ำก้อนเดียวก็มีราคามากกว่า 10,000 เทล เย่เฉินเฟิงในตอนนี้เหลือเพียง 2,000 เทล เพียงเท่านั้น หากเขาต้องการซื้อคริสตัลวิญญาณคุณภาพต่ำเพื่อส่งเสริมการบ่มเพาะพลังเขาจะต้องหาทางทำเงินให้ได้ในตอนนี้
นอกเหนือจากผลึกวิญญาณระดับต่ำแล้ว เย่เฉินเฟิง ยังคงต้องซื้อโอสถกลั่นร่างกายเพื่อกระตุ้นศักยภาพร่างกายของเขา โอสถประเภทนี้ค่อนข้างมีราคาที่แพงดังนั้นเขาในตอนนี้มีไม่มีปัญญาที่จะซื้อมัน
“บางทีการสืบทอดทักษะที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองอาจช่วยให้ข้าพ้นจากสถานการณ์ตอนนี้ได้”เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก เขาครุ่นคิดถึง รูปแบบอักขระ และ ชิ้นส่วนทางความรู้ทางการแพทย์ที่ยังคงฝังอยู่ในหัวของเขา
เย่เฉินเฟิงขยับร่างกายของเขาไปรอบ ๆ และกินอาหารแห้งที่พกติดตัวมา เขาปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดและเริ่มดิ่งเข้าไปในความทรงจำของตนเองทันที
แม้เย่เฉินเฟิงจะไม่คุ้นเคยกับการสืบทอดความทรงจำทั้งสอง แต่ด้วยการที่เขารวมเข้ากับสมองศักดิ์สิทธิ์ ความเข้าใจในการตีความเนื้อหาของเขาก็มาถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ
ประมาณสองวันต่อมา เย่เฉินเฟิง ได้ซึมซับความทรงจำเกี่ยวกับรูปแบบอักขระและทักษะทางการแพทย์อย่างสมบูรณ์
“มรดกทักษะทางการแพทย์และรูปแบบอักขระนี้สุดยอดมาก และ ความสามารถของสมองศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยให้ข้าเข้าใจมันมากขึ้น ทั้งสองมรดกนี้อาจมีค่าเทียบได้กับมรดกของอาณาจักรซือจิน หรือกระทั่งอาจเทียบได้กับมรดกของนิกายใหญ่”เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขที่รุนแรง
อย่างไรก็ตามรูปแบบอักขระนั้นมีให้เลือกมากมาย หาก เย่เฉินเฟิง ต้องการที่จะเข้าใจรูปแบบอักขระทั้งหมด เขาจะต้องเริ่มเรียนรู้จากขั้นพื้นฐาน และ กระบวนการนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการผลาญเงิน
สำหรับทักษะทางการแพทย์ของเขานั้น เขาไม่มีเวลาเปิดร้าทำงานเงิน ดังนั้น ทักษะรูปแบบอักขระพวกนี้เท่านั้นที่สามารถช่วยเหลือเขาได้ในตอนนี้
“ข้าจะลองสร้างยันต์อักขระโจมตีขึ้นมาสักอัน,เอาเป็นยันต์เข็มทองคำ”
เย่เฉินเฟิง คิดเกี่ยวกับมันเพียงสักครู่ก่อนที่จะเลือกยันต์เข็มทองคำที่ง่ายต่อการปรับแต่งที่สุด แม้ว่ายันต์เข็มทองคำจะเป็นอุปกรณ์ที่สร้างง่ายที่สุดในความทรงจำสืบทอดของเขา แต่วัสดุในการปรับแต่งของมันก็คงยังมีค่าหาใดเปรียบ
“เลือดสัตว์อสูร,ทรายดาราสวรรค์,ผงแร่สีแดง,และ กระดาษลงอักขระ”
เมื่อนึกถึงวัสดุที่จำเป็นสำหรับการสร้างยันต์เข็มทองคำแล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ถูกแทนที่ด้วยอารมณ์เศร้าทันที ด้วยเงิน 2,000 เทล ของเขาตอนนี้ ยังคงไม่อาจซื้อ กระดาษลงอักขระ ได้ด้วยซ้ำ
“ข้าควรจะไปยืมเงินจากใครดี ?”เย่เฉินเฟิงรู้สึกกังวล
นับตั้งแต่ที่เขาล้มเหลวในการปลุกจิตอสูรและถูกขับไล่ออกจากตะรกูลเย่ เพื่อนในชีวิตของเขาก็ตีตัวออกห่างจนหายหมด ในที่สุดเขาก็ไม่เหลือแม้แต่เพื่อนคนเดียว และ คงไม่มีใครเต็มใจที่จะให้เขายืมเงิน
“เย่จือหลิง คงมีแต่เธอเท่านั้นที่ข้าสามารถยืมได้”
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินเฟิง ก็คิดถึงบุคคลเดียวที่พอจะสามารถให้เขายืมเงินได้ แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะยินดีให้เขายืมหรือไม่
“ลืมมันไปซะ ลองดูก่อนแล้วกัน หากไม่ได้ค่อยคิดหาวิธีอีกที”
เย่เฉินเฟิงถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาได้ออกจากเทือกเขาเมฆขาวอันเงียบสงบหลังจากที่อยู่บ่มเพาะพลังมานานหลายวันได้เวลาที่เขาจะกลับไปที่เมืองจักรพรรดิขาวแล้ว
เพราะเขากลัวว่าจะถูกพบตัวโดยศัตรูของ ฉีตงเทียน,เย่เฉินเฟิง จึงไม่ได้เลือกเดินกลับทางเดิม แต่เขาไปที่ลานสนามเล็ก ๆ ที่สำนักต่อสู้เมืองจักรพรรดิขาว ที่ เย่จือหลิง อาศัยอยู่
“มีอะไร ? ทำไมเจ้าถึงมาหาข้าที่นี่”
ขณะที่เย่จือหลิงกำลังฝึกฝนอยู่ในห้องเธอได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอก ดังนั้นเธอจึงเดินไปเปิดและพบ เย่เฉินเฟิง ยืนรอเธออยู่ข้างนอก
“ข้าต้องการยืมเงินจากเจ้า”
เย่เฉินเฟิงพูดออกมาโดยตรง เขามองไปที่เย่จือหลิงที่สวมใส่ชุดผ้ากระโปรงสูงยาวแต่ถึงอย่างนั้นยังคงเผยให้เห็นเรียวคาที่อ่อนเยาว์คู่นั้น
“ยืมเงิน?”เย่จือหลิง ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวถามอีกครั้ง“เจ้าต้องการยืมเท่าไหร่?”
“30,000”
“30,000 ? เจ้าต้องการเงินจำนวนมากขนาดนี้ไปทำอะไร?”เย่จือหลิง รู้สึกสงสัย ดังนั้นเธอจึงกล่าวถามออกไปในทันที
“สำหรับการฝึกฝน”เย่เฉินเฟิงตอบกลับเบา ๆ“ข้าจะคืนให้เจ้าอย่างช้าที่สุดภายในหนึ่งเดือน”
“อืม...”
“ข้าจะให้เงิน 30,000 เทล กับเจ้า แต่เจ้าไม่จำเป็นจะต้องจ่ายคืนข้า”เย่จือหลิงจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ด้วยสายตาที่ร้อนแรง เมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่พวกเธอเติบโตมาด้วยกัน ก็ทำให้เธอรู้สึกสงสารเขา
“อย่างไรก็ตาม เย่เฉินเฟิง นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าจะให้เงินกับเจ้า หวังว่าเจ้าจะไม่มารบกวนข้าอีกในอนาคต”
“แน่นอน”
หากเย่เฉินเฟิงมีรายได้เพียงพอในอนาคตเขาจะคืนเงินให้ เย่จือหลิง อย่างแน่นอน ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ต้องการที่จะเป็น หนี้เย่จือหลิง หรือ เป็นหนี้ ตระกูลเย่
หลังจากได้เงิน 30,000 เทล ที่ต้องการ เย่เฉินเฟิง ก็ไม่ต้องการเสียเวลาอีกเขาหันหลังและเลือกที่จะเดินกลับไปอย่างรวดเร็ว
“เย่เฉินเฟิง ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันอีกแล้ว หวังว่าเจ้าจะสามารถดูแลตัวเองได้”
เย่จือหลิงพึมพัมกับตัวเอง เธอจ้องมอง เย่เฉินเฟิง ที่เดินจากไป แต่เธอหารู้ไมว่า เย่เฉินเฟิง ได้รับการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจ เป็นอย่างที่เธอพูด เขากับเธอไม่ใช่คนที่อยู่ในโลกเดียวกันอีกแล้ว
เย่เฉินเฟิง ถือเงิน 30,000 เทล ออกจาก สำนักต่อสู้เมืองจักรพรรดิขาว และไปที่ร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจักรพรรดิขาว,ร้านเมฆขาว เขาใช้เงินเกือบ 28,000 เทล ในการซื้อชุดวัสดุ 9 ชุด เพื่อสร้าง ยันต์เข็มทองคำ และยังมี หน้ากากจักจั่น ไว้สำหรับปลอมแปลมใบหน้า
เหตุผลที่ เย่เฉินเฟิง ซื้อ หน้ากากจักจั่นมา ก็เพราะเขากลัวการเปิดเผยการสืบทอด สมองศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้เขายังไม่มีพละกำลังที่เพียงพอจะปกป้องตนเอง
นอกจากนี้ยังมีชุดเข็มเงินที่เขาซื้อมาด้วย มันสำหรับไว้ใช้ในการร่ำเรียนทักษะทางการแพทย์
ตามความทรงจำที่สืบทอดมานั้น ทักษะเข็มวิถีฟ้า จะต้องใช้ร่วมกับพลังวิญญาณเพื่อกระตุ้นจุดฝังเข็มเพื่อให้บรรลุผลของการชำระเส้นชีพจรรวมถึงรักษาอาการบาดเจ็บภายใน
หลังจากซื้อสิ่งของที่เขาต้องการ เย่เฉินเฟิง ก็ใช้เงิน อีกไม่กี่ร้อยเทล เพื่อเช่าสวนดินที่ล้อมไปด้วยดินเหลือง เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวมันตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทางทิศตะวันออกของเมืองจักรพรรดิขาว
“วัสดุสำหรับการสร้างยันต์เข็มทองคำนั้นมีราคาแพงเกินไป โดยเฉพาะเลือดสัตว์อสูร เพียงแค่ขวดเล็ก ๆ ขวดเดียวมีค่าตั้ง 1,000 นี่ไม่ใช่การปล้นกันซี่ง ๆ หน้าเลยหรอ?”
หลังจากเย่นเฉินเฟิงเข้าไปที่ห้องเขาก็ทำความสะอาดและวางกระเป๋าใบใหญ่ไว้บนโต๊ะที่ทาสีหนัก เขาจ้องมองไปที่ขวดเลือดสัตว์อสูร 9 ขวด และถอนหายใจอย่างต่อเนื่อง
หลังจากซื้อวัสดุจำเป็นสำหรับการสร้างยันต์เข็มทองคำมาแล้ว เย่เฉินเฟิง ก็ไม่ได้ทำการสร้างยันต์เข็มทองคำในทันที แต่เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงและจำลองกระบวนการกลั่นยันต์เข็มทองคำภายในใจของเขา
ท้ายที่สุดแล้ววัสดุทั้ง 9 ชุดนี้ก็มีมูลค่ามากกว่า 30,000 เทล หากเขาล้มเหลวเขาจะสูญเสียทุกอย่างไป
ประมาณ 2 ชั่วโมงผ่านไป หลังจากวิเคราะห์มันอยู่หลายครั้ง เย่เฉินเฟิง ก็ตั้งใจว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาจะเริ่มทำการปรับแต่งยันต์เข็มทองคำ