ตอนที่แล้วGE266 สะพานสิบก้าว เป่ยลี่ [ฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปGE268 ผีเสื้อ [ฟรี]

GE267 ระฆังแห่งการเกิดใหม่ [ฟรี]


เป่ยลี่นำหนิงฝานไปยังสถานที่ทดสอบที่สอง

ทั้งสองเดินผ่านทะเลหมอกพลางพูดคุย นางกล่าวถามเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาของเขา นางอยากรู้เรื่องราวของเขา

การที่มีผู้มากพรสวรรค์เช่นหนิงฝาน นางในฐานะคุณหนู 3 ของวิหารสาปสูญ นางย่อมอยากได้คนอย่างหนิงฝาน

แม้นางจะยิงคำถามมากมาย แต่หนิงฝานกล่าวตอบนางไม่มากนัก เมื่อนางกล่าวถามเรื่องวิหารสาปสูญในโลกพิรุณ หนิงฝานกล่าวตอบและบอกเล่าเป็นทำนองที่ว่า เขาไม่รู้จักเป่ยเซี่ยวเหมินมาก่อน

แววตาหนิงฝานเรียบสงบราวกับสายน้ำ ลึกล้ำราวกับบ่อน้ำที่ไร้ก้น แม้เขาจะจ้องมองสตรีที่งดงามเช่นเป่ยลี่ แต่เขากลับไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย จนทำให้นางแอบประหลาดใจ

ตั้งแต่แรกที่พบกัน หนิงฝานไม่หวั่นไหวกับความงามของนางแม้แต่น้อย จิตใจของเขาหนักแน่นมั่นคง แตกต่างจากบุรุษทั่วไปมาก

แม้นางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง แต่นางกลับไม่อาจหยั่งสัมผัสและทำความเข้าใจหนิงฝานได้อย่างถ่องแท้ ราวกับเขามีวิธีการปิดบังตนที่ไม่ธรรมดา

“คาดไม่ถึงว่าโลกมนุษย์จะมีคนเช่นเจ้า… นายน้อยหนิงผู้มาจากโลกพิรุณ ผู้ที่โดดเด่นเช่นนี้ ทำไมน้องเซี่ยวเหมินถึงหาไม่พบ”

เป่ยลี่สงสัย เป่ยเซี่ยวเหมินสมควรเห็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่นเช่นหนิงฝาน

“น่าแปลกที่นายน้อยหนิงไม่รู้จักเซี่ยวเหมิน… ถึงนางไม่ชอบการฝึกฝนเพราะนางมีเส้นโลหิตที่พิเศษ ชื่นชอบการเข่นฆ่า แต่นางน่าจะหูตากว้างไกล สมควรรู้จักนายน้อยหนิง และดึงให้เขาเข้าร่วมวิหารสาปสูญ...”

เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ที่มากพรสวรรค์อย่างหนิงฝาน จะไม่ต้องตาขุมกำลังใด

ที่เป่ยลี่ไม่รู้คือ เมื่อยามที่เป่ยเซี่ยวเหมินรู้จักหนิงฝาน เขายังเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณ เส้นโลหิตหยินหยางปีศาจโบราณยังไม่สำแดงความพิเศษ แต่เมื่อเขาได้เข้าเก็บตัวฝึกฝนในวิหารสาปสูญ ทำให้เขายกระดับตนเองจนทำให้เป่ยเซี่ยวเหมินตกตะลึง

อีกข้อสำคัญที่เป่ยลี่ไม่รู้คือ เป่ยเซี่ยวเหมินไม่มีทางดึงหนิงฝานเข้าร่วมวิหารสาปสูญ ไม่ว่ายังไงนางก็ไม่มีทางดึงหนิงฝาน เพราะนางได้ถูกเขาชิงแหวนเย่าหยวน ทั้งยามนี้ นางยังได้ก้าวเท้าข้างหนึ่งเข้าไปเป็นสนมของหนิงฝานแล้ว

ภายในม่านหมอกเบื้องหน้า มีระฆังทองขนาดยักษ์ตั้งเด่น

เมื่อเห็นระฆัง หนิงฝานรู้สึกราวกับถูกสะกดจนไม่อาจหนีไปจากที่นี่ได้ เขาต้องก้าวเดินเข้าไปหามันเท่านั้น

“นายน้อย ระฆังทองนั่นคือ ‘ระฆังแห่งการเกิดใหม่’ เป็นระฆังที่คงอยู่มาเนิ่นนาน มีข่าวลือว่า ในสมัยโบราณมีจักรพรรดิเซียนผู้หนึ่งจะมาสั่นระฆังนี้ทุกๆ 129,600 ปี เพื่อปลุกและรอให้คนผู้หนึ่งมาหา”

“จักรพรรดิเซียน...”

เมื่อหนิงฝานเข้าไประฆังทอง เขาก็ยิ่งตกตะลึง

เขารู้สึกราวกับว่า ระฆังทองเบื้องหน้ามีลักษณะที่เหมือนกับระฆังทะเลตะวันออกมา

หากจะต่างกันก็เพียง ระฆังทะเลตะวันออกมีขนาดเล็กกว่ามาก ระดับก็ไม่ได้สูงส่ง แต่มีวิชาตรึงสวรรค์อยู่ในนั้น

ระฆังทองเบื้องหน้าให้ความรู้สึกหนักอึ้ง น้ำหนักของมันหนักจนน่าตกตะลึง หนักราวกับว่าไม่มีผู้ใดยกมันขึ้นได้

ตั้งแต่ที่หนิงฝานได้อ่านจารึกอสูร ความเข้าใจระฆังทะเลตะวันออกของเขาก็เพิ่มมากขึ้น เขาได้พบวิชาที่น่าสนใจมากมายในนั้น

ระฆังทองขนาดยักษ์เบื้องหน้า ช่วยหนิงฝานเพิ่มพูนแรงกดดันโดยไม่รู้ตัว

“ระฆังทองสมควรเป็นของจักรพรรดิเซียนอีกคน ส่วนระฆังทะเลตะวันออก คือระฆังของบรรพบุรุษอสูร… การที่ระฆังทั้งสองมีลักษณะคล้ายกัน อาจหมายความว่าเจ้าของทั้งสองเป็นสหายกัน”

ในขณะที่หนิงฝานยืนมองระฆังทองเงียบ เป่ยลี่กลับสะกิดเขาและยิ้มให้

“นายน้อยรู้สึกคุ้นเคยกับระฆังทองนี้เหรอ? ข้าได้ยินมาว่า ยังมีระฆังที่คล้ายกับระฆังใบนี้อยู่”

“ข้าไม่รู้...” หนิงฝานไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้

“ในโลกมนุษย์ ข้าว่านายน้อยน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวนี้มาบ้าง… ที่นั่นมี ‘ระฆังสยบสวรรค์’ เป็นระฆังที่มีความสามารถต่างกันคนละขั้ว มันคือระฆังแห่งการสังหาร”

“ระฆังสยบสวรรค์...” หนิงฝานกล่าว

เมื่ออยู่ห่างจากระฆัง 3 จ้าง หนิงฝานและเป่ยลี่ก้ไม่อาจเข้าใกล้มันได้มากกว่าแล้ว

นางยื่นส่งฆ้อนสีทองยาว 3 จ้างให้ “ระฆังทองนี้มีอำนาจของจักรพรรดิเซียนอยู่ หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกหรือเซียน ก็ไม่อาจเข้าใกล้ระฆังได้ ดังนั้น ที่นี่จึงมีเพียงค้อนทองคำเพื่อใช้เคาะแทน… การทดสอบนี้ไม่ยาก แค่นายน้อยใช้ค้อนตีระฆังได้ก็ผ่านการทดสอบแล้ว”

นางพยายามพูดคุยกับหนิงฝาน ยามนี้ นางเองก็รู้สึกได้ว่าหนิงฝานจะตีระฆังได้มากกว่าที่นางเคยทำ

“เชิญนายน้องตีระฆัง!”

นางกล่าวพลางถอยห่างจากหนิงฝาน

แต่ในขณะนั้น หนิงฝานยังไม่ตีระฆังทันที เขายืนมองด้วยความสงสัย

“ระฆังแห่งการเกิดใหม่… ข้าไม่เข้าใจถึงความพิเศษของมัน… ข้าไม่เข้าใจในเข้าของมัน ข้ารู้แค่ว่าคนผู้นั้นแข็งแกร่ง แม้อาจารย์ข้าและจักรพรรดิสวรรค์จะแข็งแกร่ง แต่หากอยู่ต่อหน้าชายผู้นี้ ไม่นับเป็นอันใด… ข้าคงจะตีให้มันดังได้หลายครั้ง”

หนิงฝานพับแขนเสื้อ กระชับค้อนในมือแน่น

ความสับสนในแววตาค่อยๆหายไป แปรเปลี่ยนแววตาที่แน่วแน่มั่นคง

หานหยวนจี๋… จักรพรรดิสวรรค์...

“วันนี้ที่ข้าลั่นระฆังไม่ใช่จะตัดไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก… แต่เพื่อถนอนความรู้สึกเหล่านั้นไว้ วันข้างหน้า ข้าจะเป็นผู้ที่ยืนอยู่เหนือทุกผู้!”

*เต๊ง*

ค้อนกระทบลงระฆัง เสียงก้องกังวาลรอบทิศ แสงสีทองแผ่กระจายออกจากระฆัง กวาดกว้างไปรอบทิศนับพันลี้

หนิงฝานขมวดคิ้ว เขาสัมผัสได้ว่าเสียงของระฆังทองช่วยยกระดับจิตใจ

ระฆังทองเบื้องหน้าลึกล้ำจนหนิงฝานไม่อาจเข้าใจ แต่นั่นทำให้เขายกย่องในผู้ที่สร้างมัน

ความยกย่องแปรเปลี่ยนเป็นความฮึกเหิม ที่กระตุ้นให้เขาอยากก้าวไปยังเส้นทางของจักรพรรดิสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่

“2 ครั้ง… 3 ครั้ง… 4 ครั้ง...” หนิงฝานเหวี่ยงค้อนตี

*เต๊ง เต๊ง เต๊ง* เสียงระฆังสอดประสาน กังวาลก้องไปไกลกว่า 4 พันลี้

เสียงระฆังกังวลสอดประสาน ยิ่งหวดค้อนหลายครั้ง เสียงของมันยิ่งทรงพลัง ราวกับจะสะท้อนไปทั่วทุกหนแห่ง

หลายปีผันผ่าน ผู้ที่เคยอยู่ในยุคนั้นได้ล้มหายตายจาก เหลือไว้เพียงสิ่งตกทอดให้ผู้สืบทอด...

ความผันผวนเกิดขึ้นในใจของหนิงฝาน แต่ความผันผวนนั่น ดูเหมือนจะเป็นเจตนาที่แท้จริงของระฆังทองคำ

หนิงฝานหวดค้อนครั้งที่ 5 เสียงระฆังสะท้อนไปไกลกว่า 5 พันลี้

เป่ยลี่ดวงตาเบิกกว้าง นางไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเสียงของระฆังสอดประสานกันได้ ยามนี้ นางยืนจ้องมองแผ่นหลังของหนิงฝานด้วยความไม่อยากเชื่อ

กลิ่นอายประหลาดค่อยๆเริ่มก่อตัว เสียงระฆังที่ดังกังวาลทำให้กลิ่นอายของหนิงฝานแปรเปลี่ยนไป กระทั่งผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเสียงระฆัง

แม้ร่างกายจะบอบบางดูอ่อนแอ แต่กลับทำให้เป่ยลี่สัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งราวกับขุนเขาตระหง่าน

นางรู้สึกราวกับว่าผู้ที่ยืนตรงหน้าไม่ใช่หนิงฝาน แต่เป็นจักรพรรดิเซียนผู้เป็นเจ้าของระฆัง!

หนิงฝานเหวี่ยงค้อนตีระฆังอย่างต่อเนื่องไม่หยุด เขารู้สึกราวกับว่า เขาสามารถตีระฆังได้ถึง 19 ครั้ง!

เสียงระฆัง 5 ครั้งที่หนิงฝานตี ทำให้จิตใจของเขายกระดับไป 500 ปี ทั้งยังช่วยให้ความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ที่เขามี ชัดเจนมากขึ้น

“จักรพรรดิแห่งเงา!”

ด้านหลังหนิงฝานปรากฏเงาร่างสีทอง แรงกดดันของเขาเพิ่มพูน ดวงตาเปล่งประกายราวกับตนคือจักรพรรดิสวรรค์ ก่อนจะหวดค้อนครั้งที่ 6!

*เต๊ง!*

การลั่นระฆังแม้จะดูเหมือนนาน แต่จริงๆแล้วหนิงฝานแทบจะลั่นต่อกันไม่หยุด

*เต๊ง เต๊ง เต๊ง...*

หนิงฝานลั่นระฆังต่อเนื่องจนถึงครั้งที่ 12! ยามนี้จิตใจของหนิงฝานยกระดับถึงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลางแล้ว

ในชั่วขณะที่หนิงฝานลั่นระฆังนั้น จู่ๆบนระฆังก็ปรากฏเงาร่างของคนผู้หนึ่ง

เงาร่างนั้นมีเรือนร่างที่งดงาม ใบหน้างดงาม… สตรีนางนั้นคือจื่อเฮ่อ!

ก่อนที่เงาร่างของนางจะหายไป ตาซ้ายของหนิงฝานเปล่งแสงสีม่วง เงาร่างของสตรีที่เห็นชัดเจนขึ้น สตรีนางนั้นไม่ใช่จื่อเฮ่อ… แต่เป็นมู่เหว่ยเหลียง!

นางกำลังนั่งอยู่บนโขดหินในสวนสมุนไพร พลางเย็บปักรูปผีเสื้อลงบนผ้าผืนหนึ่ง ข้างกายนาง มีผีเสื้อมากมายรายล้อม

ข้างกาย

“ตอนแรกภาพนั้นดูเหมือนจื่อเฮ่อ แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเหว่ยเหลียง”

สถานที่ที่หนิงฝานอยู่เป็นเหมือนโลกเล็กๆอีกใบ บางคนได้เปิดเส้นทางเชื่อมต่อโลกใบนี้กับจักรวาลเอาไว้

ในจักรวาลที่กว้างไกล ภายในดาราเต่าทมิฬ ชายชราคนหนึ่งขมวดคิ้ว แววตาแปรเปลี่ยนจริงจัง

ชายชราดูไม่ค่อยพอใจ ศิษย์ทีชายชราให้ความสำคัญนางหนึ่ง พูดคุยกับชายชราเพียงครึ่งคำ ก่อนจะเร่งมุ่งหน้าไปยังโลกที่หนิงฝานอยู่

ชายชราอุตส่าห์มาเยี่ยมเยือนศิษย์ของตน เพื่อคอยชี้แนะและช่วยเหลือในการก้าวผ่านไปยังขอบเขตไร้ดัดแปลง

“ลี่เอ๋อร์... เจ้ามันน่าโมโหจริงๆ ข้าอุตส่าห์ออกมาหา แต่เจ้ากลับหนีไป...”

เป่ยลี่ไม่ได้เป็นเพียงนายหญิง 3 ของวิหารสาปสูญ แต่นางยังเป็นศิษย์ของจักรพรรดิเซียน ‘เมิ่งชวนสื่อ’

แม้ชายชราจะไม่พอใจ แต่เมื่อได้รับรายงานว่า เป่ยลี่เร่งออกไปชี้แนะผู้เชี่ยวชาญที่กำลังจะบรรลุตัดวิญญาณผู้หนึ่งที่ไม่ธรรมดา ชายชราก็คลายความโกรธไปได้มาก เพราะหากแค่นางออกไปเที่ยวเล่น ชายชราคงจะลงโทษ

แต่ไม่นานนัก ดวงตาของชายชรากลับเบิกกว้าง

“เป็นไปได้ยังไง?”

“ใครเป็นผู้ลั่นระฆัง? แต่เดี๋ยว...กลิ่นอายช่างคุ้นเคย เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?”

ชายชราพยายามหวนนึก... ครั้งหนึ่งเคยมีผู้เยาว์ในขอบเขตประสานวิญญาณ แผ่สัมผัสเทพหลุดออกมายังจักรวาล และชายชราก็ได้ช่วยเด็กคนนั้นเอาไว้

แต่ชายชราเป็นจักรพรรดิเซียน มีโอกาสได้พบเรื่องรางต่างๆมากมาย หากจะให้ชายชราจดจำทุกคนได้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

“ข้าต้องไปพบคนผู้นั้น ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่รู้ว่ากลิ่นอายที่คุ้นเคยนี้เป็นใคร...” ชายชรากล่า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด