บทที่ 88 เหตุการณ์ประหลาด
[TL. อสรพิษนภาเก้าหัว ก็ คือ อสรพิษเก้าหัวแหละครับ คนแปลอิ้งเขียนสับไปสับมา ผมก็แปลตามไป ]
[TL2. พลังปราณหยิน พลังหยิน นี่ก็อันเดียวกัน ผมแปลตามอิ้งเช่นกัน 5555 ]
บทที่ 88 เหตุการณ์ประหลาด
8 วันต่อมา ด้านนอกหุบเขาพลังหยิน
" เราจะยังไม่เข้าไปหุบเขาพลังหยินในวันนี้ ทุกคนไปพักผ่อนสะ เราจะเข้าไปในหุบเขาพรุ่งนี้เช้า " ซัวฉีหยุดอยู่ที่ทางเข้าของหุบเขาพลังหยินและกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง " อสรพิษนภาเก้าหัวจะเห็นทันทีเมื่อเราก้าวเข้าสู่หุบเขา ; ถึงตอนนั้นย่อมต้องเกิดการประทะขึ้นแน่ .
" อืม . . "
ชิเสี่ยวเอาแผนที่ออกมาอีกครั้ง และโบกมือให้ ซัวฉีและเซี่ยซินหยาน " เราจะใช้เวลาที่เหลือคืนนี้ตรวจสอบมัน มันจะดีกว่า ถ้าเราหาสามารถหาตำแหน่งที่ถูกต้องของประตูสวรรค์ได้ "
ซัวฉี และ เซี่ยซินหยาน และเดินไปพร้อมกับทำหน้ามุ่ย และมองไปที่แผนที่
โดยปกติ ฉื่อหยานจะหาสถานที่ที่เงียบสงบห่างไกลจากทั้งสามคน นั่งลง และเริ่มฝึกด้วย [ ตำราทมิฬ ]
ตลอดทุกคืนในช่วง8วันที่ผ่านมา ชิเสี่ยวเองก็จะขอให้กลุ่มหยุดพักผ่อนอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้ซั่วฉื่อมีเวลาในการฝึกฝนวิชา [ คัมภีร์หินลาวา ]
ฉื่อหยานเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ทันทีกลุ่มเริ่มพักผ่อน เขาก็จะหาที่เงียบๆ และ ฝึกฝน[ ตำราทมิฬ ] ภายใต้การคุ้มครองของฮันเฟิงและ กู่หลง
หลังจากแปดฝึกฝนมาแปดวัน เขาก็ได้สะสมพลังปราณหยินจำนวนมากในเส้นชีพจรทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าอกของเขา เขาดูดซับพลังปราณหยินทุกวัน เพราะเขาต้องการที่จะสร้างเป็นวังวนสามอัน เพื่อหมุนไปรอบ ๆ เส้นชีพจร
ขณะที่ กำลังสะสมพลังปราณหยินเพิ่มเติม มันก็หมุนวนอย่างรวดเร็วและเร็วขึ้น และกำลังจะกลายเป็น วังวนพลังหยินที่แท้จริง
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และตั้งสมาธิไปที่มัน ฉื่อหยานก็เริ่มตั้งใจโคจรไปที่พลังปราณหยิน
ในที่สุดพลังปราณหยินก็เริ่มประทับเข้าไปยังเส้นชีพจรทั้งสามในหน้าอกของเขาและอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา มันถูกสร้างเป็นวังวนที่หมุนอย่างรวดเร็ว
ทุกครั้งที่เขาไปถึงสภาพนี้ เขาก็จะเอื้อมมือไปสัมผัส พลังปราณหยินที่อยู่รอบๆตัวเขา เหมือนกับว่าพลังปราณหยินที่อยู่รอบๆตัวเขาเป็นพลังพิเศษ
หลังจากการฝึก [ ตำราทมิฬ ] มาแปดวัน ฉื่อหยานก็เริ่มควบคุมพลังปราณหยินได้ในเวลาเดียวกัน หลังจากทีเขาทำเช่นนั้นกับหน้าอกอยู่หลายวัน , พลังปราณหยิน ในร่างกายของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
พลังปราณหยินกลายเป็นหนาแน่นขึ้นตั้งแต่พวกเขามาถึงทางเข้าของหุบเขาพลังหยิน อย่างไรก็ตาม ฉื่อหยานก็พบว่า เขาค่อนข้างสบายขึ้นตลอดแปดวันที่ฝึกฝน
นอกจากนี้ เมื่อเขาเข้าไปใกล้หุบเขาพลังหยิน การฝึก [ ตำราทมิฬ ] ก็จะกลายเป็นง่ายดายขึ้น เขาค่อนข้างที่จะสดชื่นเมื่อสูดเอาลมพลังปราณหยินเข้าไป
ฮันเฟิงและ กู่หลงนั้น ไม่ได้รู้ว่าฉื่อหยานได้ฝึกฝนวิชานี้ พวกเขายังปกป้องเขาอย่างขยันขันแข็ง
เวลาได้ล่วงเลยมา
จู่ๆ ซั่วฉื่อที่ถูกปกป้องโดย หวู่หยุนเหลียน และซู่ปิง ก็กระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้น พร้อมกัยมีแสงประกายแปลกๆ รอบๆ กายของนาง นางตะโกนว่า " ฮ่าฮ่า นี่ต้องเป็นนภาที่สามของระดับมนุษย์ ! "
ชิ เสี่ยว ที่กำลังสนใจไปยังแผนที่สมบัติ ก็รีบหันมาด้วยความปิติยินดีอย่างเหลือล้น และเมื่อเขาคว้ามือซั่วฉื่อและเริ่มทดสอบนาง เขาก็แสดงความพึงพอใจออกมา " เด็กน้อย นี่เจ้า . . . . . . "
จากปฏิกิริยาสนุกสนานของซั่วฉื่อและการตรวจสอบด้วยพลังปราณลึกลับของชิเสี่ยว สามารถบอกได้เลยว่านางนั้นได้บรรลุถึงนภาที่สามของระดับมนุษย์แล้ว
ซั่วฉื่อนั้นไม่เต็มที่จะฝึก [ คัมภีร์หินลาวา ] นักตลอดแปดวันที่ผ่านมา แต่นางกลับได้บรรลุถึงนภาที่สามของระดับมนุษย์ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ชิเสี่ยวไม่รู้จะหาคำพูดมากมายอะไรมาพูดดี
คำเดียวที่เขาสามารถนึกขึ้นมาได้คือ : อัจฉริยะ
ในระหว่างการเดินทางของพวกเขาจากภูเขาเมฆา ผ่านออกมาทางตอนเหนือของเมืองเทียนหยุน ซั่วฉื่อนั้นยังไม่ได้พยายามฝึกใดๆเลยแม้แต่วันเดียว นี่มันเกินความคาดหวังของเขานัก ที่นางสามารถบรรลุระดับได้่รวดเร็วเช่นนี้
" ท่านชิเสียว ท่านช่างมีลูกศิษย์ที่ดีจริงๆ " เซี่ยซินหยานมองข้ามมาด้วยสายตาตื่นเต้น นางเองก็แปลกใจความสามารถของซั่วฉื่อเช่นกัน
" หึหึ นางนั้นมีพรสวรรค์จริงๆ แม้ว่านางจะขี้เกียจเกินไปหน่อยก็เหอะ . " ชิเสี่ยวอารมณ์ดี เขาตบไปที่ไหล่ซั่วฉื่อ " จงขยันฝึก [ คัมภีร์หินลาวา ] ให้สำเร็จอย่างรวดเร็วสะ เด็กน้อย , เจ้าจะสามารถบรรลุในระดับที่สูงขึ้นได้หากเจ้าขยัย "
แล้วเขาก็เดินไปหาเซี่ยซินหยาน และซัวฉี และกล่าวด้วยรอยยิ้ม " ปล่อยนางไปเถอะ . เรามาตรวจสอบแผนที่กันต่อดีกว่า " .
. . . . .
อีกสองชั่วโมงผ่านไป
ฉื่อหยาน ที่นั่งเงียบๆ จู่ๆ ร่างกายของเขาสั่นเป็นอย่างมาก และก็ยังคงสั่นขึ้นทีละนิด
พลังปราณหยินเข้มข้นมากขึ้นและรวมกันอยู่ในหน้าอกของเขา และวังวนพลังหยินก็หมุนวนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
เพ้งเข้าไปข้างใน เขาก็พบว่าพลังปราณหยินที่โคจรรอบๆเส้นชีพจรทั้งสามของเขาก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้น
มันได้หลอมรวมกับพลังปราณลึกลับของเขาและได้ซึมซับเข้าไปในเส้นชีพจรของเขาและพลังปราณหยินที่อยู่ในเส้นชีพจรทั้งสามในหน้าอกของเขาก็กลายเป็นสีเทา
และมันก็กลายเป็นสีเทามากขึ้น มันรวมตัวกันอยู่ในเส้นชีพจรของเขา , และมันก็หมุนวนเร็วขึ้น . . . . . . .
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ พลังทีอึมครึมก็ถูกโคจรออกจากวังวน ซึ่งฉื่อหยานตกใจเป็นอย่างมาก
พลังปราณหยินรวบรวมจากทุกทิศทางและทะลักเข้าไปในวังวนมากขึ้น มันพุ่งตรงไปยังศูนย์กลางของวังวนทั้งสาม แล้วมันก็หมุนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ
มองเข้าไปข้างในอีกครั้ง ฉื่อหยาน ก็ตกใจ ที่พบว่ามีโครงสร้างเงาของวังวนทั้งสามปรากฏขึ้นและเงานั้นก็เปล่งพลังดึงดูดออกมาอย่างรุนแรง
ในที่สุดเขาก็ฝึกสำเร็จ
พลังดึงดูดที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงนั้นหมายความว่าวังวนพลังหยินได้ถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว !
ดังนั้น วังวนพลังหยิน จึงดูดซับพลังปราณหยินเข้ามา !
จู่ๆ หยินพลังปราณหยินภายในพื้นที่รอบๆเหมือนกับสายน้ำ และมันก็ไหลท่วมไปที่ฉื่อหยาน
เหนือศีรษะของฉื่อหยานไปสิบเมตร ค่อยๆปรากฏเป็นดอกไม้แปลกประหลาดสามอัน ใหญ่เท่ากับหัวมนุษย์
ดอกไม้เหล่านั้นคล้ายกับวังวนพลังหยิน ภายในตัวฉื่อหยาน และเห็นได้ชัดว่ามันได้รับอิทธิพลมาจากวังวนพลังหยิน
ที่หน้าอกของเขา วังวนพลังหยินได้หมุนวนและดึงดูดพลังปราณหยินรอบๆเข้ามาในร่างกาย
พลังปราณหยินที่มหาศาลได้ทะลักผ่านเข้ามาทางดอกไม้วังวนทั้งสาม ที่อยู่เหนือศีรษะของเขา และมันก็ขยายขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเวลาแค่ 10 นาที หลังจากนั้น มันก็มีขนาดใหญ่เท่ากับอ่างล้างมือ และมันก็ได้ดูดซับพลังปราณหยิน จากทุกทิศทุกทาง
ชิ เสี่ยว ซัวฉี , เซี่ยซินหยาน และทั้งหมดก็หยุดการสนทนาเกี่ยวกับแผนที่และยืนขึ้น ตกใจกับวังวนพลังหยินทั้งสาที่กำลังขยายใหญ่ขึ้น !
หนึ่งชั่วโมงต่อมา วังวนทั้งสามก็หมุนวนอย่างรวดเร็วเหมือนกับพายุ มันดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
วังวนหมุนวนอย่างบ้าครั้ง ขณะเดียวกันพวกมันก็พยายามดูดกลืนพลังปราณหยินทั้งหมดในหุบเข้าไป !
ฉื่อหยานนั่งอยู่ตรงนั้นโดยมีสีหน้าจริงจัง เขาไม่ขยับอย่างต่อเนื่อง และควบคุมไปยังวังวน ที่อยู่ข้างในร่างของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ถึงสิ่งที่ปรากฏขึ้นอยู่เหนือศีรษะของเขาเลย
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงวังวนทั้งสามที่อยู่ใน หน้าอกของเขาซึ่งมันกำลังขยายใหญ่ขึ้น แม้ในใจจิตเขาก็พบว่ามันหมุนวนอย่างบ้าคลั่งและยากที่จะควบคุม !
ฮันเฟิงและ กู่หลงผงะหงายหลังเมื่อมองดูเหตุการณ์ประหลาดนี้ โดยไม่รู้ว่ากำลังจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น
พลังปราณหยินที่หนาแนนมีสีเทาที่อยู่ในพื้นที่พลังหยินมาเป็นพันปีก็รวมตัวกันขึ้นบนท้องฟ้า บดบังทั้ง แสงแดด แสงจันทร์
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เอง พลังปราณหยินระหว่างท้องฟ้าและผืนดินที่อยู่ในพื้นที่พลังหยินก็ไหลอย่างบ้าคลั่งทะลักเข้าไปยังวังวนที่อยู่เหนือศีรษะของเขาอย่างไม่รู้จบ
เขานั้นไม่รู้เลยว่า วังวนทั้งสามที่อยู่บนหัวของเขาได้กลายเป็นใหญ่เท่ากับภูเขาสามลูกไปแล้วและมันยังเต็มไปแสงที่อึมครึ่ม พวกมันทั้งสามดูเหมือนปากขนาดใหญ่และพร้อมที่จะกลืนกินพลังปราณหยินทั้งหมดที่อยู่ระหว่าง สวรรค์ และ โลก
" นี่ นี่มัน . . . . . . . " หนึ่งใหญ่ชายร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างเซี่ยซินหยาง ก็ร้องออกมา เหมือนกับมันรู้อะไรบางอย่าง
" นั่นคืออะไร ? " เซี่ยซินหยาน ดวงตาเป็นประกาย นางหันไปดูวังวนขนาดใหญ่
ภายใต้การจ้องมองของเซี่ยซินหยาน ชายร่างใหญ่ก็ลังเล แล้วก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ
ซัวฉีและชิเสียว การแสดงออกก็เปลี่ยนไป พวกเขาดูประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก็สังเกตเห็นว่าชายร่างใหญ่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา
เซี่ยซินหยาน ขมวดคิ้วเข้าหากัน และนางก็เดินออกไปกับชายร่างใหญ่เพื่อให้เขาอธิบายให้ฟัง โดยรักษาระยะห่างระหว่าง ชีเสียวและซัวฉีๆวเ
" เจ้าแน่ใจรึ ? " เสียงของเซียซินเหยียน ก็เต็มไปด้วยความลังเล
ชายอีกคนเขาก็พยักหน้าแสดงความวิตกกังวลออกมา แล้วก็มองไปที่ฉื่อหยานด้วยความกลัว " ข้าแน่ใจว่ามันต้องเป็น . . . . . . . "
ใบหน้าของเซียซินหยาน กลายเป็นซีดเซียว นางพยักหน้าและตะโกนให้ชิเสี่ยวและซัฉี " เตรียมพร้อมรับมือกับอสรพิษฟ้าเก้าหัวสะ เจ้างูเก้าหัวนั่นกำลังจะมา มันต้องการพลังปราณหยินเป็นอย่างมาก มันจะต้องไล่ตามพลังปราณหยินมาแน่ ! เราไม่ต้องเข้าไปยังหุบเขาพลังหยินแล้ว . "
" แม่นางเซี่ย นายน้อยของเรา . . . . . . . เกิดอะไรขึ้นกับเขารึ ? " กู่หลงค่อนข้างกังวล
" เจ้าถามเขาเองตอนเขาตื่นเถอะ " เซี่ยซินหยานขมวดคิ้วพร้อมกับมีแสงสว่างในดวงตา " แต่ไม่ต้องห่วง ปรากฏการณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ จะไม่มีผลอะไรต่อเขา ในทางตรงกันข้าม มันเป็นผลประโยชน์อันใหญ่หลวงสำรหับเขา เขาจะสามารถดูดซับพลังปราณหยินที่บริสุทธิ์จำนวนมหาศาลนี้ได้ หากเขาไม่ถูกรบกวนหละนะ "
" อะไรนั ! "
ชิ เสี่ยว ซัวฉี , ซั่วฉื่อ และ หวู่หยุนเหลียนทุกคนก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจพร้อมกับใบหน้าจริงจริง
" ถูกต้อง วิชานี้เป็นวิชาที่น่าเกรงขามนัก ข้าไม่รู้ว่าเขาได้มันมายังไง . " สีหน้าของเซี่ยซินหยาน กลายเป็นซับซ้อน " อสรพิษฟ้าเก้าหัวจะมาที่นี่ในอีกไม่นาน เพราะว่ามันนั้นไม่ยอมให้ใครแย่งพลังปราณหยินของมันไปแน่ บางทีเราอาจไม่ต้องรอถึงพรุ่งนี้เพื่อสู้กับมันก็ได้ "
" ฮาล์ว ! ฮาล์ว ! ฮาล์ว ! "
จากหุบเขาพลังหยิน เกิดเป็เสียงคำรามที่ไม่ธรรมดาคำรามดังลั่นออกมา
" ปัง ปัง ปัง ! ปัง ปัง ปัง ! "
เกิดเป็นระเบิดที่รุนแรงขึ้นในหุบเขาพลังหยิฯ
ทุกคนส่ายหน้ากับสิ่งที่เห็น พวกเขารู้ทันทีว่า นั้นต้องเป็นเสียงคำรามของสัตว์อสูรระดับสูงที่มีขนาดใหญ่โต
" มันมาแล้ว ! " ซัวฉีร้องออกมา––––––––––––––––––––––––
ห่างหายไปนานในการลงเว็ปนี้ ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1183 แล้วนะคะ หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ