บทที่ 19 เข้าสู่เมืองโบราณ
บทที่ 19 เข้าสู่เมืองโบราณ
ฟางรั่วซีปลายตามองซวีเมี่ยนถู แล้วหันมามองที่โจวเหวิน แล้วถามว่า "โจวเหวิน นายวางแผนที่จะสมัครเรียนต่อที่ไหน?"
“ฉันยังไม่ได้คิดเลย” โจวเหวินพูด
ฟางรั่วซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า "ด้วยความสามารถของนาย นายน่าจะเลือกวิทยาลัยใหนก็ได้ที่นายต้องการ ฉันเองก็จะทำอย่างดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลทดสอบที่ดี ฉันหวังว่าจะไม่ทิ้งห่างจากนายมากเกินไป"
ท้ายที่สุดฟางรั่วซีก็โบกมือให้โจวเหวิน แล้วหันหลังจากไป ตั้งแต่ต้นจนจบไม่สนใจซวีเมี่ยนถูแม้แต่น้อย
ใจของซวีเมี่ยนถูรู้สึกไม่ดี อีกทั้งไม่สามารถอาละวาดที่นี่ได้ เขากรอกตามองโจวเหวินพลางพูดกับเจียงฮ่าวและหลี่ซวน “พวกคนในเมืองเล็กๆแห่งนี้ช่างไม่มีสายตาเอาซะเลย เสียดายที่หน้าตาดี แต่สมองกลับไม่ได้เรื่อง”
เจียงฮ่าวไม่ได้พูดอะไรเลย แต่หลี่ซวนสนใจโจวเหวินเล็กน้อยเขามองโจวเหวินและถามว่า "ฉันได้ยินมาว่านายเคยเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโรงเรียนมัธยมกุยเต๋อ ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่แค่ข่าวลือ สาวน้อยคนนั้นดูนับถือคุณมาก "
“เธอก็แค่ให้กำลังใจเพื่อนร่วมห้องเท่านั้นแหละ เธอเป็นคนเก่งมาก ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใหนก็ถือเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง” โจวเหวินกล่าว
ซวีเมี่ยนถูได้ยินคำพูดของโจวเหวิน ก็พูดอย่างเหยียดหยามว่า“ถ้าแกเก่งจริง ทำไมต้องอาศัยให้เราพาไปด้วย?”
หลี่ซวนไม่ได้บอกพวกซวีเมี่ยนถูเกี่ยวกับเรื่องของโจวเหวิน เพียงบอกว่าช่วยเพื่อนพานักเรียนคนหนึ่ง เข้าไปร่วมในการทดสอบสู้จริง
โจวเหวินไม่สนใจอธิบาย และไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับซวีเมี่ยนถู
หลี่ซวนขัดจังหวะซวีเมี่ยนถู ที่กำลังทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง "ไม่ต้องพูดแล้ว ถึงเวลาเข้าไปแล้ว"
หลี่ซวนพูดตัดบท ซวีเมี่ยนถูจึงต้องกลืนคำพูดที่กำลังจะกล่าวออกมากลับเข้าไป แล้วหันไปถลึงตาใส่โจวเหวิน
ผู้คุมสอบได้เริ่มตรวจสอบคุณสมบัติของนักเรียน นักเรียนถูกแบ่งเป็นทีมละสี่คน พวกเขาถือบัตรผ่านไปข้างหน้า ผ่านเครื่องเก็บลายนิ้วมือ สแกนบัตรผ่านประตูและสิ่งของที่อยู่บนตัวพวกเขา ว่าอยู่ในรายชื่อและไม่ได้พกอุปกรณ์การโกงและต้องรอจนกว่าจะมาครบสี่คน ถึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมืองโบราณ
นักเรียนส่วนใหญ่นั้นค่อนข้างผ่อนคลาย แต่ญาติพี่น้องที่มาส่งพวกเขาไปทดสอบที่รออยู่ด้านนอกเมืองนั้น เป็นกังวลจนเกือบจะเป็นลม พวกเขามองดูนักเรียนเข้าไปในเมืองโบราณด้วยความตื่นเต้น
พวกโจวเหวินทั้งสี่คนเข้าแถวและผ่านระบบการตรวจสอบเข้าไปในประตูด้านหน้าของเมืองโบราณ
ประตูเมืองโบราณเปิดออกแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะมีหมอกทั่วไปจนไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายในเมืองโบราณได้
"อย่ามัวแต่ดู รีบเข้าไป ข้างหลังมีคนต่อแถวอยู่" พวกทหารมีอาวุธครบมือที่เฝ้าประตูเมืองโบราณพูดเร่ง
โจวเหวินติดตามพวกหลี่ซวนเข้าประตูใหญ่เมืองโบราณและเฝ้าดูพวกหลี่ซวน เดินเข้าไปในเมืองโบราณ แต่เมื่อคนทั้งสามเข้าไปในประตูเขาก็มองไม่เห็นทั้งสามอีก
หลังเดินฝ่าหมอกตามเข้าไปประตูอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นโจวเหวินก็รู้สึกถึงอาการวิงเวียนศีรษะและรู้สึกขนลุกทั้งตัวอย่างแปลกประหลาด แต่เพียงครู่เดียวมันก็หายไปหมด เขาสามารถมองเห็นอาคารโบราณในกำแพงสีแดงและกำแพงสีฟ้าทั้งถนนหินในเมืองโบราณ พวกหลี่ซวนเดินอยู่ด้านหน้าห่างจากเขาไม่กี่ก้าว
"นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นคาดการณ์ว่า สนามมิติของที่นี่สามารถไปยังมิติอวกาศอื่น ดูเหมือนว่าจะมีความจริง" โจวเหวินคิดในใจ
หลังจากที่นักเรียนส่วนใหญ่เข้ามาด้านใน พวกเขาเป็นเหมือนโจวเหวิน มองไปทั่วภายในเมืองอย่างอยากรู้อยากเห็นถึงแม้ว่าจะเคยได้เห็นภาพบางส่วนของเมืองโบราณกุยเต๋อในสื่อวิดีโอของโรงเรียน แต่พอมาถึงสถานที่จริง ๆ มันกลับให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ความรู้สึกของชีวิตแบบโบราณนั้นไม่สามารถถ่ายทอดผ่านวิดีโอได้
ผู้คุมสอบเรียกนักเรียนที่เข้ามาสอบครั้งนี้ กล่าวถึงข้อควรระวังก่อนเริ่มการทดสอบจริง นักเรียนทุกคนที่เข้าร่วมการทดสอบรีบไปที่ถนนของเมืองโบราณหวังว่าจะฆ่าทหารโครงกระดูกและได้คะแนนการทดสอบที่ดีขึ้น
แน่นอนว่ายังมีคนที่คาดหวังถึงความเป็นไปได้ที่จะได้รับผลึกในการทดสอบ รัฐบาลกลางมีความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการทดสอบจริง ผลึกที่ตกในการทดสอบของนักเรียนสามารถเก็บเอาไว้ได้เอง
ผู้ดำเนินการสอบกล่าวไว้ว่าทุกอย่างที่ได้รับระหว่างการทดสอบต่อสู้จริงจะตกเป็นของนักเรียน
ตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง หลังจากอายุสิบหกจะมีอิสระที่จะเลือกว่าจะทำการทดสอบภาคปฏิบัติหรือไม่ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เข้าสอบเอง ถึงแม้ว่าจะตายแต่รัฐบาลก็จะไม่มีการชดเชยให้
ซึ่งแตกต่างจากการสอบเข้าวิทยาลัยประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ในเมืองหนึ่งมีนักเรียนหลายร้อยคนเข้าร่วมในการทดสอบ
โจวเหวินติดตามหลี่ซวนเข้าไปในส่วนลึกของเมืองโบราณ ในช่วงแรกมีนักเรียนจำนวนมากเกินไป ทหารโครงกระดูกไม่พอกับจำนวนนักเรียน หลี่ซวนเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะแย่งชิงกับนักเรียนคนอื่น ๆ เขาตรงเข้าไปด้านในของเมืองโบราณ
ซวีเมี่ยนถู และ เจียงฮ่าว อยู่ด้านหน้าคอยเปิดทาง โดยพื้นฐานแล้วทหารโครงกระดูกไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก พวกเขาสามารถกำจัดมันได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ทหารโครงกระดูกทุกตัวจะมีกระดูกขนาดเท่าข้าวหนึ่งชิ้น ผู้เข้าสอบต้องเก็บรวบรวมกระดูกไว้ โดยคะแนนของการทดสอบสู้จริงจะถูกกำหนดโดยจำนวนของกระดูกนั้น
อย่างไรก็ตามจำนวนของกระดูกสามารถกำหนดอันดับของทีมได้เท่านั้น การจัดอันดับของผู้เล่นสี่คนในทีมนั้นพิจารณาจากจำนวนการตกของผลึก
ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ ทิศทางที่คนทั้งสี่ไปนั้น เป็นทิศทางเดียวกับในเกมที่โจวเหวินเล่น ไม่เพียงแต่อาคารโบราณในเมืองเท่านั้น แต่จำนวนทหารโครงกระดูกก็ยังเหมือนในเกมไม่มีผิดเพี้ยน
“ถ้าเป็นแบบนี้ อีกสักครู่พวกเราจะเจอแม่ทัพที่ขี่ม้าโครงกระดูกหรือไม่?” โจวเหวินครุ่นคิดอีกครั้ง ที่นี่อยู่นอกเขตการสอบแล้ว หลี่ซวนและพวกเขาไม่ควรจะเสี่ยงไปที่อื่นอีก
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้เกินความคาดหมายของโจวเหวิน พวกเขากวาดผ่านทหารโครงกระดูกมาตลอดทาง เมื่อพวกเขามาถึงขอบของพื้นที่ทดสอบพวกเขาก็ยังไม่หยุดและตรงออกไปจากพื้นที่สอบ
“หลี่ซวนเราออกจากพื้นที่สอบแล้วเราควรจะกลับไปไหม” โจวเหวินพูดกับหลี่ซวน
หลี่ซวนยังไม่ทันตอบ ซวีเมี่ยนถูพูดอย่างเหยียดหยาม: "พื้นที่การสอบมีขนาดสักเท่าไหร่กัน จำนวนทหารโครงกระดูกมีจำนวนจำกัด ต่อให้พวกเราฆ่ามันทั้งหมดจะมีสักเท่าไหร่ ถ้าแกกลัวก็รออยู่ตรงนี้ ไม่ต้องมากับพวกเรา "
หลี่ซวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม "นายไม่ต้องกังวลเรามีข้อมูลที่สมบูรณ์มาก เกี่ยวกับเมืองโบราณกุยเต๋อ และต่อให้เราจะเดินหน้าเข้าไปอีกยี่สิบหรือสามสิบไมล์ เราก็จะพบกับทหารโครงกระดูกเท่านั้น จะไม่มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติระดับตำนาน การจัดพื้นที่สำหรับทดสอบนั้นค่อนข้างระมัดระวังพวกเขาไม่ต้องการที่จะทำให้นักเรียนเกิดเหตุไม่คาดฝัน ตามแผนที่ที่มี ทหารโครงกระดูกในพื้นที่สอบนั้นไม่เพียงพอที่เราจะได้รับคะแนนสูงสุด"