บทที่ 93 วิชาเทพสืบค้น
[TL. ขอแก้ไขความใหม่นะครับ ประมาณตอนที่ 50-70 ที่บอกว่าเสี่ยวฮานยี่เป็นหนึ่งใน 3 ราชาอสูรที่เหลือในดินแดนสี่อสูร ขอเปลี่ยนใหม่เป็น ข้ารับใช้อสูร ของหยางตั่วซึ่งพ่อของหยางไห่ ปู่ของฉื่อหยานนะครับ แล้วก็ ที่บอกว่า เสี่ยวฮานยี่จะมาตามล่าหยางไห่ ขอแก้เป็น มาตามตัวหยางไห่ด้วยตัวเอง และ ที่เซี่ยซินหยาน ตกใจก็เพราะว่า เสี่ยวฮานยี่นั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งและน่ากลัวและยังเผด็จการ และอีกอย่างคือ เซี่ยซินหยานนั้นรับยาจากตระกูลหยางมาแล้ว หากหาตัวหยางไห่ไม่ทันก่อนที่เสี่ยวฮานยี่จะมา นางจะต้องได้รับผลกระทบแน่ ๆ ตัวนางเองก็ไม่อยากจะมีปัญหากับตระกูลหยางเท่าไหร่นัก …… อย่างที่เคยบอกไป ผมก็อ่านพร้อมๆกับพวกท่านบางครั้งก็มีเข้าใจเนื้อเรื่องผิดไปบ้าง จึงขออภัยเป็นอย่างสูง ]
บทที่ 93 วิชาเทพสืบค้น
ณ เมืองเทียนหยุน
คืนนั้น จุดสีดำก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเหนือเมือง จุดสีดำปรากฏขึ้นใต้แสงจันทร์ และรวมตัวกัน จากนั้นก็ลอยไปยังทิศทางของศาลาหมอก
นักรบยอดฝีมือหลายคนมองขึ้นไป เพื่อค้นหาว่า จุดดำเหล่านี้เป็นสัตวอสูรหรือไม่
จุดสีดำประหลาดห้าสิบจุดค่อยๆบินไปทางศาลาหมอกเหมือนกับเงาที่มืดมิด
ทันทีที่จุดดำเหล่านี้ลงมาถึงพื้น สายตาเฉียบคม ของนักรบหลายคนก็พบว่าพวกมันทั้งห้าสิบตัวคือค้างคาวซึ่งมีขนาดยาวปวดถึงเจ็ดมตร ร่างกายของมันดูแข็งแกร่งและมีเข็มเงายื่นยาวออกมา มันดูราวกับว่าพวกมันเป็นสัตว์ประหลาดที่มาจากนรก
ค้างคาวเหล่านี้เปล่งออร่าสีดำออกมาซึ่งมันเต็มไปด้วยความเศร้าและความหวาดกลัว
ที่นั่งอยู่บนร่างของค้างคาวตัวใหญ่เป็นนักรบที่มีใบหน้าแข็งกร้าน ท่าทางเหมือนกับยมฑูต มันเปล่งออร่าสีเลือดออกมา เหมือนกับว่าชีวิตทุกๆชีวิตอยู่ในกำมือของมัน
ที่ด้านหน้าของกลุ่มค้างคาวตัวใหญ่ เป็นชายวัยกลางคน คนหนึ่งนั่งอยู่ซึ่งใบหน้าของเขามีรอบแผลเป็นปรากฏขึ้น . แผลของเขาช่างดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
แผลเป็นบนใบหน้าของเขาดูเหมือนกับไส้เดือนที่เลื้อยจากบนใบหน้าของเขาลงไปที่ลำคอ ราวกับว่ามันคอบปกปิดใบ้หน้าที่แท้จริงของเขา
ใบหน้าเขาดูเย็นชาพร้อมกับเปล่งออร่าสีเลือดออกมา ใครก็ตามที่พยายามเข้ามาใกล้ๆก็ต้องถูกผลักกระเด็นออกไป
หนึ่งในค้างคาวทั้งห้าสิบที่มีเลือดสีเขียวก็ลงสู่พื้นดินก่อนที่จะถึงศาลาหมอก
ผู้จัดการของศาลาหมอก กู่ลั่ว , และคนของเขากำลังยืนรออยู่เป็นเวลานาน ทันทีที่เห็นแขกมาถึง เขาก็คุกเข่าลงและทักทายพวกเขาด้วยความเคารพ " ท่านเสี่ยว ข้ากู่ลั่วจากศาลาหมอก”
เสี่ยวฮานยี่ ได้ลงจากมาจากค้างคาวยักที่อยู่ข้างหน้า และก้าวเดินอย่างสบาย .
ผู้คนจากศาลาหมอกทั้งหมดใบหน้าเริ่มซีดและหลีกเลี่ยงสายตาที่จะจ้องไปยังเขา บางคนแทบจะไม่สามารถควบคุมความร่างกายได้และอาเจียนออกมา
หลังจากนั้น อสูรรับใช้จากตระกูลหยางจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุดก็ได้ลงมาจากบนหลังม้าที่พวกเขาขี่มา และเดินตามเสี่ยวฮานยี่เข้าไปยังศาลาหมอก
ค้างคาวทั้งหมดที่อยู่ในสนามสี่เหลียมด้านนอกศาลาหมอกจ้องไปยังนักรบที่คุกเขาอยู่ด้วยดวงตาสีเขียวอย่างเย็นชน , ราวกับว่าพวกมันนั้นต้องการจะกืนเนื้อสดๆจากมนุษย์เหล่านี้
เมื่อถูกค้างคาวเหล่านั้นมองมาแบบนั้น , นักรบของศาลาหมอกก็หวาดกลัวและตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
เสี่ยวฮานยี่นั่งอยู่บนที่นั่งของผู้นำอย่างเป็นธรรมช่จิ และชายตาของเขาก็เหลือบมองไปที่กู่ลั่ว " สถานการณ์เป็นอย่างไร ? "
" คุณหนู . . . คุณหนูเซี่ยตอนนี้ได้เดินทางไปยังบึงมรณะ ตั้งแต่แผนที่ได้หลอมรวมกัน มันก็ชี้ทิศทางว่าประตูสวรรค์จะปรากฏขึ้นที่นั่น " กู่ลั่ว เป็นกังวล
" ข้าไม่ได้ถามเรื่องนั้น " ใบหน้าของเสี่ยวฮานยี กลายเป็นเย็นชา
พร้อมกับมีอำนาจลึกลับบางอย่างระเบิดออกมา ภายในศาลาหมอกทันที !
พลังเหล่าั้นกดดันไปที่กู่ลั่ว เหมือนกับมือใหญ่บีบมาที่คอของเขาและยกเขาขึ้นที่ด้านหน้าของเสี่ยวฮานยี่
" ท่านพ่อ ! ! ! "
" นายท่าน ! "
สมาชิกในตระกูลของกู่ลั่วทุกคนตกอยู่ในความหวาดกลัวและมองไปที่เสี่ยวฮานยี่ด้วยความโกรธ และพร้อมที่จะต่อสู้แลกชีวิตกับเขา
ผู้คุมกันอสูรบางส่วนมองไปที่คนเหล่านั้นอย่างไม่แยแส และคนๆหนึ่งก็ถามขึ้นมา " นายท่าน , จะให้ข้าจัดการกับตระกูลกู่ลั่วเลยหรือไม่ ? "
" นายท่านเสี่ยว ! " กู่ลั่วขัดขืน , และไอออกมา , พร้อมกับพูดด้วยความหวาดกลัว " นายท่านเสี่ยว เราได้พยายามอย่างที่สุดเร็ว ! ! หากท่านให้เวลาข้า ข้าสัญญาว่าจะต้องค้นหาหยางไห่พบแน่นอน "
" เปิดตาของเจ้าสะ ! " เสี่ยวฮานยี่ จ้องไปที่กู่ลั่วและคำรามออกมา .
" ปัง ! "
กู่ลั่ว ล่วงลงมาจากกลางอากาศและหล่นลงบนพื้น เขาพยักหน้าและอธิบายด้วยความหวาดกลัว " เราได้ส่งทุกคนให้ออกตามหา หยางไห่ในเมืองเทียนหยุนแล้ว แต่ก็ไม่มีผู้ใดเป็นคนที่เรากำลังตามหาเลย ตอนนี้เราจะส่งคนของเราไปค้นหาที่เมืองอื่นเช่นกัน ข้าสัญญาท่านจะต้องได้รับข่าวดีในเร็วๆนี้แน่ "
" เอาผลึกวิญญานโลหิตออกมา " เสี่ยวฮานยี่คิดสักพัก แล้วยืดมือของเขาออกไป
ผลึกวิญญานโลหิตที่คล้ายกับของเซี่ยซินหยาน ก็ลอยออกมาจากกู่ลั่ว และปรากฏอยู่บนมือของเสี่ยวฮานยี่
" ทุกคนยกเว้นกู่ลั่ว , ออกไป ! " หลังจากได้รับผลึกวิญญานโลหิต เสี่ยวฮานยี่ ก็สั่งอย่างเย็นชา
" ทุกคนออกไปสะ ! " กู่ลั่วส่งสัญญาณให้คนของเขาออกไป
ไม่นาน ก็มีเพียงคนของเสี่ยวฮานยี่เท่านั้นที่อยู่ในห้อง
" ข้ามีเวลาไม่มาก " เสี่ยวฮานยี่ ถอนหายใจออกมา และพูดออกมาอย่างไม่แยแส " ตระกูลเซี่ยนั้นทำงานได้ล่าช้าจริง ๆ นี่ข้าเพียงแค่ให้ตามหาคนเดียวๆ "
แล้วเสี่ยวฮานยี่ ก็ลู่บไปยังผลึกวิญญานโลหิตและปิดตาของเขาลง
โดยมีเสี่ยวฮานยี่เป็นศูนย์กลาง , พลังที่แข็งแกร่งก็กระจายออกไปทั่วเมืองเทียนหยุน
ภายในผลึกวิญญานโลหิต แสงสีแดงก็ปรากฏขึ้นและปรากฏใบหน้าขึ้นมากมาย เต็มไปด้วยใบหน้าที่แสดงทุกอารมณ์ออกมา ปรากฏอยู่บนพื้นผิวของผลึก ใบหน้าของมันเหมือนกับภูติผีที่อยู่ในสายผลึกวิญญานโลหิตและหลังจากที่พวกมันปรากฏขึ้นไม่เกิน 3 วินาที
" วิชาเทพสืบค้น ! " กู่ลั่วตกใจ
วิชาเทพสืบค้นคือวิชาลุกลับ ตราบใดที่มีเลือด เนื้อ กระดูก หรือแม้แต่เส้นผม ของเป้าหมาย เขาก็สามารถหาเป้าหมายได้พบด้วยวิชานี้ มากกว่านั้น วิชานี้อณาเขตในการค้นหายังกว้างขวางเป็ยอย่างมากอีกด้วย
ทันทีที่เสี่ยวฮานยี่ หลับตาลง ก็ปรากฏเป็นพลังขนาดใหญ่ครอบคลุมทั่วทั้งเมืองเทียนหยุน
นักรบที่มีระดับต่ำกว่าระดับรู้แจ้งในเมืองเทียนหยุนทั้งหมด เมื่อสัมพัสได้ถึงกระแสพลังที่ปกคลุมไปด้วยทั่วเทียนหยุน ก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว
ยอดฝีมือมากมายในเมืองเทียนหยุนต่างก็ตกใจ
เป็นพลังที่แข็งแกร่งกว่าของเป่ยหมิงชางถึงสองระดับ มันครอบคลุมไปทัวเมืองเทียนหยุนทั้งหมด และมันยงคงขยายอณาเขตออกไปเรื่อยๆ
ตอนนั้นเอง ยอดฝีมือทั้งหมดในตระกูลใหญ่ทั้งห้าต่างก็รู้สึกถูกคุกคาม ณ ช่วงเวลาที่สำคัญนี้ ตระกูลใหญ่ทั้งห้าได้เริ่มส่งข้อความเพื่อหาลือกันและเริ่มเดาสิ่งที่ศาลาหมอกกำลังทำอยู่
วิชาเทพสืบค้นขยายอาณาเขตออกไปอย่างต่อเนื่อง . . . . . . .
คลื่นพลังที่ปกคลุมไปทั่วทั้งเมือเทียนหยุนก็สั่นสะเทือนคล้ายกับพายุทอร์นาโด เหมือนกับว่ามันกำลังตรวจสอบทุกๆชีวิตที่มันสัมพัสได้
เปิดเป็นสีโลหิตระเบิกออกมาและจุดต่างๆก็หลอมรวมกันบนพื้นผิวของผลึกวิญญานโลหิตและปรากฏเป็นใบหน้าของคนๆหนึ่งขึ้น
ปรากฏเป็นภาพบางอย่างขึ้นบนผลึกวิญญานโลหิต
เป็นชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ในรถม้า ที่กำลังเดินทางเข้ามาที่เมืองเทียนหยุนจากทางด้านตะมันตก
จู่ๆเสี่ยวฮานยี่ก็ลืมตาขึ้นมา
" เขาเป็นใครกัน ? "
" หยางไห่ บุตรบุญธรรมของฉื่อเจี้ยน จากตระกูลฉื่อ " ใบหน้าของกู่ลั่วเปลี่ยนแปลงไปด้วยความประหลาดใจ
" เป็นเขางั้นรึ "
เสี่ยวฮานยี่รีบยืนขึ้นและหายตัวไป
เวลาต่อมา เสียงของค้างคาวโลหิตเขียวก็ดังขึ้นบนท้องฟ้าเหนือศาลาหมอก
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เสี่ยวฮานยี่ ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหยางไห่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
" เจ้าเป็นใคร ? หึ ! หรือว่าตระกูลโม่จะเป็นคนส่งเจ้ามาที่นี่ " หยางไห่ ดูค่อนข้างสงบ แต่เมื่อเขาเห็นกู่ลั่ว เขาตะโกนด้วยความโกรธ " กู่ลั่ว ! นี่ศาลาหมอกของเจ้าร่วมมือกับตระกูลโม่งั้นรึ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ตระกูลของเรากับศาลาหมอกเจ้ากำลังร่วมมือกันตามหาสมบัติอยู่ เจ้าจะทำอะไรกันแน่ ? "
กู่ลั่วยิ้มอย่างขมขื่นแล้วโค้งตัวขอโทษด้วยความอ่อนน้อม และพูดออกมาด้วยความลำบากใจ " นี่แตกต่างออกไป แตกต่างออกไป... "
" ดีใจที่ได้เจอท่าน นายน้อย ข้าเสี่ยวฮานยี่ และนี่ผู้คุมกันจาดตระกูลหยาง . " เสี่ยวฮานยี่ คำนับ " ข้าจะอธิบายทุกอย่างให้ท่านฟังเอง "
เสี่ยวฮานยี่ อธิบายเรื่องราวให้หยางไห่ฟังอย่างสุภาพ " ท่านเป็นคุณชายจากตระกูลหยางจากทะเลที่ไม่มีสิ้นสุด ท่านหัวหน้าตระกูลได้พลัดพรากจากท่านเมื่อเริ่มต่อสู้ในดินแดนสี่อสูร และข้าก็มาเพื่อพาท่านกลับไป ตั้งแต่ที่ท่านหัวหน้าตระกูลได้พลัดพรากจากท่านที่ดินแดนสี่อสูร ท่านก็กังวลเรื่องของคุณชายเป็นอย่่างมาก แต่เนื่องจากว่าท่านนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส บัดนี้พึ่งรักษาหายได้ไม่นาน เช่นนั้นจึงพึ่งออกมาตามหาท่าน . . . . . . . "
" ทะเลที่ไม่สิ้นสุด ตระกูลหยาง ? " หยาง ไห่ ตกใจและสับสน เขาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ออก
เขายืนอยู่ตรงนั้น ด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเรื่อง และความคิดต่าง ๆก็ปรากฏขึ้นมาในใจของเขา
ตอนนั้น เขาก็จำได้ว่าเมื่อตอนที่ฉื่อหยานได้ทดสอบบางอย่างกับเขาในห้องแรงโน้มถ่วง แขนของเขาถูกฟันเป็นแผล แต่มันก็รักษาตัวเองได้อย่างรวดเร็วกว่าฮันเฟิง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเขานั้นได้รับสืบทอดจิตวิญญานที่อัศจรรย์
และเมื่อได้ยินเสี่ยวฮานยี่พูดเช่นนั้น เขาก็มั่นใจเลยว่าเสี่ยวฮานยี่ต้องพูดเรื่องจริง
อย่างไรก็ตาม , เขาอาศัยอยู่ที่สมาคมการค้าและฉื่อเจี้ยนก็ดีกลับเขาเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เขายังมีลูกชายของเขา ฉื่อหยานที่ยังอยู่ที่นี่อีก และเขาเองก็ไม่ใช่นักรบด้วย . . . . .
เรื่องภูมิหลังทุกอย่างที่เขารับรู้ ทำให้หยาง ไห่ รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เขานั้นไม่อยากจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ทะเลไม่มีสิ้นสุดเท่าใดนัก
หลังจากที่คิดเป็นเวลานาน หยางไห่ก็ส่ายหัว " ข้าจะไม่ไปที่ทะเลไม่มีสิ้นสุด ข้านั้นไม่เคยฝึกฝนวิชาต่อสู้มาก่อน มันสายเกินไปที่จะเริ่มต้นการฝึกในวัยของข้าตอนนี้ ข้าจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ และไม่อยากจะยุ่งเกี่บวกับทะเลไม่มีสิ้นสุด ข้าเกรงว่าท่านต้องกลับไปโดยไม่มีข้าแล้ว ท่านจงคิดเสียว่า ข้านั้นได้ตายไปแล้วเถอะ "
" คุณชาย " เสี่ยวฮานยี่ ตะโกนว่า " ท่านเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหยาง ท่านจะต้องต่อสู้เพื่อตระกูลของเรานะ "
หลังจากที่หยุดสักพัก เสี่ยวฮานยี่ ก็กล่าวว่า " แม้ว่าคุณชาย จะไม่ใช่หนุ่มๆ แล้ว แต่ก็อย่าได้กังวลไป ท่านหัวหน้าตระกูลนั้นคาดหวังกับท่านไว้มาก และท่านก็ได้เตรียมยาอายุวัฒนะ และเม็ดยาระดับราชันย์ ไว้ให้ท่านแล้ว ! มันเป็นเรื่องง่ายอย่างมากที่ท่านจะบรรลุถึงระดับหายนะ โดยใช้เวลาเพียแค่สิบปี ! "
" อายุวัฒนะ ! " กู่ลั่วร้องออกมาเสียงดังและพยายามเกลี้ยกล่อมหยางไห่ " คุณชาย ยานี่เป็นหนึ่งในยามหัศจรรย์ของทะเลไม่มีสิ้นสุด อายุวัฒนะหนึ่งเม็ดนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง แม้แต่ความสามารถของท่านเองก็จะเปลี่ยนไปด้วย นายน้อย ได้โปรดรับโอกาสนี้ไปเถอะ "
เม็ดยาระดับราชันย์
ถึงแม้ว่าจะเป็นราชาเม็ดยาทั้งสามจากหุบเขาสมุนไพรที่เป็นนักกลั่นสกัดระดับวิญญาน พวกเขาก็ไม่เคยปรุงเม็ดยาระดับราชันย์ได้มาก่อน
จนถึงตอนนี้ เม็ดยาระดับราชันย์นั้นไม่เคยปรากฏขึ้นในจักวรรดิ์อัคคี จักวรรดิ์พรพระเจ้าหรือสมาคมการค้า มาก่อนเลย !
ว่ากันว่า เม็ดยาระดับราชันย์หนึ่งเม็ดนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้
เสี่ยวฮานยี่ และ กู่ลั่ว การที่พวกเขาพูดออกมาเช่นนั้น ทำให้หยางไห่กลับมาคบคิดอีกครั้ง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเขานั้นต้องการที่จะทดสอบยาเหล่านั้น
" ข้านั้นไม่เคยฝึกฝนวิชาต่อสู่เลยตั้งแต่เด็ก ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถปรับตัวและกลายเป็นนักรบได้แล้วในตอนนี้ "
หลังจากที่เงียบมานาน หยางไห่ก็มองเสี่ยวฮานยี่ และกล่าวว่า " หัวใจของข้าได้ตายไปตั้งแต่ข้าเสียภรรยาไปแล้ว แล้วข้าก็ไม่ได้ฝันสิ่งใดอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ข้ามีบุตรชายที่เกิดจากภรรยาอยู่หนึ่งคนเขาชื่อ ฉื่อหยาน และเขาก็ได้รับสืบทอดจิตวิญญานจากทั้งสองตระกูลอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น จิตวิญญานอมตะของตระกูลหยาง หรือ จิตวิญญานกายาแข็งของตระกูลฉื่อ และเขาเองก็ไม่ได้ฝึกฝนวิชาต่อสู้ตั้งแต่เด็กตลอดสิบเจ็ดปีทีผ่านมา แต่เขานั้นกลับอยู่ในนภาที่สามของระดับก่อตั้งได้ . บางทีเจ้าน่าจะมอบเม็ดยาเหล่านั้นให้แก่เขา "
" ฉื่อหยาน ! "
กู่ลั่วร้องออกมาและหันไปพูดกับเสี่ยวฮานยี่ " นายท่านเสี่ยวฮานยี่ เขาเป็นเด็กอัศจรรย์นัก ! เข้านั้นมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก และยังมีทะเยอทะยานและจิตใจที่เข้มแข็งอีกด้วย ! "
" อายุสิบเจ็ดปี สืบทอดจิตวิญญานแฝด อยู่ในนภาที่สามของระดับก่อตั้ง . " เสี่ยวฮานยี่ พึมพำกับตัวเองในขณะที่ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น " เขาอยู่ที่ไหน ? "
" เขาอยู่ที่ หุบเขาพลังหยินใจกลางบึงมรณะ " กู่ลั่ว พูดอย่างประจบ .
" คุณชาย ข้าขอตัวไปหาฉื่อหยานก่อน เช่นนั้นข้าขอตัว . . . " เสี่ยวฮานยี่ ก้มหัวให้หยางไห่ และหายตัวไปในทันที เสียงของเขาดังอยู่เหนือข้างบนศาลาหมอก " ไปบึงมรณะ "––––––––––––––––––––––––
ห่างหายไปนานในการลงเว็ปนี้ ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1183 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ