ตอนที่แล้วตอนที่ 42 กลอุบาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 44 มีเพียงคนบ้าถึงอยู่รอด

ตอนที่ 43 จิ้งจอกเจ้าเล่ห์


"ไม่เลว!" เหมือนเขารู้ว่าเฟิงหลินกำลังจะพูด  เฟิงหลางจึงรีบพูดต่อทันที

“ตราบใดที่นายแข็งแกร่งเพียงพอ และได้อันดับดีๆในการแข่งขัน นายจะได้รับการยอมรับจากตระกูลและโยนชะตากรรมการเป็นคนงานในโรงงานระดับต่ำทิ้งไป เมื่อนายแสดงความสามารถที่น่าทึ่ง ใครจะหยุดนายได้?แม้แต่หัวหน้าพ่อบ้านก็ทำอะไรนายไม่ได้!

เสียงของเฟิงหลางเต็มไปด้วยแรงกระตุ้น เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการกระตุ้นให้เฟิงหลินเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับ

เฟิงหลินรู้เรื่องดี แต่เขาก็ไม่สนใจ

เพราะคำพูดของเฟิงหลางไม่ใช่เรื่องโกหก การแข่งขันจัดอันดับครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเขา ทำให้เขาสามารถหนีจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้

“การจัดอันดับครั้งนี้ไม่เลวเลย แต่ฉันกำลังจะถูกพาไปยังโรงงานเพื่อฝึกงาน ฉันจะเลี่ยงปัญหานี้ได้ยังไง น้ำจากที่ห่างไกลไม่สามารถดับไฟป่าได้ ฉันจะเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับของตระกูลได้ยังไง?” เฟิงหลินพึมพำเงียบๆ

"มันก็ขึ้นอยู่กับว่านายกล้าไหม!" ดวงตาของเฟิงหลางหรี่แคบลง เปล่งประกายแหลมคม เขากำลังลองเชิง

"คิดจะทำอะไร?" เฟิงหลินถามตรงๆ

เฟิงหลางจะใช้ประโยชน์จากเขาอย่างแน่นอน แต่เฟิงหลินก็ไม่สนใจ ตราบใดที่เขาสามารถหลุดพ้นจากตรงนี้ไปได้เรื่องอื่นก็ถือเป็นเรื่องเล็ก

ไม่มีความเมตตาไหนที่ไม่มีเหตุผล หากได้รับบางอย่างก็ต้องแลกบางอย่าง นี่คือตรรกะทั่วๆไป

เฟิงหลินกำลังคิดว่าเขาจะได้ผลประโยชน์มากที่สุดจากการแลกเปลี่ยนนี้ยังไง

แน่นอนว่าเฟิงหลินย่อมไม่ปฏิเสธ เฟิงหลางหัวเราะ “นายต้องคิดหาวิธีออกจากตระกูลและหนีจากการฝึกงานที่โรงงาน และกลับมาเมื่อถึงช่วงการแข่งขันจัดอันดับจะเริ่ม ในเวลานั้นจงแสดงความแข็งแกร่งของนาย และเปลี่ยนชะตากรรมของครอบครัวนาย!”

"ง่ายอย่างงั้นเลยหรอ? ฉันต้องหนีออกจากตระกูล" เฟิงหลินพูด ไม่ง่ายเกินไปหรือไง? ง่ายจนรู้สึกว่าไม่จริง

"นายคิดว่ามันง่ายหรอ?หนี?นายจะหนีไปที่ไหน?“เฟิงหลางยิ้มเยาะ”นี่มันยุคอะไร?แม้แต่ในโลกยุคโบราณก็มีบางสิ่งที่เรียกว่าGPS ในยุคสมัยแห่งดวงดาวนี้ หากมีคนอยากหาตัวนาย มันไร้ประโยชน์ต่อให้นายคิดหนี ฉันไม่ได้พยายามขู่นาย แต่หากตระกูลอยากหาตัวนาย ในดาวอันกว้างใหญ่นี้ พวกเขาคงใช้เวลาไม่ถึงสามวินาที!เอาจริงๆแล้ว ในทั่วทั้งระบบสุริยะ พวกเขาคงใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาทีด้วยซ้ำ!’

เฟิงหลินเงียบ เขาคาดว่าเฟิงหลางในฐานะสมาชิกระดับสูงควรจะปกปิดความลับบางอย่างที่คนธรรมดาสามัญไม่รู้

"ยังไง?" เขาถามอย่างตรงไปตรงมา

เนื่องจากเฟิงหลางเปิดเผยความลับออกมาแล้ว เขาเลยไม่คิดปิดบังอะไรอีก"สำหรับสมาชิกในตระกูลทุกคน ตั้งแต่เกิดขึ้นมาในตระกูลแล้ว อิทธิพลของตระกูลจะเก็บทุกอย่างในชีวิตประจำวันของสมาชิกเอาไว้ แม้กระทั่งไมโครชิปตัวตนที่นายได้รับจากตระกูล นายคิดว่าตระกูลจะไม่ทำอะไรกับไมโครชิปเลยหรือไง?คิดตื้นไปรึเปล่า?สมาชิกระดับต่ำจะไม่รู้เรื่องนี้ มีเพียงสมาชิกที่สืบเชื้อสายตรงอย่างฉันที่รู้เรื่อง IDของแต่ละคนจะถูกA ติดตาม ตระกูลมีอำนาจที่จะติดตามไมโครชิปของนายได้ ซึ่งหมายความว่าไม่ว่านายจะทำอะไร ที่ไหน ตระกูลสามารถรู้ได้ทุกอย่าง ไม่มีที่ไหนให้นายหนีไปได้ นอกจากนี้ไมโครชิปแต่ละอันที่ถูกผูกไว้กับบุคคลหนึ่งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ เมื่อนายเปลี่ยนจะทำให้ตระกูลสงสัย และแน่นอนพวกเขาจะดำเนินการทันทีเพื่อติดตามนายอย่างใกล้ชิด"

คำพูดของเฟิงหลางเหมือนเสียงฟ้าผ่าดังก้องในใจของเขา

มนุษย์ทุกคนในยุคสมัยดวงดาวมีไมโครชิปเฉพาะตัวของตัวเอง แต่เมื่อคิดว่านี่เป็นเครื่องมือตรวจสอบของตระกูล เพื่อให้ตรวจสอบสมาชิกได้ มันก็ทำให้เฟิงหลินอึดอัดใจ

นี่หมายความว่าหากตระกูลต้องการ เขาจะสามารถตรวจสอบเขาได้โดยที่เขาไม่รู้ เขาจะไม่สามารถมีความลับใด ๆกับตระกูลได้

เฟิงหลินจับไมโครชิปเขาเงียบๆ ไมโครชิปนี้ผลิตจากสารใสเหมือนแก้ว ซึ่งรวมเอาเทคโนโลยีที่สูงที่สุดในยุคนี้ไว้ ความเหนียวของมันนั้นหาที่เปรียบมิได้ มันสามารถใช้กันกระสุนในช่วงเวลาที่สำคัญได้

นี่ไม่ใช่เรื่องตลก!

มนุษยชาติตอนนี้ทั่วทั้งจักรวาลมีจำนวนหลายพันล้าน มีสถาบันวิทยาศาสตร์ที่เคยคำนวณมาแล้วว่าในทุกวันมีคนจำนวนไม่มากที่ใช้ไมโครชิปกันกระสุน นี่ถือเป็นข่าวเก่า

แม้เฟิงหลินจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็มีเสียงกระดูกแตกออกมาจากนิ้วของเขาเมื่อเขาพยายามทำลายไมโครชิป เขาไม่สามารถทำอะไรมันได้เลยแม้แต่น้อย

เฟิงหลางส่ายหัวเมื่อเห็น เขาพูดเสริม"อย่าพยายามเลย ไมโครชิปไม่ใช่สิ่งที่นายสามารถทำลายได้ นอกจากนี้หากไม่มีไมโครชิป การที่นายจะย้ายเข้าไปในโลกมนุษย์จะเป็นเรื่องยากมาก นายจะกลายเป็นผู้อยู่อาศัยที่ไม่ได้จดทะเบียน และจะถูกติดตามไม่ว่านายจะไปที่ไหน ฉันมั่นใจว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่นายต้องการ "

"ในเมื่อนายรู้ทั้งหมดนี้ สิ่งที่นายพูดมันหมายความว่ายังไง?" เฟิงหลินถามตอบโต้

เฟิงหลางถอนหายใจที่ต้องบอกเขาหลายอย่าง เป็นไปไม่ได้ที่ข้อมูลจะไร้ประโยชน์และความจริงก็เป็นตามที่เขาคาดไว้

"ใครบอกว่าไม่มีความหมาย ฉันสามารถบอกความจริงกับนายได้เพราะฉันมีวิธียังไงละ ฉันสืบสายเลือดโดยตรง อำนาจในการควบคุมAIของฉันสูงกว่านายมาก ดังนั้นฉันเลยใช้ความพยายามและได้รับรหัสผ่านเพื่อปลดล็อกไมโครชิปของนายจากระบบAI ตราบใดที่นายเข้าถึงข้อมูลด้านหลังไมโครชิปของนายและใส่รหัสผ่าน นายจะปลดกุญแจมือได้ ไม่ว่านายจะไปที่ไหนก็ตาม ตระกูลก็ไม่สามารถติดตามนายได้! "

"นายมีเงื่อนไขอะไรในการบอกรหัสผ่านกับฉัน?" เฟิงหลินไม่รู้สึกดีใจเลย เขายังคงสงบและถาม

อาหารไม่ตกลงมาจากฟ้า

จะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผล

หากเขาต้องการอะไร เขาก็ต้องจ่ายในราคาที่เทียบเท่ากันตามธรรมชาติ

"ดี นายตรงไปตรงมาดี!" เมื่อเฟิงหลินถามมา เฟิงหลางก็พูดตรงๆเหมือนกัน "อย่างแรก ฉันประทับใจในความกล้าของนาย และต้องการให้ทางเดินแก่นาย อย่างที่สองเมื่อนายเข้าร่วมในการจัดอันดับ ฉันหวังว่านายจะเอาชนะคนสามคนให้ฉันได้ หวังว่านายจะไม่ปฏิเสธ"

เฟิงหลางนึกถึงเรื่องน่าอายนั่น และกัดฟัน

หมายความว่าเขาต้องการที่จะใช้ฉันเพื่อจัดการศัตรูเขา?

เฟิงหลินไม่รู้สึกแปลกใจเลย

สิ่งต่างๆที่เฟิงหลางพูดตอนแรก เฟิงหลินล้วนไม่เชื่อ แต่สำหรับข้อสุดท้าย มันทำให้เขาเชื่อเต็มที่

ในฐานะมนุษย์ มันมักมีการแข่งขันและความขัดแย้งอยู่เสมอ สำหรับสมาชิกระดับต่ำพวกเขาไม่มีอะไรจะต่อสู้กัน ดังนั้นพวกเขาจึงมีชีวิตที่ค่อนข้างสงบแม้จะเป็นคนจน แต่มันก็แตกต่างกันสำหรับสมาชิกระดับสูง พวกเขาดูเหมือนจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมาก เพลิดเพลินไปกับทรัพยากรของตระกูล แต่มันเป็นไปไม่ได้สำหรับหัวใจมนุษย์ที่จะไม่รู้สึกโลภ พวกเขามีแต่ต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อต่อสู้กับทรัพยากรที่มีจำกัด พวกเขาสามารถทำได้ทุกอย่าง

แม้ในยุคศักดินาก็ยังมีการสู้รบของราชวงศ์ในวัง

ตระกูลมนุษย์ในยุคสมัยดวงดาวไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ทุกตระกูลจะมีการแข่งขันและความขัดแย้งเล็กน้อยภายในตระกูล ยิ่งตระกูลที่มีชื่อเสียงการแข่งขันก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น!

เพื่อสิ่งนั้น เฟิงหลางยินดีที่จะลดตัวลงมา ไม่สนใจหน้าตาของเขาที่จะมาทำข้อตกลงกับฉันที่มีความขัดแย้งกับหัวหน้าพ่อบ้าน ยิ่งไปกว่านั้น เขากำลังจะถูกบังคับให้ตาย!

ดังนั้นเขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อให้ฉันมีส่วนร่วมในการแข่งขันจัดอันดับ คว้าโอกาสที่จะต่อสู้เพื่ออำนาจที่มากขึ้นโดยใช้ฉันจัดการศัตรูเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ประมาทใครทั้งนั้น เฟิงหลางดูเหมือนจะเป็นลูกคุณหนู แต่เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์จริงๆ เจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอก

ความคิดมากมายเกิดขึ้นในใจเฟิงหลิน และเขามั่นใจว่าเขาเดาวัตถุประสงค์ของเฟิงหลางถูกอย่างน้อย80ถึง90%

ข้อตกลงนี้สามารถยอมรับได้!

"นายเชื่อใจฉันว่าฉันจะสามารถเอาชนะศัตรูของนายได้งั้นหรอ?"เฟิงหลินไม่ยอมรับตรงๆ แต่ถามด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม “สำหรับศัตรูที่นายไม่สามารถรับมือได้ พวกเขาคงไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาสามารถเพลิดเพลินไปกับทรัพยากรของตระกูลได้ และมีแม้แต่อาจารย์ที่นำทางพวกเขาไปตามเส้นทางสู่ยีนในตำนานที่พวกเขาปลุกขึ้นมาอย่างดี ทำให้พวกเขาไม่ใช่คนที่จะจัดการง่ายๆ”

"แทนที่จะพูดอย่างงั้น ทำไมไม่ถามตัวเองว่านายเชื่อในตัวเองไหม"หลังเห็นว่าเขาคิดถูกมองทะลุ ตาของเฟิงหลางก็กระตุก"หลายวันที่ผ่านมานี้ ฉันได้ทำการตรวจสอบนายและรู้สึกตกใจกับผลลัพธ์ที่ได้ นายทำให้ทุกคนตะลึงระหว่างการสอบคุณสมบัติของโรงเรียนซึ่งนายพัฒนาขึ้นอย่างมาก จากคนที่มีค่าสถานะพลังเพียง0.4ไปเป็น1.5แม้กระทั่งผ่านชั้นยี่สิบของหอต่อสู้ลวงตา นายคงเป็นพวกหมูรอกินเสือสินะ?ฉันแน่ใจว่านายกำลังรอเวลาที่จะทำให้ทุกคนประหลาดใจกับการสอบเข้าวิทยาลัย หาทางหลุดจากชะตากรรมเดิมของนายที่ถูกตระกูลควบคุม จากการประเมินของฉัน ค่าสถานะพลังของนายไม่ใช่แค่1.5แน่ๆ มันอาจจะเกิน2.0 ถ้าตระกูลไม่จัดให้นายไปทำงานที่โรงงาน ฉันแน่ใจว่านายจะสามารถเปิดเผยความสามารถจริงๆของนายได้ ดังนั้นฉันคิดว่าการเดิมพันกับนายตอนนี้นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง!”

เห็นได้ชัดว่าเฟิงหลางเตรียมการมาอย่างดี และตรวจสอบเฟิงหลินมาอย่างละเอียด

"นายไม่ใช่คนประเภทเดียวกันกับฉันสินะ?" เฟิงหลินพูดอย่างใจเย็น และไม่รู้สึกแปลกใจอะไร

หลังจากเข้าใจแผนการมากมายของเฟิงหลาง เฟิงหลินจะไม่พูดอะไรเลยได้ยังไง?

เฟิงหลางคนนี้ไม่ได้มีคุณธรรมขนาดนั้น ไม่ง่ายอย่างที่เห็น พฤติกรรมคุณหนูของเขาเป็นเพียงข้ออ้าง!

น่าเศร้าที่การคาดเดาของเขาเกี่ยวกับเฟิงหลินนั้นผิด เฟิงหลินไม่ได้แสร้งทำเป็นเป็นหมูกินเสือ แต่ที่ผ่านมาเขาเป็นขยะของจริง เขาเพิ่งมาพัฒนาขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ และคนที่ไม่รู้จักความลับของเขาจะคิดว่าก่อนหน้านี้เขาแกล้งทำ ทำตัวต่ำเพื่อทำให้ทุกคนประหลาดใจในช่วงเวลาที่เหมาะสม

แต่เนื่องจากความจริงเรื่องความลับของเขา และความสามารถเรื่องสมการทางพันธุกรรม เฟิงหลินจึงไม่โง่พอที่จะโต้เถียงกับเฟิงหลาง

เมื่อพิจารณาถึงลักษณะของเฟิงหลาง เฟิงหลิงจึงเข้าใจเฟิงหลางมากขึ้น

เพื่อที่จะจัดการศัตรูเขา เฟิงหลางฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเขา นี่เป็นเพียงการปักหลักทุกอย่างในการโยนเพียงครั้งเดียว เบื้องหลังความคิดการวางแผนของเขามันเผยให้เห็นความบ้าคลั่งในตัวเขา เขาไม่สนใจคำพูดของใคร และไม่มีความซื่อสัตย์

การทำข้อตกลงกับเขานี่ก็เหมือนการเล่นกับเสือ

ไม่ เฟิงหลางไม่ใช่เสือ เขาคือจิ้งจอกเจ้าเล่ห์!

เล่นกับสุนัขจิ้งจอก เฟิงหลินต้องระวังไม่ให้ถูกมันทรยศ

ไม่ว่าในกรณีไหน ถ้าเฟิงหลางวางแผนที่จะทำเรื่องไม่ดีกับเขา เฟิงหลินจะไม่สนใจอะไรและจัดการเขา

“ทำไม?นายกลัว ไม่กล้าตกลง? นายกล้าถึงขั้นพนันกับหัวหน้าพ่อบ้าน แน่นอนว่านายคงไม่ตกใจกับเรื่องนี้ใช่ไหม?” เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินไม่ตอบกลับ เสียงของเฟิงหลางก็เปลี่ยนไป และใช้คำพูดยั่วยุ

"ทำไมฉันถึงจะไม่กล้า?" เฟิงหลินตัดสินใจแล้ว เขาไม่ได้ตอบแต่ถามกลับด้วยรอยยิ้มนิ่งๆ เสริมความบ้าคลั่งและความมุ่งมั่น

เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินยอมรับทันที ในทางกลับกันเฟิงหลางกลับลังเลอยู่"จะตกลงโดยไม่ถามอะไรเลยรึไง?นายไม่กลัวว่าฉันจะโกงหรือไง?"

"คนที่บ้ามากพอเท่านั้นที่จะอยู่รอด เราจะพูดถึงเรื่องอื่นๆหลังจากฉันมั่นใจในการอยู่รอดของฉันก่อน" เฟิงหลินพูดอย่างใจเย็น

เฟิงหลางหยุดนิ่ง แต่ไม่นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มหัวเราะ

มันเป็นความจริง.

มีเพียงคนบ้าเท่านั้นที่จะอยู่รอด

โดยไม่คำนึงถึงเฟิงหลางหรือเฟิงหลินทั้งคู่ต่างก็อยู่ในภาวะสิ้นหวัง หากพวกเขาไม่เสี่ยงโชคในตอนนี้ พวกเขาก็ต้องรอความตายอย่างเชื่อฟัง?

มาถึงข้อตกลงได้ง่ายๆ บางทีเบื้องหลังความคิดที่วางแผนไว้ ธรรมชาติที่แท้จริงของพวกเขาอาจเป็นของคนบ้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด